Skip to content

สู่วิถีอสุรา 41

ตอนที่ 41 เป็นหนี้ต้องใช้คืน

ทว่าซูหมิงจากไปได้ไม่นาน เขารีบวิ่งกลับมายืนอยู่ข้างซือคงที่กำลังหมดสติ หลังจากเดินไตร่ตรองหลายฝีก้าว ก็แหงนหน้ามองท้องฟ้า แสงจันทร์อ่อนนุ่มสาดส่องบนผืนแผ่นดิน

“ชิงศาสตราวุธหมานล้ำค่าไปอย่างนี้คงจะไม่เหมาะสมสักเท่าไร หากไม่มีเหตุผลที่ดีพอ อาจจะถูกพวกเผ่ามังกรทมิฬจับตัวไปได้ตลอดเวลา อีกทั้งบางทีอาจตราหน้าข้าว่าเป็นพวกหัวขโมยของล้ำค่า…..จากนั้นก็สังหาร หรือไม่ก็ปล่อยไป…” ซูหมิงมองท้องฟ้าพลางขบคิดตัดสินใจ

ซูหมิงหยิบสมุนไพรหลากชนิดจากอกเสื้อ เมื่อบดมันจนเป็นของเหลวแล้วจึงทาไปบนปากของซือคงหลายรอบ จากนั้นนั่งย่อตัวข้างเขา ก่อนใช้มือซ้ายตบไปบนศีรษะของเขาหลายครั้งราวกับตั้งใจปลุกให้ตื่น

ไม่นานซือคงก็ชักกระตุก พลันลืมตาขึ้น ในช่วงที่เขาลืมตา สายตาของเขาค่อนข้างพร่ามัว ทว่าก็ยังเห็นใบหน้ายิ้มของซูหมิงรางๆ

ซือคงชะงักงัน ก่อนเบิกตากว้างทันที ดวงตาหรี่ลงเหลือไว้เพียงความสับสนและเหลือเชื่อในตัวอีกฝ่าย ในหัวขาวโพลนอย่างกับลืมเรื่องราวก่อนหน้านี้ไปจนหมด เกิดความรู้สึกสับสนปนเปท่ามกลางสายตาพร่ามัว

ทว่าในขณะที่เขาเพิ่งขยับตัว หอกยาวสีดำในมือขวาของซูหมิงพลันเปลี่ยนเป็นลักษณะโค้ง ชี้คอหอยของซือคงห่างไปเพียงสามชุ่นเท่านั้น คลับคล้ายว่าออกแรงอีกนิด ก็จะทะลวงคอหอยของเขาทันที

“อย่าขยับ”

แสงสีทองตรงปลายหอก ในความคิดของซือคงเป็นดั่งแสงแห่งความตาย มันทำให้เขาตัวสั่นเทา มองซูหมิงด้วยแววตาหวาดกลัวและตื่นตระหนก

“เจ้า…เจ้าจะทำอะไร! ข้าเป็นบุตรชายแห่งจ้าวเผ่ามังกรทมิฬ หากเจ้าสังหารข้า เผ่ามังกรทมิฬไม่ปล่อยเจ้าเอาไว้แน่ ข้ารู้ว่าเจ้ามาจากเผ่าเขาทมิฬ หากเจ้าสังหารข้า เผ่าเขาทมิฬจะต้องไม่ให้อภัยเจ้า!” จนกระทั่งถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดตนถึงพ่ายแพ้ เพียงแค่โบกสะบัดมือเท่านั้น เขากลับรู้สึกเจ็บปวดจนหมดสติไป ยิ่งคิดยิ่งสัมผัสได้ถึงความลึกลับจากเด็กหนุ่มที่เผยรอยยิ้มอยู่เบื้องหน้า จนเกิดเป็นความหวาดกลัว โดยเฉพาะหอกยาวที่จี้คอหอยอยู่ ทำให้เขากลัวจนขยับถอยหลังไปเล็กน้อย

