№ 624 เม็ดบัวเขียวในท้อง
เฟิ่งจิ่วที่อาบน้ำเสร็จเข้ามายังห้วงมิติ ภายในห้วงมิตินอกจากหงส์ไฟน้อยยังมีอสูรกลืนเมฆา
หลังจากอสูรกลืนเมฆาโดนเฟิ่งจิ่วส่งเข้าห้วงมิติมาอยู่เป็นเพื่อนหงส์ไฟน้อย ความหยิ่งผยองแต่ดั้งเดิมก็โดนขัดเกลาจนไม่เหลือ ต่อหน้าสัตว์เทวะในตำนาน แม้มันจะบรรลุกลายเป็นสัตว์เทวะแล้ว ก็ยังต้องเป็นสัตว์เลี้ยงเชื่องๆ ตัวหนึ่ง
เมื่อเฟิ่งจิ่วที่เข้ามาห้วงมิติเห็นหงส์ไฟน้อยกำลังฝึกบำเพ็ญก็แปลกใจนิดหน่อย เจ้าหนูนี่ทำไมถึงว่าง่ายยอมเริ่มฝึกบำเพ็ญขึ้นมา? เธอนึกว่ามันจะยังแทะโสมอยู่ในนี้เสียอีก! ไม่นึกเลยว่ารอบนี้เธอไม่ต้องบอกก็ฝึกบำเพ็ญในห้วงมิติด้วยตนเองได้
เห็นเช่นนี้เธอนั่งขัดสมาธิในห้วงมิติ ชำเลืองมองอสูรกลืนเมฆาที่หมอบอยู่ข้างๆ อย่างซื่อสัตย์ภักดี แล้วกระดิกนิ้วเรียก “มานี่”
อสูรกลืนเมฆาเห็นก็รีบเร่งลุกขึ้นเดินเข้ามาตรงหน้านางอย่างเอาอกเอาใจ
“อยู่ที่นี่เจ้าถูกหงส์ไฟน้อยรังแกหรือเปล่า?” เธอเอ่ยถามยิ้มๆ พลางลูบเส้นขนแสนปุกปุยของอสูรกลืนเมฆา
อสูรกลืนเมฆาได้ยินก็มองไปทางร่างเล็กที่กำลังฝึกบำเพ็ญ จากนั้นเอ่ยปาก “นายท่าน ข้าออกไปอยู่กับเหล่าไป๋ได้หรือไม่?” แม้ข้างในนี้จะอุดมไปด้วยพลังวิญญาณ แต่สัตว์เทวะในตำนานตนนั้นอยู่ที่นี่ แรงกดดันแข็งแกร่งเกินไป มันอกสั่นขวัญแขวนตลอดคงฝึกบำเพ็ญได้ไม่ดี
ได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหลือบมองมัน “เหล่าไป๋เพิ่งสร้างปัญหาให้ข้า หากเจ้าออกไปสัตว์สองตัวอยู่ด้วยกันเรื่องวุ่นวายจะยิ่งมาก” พูดจบเธอก็ลุกยืนขึ้น บอกว่า “ตั้งใจฝึกบำเพ็ญเถอะ!”
เฟิ่งจิ่วออกจากห้วงมิติทันทีเพื่อไม่ให้มันพูดอะไรอีก ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ พลางส่ายหน้า ทอดถอนใจว่า “แต่ละตัวนี่อดห่วงไม่ได้เลย”
เธอไม่ได้ออกจากห้องแต่หลับอยู่ข้างในสักพัก กระทั่งท้องฟ้าค่อยๆ มืดลงจนค่ำคืนมาเยือนถึงจะออกจากโรงเตี๊ยม และไปเดินเล่นตามสถานที่บนแผนที่ จนดึกดื่นถึงจะกลับมาพักผ่อนที่โรงเตี๊ยม
เพียงแต่หลังจากกลับมาเธอยังไม่เข้านอน แต่นั่งสมาธิฝึกบำเพ็ญบนเตียง ทว่าเมื่อเธอเรียกรวมกลิ่นอายพลังวิญญาณให้ไหลเวียน กลับพบว่ากลิ่นอายพลังวิญญาณในร่างหายไปอย่างรวดเร็ว ราวกับถูกอะไรบางอย่างดูดซับไว้ พลังวิญญาณจึงไม่อาจก่อตัวกันได้
“เป็นไปได้อย่างไร?”
สีหน้าเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย คิ้วขมวดกันขึ้นมา เธอรวบรวมกลิ่นอายพลังวิญญาณต่อไปอย่างไม่เชื่อ แต่ลองอยู่หลายครั้งกลิ่นอายพลังวิญญาณในร่างล้วนไม่ก่อตัว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ามันจะไหลเวียนในร่าง
เพราะเหตุนี้เธอจึงเข้าไปห้วงมิติทันที นั่งสมาธิฝึกบำเพ็ญ แต่เมื่อดูดซับกลิ่นอายพลังวิญญาณที่อบอวลในห้วงมิติเข้ารวมในร่างกลับยังคงหายไปอย่างน่าแปลกใจ ลองติดต่อกันหลายต่อหลายครั้งล้วนเป็นเช่นนี้
“ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ?”
เธอตกตะลึงนิดหน่อย จับชีพจรตนเองกลับไม่มีปัญหาอะไร หนำซ้ำเธอยังลองใช้กลิ่นอายพลังเร้นลับ พบว่ามันยังก่อตัวได้ มีแต่กลิ่นอายพลังวิญญาณที่พอเข้าสู่ร่างก็คล้ายจะถูกบางอย่างดูดซับ ราวกับหลุมลึกไร้ก้นบึ้ง และหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“หรือว่าเป็นจุดตันเถียน? ก็ไม่น่าใช่!”
เธอพึมพำเสียงเบา พยายามสงบจิตใจ หลังจากทำให้กลิ่นอายมั่นคงก็ผ่อนคลายร่างกายและหลับตาลง ใช้ดวงจิตสำรวจจุดตันเถียนในร่างกาย
ทว่าเมื่อเธอเห็นจุดตันเถียนของตนเอง กลับอดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นด้วยความตกตะลึง สีหน้าเหลือเชื่อ
“เป็นไปได้อย่างไร? ทำไมถึงเป็นเม็ดบัวเขียวเม็ดนั้น?”
ตรงจุดตันเถียนเหมือนจะมีเม็ดบัวสีเขียวเม็ดหนึ่งนอนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบเชียบ แค่แวบเดียวก็จำได้ว่าเป็นเม็ดบัวสีเขียวบนข้าวต้มบัวที่ชายชรายกมาให้เธอในเวิ้งสวนท้อวันนั้น
ตอนนั้นเธอยังพยายามเคี้ยว แต่สุดท้ายกลับเคี้ยวอย่างไรก็ไม่แตก เพราะเม็ดบัวนั้นส่งกลิ่นหอมอบอวล เธอจึงกลืนลงไปทันทีอย่างไม่ให้เสียของ แต่ใครจะรู้ เม็ดบัวเม็ดนั้นที่เดิมควรจะย่อยไปตั้งนานแล้วกลับมาปรากฏอยู่ในจุดตันเถียนของเธออย่างคาดไม่ถึง!
………………………………….