Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 644

№ 644 เขาคือน้องชายข้า

ใครจะรู้ว่ากวนสีหลิ่นไม่มีแม้ท่าทีจะหยุดฝีเท้า ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงด้านหลังโดยสิ้นเชิง พร้อมทั้งเดินหน้าต่อไป

เขากับเสี่ยวจิ่วสองคนล้วนมีจดหมายแนะนำจากตลาดมืด มีจดหมายแนะนำฉบับนั้น แม้มาจากแคว้นระดับเก้าก็เข้ามาลงชื่อที่สำนักศึกษาหมอกดาราได้โดยไม่ต้องผ่านการประลองคัดเลือกของแต่ละแคว้นระดับเก้า

นอกจากจดหมายแนะนำจากตลาดมืด เสี่ยวจิ่วยังมอบแผ่นป้ายที่เรียกว่าป้ายประจำสำนักศึกษาหมอกดาราไว้ให้เขา บอกว่าหากจดหมายแนะนำใช้ไม่ได้ก็ใช้ป้ายประจำสำนักศึกษาหมอกดารา แม้เขาเก็บไว้ แต่ไม่เคยคิดจะใช้แผ่นป้ายเข้าสำนักศึกษาโดยไม่ต้องประเมิน

เพราะเขาอยากพึ่งพากำลังของตนเอง และอยากลองดูว่าพลังกำลังอยู่ถึงระดับไหนแล้ว หากด้วยกำลังตนเองยังสอบไม่ผ่านจริงๆ เช่นนั้นค่อยใช้ป้ายประจำสำนักศึกษาหมอกดาราเข้าไปก็ไม่สาย

แต่นึกไม่ถึงว่าภายในสำนักศึกษาหมอกดาราที่ขึ้นชื่อว่าใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในแคว้นระดับเก้าถึงหกจะมีอาจารย์แย่ๆ เช่นนั้นอยู่ คนเป็นครูยิ่งควรใส่ใจทุกการกระทำของตัวเอง แต่อาจารย์ท่านนั้นไม่แยกแยะถูกผิดดำขาว ซ้ำยังต่อสู้กับนักเรียนโดยมีเจตนาสังหารซ่อนเร้น ไม่พูดไม่ได้ว่าการปฏิบัติเช่นนี้ของสำนักศึกษาหมอกดาราทำให้เขาผิดหวังมากจริงๆ

“ช้าก่อน รอเดี๋ยวก่อน” เห็นกวนสีหลิ่นไม่หยุด รองเจ้าสำนักรีบตามไปขวางเขาไว้

นักเรียนคนอื่นข้างๆ ไม่รู้จักป้ายประจำสำนักศึกษาหมอกดารา ด้วยเหตุนี้จึงไม่รู้ว่าสิ่งที่กวนสีหลิ่นทิ้งไปคืออะไรกันแน่ แต่อาจารย์สองคนนั้นรู้ เมื่อเห็นแผ่นป้ายนั้น สีหน้าอาจารย์หวังก็ขาวซีด หน้าผากมีเหงื่อไหลออกมาน้อยๆ

ส่วนอาจารย์เหอมีสีหน้าประหลาดใจ ไม่นึกเลยว่าเด็กหนุ่มชุดดำจะมีป้ายประจำสำนักศึกษาหมอกดาราด้วย

รองเจ้าสำนักขวางเขาไว้ มองกวนสีหลิ่น พินิจมองจากบนลงล่างก็ไม่เห็นว่าเขามีตรงไหนคล้ายกับหนุ่มน้อยชุดแดงนามเฟิ่งจิ่ว ดังนั้นจึงเอ่ยถาม “เจ้ามีความสัมพันธ์เช่นไรกับเฟิ่งจิ่ว?”

ได้ยินเช่นนี้ กวนสีหลิ่นมองรองเจ้าสำนัก นิ่งไปสักพักถึงจะบอกว่า “เขาคือน้องชายข้า”

น้องชาย?

รองเจ้าสำนักมองคิ้วตาเขาซ้ำแล้วซ้ำอีก เห็นเขาคิ้วหนาตาโต หน้าตาหล่อเหลาทว่าไม่งดงาม ร่างสูงกำยำ ไม่มีส่วนที่คล้ายคลึงกับหนุ่มน้อยชุดแดงผู้งดงามและมีกลิ่นอายสูงศักดิ์แผ่ไปทั่วร่างเลยสักนิด จึงถามอีกแบบว่า “พวกเจ้าสองคนหน้าตาไม่คล้ายกันเลย? หรือว่ามีพ่อเดียวกันแต่คนละแม่?”

อาจารย์เหอกับนักเรียนด้านหลังได้ยินรองเจ้าสำนักซุบซิบเรื่องคนในครอบครัว ก็ต่างตาค้างไปโดยฉับพลัน นี่มันเรื่องอะไรกัน? ครอบครัวเดียวกันแต่คนละแม่แล้วเกี่ยวอะไรกับเขา?

หลังจากกวนสีหลิ่นได้ยินคำพูดรองเจ้าสำนักก็เผยสีหน้าแปลกๆ มองรองเจ้าสำนักและพูดว่า “พ่อเขาเป็นพ่อบุญธรรมข้า”

“อ้อ! ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง”

รองเจ้าสำนักพลันแจ่มแจ้ง เขาก็คิดอยู่ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่เหมือนเฟิ่งจิ่วเลยสักนิด ที่แท้ก็ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน เช่นนี้ไม่น่าแปลกใจ ขณะมองเด็กหนุ่มคนนี้ จิตใจเขาสั่นไหวเล็กน้อย ถามว่า “เช่นนั้นเจ้าชื่ออะไร?”

“กวนสีหลิ่น”

“ฮ่าๆๆ ตระกูลเดียวกับข้าเลย!” เขาแหงนหน้าหัวเราะร่า ตบๆ ไหล่แกร่งแข็งแรง “ข้าแซ่กวนเช่นกัน ดูท่าหากไม่ใช่คนบ้านเดียวกันก็ไม่เข้าประตูเดียวกัน มาๆๆ พวกเรามาคุยกันข้างๆ นี้หน่อยเถอะ”

“ไม่แล้ว ไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก” กวนสีหลิ่นกล่าวอย่างเย็นชา สาวก้าวจะออกไป

“เดี๋ยวๆๆๆ” รองเจ้าสำนักขวางเขาไว้อีกครั้ง ก่อนจะทอดถอนใจ “อารมณ์โกรธเจ้ามีบางส่วนคล้ายกับเฟิ่งจิ่ว หรือไม่พอใจเรื่องที่ข้าลงโทษอาจารย์หวัง? เจ้ารอก่อน”

รองเจ้าสำนักพูดปลอบกวนสีหลิ่นไม่ให้เขาจากไป พลางหันกลับไปตะคอกบอกอาจารย์หวังที่หน้าซีดเผือดหน้าผากมีเหงื่อไหลว่า “เจ้ากลับไปเก็บของ ออกไปเสียวันนี้เลยเถอะ! สำนักศึกษาหมอกดาราไม่ต้องการอาจารย์ที่ไม่มีความเป็นครูเช่นเจ้า!”

…………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!