№ 650 พรหมลิขิตบนและใต้ต้นไม้
พ่อครัวคนนั้นหลับตาลงเล็กน้อยพลางสูดหายใจเข้าลึก เพื่อดมกลิ่นหอมของน้ำแกงวิญญาณที่อยู่ในอากาศด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม
เฟิ่งจิ่วได้ยิน มุมปากก็กระตุก ปิดฝาหม้ออย่างรีบร้อน ของที่เธอหยิบมามีหลายอย่าง เดาว่าคงเตรียมให้อาจารย์ทุกคนเหมือนๆ กัน บางอย่างน้อยสุดมีแค่ชุดเดียว พวกที่มีแค่หนึ่งชุดเธอหยิบไปหมดไม่ได้ จึงหยิบแค่ครึ่งเดียว
สุดท้ายหลังจากเธอตักข้าววิญญาณมาเต็มๆ หนึ่งโถ ถึงจะหนีไปด้านหลังอย่างเงียบเชียบ…
“หือ? ขาหมูน้ำแดงที่รองเจ้าสำนักสั่งทำ ทำไมถึงเหลือแค่ตัวเดียว?”
“เนื้อวิญญาณผัดเห็ดสนจานนี้ของเจ้าสำนัก ทำไมถึงพร่องไปกว่าครึ่ง? ข้าจำได้ชัดเจนว่ามีมาเต็มจาน”
ได้ยินคำพูดพ่อครัวคนนั้น พ่อครัวอีกคนก็ยิ้มเอ่ยว่า “เจ้ายุ่งจนลืมหรือเปล่า ที่นี่ไม่มีใครกล้าเจ้ามาวุ่นวาย ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราสองคนอยู่ที่นี่ จะเข้ามาขโมยของในห้องครัวยิ่งเป็นไปไม่ได้”
ต้องรู้ไว้ว่า แม้พวกเขาสองคนเป็นพ่อครัวแต่ก็มีวรยุทธ์ระดับสร้างรากฐาน ใครจะกล้าเข้ามาขโมยของในห้องครัวภายใต้สายตาพวกเขา?
“อืม นี่ก็ใช่ ข้าอาจจะจำผิดไป” พ่อครัวคนนั้นหัวเราะพลางส่ายหน้ามองไปยังน้ำแกงหม้อใหญ่ เมื่อเปิดน้ำแกงนั้นกลับเห็นว่าไม่มีแม้แต่ควันพวยพุ่งขึ้นมา จึงอึ้งไปสักพักทันที ก่อนจะก้มไปดูไฟด้วยสีหน้าแปลกๆ
เขาจำได้ว่าน้ำแกงนี้เพิ่งเสร็จเมื่อครู่ แค่อุ่นไว้ตลอด ทำไมตอนนี้กลับไม่มีแม้แต่ไอร้อนสักนิด?
อีกด้านหนึ่ง หลังออกจากห้องครัวมา เฟิ่งจิ่วก็มุ่งไปยังทิศทางเทือกเขาหมื่นอสูร เรียกพลังพุ่งไปด้วยความเร็วสูง และหายไปท่ามกลางป่าเขาในไม่กี่ชั่วครู่ จนกระทั่งมาถึงสถานที่ไร้ผู้คน ถึงจะหยิบอาหารที่ฉวยมาจากห้องครัวออกจากห้วงมิติมาวางเรียงบนพื้นทีละอย่างๆ
“นึกไม่ถึงเลย! ว่าวันหนึ่งห้วงมิตินี้จะมีประโยชน์เช่นนี้ด้วย” เธอถอนหายใจเบาๆ มองอาหารสิบกว่าอย่างกับน้ำแกงตุ๋นหนึ่งหม้อตรงหน้าที่เต็มไปหมด แล้วยิ้มเสียจนไม่เห็นแม้แต่ดวงตา
“นี่ไม่ยุติธรรมหรือเปล่า? นักเรียนไม่มีกิน คนเป็นอาจารย์อาหารที่กินยังไม่ใช่ของทั่วไป ทั้งหมดเป็นพวกเนื้อวิญญาณเอย โสมวิญญาณเอย ไก่วิญญาณเอย หากข้าไม่ช่วยพวกเจ้าแบ่งใครจะแบ่งเล่า? เฮ้อ!”
เธอส่ายหน้าด้วยสีหน้าภูมิใจ ม้วนแขนเสื้อขึ้นทันที จากนั้นเริ่มดื่มน้ำแกงแสนหอมหวนก่อน พอน้ำแกงเข้าปากกลิ่นหอมอบอวลก็กระจายบนปลายลิ้นพร้อมกับกลิ่นอายพลังวิญญาณ น้ำแกงลงท้องไปไม่กี่คำ เพียงรู้สึกว่าพลังวิญญาณไหลไปยังจุดตันเถียน หล่อเลี้ยงเม็ดบัวเขียวตรงจุดตันเถียนของเธอ
“จิ๊ๆ หอมจริงๆ! นี่หรือของที่คุณชายโม่เฉินอะไรนั่นกิน? แหะๆ หม้อแรกอยู่กับข้าตรงนี้แล้ว เจ้าก็กินส่วนที่ข้าผสมน้ำแก้ขัดไปแล้วกัน!”
เธอไม่รู้เลยว่าบนต้นไม่ใหญ่ด้านหลังตรงที่นั่งอยู่นั้น มีร่างสีขาวกำลังนั่งด้านบนและมองเธอที่อยู่ใต้ต้นไม้เงียบๆ
แววตาลึกล้ำที่สงบนิ่งเฉยชากำลังมองเด็กหนุ่มที่มานั่งขัดสมาธิใต้ต้นไม้ หยิบอาหารสิบกว่าอย่างออกจากในห้วงมิติ อาหารพวกนั้นบางอย่างเป็นอาหารอย่างเดียวทั้งหมด บางอย่างกลับเป็นอาหารสองอย่างรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เมื่อเห็นหนุ่มน้อยคนนั้นซดน้ำแกงพลางเอ่ยคำพูดประโยคสุดท้ายอย่างพอใจยิ่ง นัยน์ตาโม่เฉินบนต้นไม้ก็ฉายประกาย
เขามองหนุ่มน้อยม้วนแขนเสื้อฉีกน่องไก่วิญญาณกินไปคำโต พลางพูดว่าหิวแทบตาย ตั้งแต่เข้าสำนักศึกษายังไม่เคยกินอะไรดีๆ สักมื้อเลย จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจ
เขาจำหนุ่มน้อยคนนี้ได้ เป็นหนุ่มน้อยชุดแดงคนนั้นใต้ต้นไม้หน้าสำนักศึกษา แต่นึกไม่ถึงว่าจะมาพบกันที่นี่อีก หนำซ้ำยังเป็นใต้ต้นไม้ เสียแต่ว่าครั้งนี้กลับเห็นอีกฝ่ายมาขโมยของกินที่นี่
…………………………