Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 642

№ 642 กลับดำเป็นขาว

“ท่านอาจารย์ ท่านอย่าเพิ่งโกรธ อย่ามีเรื่องกับคนไม่รู้ความเช่นเขาเลยขอรับ”

“จริงด้วยท่านอาจารย์ ผู้ใหญ่อย่างท่านไม่ควรถือสาคนผู้น้อย อย่าเอาเรื่องเขาเลยขอรับ”

“ท่านอาจารย์ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรใช้กำลัง ขอท่านรีบยั้งมือไว้ก่อนเถอะ!”

“อย่าสู้กันอีกเลย หากสู้ต่อไปจะเป็นเรื่องใหญ่”

“หุบปาก!”

อาจารย์คนนั้นได้ยินเสียงคนอื่นห้ามปราม แววตาดุร้ายจึงกวาดมอง ตะโกนเสียงเข้ม เสียงดุจสายฟ้ามีแรงกดดันเอ่อล้น ทำให้พวกเขาหน้าซีดเผือดไม่กล้าปริปากอีกเสียดื้อๆ

“เด็กคนนี้โอหังอวดดี หากวันนี้ไม่สั่งสอนเจ้าดีๆ ข้าก็ไม่สมควรเป็นอาจารย์!”

เขาตะคอกเสียงเกรี้ยว เอ่ยอย่างน่าเกรงขามและมีความชอบธรรม กลับไม่รู้ว่าคำพูดนั้นคนอื่นได้ยินถึงหูแล้วช่างน่าขัน ขณะที่เขาจะสู้ต่อ กลับได้ยินเสียงหนึ่งลอยมา

“เร็วเข้าๆ พวกเขาจะสู้กันแล้ว เด็กหนุ่มคนนั้นโดนซ้อมจนตายแน่!”

ทุกคนมองไป ที่แท้เป็นชายคนนั้นที่สับขาวิ่งออกไปก่อนหน้านี้ไปตามอาจารย์คนหนึ่งมาช่วย

อาจารย์คนนั้นเห็นภาพเช่นนั้นไกลๆ ก็แปลกใจเล็กน้อย รีบเปลี่ยนมาลากชายคนนั้นแทน แล้วเรียกพลังกระโจนมาเบื้องหน้าทุกคน เขามองอาจารย์ที่ไฟโกรธลุกโชนและใช้มือหนึ่งกุมตรงซี่โครงไว้ ถามอย่างแปลกใจเล็กน้อยว่า “นี่มันเรื่องอะไรกัน? ข้าได้ยินว่าเจ้าจะสู้กับนักเรียนที่มาลงชื่อสอบประเมินหรือ?”

ตอนที่ได้ยินเรื่องนี้ เขายังนึกว่าเด็กหนุ่มคนนั้นแกล้งหลอกเขา กลับไม่นึกว่าจะตามมาเห็นทั้งสองตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดจริง อาจารย์สู้กับนักเรียน? ช่างไร้เหตุผลจริงๆ

“หึ!”

เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่คืออาจารย์สำนักศึกษา อาจารย์คนนั้นแค่นเสียงหยันหนักๆ ชี้ที่กวนสีหลิ่น “เด็กคนนี้โอหังเหิมเกริมเหลือเกิน! ถึงกับกล้าขวางทางข้าและอาศัยตอนที่ข้ายังไม่ตั้งตัวมาลอบทำร้ายข้า การกระทำเช่นนี้ช่างน่าไม่อาย!”

ได้ยินคำพูดนี้ เด็กหนุ่มคนอื่นข้างๆ ที่มองมาตั้งแต่ต้นจนจบต่างมีสีหน้าอึ้งงัน กะ การกลับดำเป็นขาวเช่นนี้จะไร้เหตุผลเกินไปแล้วกระมัง?

กวนสีหลิ่นได้ยินแล้วก็เพียงยกมุมปากขึ้น เดินทางฝึกฝนวิชาข้างนอก เห็นหน้าค่าตามามากมายหลายแบบ อาจารย์คนนี้ไม่มีท่าทางเช่นอาจารย์ ปากมีแต่คำพูดเพ้อเจ้อกลับดำเป็นขาว คาดไว้แล้วว่าจะเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมา

“ไม่ใช่ขอรับๆ เรื่องทั้งหมดไม่ได้เป็นเช่นนั้น” เด็กหนุ่มที่ไปตามอาจารย์มาช่วยรีบบอก แต่เพิ่งเอ่ยปากก็ถูกสายตาหนึ่งจ้องมองอย่างดุร้าย สายตานั้นทั้งหนาวเหน็บและเย็นเยียบ ทำให้เขาราวกับถูกพิษ หัวใจหยุดเต้นพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ

“อาจารย์เหออย่ายุ่งเรื่องนี้เลย รอข้าสั่งสอนเจ้าเด็กไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำคนนี้ก่อนค่อยว่ากัน!” อาจารย์คนนั้นตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมกล้ำกลืนฝืนทนต่อไป ไม่สนว่าอาจารย์คนนั้นยังอยู่ข้างๆ กลิ่นอายเพิ่มพุ่งพรวด ร่างถลาเข้าเหวี่ยงหมัดโจมตีไปทางกวนสีหลิ่น

“หยุด!”

เสียงตะโกนดุจฟ้าผ่าดังมาจากท้องฟ้า แรงกดดันทรงพลังสะเทือนจนอาจารย์คนนั้นถอยไปดื้อๆ และหยุดยั้งการโจมตีของเขาที่หมายจะเอาชีวิตไว้ ทุกคนเงยหน้าอย่างประหลาดใจท่ามกลางเสียงดุจฟ้าร้องกระหึ่ม เห็นชายชราคนหนึ่งลอยมากลางอากาศ

“ทะ ท่านรองเจ้าสำนัก…” อาจารย์คนนั้นหน้าขาวซีดเล็กน้อย ยามนี้ถึงจะมีอารมณ์ตื่นตระหนก

“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? เป็นถึงอาจารย์ทำไมถึงลงมือกับนักเรียน?” ชายชราลงมาที่พื้นอย่างมั่นคง หลังแววตาดุดันมองผ่านเด็กหนุ่มชุดดำที่แขนข้างหนึ่งลู่ลงไร้เรี่ยวแรง ก็หยุดสายตาลงบนร่างอาจารย์ผู้มีสีหน้าซีดเผือด

เด็กหนุ่มคนนั้นที่ไปตามกำลังเสริมได้ยินคำเรียกจากอาจารย์คนนั้น จึงรู้ว่ารองเจ้าสำนักมา รีบร้อนบอกว่า “ท่านรองเจ้าสำนัก อาจารย์คนนี้ทำร้ายคนไม่แยกแยะถูกผิดขอรับ!”

ได้ยินเช่นนี้ รองเจ้าสำนักก็ขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งขรึม “เล่ามาอย่างละเอียดซิ! เกิดอะไรขึ้นกันแน่? หากโกหกปิดบังจำต้องถูกลงโทษ!”

………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!