№ 428 เขามาแล้ว
หน้าประตูจวนตระกูลเฟิ่งยามนี้ บรรยากาศกำลังตึงเครียด แรงกดดันพลังวิญญาณที่ทรงพลังกระจายออกมาจากร่างชายชราที่ยืนอยู่ข้างกายเนี่ยเถิง แรงกดดันที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าเปลี่ยนเป็นใบมีดลมที่รวดเร็วรุนแรง โจมตีไปทางพวกเฟิ่งจิ่ว
เมื่อแรงกดดันบนร่างชายชรากระจายออก แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังทั้งสี่ที่ขวางอยู่เบื้องหน้าเฟิ่งจิ่วสีหน้ายังซีดเซียว ร่างกายแข็งทื่อเล็กน้อยในพริบตา ต่างมองชายชราคนนั้นอย่างตะลึงและประหลาดใจ
นั่นคือ…แรงกดดันของผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณ!
ขั้นต้นของการฝึกเซียนคือผู้ฝึกพลังวิญญาณระดับรวมลมปราณ จากนั้นถึงจะเป็นปรมาจารย์และยอดปรมาจารย์พลังวิญญาณ ผู้ฝึกเซียนส่วนใหญ่ต้องบรรลุถึงระดับสร้างรากฐานภายในร้อยปีถึงจะนับได้ว่าก้าวเข้าสู่เส้นทางการฝึกเซียน และอายุขัยจะเพิ่มขึ้นสองร้อยปี ระดับที่เหนือกว่าสร้างรากฐานคือหลอมแก่นพลัง ผู้ฝึกตนที่บรรลุถึงระดับหลอมแก่นพลังจะดึงดูดด่านเคราะห์สายฟ้า
ด่านนี้เป็นประตูที่อันตรายถึงชีวิตสำหรับผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลัง หากสำเร็จจะกลายเป็นผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังได้ อายุขัยเพิ่มอีกร้อยปี กำลังแข็งแกร่งกว่าระดับสร้างรากฐาน ข้อนี้ไม่ต้องพูดถึง แต่ผู้ฝึกตนที่ข้ามผ่านด่านเคราะห์สำเร็จมีเพียงหนึ่งถึงสองคนจากร้อยคน ทุกปีจึงมีผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุดไม่น้อยจบชีวิตลงในด่านเคราะห์ยามข้ามไประดับหลอมแก่นพลัง
ส่วนระดับกำเนิดวิญญาณ นั่นยิ่งเป็นความคิดเพียงหนึ่งในหมื่น เป็นระดับการฝึกเซียนที่เหนือกว่าหลอมแก่นพลัง อายุขัยผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณคือห้าร้อยปี ความน่ากลัวของพลังพูดได้ว่าแค่โบกมือก็สามารถทำลายแคว้นเล็กๆ แคว้นหนึ่ง เพียงดีดนิ้วก็คร่าชีวิตระดับหลอมแก่นพลังได้ทันที ความน่าสะพรึงนั้นทำให้คนกลัวจนตัวสั่น
มิน่ายามนี้สีหน้าของผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังสี่คนนั้นถึงเปลี่ยนไปมาก เดาว่าแม้แต่พวกเขาก็นึกไม่ถึงว่าเหินเวหาแคว้นระดับหกจะมีตัวประหลาดเฒ่าระดับกำเนิดวิญญาณ หนำซ้ำยังส่งมาอารักขารัชทายาท บอกได้แค่ว่าผู้ครองแคว้นเหินเวหาใส่ใจองค์รัชทายาทเป็นพิเศษ
“ไสหัวไป!”
แววตาน่ากลัวของชายชราจับจ้องบนร่างผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังสี่คนนั้น สะบัดแขนเสื้อ จากนั้นกระแสลมทรงพลังพรั่งพรู ซัดพวกเขากระเด็นออกไปเสียดื้อๆ
“อั่ก!”
ปากพวกเขากระอักเลือด โดนโจมตีกระเด็นล้มลงบนพื้น อยากจะลุกขึ้นมา แต่ภายใต้แรงกดดันมหาศาลกลับรู้สึกเหมือนร่างกายโดนก้อนหินใหญ่ทับไว้ พอขยับก็เจ็บ อยากลุกขึ้นแต่ทำไม่ได้
“นายท่านรีบหนีไป! นั่นตาเฒ่าระดับกำเนิดวิญญาณ!”
แม้ทั้งสี่บาดเจ็บหนัก แต่ยามนี้ยังจำได้ว่าเฟิ่งจิ่วยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น พลังของนางอาจแข็งแกร่งมาก จะจัดการระดับหลอมแก่นพลังก็ย่อมได้ ทว่าถึงแม้ตัวประหลาดเฒ่าระดับกำเนิดวิญญาณมีวรยุทธ์สูงกว่าหลอมแก่นพลังแค่ขั้นเดียว กำลังกลับทรงพลังมากขึ้นสิบเท่า หากนางตกอยู่ในกำมือเขา นั่นคง…
นึกถึงเมื่อครู่ที่ตัวประหลาดเฒ่าระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้นบอกจะกำราบนายท่าน พวกเขารู้สึกแต่ว่าหัวใจหนักอึ้งโดยพลัน
เมื่อได้ยินคำพูดพวกเขา หน้าคนจวนตระกูลเฟิ่งและตระกูลเกิ่งล้วนเปลี่ยนสี ตัวประหลาดเฒ่าระดับกำเนิดวิญญาณ? ชายชราคนนั้นเป็นตัวประหลาดเฒ่าระดับกำเนิดวิญญาณรึ?
“แย่แล้ว ครั้งนี้ตระกูลเฟิ่งจบเห่แล้ว หากเป็นหลอมแก่นพลังขั้นสูงสุดก็ยังดี แต่เป็นตาเฒ่าระดับกำเนิดวิญญาณเสียนี่…” ผู้เฒ่าเกิ่งพูดพึมพำ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตก เกรงว่าต่อให้เขาเสี่ยงชีวิตไป ก็ไม่อาจปกป้องคนที่โดนตัวประหลาดเฒ่าระดับกำเนิดวิญญาณหมายหัวได้!
เนี่ยเถิงในยามนี้เอ่ยปากแล้ว แววตาลึกล้ำจับจ้องสตรีงามเลิศในชุดสีแดงแสบตาตรงหน้า เอ่ยเสียงเข้มว่า “แม่นาง เจ้าน่าจะรู้ว่าตัวเองไม่มีทางเลือกมาตั้งแต่แรก เป็นผู้หญิงของข้าคือทางเลือกสุดท้ายของเจ้า”
เฟิ่งจิ่วเลิกคิ้ว ยามกำลังจะเอ่ยปากก็ได้ยินเสียงคุ้นเคยที่ทุ้มต่ำและมีแรงดึงดูดดังมาอย่างดุดัน ได้ยินเสียงนั้น เธอมีเพียงความรู้สึกร้อนตัวและความคิดชั่ววูบว่าอยากจะหลบไปเสียเดี๋ยวนี้
……………………….