Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 883

№ 883 ไปทางหน้าต่าง

“ได้ยินคำพูดเจ้านี้ เหมือนจะไม่ค่อยหวังให้ข้าไปสำนักศึกษา?” เสียงโม่เฉินแผ่วเบา น้ำเสียงอบอุ่นแท้จริงกลับเฉยชา

“เหอะๆ ได้อย่างไรเล่า? ท่านจะไปหรือไม่ อันที่จริงไม่เกี่ยวกับข้าสักเท่าไร”

เฟิ่งจิ่วเอ่ยพลางลุกขึ้นยืน ปัดๆ เสื้อคลุมบนร่าง มองไปยังเขาถามว่า “ตอนนี้ข้าพักอยู่โรงเตี๊ยมฝั่งตะวันตกเมือง ยามนี้งานสมัชชาวิเคราะห์ยาเซียนเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อครู่บอกว่าสองวันนี้จะไป แต่ข้าคิดว่าจะไปเสียตอนนี้ ท่านจะร่วมทางไปด้วยกันจริงหรือ? เช่นนั้นก็รีบๆ กลับไปเก็บของเถอะ!”

“ข้าสะดวกไปแต่ตัว”

เขาลุกขึ้นมาบ้าง “แต่ตอนนี้ออกไปเดาว่าคงไปไหนไม่ได้ คนที่คอยด้านนอกนอกจากคนในราชวงศ์แคว้นศรสวรรค์ ยังมีคนจากแคว้นระดับหนึ่ง”

“เรื่องนี้ง่ายมาก ไปทางหน้าต่าง” เธอให้สัญญาณไปยังหน้าต่างด้านข้าง “หน้าต่างด้านหลังนั้นไปยังด้านหลังโถงวิเคราะห์ยาเซียน เดินไปจากตรงนั้นจะไม่มีคน” กล่าวจบก็พาเหลิ่งหวากับเหลิ่งซวงมุ่งไปยังหน้าต่างนั้นจริงๆ ร่างกายลอดผ่านออกไปทางด้านหลัง

โม่เฉินเห็นเช่นนี้ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่อาจสังเกต คิดว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง ก่อนจะตามนางออกไปทางหน้าต่างพร้อมกัน

ด้านนอกห้อง คนที่รอคอยอยู่ด้านนอกนานมากก็ไม่เห็นว่าด้านในจะมีคนออกมา นึกถึงว่าหลังคุณชายโม่เฉินคนนั้นเข้าไปยังไม่ออกมา จึงเอ่ยว่า “พวกเขาอยู่ด้านในกระมัง? น่าจะยังไม่ไปหรือเปล่า?”

“ห้องนี้ไม่มีประตูหลัง คงยังอยู่กระมัง?”

“ถูกต้อง ห้องนี้ไม่มีประตูหลัง แต่มีหน้าต่างด้านหลัง พวกเขาคงไม่ไปทางหน้าต่าง เพื่อหลีกเลี่ยงพวกเราใช่หรือไม่?”

เพียงคนคนนี้เอ่ยเตือน ทุกคนก็ตกใจ คิดว่าเหลือเชื่อไปบ้าง ไปทางหน้าต่างจะเสียศักดิ์ศรีเกินไปหรือเปล่า? แต่ว่ากันว่าภูตหมอคนนั้นเดิมทีนิสัยแปลกๆ เรื่องที่พวกเขาไม่ทำ ไม่แน่ว่าเขากลับจะทำ

ดังนั้นหลังจากเคาะประตูไปไม่มีใครตอบจึงมีคนผลักประตูเข้าไป มองไปภายในห้องว่างเปล่าไม่มีใครแม้สักคน แต่บานหน้าต่างตรงหน้าต่างด้านหลังยังเปิดไว้

“ปะ ไปทางหน้าต่างจริงๆ หรือ?”

ทุกคนตกตะลึง เหลือเชื่อไปบ้าง…

แทบจะไม่ให้เวลาพวกเขาตอบโต้ หลังพวกเฟิ่งจิ่วกลับถึงโรงเตี๊ยมก็พาอสูรกลืนเมฆาออกจากเมืองหลวงกลับไป เมื่อทุกคนสอบถามได้ข่าวและเร่งไปถึงในโรงเตี๊ยมยังช้าไปก้าวหนึ่ง และไม่เห็นร่างนางเช่นเดิม

บนเส้นทางภูเขา พวกเขาที่เดินไประยะหนึ่งพักผ่อนบนพื้นหญ้า เฟิ่งจิ่วนั่งขัดสมาธิมองโม่เฉินที่นั่งข้างกัน เอ่ยถามอย่างยิ้มแย้ม “ท่านตามข้าไปเช่นนี้ พวกเขาจะหาว่าเรารวมหัวกันหรือไม่? หลังจากสมรู้ร่วมคิดก็มาเก็บรางวัลไปโดยเฉพาะ?”

โม่เฉินได้ยินเช่นนี้ก็มองไปทางนาง ถามกลับโดยไม่ตอบ “ยาห้าธาตุนั้นเจ้ากลั่นออกมาจริงหรือ? เคยใช้หรือเปล่า?”

“แน่นอนว่าข้ากลั่นออกมา มิเช่นนั้นจะได้มาจากไหน?” เธอเชิดคางขึ้น ให้สัญญาณไปทางเหลิ่งหวาข้างๆ “เห็นหรือไม่ หลังกินยาห้าธาตุไปเขาก็เกิดมีฐานพลังวิญญาณธาตุน้ำเดี่ยว”

สายตาโม่เฉินมองไปทางเหลิ่งหวา จากนั้นค่อยหลับตาลง หากเป็นคนอื่นคงไม่มีทางทำได้จริงๆ แต่นาง… กลับเปลี่ยนสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้

“นายท่าน กินขนมรองท้องเสียหน่อยเถอะเจ้าค่ะ” เหลิ่งหวาหยิบกล่องขนมออกมาวางเบื้องหน้าทั้งสอง แล้วยิ้มเอ่ยกับโม่เฉินว่า “คุณชายก็กินเสียหน่อย ระหว่างทางจะได้ไม่หิว”

“เจ้าซื้อมาเมื่อไร? ทำไมข้าไม่รู้เลย?” เฟิ่งจิ่วดวงตาเป็นประกาย หยิบขึ้นมากินชิ้นหนึ่ง พลางบอกโม่เฉินว่า “ไม่ต้องเกรงใจ หยิบเองได้เลย”

“ซื้อมาตอนออกจากเมืองขอรับ” เหลิ่งหวากล่าว แล้วหยิบอีกกล่องออกมาแบ่งกินกับพี่สาวสองคน

………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!