Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 8

CMYYNK
BC

№ 8 เช่นนั้นเรียกท่านอา

“พี่เขย พวกเราจะไปไหนกัน?” หลังเดินห่างออกมาจากประตูหมู่บ้าน เฟิ่งจิ่วเริ่มจ้องพิเคราะห์คนข้างกาย

C

ตอนนั้นเอง ฝีเท้าหลิงโม่หานชะงักลง เขาเหลือบมองขอทานน้อย แล้วพูดเสียงทุ้มว่า “เจ้าก็ออกมาแล้ว ไม่ต้องมาตามข้าอีกล่ะ”

เฟิ่งจิ่วตกตะลึง ก่อนจะยิ้มหวานต่อ “พี่เขย ท่านพูดอะไรน่ะ?” ที่แท้ท่านอาผู้นี้ก็รู้แต่แรกแล้วว่าเธออยากออกมา! ก็ใช่ เขาคนนี้ดูไม่ธรรมดา แค่ลูกไม้ตื้นๆ ของเธอจะดูไม่ออกได้อย่างไร? ทว่าถึงเขาดูออกก็ยังยอมช่วย นี่สิที่ทำให้เธอประหลาดใจ

พอเห็นเขายิ่งก้าวเดินออกห่าง เฟิ่งจิ่วก็รีบเร่งตาม “พี่เขย…” เธอยังไม่ทันพูดจบก็ถูกเขาตัดบท

“ข้าไม่ใช่พี่เขยของเจ้า อย่าได้เรียกมั่วซั่ว” น้ำเสียงทุ้มต่ำมีความเยือกเย็น เต็มไปด้วยแรงดึงดูด และแสดงถึงเสน่ห์ความเป็นชายชาตรี

“หรือข้าทักคนผิดจริงๆ เสียแล้ว? พี่สาวข้าบอกว่าพี่เขยมีหนวดเคราขึ้นดกจึงจำหน้าได้ง่ายนัก” เธอวิ่งเหยาะๆ ขึ้นมามองประเมินอยู่ข้างกายเขา แล้วฉีกยิ้มกว้าง “อืมๆ ข้าอาจจะทักผิดจริงๆ พี่เขยข้าควรต้องอายุน้อยกว่าท่านอีกสักหน่อย”

หลิงโม่หานเดินไปตามทางของตัวเอง เขาเมินเฉยขอทานน้อยข้างกายโดยสิ้นเชิง ในสายตาเขา ขอทานไร้วรยุทธ์ที่มีแค่ความหลักแหลมเพียงเล็กน้อยหาได้อยู่ในสายตาไม่ ดังนั้นจึงรีบเร่งฝีเท้าไป ย่างก้าวเร็วกว่าตอนอยู่ในเมืองหลายเท่านัก

ฝีเท้าเขาที่เร็วขึ้นทันทีทันใด ทำให้เฟิ่งจิ่วแอบประหลาดใจกับตัวเอง เห็นฝีเท้าเขาเหมือนย่ำอยู่บนพื้น แต่ราวกับว่าสองขาแฉลบผ่านไปโดยไม่ติดพื้น การเคลื่อนไหวร่างกายเร็วมาก ทว่าไม่ค่อยคับคล้ายกับวิชาฝีเท้าตามเมฆของเธอที่ไปไหนมาไหนได้อย่างไร้ร่องรอยสักเท่าไหร่

“ท่านอา ท่านอารอข้าด้วยสิ!” ไม่ใช่ว่าเธออยากตามติดเขาไปจริงๆ หรอก แต่พอออกประตูหมู่บ้านมาก็เป็นถนนเส้นใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เธอก็ไม่มีความคิดว่าต้องตามคนคนนี้ไปทุกหนทุกแห่ง เธอยังต้องหาสมุนไพรมาแก้พิษในร่างอีกนะ!

จะว่าไปซูรั่วอวิ๋นนั่นเลวร้ายอย่างไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เริ่มแรกที่นางทำเช่นนั้นกับเฟิ่งชิงเกอ นางไม่เพียงแค่แย่งชิงฐานะทั้งหมด นึกไม่ถึงว่ายังจะส่งเฟิ่งชิงเกอไปขายในสถานที่อย่างหอนางโลม และคิดจะให้อีกฝ่ายถูกกระทำชำเราจนตาย จิ๊ๆ ผู้หญิงคนนี้นี่นะ! ช่างร้ายกาจเช่นงูพิษจริงๆ

แต่ว่า ตามความทรงจำเดิมของเฟิ่งชิงเกอ ซูรั่วอวิ๋นนี่ก็ดูเหมือนเธออยู่ หรือจะมาจากศตวรรษที่ 21? ทั้งยังเชี่ยวชาญเรื่องยาอีก ไม่เช่นนั้นนางคงทำหน้ากากที่เหมือนกับเฟิ่งจิ่วทุกกระเบียดนิ้วขนาดนั้นออกมาไม่ได้หรอก

ยิ่งคิดในใจก็ยิ่งตื่นเต้นอยู่บ้าง แม้เดิมทีรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อ แต่ดูเหมือนจะสนุกขึ้นเรื่อยๆ ซะแล้วสิ!

ทว่าเมื่อหลิงโม่หานเบื้องหน้าได้ยินเสียงเรียกท่านอา มุมปากก็กระตุกน้อยๆ เขาลูบเคราบนใบหน้าตัวเองอย่างเคยตัว ก่อนจะเร่งฝีเท้าขึ้นอีกเพื่อสลัดคนด้านหลังทิ้ง แต่สองชั่วยามผ่านไป เขาก็หยุดฝีเท้าลงแล้วหันหน้าเหลือบมอง ยามเห็นว่าเงาร่างอันผอมบางนั้นยังคงตามหลังเขาอยู่สามจั้ง[1]กว่า ก็แอบแปลกใจกับตัวเอง

คนที่ไร้วรยุทธ์อย่างเขาตามมาทันได้อย่างไรกัน?

เฟิ่งจิ่ววิ่งหอบฮักตามมา เธอก้มลงใช้สองมือยันเข่าไว้พลางหอบหายใจเฮือกใหญ่ “ฮู่! ข้าเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ท่านอา ท่านเดินเร็วขนาดนั้นทำไมกัน?”

หลิงโม่หานขมวดคิ้วพินิจมองขอทานน้อยผู้มอมแมมอย่างละเอียด สักพักจึงพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “เจ้าอย่าได้ตามข้ามาอีกเลย ที่ที่ข้าต้องไปคือป่าเก้าหมอบ ที่แห่งนั้นอันตรายยิ่ง เจ้าเข้าไปก็มีแต่ตายเปล่าๆ”

“ไม่ใช่นะ ท่านอา ข้าไม่ได้ตามท่าน เดิมทีข้าเองก็จะไปป่าเก้าหมอบ แต่ในเมื่อท่านเองก็ไปป่านั่นเหมือนกัน พวกเราไปด้วยกันเลยไม่ดีกว่าหรือ?”

…………………………………….

[1] จั้ง คือหน่วยวัดของจีน 1 จั้งเท่ากับประมาณ 3.33 เมตร

 

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!