ทว่าในจังหวะที่เขาขยับถอย พลันสัมผัสได้ถึงรสขมในปาก พอลองเลียริมฝีปาก จึงรับรู้ถึงรสขมได้อย่างเด่นชัด นั่นยิ่งทำให้ใบหน้าของเขาไร้เลือดฝาด เกิดความรู้สึกหวาดกลัวขึ้นกับสิ่งที่ตนคิด สีหน้าดูตื่นตระหนก ใช้มือป้ายมุมปาก ก่อนพบว่ามีของเหลวสีน้ำตาลเปื้อนอยู่บนมือ

“เจ้า! เจ้าให้ข้ากินอะไรเข้าไป!”

“ไม่มีอะไร ก็แค่สมุนไพรธรรมดาเท่านั้น แต่มีพิษแฝงอยู่เล็กน้อยด้วย” ซูหมิงยิ้มอย่างมีเลศนัย กล่าวยั่วเย้า

ได้ยินดังนั้น นัยน์ตาซือคงดูสิ้นหวัง ตัวสั่นเทา เขาสัมผัสได้ถึงรสขมในปากมากยิ่งขึ้น กระทั่งยังเกิดความรู้สึกลิ้นชา

“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะกล้าสังหารข้า!” ซือคงพลันแหงนหน้าจ้องซูหมิงเขม็ง

“จะเชื่อหรือไม่มันก็แล้วแต่เจ้า แต่ข้ามียาถอนพิษอยู่ ที่แท้เจ้าก็เป็นบุตรชายแห่งจ้าวเผ่ามังกรทมิฬ ว่าแต่เจ้าชื่ออะไร?” ซูหมิงขาดความมั่นใจเล็กน้อย ทว่าเขากลับไม่เผยให้อีกฝ่ายได้เห็น จึงหัวเราะกล่าวขึ้น

“เจ้า…ข้า…ข้าชื่อซือคง เจ้าสังหารข้าไม่ได้ นี่จะสร้างความลำบากให้แก่เผ่าของเจ้า เจ้า…” ซือคงมีสีหน้าดุดัน

ทว่าความจริงในใจกลับค่อนข้างเป็นกังวล นอกจากความรู้สึกลิ้นชาแล้ว เขายังรู้สึกเจ็บตรงหน้าอก รวมกับสีหน้าแววตาลึกลับของซูหมิง นี่ยิ่งทำให้เขาตื่นกลัวมากขึ้น

“ซือคง ข้าอยากหารือกับเจ้าสักเล็กน้อย เจ้ามีความเห็นอย่างไร?” ซูหมิงแหงนหน้ามองดวงจันทร์ กล่าวขึ้นช้าๆ

ใบหน้าซือคงซีดขาว นัยน์ตาฉายแววหวาดกลัวจนปิดไม่อยู่ รีบพยักหน้ารับทันที

“ข้าชอบหอกผุๆ ของเจ้า เรามาตกลงกันดีกว่า เจ้าขายมันให้ข้าได้หรือไม่? ข้าขอซื้อห้าพันเหรียญหิน” ซูหมิงกะพริบตาปริบๆ มองซือคงด้วยแววตาเฝ้ารอคอย

ซือคงชะงักงัน มองหอกยาวที่ซูหมิงถือในมือ รวมถึงปลายหอกที่จี้อยู่ตรงคอหอยของตน ใครกันจะกล้าปฏิเสธ…โดยเฉพาะรสขมในปาก ก่อนหน้านี้ที่ตนล่าสังหารซูหมิง เขาคิดว่าอีกฝ่ายจะต้องให้ตนกินสมุนไพรพิษบางชนิดอย่างแน่นอน

เขาอยากเดิมพันว่าเด็กหนุ่มเบื้องหน้าจะไม่กล้าสังหารตน ถึงอย่างไรตนก็มีตำแหน่งสูงศักดิ์ หากสิ้นลง ต้องเป็นชนวนก่อให้เกิดสงครามล้างแค้นระหว่างทั้งสองเผ่าอย่างแน่นอน

กระทั่งเขายังเดิมพันได้อีกข้อว่า แม้หอกยาวถูกอีกฝ่ายชิงไป ทว่าของล้ำค่าเช่นนี้ เขามีหลายร้อยพันวิธีที่ให้บิดาของเขาช่วยนำกลับคืนมาให้ได้

ทว่ายามนี้ รสขมในปากกลับทำให้เขาไม่กล้าเดิมพัน เขากลัวเหตุการณ์ไม่คาดฝัน…..หากว่า…..

