Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 875

№ 875 ผู้อาวุโสสาม

หญิงตระกูลซั่งกวนมองตาค้าง เห็นว่าผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานไม่ใช่คู่ต่อสู้หนุ่มน้อย ก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างไปบ้าง ฝีเท้ายังก้าวถอยหลังไปเพราะเหตุนี้

นางกล้ามั่นใจว่าหนุ่มน้อยคนนี้เก็บซ่อนวรยุทธ์!

แต่แม้เด็กหนุ่มมีพลังโดดเด่น คงไม่ซ้อมเสียจนผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานไม่มีทางหลบหลีกและลุกขึ้นได้ง่ายดายเพียงนี้โดยกระมัง? หรือว่าเดิมทีหนุ่มน้อยคนนี้ไม่ใช่เด็กหนุ่มอะไร แต่เป็นตัวประหลาดเฒ่า?

ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าเป็นไปได้ แล้วมองชายวัยกลางคนชุดเทาข้างๆ ยามนี้โดนอสูรน้อยจัดการเสียจนน่าอับอายเป็นที่สุด บนร่างยังเห็นเลือดราวกับโดนแขวนผ้าไหมแดง

“คิดจะไปแล้วหรือ?”

หางตาเฟิ่งจิ่วชำเลืองเห็นท่าทางหญิงคนนั้นหมุนตัวคิดจะไปก็ยกมุมปากขึ้น ก่อนจะม้วนแส้โจมตีไปทางนาง ทว่ารอบนี้กลับไม่ได้แตะถึงตัวนาง เพราะแส้ถูกชายชราชุดเทาที่ปรากฏตัวอย่างกะทันหันจับไว้

“คุณชายท่านนี้ในเมื่อระบายอารมณ์แล้ว เช่นนั้นก็วางมือเถอะ!” ชายชราชุดเทาจับแส้ไว้ ไม่ให้เฟิ่งจิ่วตีหญิงคนนั้นอีก

“ทะ ท่านผู้อาวุโสสาม”

หญิงคนนั้นเพียงเห็นชายชรา ในดวงตามีความหวาดกลัว ความหยิ่งยโสอวดดีล้วนถูกเก็บไปไม่น้อย แล้วก้มหน้ายืนด้านหลังชายชราด้วยความเคารพ ไม่กล้าทำอะไรวุ่นวาย

เมื่อชายชุดเทาคนนั้นเห็นชายชรา ใจก็คร่ำเครียด รีบร้อนวางมือถอยออกไป มายังด้านหลังชายชรา “คารวะท่านผู้อาวุโสสาม”

“หึ!” ชายชราแค่นเสียงหนักๆ แววตาดุร้ายหลังมองผ่านหญิงคนนั้น ก็หยุดลงบนร่างชายวัยกลางคน “ให้เจ้าตามมาด้วยยังเป็นเช่นนี้อีก? นางไม่รู้ความเจ้าก็ไม่รู้ความไปด้วยหรือไร? เหลวไหลจริงๆ!”

สองคนถูกสั่งสอนกลับไม่กล้าปริปาก ได้แต่ก้มหน้าฟังความไป

เฟิ่งจิ่วเห็นภาพเช่นนี้ แววตาสั่นไหวเล็กน้อย สายตาพินิจมองบนร่างชายชราคนนั้น เห็นเป็นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณ หนำซ้ำได้ยินคำพูดทั้งสอง ดูท่าทางชายชราคนนี้คือผู้อาวุโสตระกูลซั่งกวนหรือ?

“ยืนทำอะไรเล่า? ยังไม่ไปขอโทษคุณชายเฟิ่งท่านนี้อีก!” ชายชรามองสองคนที่ยืนด้านหลังพลางตะโกนกราด

“ท่านผู้อาวุโสสาม เห็นชัดๆ ว่า…” หญิงคนนั้นไม่ยอม แต่คำพูดยังเอ่ยไม่ทันจบ เมื่อสบเข้ากับแววตาที่ทั้งน่าเกรงขามและดุดัน ก็ก้มหน้าลงต่ำในทันที คำพูดที่มาถึงปากยังได้แต่กลืนลงไปเสียดื้อๆ

นางมองไปยังเฟิ่งจิ่ว กัดฟันกรอดบอกว่า “ขอโทษ”

“คุณชายเฟิ่ง โปรดอภัยที่พวกเราเสียมารยาท” ชายชุดเทาเข้าไปประสานมือโค้งเอวคารวะ คำพูดผู้อาวุโสสามเขาไม่กล้าไม่ฟัง

“คุณชายท่านนี้ เสียมารยาทแล้ว” ชายชราพยักหน้าเล็กน้อย พร้อมเอ่ยกับเฟิ่งจิ่ว

เฟิ่งจิ่วเห็นเช่นนี้ก็ไม่พูดอะไร ยกมือขึ้นโยนแส้นั้นกลับไป “ได้ ข้าเป็นคนใจกว้าง ไม่คิดถือสาคนพาล”

เธอหมุนตัวเดินไปยังร้านแผงลอย ให้สามีภรรยาร้านแผงลอยนั้นสองเหรียญทองถือว่าชดเชยโต๊ะพวกเขาที่โดนตีเสียหาย แล้วสั่งพวกเขายกชามาอีกกา ถึงจะเรียกอสูรกลืนเมฆากลับมา เดินไปนั่งยังโต๊ะที่ไม่พัง

“พวกเจ้ากลับไปก่อน” ชายชราหันกลับไปบอกทั้งสอง พร้อมให้สัญญาณพวกเขาไปก่อน

“ขอรับ/เจ้าค่ะ” ทั้งสองไม่กล้าพูดมาก หลังขานรับถึงจะกลับไปโรงเตี๊ยมก่อน

รอสองคนออกไป ชายชราสาวก้าวเดินเข้าไป มายังหน้าโต๊ะที่เฟิ่งจิ่วนั่ง มองใบหน้าที่งดงามไร้คนเทียบเคียง ยิ้มถามว่า “คุณชายเฟิ่ง ไม่ทราบว่าข้าจะนั่งด้วยได้หรือไม่?”

เฟิ่งจิ่วเหลือบมองเขา ถามว่า “ท่านคิดจะทำอะไร?” ตาเฒ่าคนนี้ สายตาที่มองเธอช่างแปลกนัก

ชายชราเห็นความระแวดระวังในสายตาเฟิ่งจิ่ว ก็หัวเราะ “คุณชายไม่ต้องเป็นห่วง ข้าแค่อยากนั่งดื่มชา และพูดคุยสร้างมิตรกับคุณชายเสียหน่อย”

………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!