№ 663 ทำให้คนเข้าใจผิดได้ง่ายๆ
ยามนี้ หญิงชุดขาวคนนั้นหลังต้นไม้ไม่ไกลก็มองภาพตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว นึกไม่ถึงว่าหมีดำตัวใหญ่ระดับอสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้นจะฟังคำพูดจากเด็กหนุ่มและกดร่างเยี่ยจิงลงบนพื้นอย่างว่าง่าย
นางจำได้ว่าเด็กหนุ่มชุดฟ้าคือเจ้าคนบ้ากามที่เอาเปรียบเยี่ยจิงบนถนนใหญ่วันนั้น!
ทว่าได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลืออย่างตื่นตระหนกของเยี่ยจิง แล้วเห็นท่าทางที่นางโดนกดร่างไว้บนพื้น แม้จะถูกหมีดำตัวใหญ่บังไว้จนเห็นไม่หมด แต่จากเสียงที่ตื่นตกใจและร้องให้ช่วยก็ฟังออกได้ ว่าเจ้าคนบ้ากามนั่นกำลังจะ… จะทำอย่างนั้น… กับนาง…
ฝ่ามือนางมีเหงื่อไหลออกมา หัวใจเต้นอย่างบ้าคลั่งด้วยความตึงเครียด หากเยี่ยจิงเสียความบริสุทธิ์ที่นี่ เช่นนั้น…
“กรร!”
ทันใดนั้นหมีดำตัวใหญ่ก็หันหน้าไปคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว เขี้ยวแหลมคมที่แยกให้เห็นนั้นเห็นแล้วชวนให้หัวใจหนาวสั่น แรงกดดันอสูรศักดิ์สิทธิ์ถูกปล่อยกวัดแกว่งออกไปราวกับลายน้ำ ไป๋รั่วเฟยที่หลบอยู่หลังต้นไม้ตกใจเสียจนวิ่งหนีไปอย่างไม่กล้าอยู่ต่อ
ไม่ว่าเยี่ยจิงจะเป็นหรือตาย จะเสียบริสุทธิ์หรือไม่ นั่นก็ไม่เกี่ยวกับไป๋รั่วเฟยแล้ว
เฟิ่งจิ่วเห็นหญิงชุดขาวคนนั้นหนีไป มุมปากยกขึ้นมองเยี่ยจิง บอกว่า “นี่ เพื่อนเจ้าคนนั้นหนีไปแล้ว”
เยี่ยจิงที่ตกอยู่ในความกลัวได้ยินคำพูดนี้ก็ตกใจ “จะ เจ้าว่าอะไรนะ?” ยามนี้ยังลืมแม้แต่จะดิ้นรนต่อสู้
“หญิงที่ยืนข้างกายเจ้าบนถนนใหญ่ครั้งนั้น เพิ่งได้ยินเสียงเจ้าร้องขอความช่วยเหลืออยู่ตรงนั้นเอง แต่ตอนนี้หนีไปแล้ว” เธอกล่าวพลางตรวจดูข้อเท้านาง จึงเห็นว่าแพลงโดนแค่เส้นเอ็นไม่ได้บาดเจ็บถึงกระดูก ก่อนจะหยิบยามาทาให้ นวดไปสักพักน้ำยาก็ซึมเข้าผิวหนังไปบรรเทาอาการตรงเอ็นข้อเท้า
เยี่ยจิงตัวแข็งทื่อ ไม่สนใจการกระทำทั้งนวดทั้งกดของเฟิ่งจิ่วโดยสิ้นเชิง ห้วงความคิดกำลังคิดว่ารั่วเฟยได้ยินเสียงนางร้องขอความช่วยเหลือจริงๆ หรือ? เช่นนั้นหรือว่าไปตามคนมาช่วย?
ที่ผ่านมานางไม่เคยนึกถึงเพื่อนในด้านที่เห็นคนลำบากแล้วไม่ยอมช่วย คิดว่าที่นี่มีเจ้าบ้ากามคนนี้ ซ้ำยังมีหมีดำตัวใหญ่ระดับอสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้น รั่วเฟยไม่กล้าเข้ามาช่วยนางก็เป็นเรื่องปกติ น่าจะไปตามกำลังเสริมมา
“เสร็จแล้ว” เฟิ่งจิ่วลุกยืนขึ้นถอยออกมา แล้วให้สัญญาณว่า “เสี่ยวเฮย ปล่อยนางซะ”
หมีดำตัวใหญ่ร้องคำรามและปล่อยมือออกอย่างเชื่องๆ อยากจะไปแต่ยังแอบมองเฟิ่งจิ่ว เห็นนางกำลังยิ้มหยีตามองมัน จึงตกใจจนหมอบนั่งข้างๆ อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
เยี่ยจิงที่นอนบนพื้นได้ยินเสียงก็ได้สติกลับมา มองเด็กหนุ่มที่ถอยออกไปแล้ว สายตาหยุดลงบนข้อเท้าที่ทายาและพันแผลไว้ ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที มีทั้งความกระอักกระอ่วน รู้สึกเสียใจ และคาดไม่ถึงอยู่บ้าง
ดูท่าทางนางจะเข้าใจหนุ่มน้อยคนนี้ผิดไปจริงๆ
“ขอโทษ” นางก้มหน้าเล็กน้อยพลางพูดอย่างเสียใจ
“ไม่เป็นไร ใครใช้ให้ข้าหน้าตาเหมือนคนหื่นกามเล่า!” เฟิ่งจิ่วโบกมือถอนหายใจเอ่ย
ได้ยินเช่นนี้สีหน้าเยี่ยจิงก็แดงก่ำ ศีรษะยิ่งก้มต่ำลง “ขอโทษด้วย ข้ามะ ไม่ได้ตั้งใจจะเข้าใจเจ้าผิดจริงๆ”
“รู้แล้วๆ ใครใช้ให้ข้าจับหน้าอกเจ้าตั้งแต่เจอกันครั้งแรกล่ะ! เจ้าจะเข้าใจผิดก็ปกติ” เธอกล่าวไปด้วยความปากไว แม้เป็นเรื่องจริง แต่ได้ยินคำพูดนี้ก็ไม่รู้สึกอะไร ถึงอย่างไรผู้หญิงสองคนก็ไม่มีอะไรต้องอายกัน
แต่เยี่ยจิงกลับแตกต่าง ได้ยินคำนี้ทั้งใบหน้ายิ่งแดงจนเหมือนกุ้งต้มสุก รีบเงยหน้ามองหนุ่มน้อยโดยเร็ว กลับเห็นท่าทางเขาเฉยเมย ชัดเจนว่าไม่ตั้งใจจะกล่าวถึงเช่นนั้น จึงกัดฟันก้มหน้าลงทันควัน
ข้างกายนางไม่เคยเจอคนอย่างหนุ่มน้อยคนนี้มาก่อนเลย
……………………