NO 522 กลั่นยามั่วซั่ว?
อาจารย์คุมสอบสามคนนั้นมองอวี๋เหล่า ในใจนึกสงสัย แม้อวี๋เหล่าจะปฏิบัติตนอ่อนโยนน่าเคารพกับผู้อื่น แต่หนุ่มน้อยชุดแดงอายุแค่สิบหก! ไม่นึกว่าเขาจะเรียกสหายน้อย การปฏิบัติอย่างมีมารยาทเช่นนี้ทำให้พวกเขานึกไม่ถึงจริงๆ
อีกอย่าง ฟังจากคำพูดของอวี๋เหล่า มองท่าทีของเขา เหมือนคิดว่าหนุ่มน้อยคนนี้สามารถปรุงกลั่นยาระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ได้จริงๆ ซ้ำยังเป็นแค่เด็กหนุ่มอายุสิบห้าสิบหกเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าเรื่องจะไปถึงผู้อาวุโสสูงสุด
ยามนี้ไม่ต้องพูด พวกเขาก็รู้ว่าผู้อาวุโสสูงสุดต้องแอบสังเกตการณ์การสอบประเมินที่นี่อยู่แน่
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงสงบจิตสงบใจ มองไปทางหนุ่มน้อยชุดแดง มองคราวนี้ในดวงตาฉายแววแปลกๆ อย่างอดไม่ได้
ท่าทางที่เด็กหนุ่มชุดแดงจัดการกับยาทิพย์คล่องแคล่วนัก ไม่เร่งไม่ช้าและสง่างามอย่างยิ่ง นึกถึงตรงนี้ใบหน้าพวกเขาก็เผยอาการประหลาด สง่างาม? ทำไมพวกเขาถึงคิดเช่นนี้ได้? แม้รู้สึกว่าคำคำนี้ไม่ควรปรากฏอยู่ที่นี่ แต่การกระทำ การแสดงออก และอากัปกิริยาของเด็กหนุ่มกลับงดงาม ภาพที่มองเห็นช่างเป็นภาพที่เจริญตา
หนุ่มน้อยชุดแดงรูปโฉมหล่อเหลา ท่าทางตั้งอกตั้งใจ การกระทำกลับสง่างาม ทุกกิริยาทุกการยกมือ แขนเสื้อสีแดงวาดผ่านดุจดั่งภาพวาด ทำให้ใจคนสงบลงอย่างอธิบายไม่ถูก
ต่างจากที่อาจารย์คุมสอบสามคนนั้นสังเกตเห็น สิ่งที่อวี๋เหล่าสนใจกลับเป็นวิธีการที่เฟิ่งจิ่วจัดการยาทิพย์ รวมถึงลำดับการหยิบยาปรุงผสม สิ่งที่สังเกตพบคือท่าทางมุ่งมั่นตั้งใจ และความมั่นใจในตัวเองที่มีอยู่เต็มเปี่ยมแล้ว
สายตาเขามองผ่านยาทิพย์เหล่านั้นที่วางเรียงบนหน้าโต๊ะ แววตาวูบไหวเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะปรุงกลั่นยาแบบใด?
เขามองออกจากลีลาของเฟิ่งจิ่ว เด็กหนุ่มเป็นนักปรุงยาแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าจะปรุงยาระดับใดได้กันแน่? สามารถทำให้ผู้อาวุโสสูงสุดสนใจได้ หนุ่มน้อยคนนี้ไม่ธรรมดาเลย
เมื่อเวลาผ่านไป ครั้นจัดการยาทิพย์เรียบร้อยเฟิ่งจิ่วก็เริ่มสกัดของเหลวส่วนสำคัญจากยาทิพย์ หากบอกว่าเป็นการกลั่นยาเซียน เธอยังไม่ชำนาญพอจะทำสำเร็จได้ในครั้งเดียวจริงๆ แต่ถ้าเป็นยาน้ำ นั่นเป็นสิ่งที่เธอทำมาตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ยากแม้แต่น้อย
ทว่าวิธีการกลั่นยาของเธอไม่เหมือนกับการคาดเดาของพวกเขาสักเท่าไร ยายองนักปรุงยาที่นี่ต้องผ่านการต้มก่อนสกัดน้ำยา แต่เธอกลับสกัดส่วนสำคัญจากยาทิพย์ เพราะข้อนี้เองยาที่ปรุงออกมาจึงแตกต่าง
เมื่ออวี๋เหล่าเห็นว่าวิธีที่เฟิ่งจิ่วสกัดน้ำยาต่างจากที่เขาคาดคิดไว้ ในดวงตาก็ฉายแววสงสัย จากนั้นเห็นเด็กหนุ่มนำน้ำยาที่สกัดออกมาได้สองสามชนิดเทลงไปเช่นนั้นโดยไม่แบ่งก่อนหลัง ดูเหมือนใส่ไปตามใจ ผ่านไปทีละขั้นตอน สุดท้ายเพียงสกัดน้ำยาสีเขียวอ่อนน้อยกว่าครึ่งขวดออกมา
เฟิ่งจิ่วไม่สนใจว่าพวกเขากำลังมอง ไม่กลัวว่าพวกเขาจะเรียนรู้ฝีมือของตน เพียงจดจ่อกับงานในมือ ผ่านไปประมาณสองชั่วยาม เธอก็วางของเหลวส่วนสำคัญที่สกัดออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าเรียงไว้เรียบร้อย และเตรียมการผสมขั้นตอนสุดท้าย
อวี๋เหล่าขมวดคิ้วมองน้ำยาสีเขียวอ่อนใสในขวดใบเล็กที่อ่อนกว่าปกติ น่าแปลกว่าทำไมยาที่เฟิ่งจิ่วสกัดออกมาถึงไม่เหมือนกับน้ำสีเขียวของพวกเขา? ขณะกำลังคิด ก็เห็นหนุ่มน้อยคนนั้นนำน้ำยายี่สิบกว่าขวดที่เหลือจากการหลอมละลายผสมเข้าด้วยกันมั่วซั่ว ม่านตาเขาหดลงเมื่อเห็นการกระทำสุ่มๆ นั้น คิดว่าผสมน้ำยาพวกนั้นลงไปจะต้องเกิดปฏิกิริยาขัดแย้งกันเป็นแน่ ยานี้เกรงว่าคงใช้ไม่ได้แล้ว!
แต่ใครจะรู้ ในเวลานี้กลับมีกลิ่นหอมยาที่เข้มข้นทั้งยังทำให้จิตใจคนสั่นไหวกระจายออกมา…
…………………