Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 618

№ 618 เมืองซิงอวิ๋น

สามวันต่อมา บนเส้นทางกลางภูเขานอกเมืองแห่งหนึ่งในแคว้นเหินเวหา เฟิ่งจิ่วที่สวมชุดคลุมสีแดงงดงามไม่ธรรมดานั่งขี่บนหลังเหล่าไป๋ ชัดเจนว่าเป็นหนุ่มน้อยแสนสง่าผู้หล่อเหลาโดดเด่น เป็นคุณชายสูงศักดิ์ที่ทั่วร่างล้วนมีกลิ่นอายสูงส่ง แต่ดันมอบกลิ่นอายเกียจคร้านที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวแก่ผู้คน

เพียงเห็นขาข้างหนึ่งนางห้อยอยู่ข้างตัวเหล่าไป๋อย่างเป็นธรรมชาติ ขาอีกข้างกลับขัดสมาธิบนหลังเหล่าไป๋ ในปากคาบหญ้าหางสุนัขที่เก็บจากข้างทางไว้ และมุ่งไปยังเมืองด้านหน้าอย่างโซซัดโซเซ

เดินทางไกลยังมีเรือเหาะ การเดินทางจะไม่เสียเวลามากเกินไป หลังจากลาจากครอบครัววันนั้นเธอก็ก้าวเข้าอาณาเขตแคว้นเหินเวหาคนเดียวอีกครั้ง ขี่เหล่าไป๋โซเซไปยังเมืองซิงอวิ๋นที่ตั้งสำนักศึกษาหมอกดารา

เมืองชิงอวิ๋นเป็นเมืองที่ตั้งอยู่เหนือสุดแคว้นเหินเวหา ด้านหลังใกล้กับป่าทรายดำที่อันตรายที่สุด แม้บอกว่าเมืองชิงอวิ๋นอยู่ในอาณาเขตแคว้นเหินเวหา แต่มันเป็นสถานที่ที่ไม่ขึ้นกับอำนาจราชวงศ์ชิงอวิ๋น กลับเป็นเมืองหลักที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในแคว้น

ตระกูลที่ตั้งรกรากในเมืองซิงอวิ๋นได้ ไม่มีตระกูลไหนไม่ใช่ตระกูลใหญ่ที่ราชวงศ์เหินเวหายังต้องให้เกียรติ และที่นี่ยังเป็นจุดที่แต่ละแคว้นเดินทางมาบรรจบกัน ส่วนสำนักศึกษาหมอกดาราเป็นสำนักศึกษาหกดารา แม้แต่ตระกูลใหญ่กับกลุ่มอำนาจต่างๆ ที่นี่ยังไม่กล้าบาดหมางด้วย

เพราะที่นี่พวกเขาเป็นเพียงสำนักศึกษาย่อย และเป็นฐานใหญ่ของสำนักศึกษาหมอกดารา ตระกูลใดๆ จึงไม่อาจต่อต้านหรือเหิมเกริมกับพวกเขา

สำหรับสำนักศึกษาหมอกดารานี้ ในใจเธอเฝ้ารออย่างยิ่ง

ตลอดทางเข้าเมือง หลังจากจ่ายค่าเข้าเมืองก็ปล่อยเหล่าไป๋เดินหน้าไปด้วยตนเอง และส่งตนเข้าเมืองอย่างซวนเซ

“จิ๊ๆ สมแล้วที่เป็นเมืองซิงอวิ๋น สถานที่แห่งนี้คึกคักกว่าเมืองซานเจียงแคว้นมหาสันติยิ่งนัก”

เธอส่งเสียงจิ๊ปากพร้อมทั้งพึมพำเสียงเบา มองคนสัญจรไปมาบนถนนใหญ่ที่กว้างขวาง ในหมู่การขนส่งรถสัตว์วิญญาณมีคนหนุ่มสาวไม่น้อยที่นั่งขี่บนหลังสัตว์วิญญาณเหมือนกับเธอ สองฝั่งถนนใหญ่มีร้านค้าเรียงราย ตามตรอกซอกซอยมีพ่อค้าหาบเร่ที่จัดเรียงร้านค้าตะโกนกันเสียงดัง และยังมีคนทำการค้าซื้อขาย ระหว่างที่กำลังต่อรองราคาก็โต้เถียงกันเสียจนหน้าร้อนหูแดง

“คุณชาย คุณชาย”

มีคนกำลังตะโกนเรียก เฟิ่งจิ่วไม่สนใจและยังคงพินิจมองรอบๆ ไม่หยุดหย่อน ก็ได้ยินเสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง

“คุณชายท่านนั้น คุณชายท่านนั้นที่สวมชุดแดงขี่ม้าขาวน่ะ ดูตรงนี้ๆ”

คุณชายที่สวมชุดแดงขี่ม้าขาว? เธอหรือ?

เธอก้มหน้ามองชุดคลุมสีแดงบนร่าง ดึงหญ้าหางสุนัขในปากออก แล้วเงยหน้ามองไปตามเสียงนั้น

เพียงเห็นหนุ่มน้อยร่างผอมแห้งอายุสิบสี่สิบห้ายืนกวักมือเรียกเธออยู่หน้าร้านค้า ใบหน้ายิ้มแย้ม แบกกล่องไม้เล็กๆ ไว้ตรงหน้าอก ไม่รู้ว่ากำลังขายของอะไร ยามนี้มือหนึ่งยังหยิบของขายพลางยุ่งกับการเก็บเงิน

เธอเลิกคิ้วขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจ นิ้วมือชี้ๆ ที่ตนเอง “เรียกข้าหรือ?”

“ใช่ๆ” หนุ่มน้อยร่างผอมแห้งคนนั้นรีบร้อนพยักหน้ารับ ยิ้มพลางเอ่ยกับคนที่มาซื้อของว่าครั้งหน้าค่อยมาอีก แล้ววิ่งมาทางเธออย่างร้อนรน

“คุณชาย ท่านเป็นคนต่างถิ่นใช่ไหม? คุ้นเคยกับในเมืองหรือเปล่า? ต้องการคนนำทางหรือไม่? ข้าคุ้นเคยกับเมืองซิงอวิ๋นมาก ท่านอยากไปที่ไหน อยากรู้ว่าที่ไหนทิวทัศน์งามที่สุด โรงเตี๊ยมไหนสบายที่สุด ของกินเล่นตรอกเส้นไหนมีเอกลักษณ์ที่สุด ข้ารู้ทั้งหมดเลย”

อาจเพราะตากแดดบ่อยผิวพรรณหนุ่มน้อยร่างผมจึงคล้ำ แต่ดวงตาคู่นั้นกลับสดใสมีชีวิตชีวา จึงให้ความรู้สึกหลักแหลมและคล่องแคล่ว

เห็นเช่นนี้เฟิ่งจิ่วก็ยิ้มน้อยๆ ถามว่า “ราคาเท่าไร?”

………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!