№ 893 สำรวจดวงจิต
คืนนี้ก็นอนไม่หลับอย่างเลี่ยงไม่ได้
รอจนเก็บกวาดพื้นที่ด้านนอกเสียสะอาดก็เที่ยงคืนแล้ว เฟิ่งจิ่วที่กลับถึงในเรือนหลังสงบจิตใจสักพัก ถึงจะมายังคุกใต้ดิน มองผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณที่ถูกขังไว้ในคุกและกำลังหมดสติ
“ลากเขาออกมา” เธอให้สัญญาณ ตู้ฝานกับเหลิ่งซวงสองคนด้านหลังจึงเข้าไปลากคนออกมา
เห็นผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณยังคงไม่ได้สติ แววตาเธอหรี่ลงครึ่งหนึ่ง เดินเข้าไปยื่นมือออกไปสำรวจยังปั้นเหน่งเขา
สำรวจดวงจิตคือศาสตร์ชนิดหนึ่งที่ไม่ได้รับการยอมรับและน้อยคนนักจะใช้ คนที่ถูกสำรวจดวงจิตจะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ ดวงจิตเสียหาย จิตใจถูกทำร้าย ได้แต่เป็นคนบ้า ด้วยเหตุนี้น้อยคนมากจะใช้ศาสตร์การสำรวจดวงจิตเช่นนี้ แต่สำหรับผู้ฝึกวิชามาร แม้เป็นพวกคนที่มีความลับ กลับยังคงมีคนใช้ศาสตร์เช่นนี้
เธอหลับตาลง มือที่กดตรงปั้นเหน่งเจาะเข้าไปสำรวจดวงจิต ข้อมูลภายในห้วงความคิดเขาฉายขึ้นในห้วงความคิดเธอทีละน้อยๆ อย่างไม่ปิดบัง คำพวกนั้นที่เคยพูด เรื่องที่เคยทำ พวกเรื่องที่เธอรู้ รวมถึงเรื่องที่เธอยังไม่รู้ ล้วนเข้ามาในดวงจิตเธอ…
ผ่านไปเนิ่นนานเธอลืมตาขึ้นและเก็บมือกลับ หมุนตัวจะออกไปข้างนอก ขณะเดียวกันยังทิ้งคำพูดไว้ “ลากไปเป็นขนมให้สัตว์ร้ายซะ”
เหลิ่งซวงตามหลังเธอออกไป ส่วนตู้ฝานหลังขานรับก็ลากคนที่หมดสติไปยังภูเขาด้านหลัง
กลางดึกวันนี้พวกเขารวมตัวในห้องโถงใหญ่ เฟิ่งจิ่วกำชับบางเรื่องกับพวกเขา สั่งพวกเขาว่าภายหลังตอนรับภารกิจออกไปต้องระวังหน่อย ขณะเดียวกันยังบอกพวกเขา ว่าผู้ฝึกวิชามารคนนั้นรู้เรื่องกระบี่คมพยับมาจากการสำรวจดวงจิต เขาคงคิดจะกอบโกย ข้อมูลยังไม่ปล่อยออกไป ด้วยเหตุนี้ช่วงนี้จึงต้องสังเกตการเคลื่อนไหวแต่ละฝ่าย
สุดท้ายเธอยังบอกหลัวอวี่ว่า “หลังฟ้าสว่างเจ้าไปตามหาหอสายลมหนาว บอกเริ่นเสียงว่ามีกลุ่มอำนาจกำลังวางแผนในมุมมืด คิดจะกลืนกลุ่มอำนาจตำหนักยมราช เจ้าให้เขาระวังตัวมากๆ หน่อย แล้วถามว่าเขาส่งยมราชน้อยให้คนมารับไปอย่างปลอดภัยหรือยัง”
“ขอรับ นายท่านโปรดวางใจ ข้าจะออกเดินทางตั้งแต่ฟ้าสว่าง” หลัวอวี่ขานรับ
เฟิ่งจิ่วพยักหน้าถึงจะลุกขึ้นกลับห้อง รอนางออกไปคนอื่นๆ ยังนั่งอยู่ในห้องโถง เพื่อปรึกษาหารือเรื่องราว
กระทั่งช่วงเย็นวันต่อมา หลัวอวี่ที่ออกไปกลับมาแล้ว ถามไถ่ว่า “นายท่านยังอยู่ในเรือน? หรือว่ากลับสำนักศึกษาแล้ว?”
“ยังอยู่ในเรือน แต่ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ยังไม่ออกมาเลย” ฟั่นหลินเอ่ย พร้อมถอนหายใจเบาๆ ถามว่า “เรื่องที่นายท่านสั่งเจ้าไปทำเป็นอย่างไรบ้าง?”
“อืม ข้านำสาสน์ไปถึงแล้ว และถามเรื่องที่นายท่านต้องการถาม กำลังจะไปรายงานนายท่าน” เขากล่าวจบ ยังบอกว่า “ข้าจะไปดูในเรือนนายท่านเสียหน่อย”
“ข้าจะไปด้วย” ฟั่นหลินตามไปทันที
มาถึงภายในเรือน เหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาสองคนล้วนอยู่ด้วย พวกเขาถามว่า “นายท่านเล่า? ยังไม่ออกมาหรือ?”
“พวกเจ้ามาหานางมีธุระอะไร? ข้าจะไปรายงาน” เหลิ่งหวากล่าว แล้วเข้าไปเคาะประตูเรียก “นายท่าน พี่ใหญ่หลัวกลับมาแล้วขอรับ”
ภายในห้องไม่มีการเคลื่อนไหว ผ่านไปสักพักประตูห้องถึงจะเปิดออก เฟิ่งจิ่วในชุดสีแดงเดินออกมา มองพวกเขาในลานบ้าน สายตาก็หยุดลงบนร่างหลัวอวี่
หลัวอวี่เห็นท่าทางก็รีบร้อนรายงานว่า “นายท่าน ข้าน้อยส่งสาสน์ไปถึงแล้ว เริ่นเสียงคนนั้นบอกว่าส่งยมราชน้อยให้คนมารับไปอย่างปลอดภัย นายท่านไม่ต้องเป็นห่วง”
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ก็พยักหน้า มองๆ ท้องฟ้า ก่อนจะบอกว่า “เช่นนั้นข้าจะกลับสำนักศึกษาก่อน มีเรื่องอะไรค่อยแจ้งข้าแล้วกัน!” เธอกำชับ จากนั้นค่อยสาวก้าวเดินออกไป
…………………………….