№ 591 ต่างคนต่างเตรียมของขวัญ
“ข้ากำลังคิดเรื่องสินสอด เจ้าไปนอนเถอะ ไม่ต้องรอข้า” เขาโบกๆ มือ คิดว่าต้องไปคุยกับบิดาเสียหน่อยหรือไม่?
“สินสอด? นั่นเป็นของท่านน้า ท่านจะกังวลใจไปเหนื่อยเปล่าทำไมเล่า?” ฮูหยินใหญ่อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้
“เรื่องนี้เจ้าไม่เข้าใจหรอก” เขาพูดพลางเดินเอามือไพล่หลังอยู่ในห้อง บอกว่า “ข้าไปคุยกับท่านพ่อหน่อยดีกว่า” เอ่ยจบก็คิดจะไปข้างนอก แต่กลับถูกรั้งไว้
ฮูหยินใหญ่มองเขาอย่างจนปัญญา กล่าวว่า “ท่านดูซิว่าตอนนี้เป็นเวลาไหน มีเรื่องอะไรรอคุยพรุ่งนี้ไม่ได้หรือ? อีกอย่างสินสอดนี้ปิดตราประทับส่งเข้าคลังไปแล้ว แขกก็ยังอยู่ในจวน ท่านกำลังกังวลเรื่องสินสอด ไม่รู้พวกเขาจะคิดเช่นไร!”
หลินเฉิงจื้ออึ้งไป มองนางพลางถามว่า “คิดอย่างไรหรือ?” เขารู้สึกว่าไม่ค่อยถูกต้องอยู่บ้าง จึงอยากลองคุยกับท่านพ่อเท่านั้นเอง
“ท่านพี่ สินสอดนั้นมอบให้ท่านน้า แม้เป็นท่านพ่อก็คงไม่ไปยุ่งกับสินสอดพวกนั้น พอถึงเวลาแน่นอนว่าต้องให้ท่านน้านำกลับไปราชวงศ์เฟิ่งหวงโดยยังคงสภาพเดิมไว้เพื่อเป็นเกียรติแก่นาง ดังนั้นข้าคิดว่าเรื่องนี้ท่านไม่ต้องยุ่งหรอก ท่านพ่อยังไม่พูดอะไรเลย ต่อให้มีอะไร นั่นก็เป็นเรื่องที่ท่านพ่อต้องถาม ไม่ใช่ท่าน”
น้ำเสียงนางชะงักไปนิด บอกว่า “ฐานะท่านเป็นแค่หลานชาย ยังห่างกันหนึ่งรุ่น!”
หลังจากฟังคำพูดนาง หลินเฉิงจื้อคิดๆ ดูแล้วก็ยอมแพ้ “ช่างเถอะ เรื่องนี้รอพวกเขากลับไปค่อยคุยแล้วกัน! ตอนนี้แขกยังอยู่ในเรือน ก็ยากจะพูดเรื่องสินสอดจริงๆ”
เขาจึงเก็บเรื่องนี้ไว้เช่นนี้ แต่ในใจยังนึกถึงยาร้อยขวดนั้น คิดว่าต้องหาโอกาสดูเสียหน่อยจะดีกว่า
เช้าตรู่วันต่อมา หลังจากเฟิ่งจิ่วกินอาหารเช้ากับซู่ซี ก็ออกไปข้างนอกกับผู้เฒ่าเกิ่ง เหลิ่งซวง และองครักษ์ทั้งแปด เธอมาถึงที่นี่วางแผนจะพาพวกเขาไปเดินเล่นรอบๆ และชมความรุ่งเรืองในเมืองซานเจียงของแคว้นใหญ่ระดับสามเสียหน่อย
เมื่อหลินป๋อเหิงจะไปพูดคุยดื่มชากับเฟิ่งจิ่วและผู้เฒ่าเกิ่ง กลับได้รับแจ้งว่าพวกเขาออกไปข้างนอกแต่เช้า วางแผนจะไปเที่ยวเล่นกัน
“ไม่มีใครไปกับพวกเขาหรือ?” หลินป๋อเหิงขมวดคิ้วถาม คิดว่าเช่นนี้เป็นการรับรองแขกที่บกพร่อง
“พี่ใหญ่”
ซู่ซีเดินเข้ามา ได้ยินคำพูดเขาก็บอกยิ้มๆ ว่า “เดิมทีข้าจะไปกับพวกเขา แต่แม่หนูเฟิ่งบอกว่านางเคยมาและคุ้นเคยกับที่นี่ จึงพาพวกเขาออกไปด้วยตนเอง ข้าเห็นว่าพวกเขามีคนไม่น้อยเลยไม่ได้ตามไปด้วย”
“ให้แขกไปเดินเล่นในเมืองกันเอง เสียมารยาทมาก” หลินป๋อเหิงพูดพลางส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรหรอก คนกันเองทั้งนั้น” ซู่ซีพูดอย่างยิ้มแย้ม ควงแขนเขาและเอ่ยว่า “พี่ใหญ่ ได้ยินว่าสินสอดร้อยกล่องทำให้คนในตระกูลไม่น้อยมองจนตาลาย? ข้ายังไม่เห็นเลย!”
“ฮ่าๆๆ เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง พวกนั้นล้วนเป็นของเจ้า พี่ใหญ่จะไม่ยุ่ง ถึงเวลานั้นนอกจากสินสอดชุดนี้ พี่ใหญ่จะเตรียมให้เจ้าอีกชุดหนึ่ง หนำซ้ำพี่ๆ คนอื่นก็บอกว่าถึงเวลาจะเตรียมให้เจ้าอีกชุด ยังมีพวกหลานชายอีก ถึงตอนนั้นสินเดิมเจ้าสาวของเจ้าจะมีแต่มากไม่มีน้อย เจ้าจะแต่งออกไปอย่างสมเกียรติแน่นอน”
“พี่ใหญ่ ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น” นางหัวเราะอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ ได้ยินพี่ๆ บอกว่าพวกเขาแต่ละคนต่างเตรียมสินเดิมเจ้าสาวให้นาง ในใจจึงซาบซึ้งอย่างยิ่ง
หลินป๋อเหิงหัวเราะเสียงดัง “พวกแม่หนูเฟิ่งมาส่งสินสอดกะทันหัน ข้าก็ไม่ทันได้บอกท่านพ่อท่านแม่ แต่ถึงเวลาเจ้าแต่งออกไป พวกเขาต้องรีบกลับมาแน่นอน”
ครั้นนึกถึงพ่อแม่พวกเขา รอยยิ้มบนใบหน้าทั้งสองยิ่งมากขึ้น
……………………………………….