โดยเฉพาะศีรษะที่ถูกอีกฝ่ายทุบจนรู้สึกเจ็บ ซือคงลังเลเล็กน้อย ก่อนรีบพยักหน้าหลายครั้ง

ซูหมิงฉีกยิ้มอย่างดีใจ ก่อนรีบตรงเข้าไปฉีกเสื้อผ้าเนื้อหยาบของซือคง การกระทำของเขา ทำให้ซือคงหัวใจเต้นตึกตึก ใบหน้าซีดขาวไร้เลือดฝาด

“ในเมื่อทำการซื้อขายกันแล้วก็ต้องมีหลักฐาน เจ้าเขียนเช่นนี้แล้วกัน ข้าซือคงด้วยเหตุขาดแคลนเหรียญหิน จึงขายหอกเล่มนี้ด้วยจำนวนห้าพันเหรียญหิน…” ขณะซูหมิงกล่าวพลันเกิดความลังเล รีบส่ายหน้าทันที

“ไม่สิ ต้องเขียนเช่นนี้ ข้าซือคงบุตรแห่งจ้าวเผ่ามังกรทมิฬเป็นพยาน เหตุเพราะเกิดเรื่องฉุกเฉิน จึงขอยืมห้าพันเหรียญหินจากเผ่าเขาทมิฬ ระยะเวลากำหนดคือสิบปี และขอใช้หอกยาวศาสตราวุธหมานเล่มนี้เป็นของค้ำประกัน สิบปีหลังจากนี้จำต้องคืนหนึ่งหมื่นเหรียญหินถึงจะรับหอกยาวกลับคืนไปได้ และไม่อาจขอคืนก่อนระยะเวลากำหนด หากผิดคำสัญญา จะต้องถูกเทวรูปหมานลงโทษ!” ซูหมิงกล่าวจบจึงมองซือคง

พอได้ยินดังนั้น โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย สีหน้าซือคงดูขมขื่น ขณะกำลังลังเลก็พบว่าซูหมิงหยิบสมุนไพรที่ตนไม่เคยพบมาก่อนจากอกเสื้อ ก่อนกล่าวขึ้น

“นี่คือยาถอนพิษ”

ซือคงจ้องสมุนไพรเขม็ง พลันขบกราม กัดนิ้วของตนจนปริออก จากนั้นจึงใช้โลหิตเขียนลงบนผ้าเนื้อหยาบ ไม่นานก็เขียนตามที่ซูหมิงกล่าวไว้จนเสร็จ

ซูหมิงหยิบผ้าเนื้อหยาบขึ้นมาดู แววตาเผยความตื่นเต้น เขาเป่าลมใส่อย่างระมัดระวังหลายครั้ง เมื่อโลหิตเกาะตัวบนผ้าแล้ว เขาจึงม้วนเก็บไว้ในอกเสื้อ ก่อนหรี่ตามองซือคง

“ซือคง จำเอาไว้ เป็นหนี้ต้องใช้คืน ข้ารอเจ้าได้เพียงสิบปีเท่านั้น!” นัยน์ตาซูหมิงฉายแววเจ้าเล่ห์ หลังจากวางสมุนไพรลง ร่างพลันสั่นไหว ก่อนห้อทะยานห่างไปไกล

เหลือไว้เพียงซือคงที่มีใบหน้าขมขื่นอยู่บนพื้นหิมะ เขารีบหยิบสมุนไพรขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง เขากลับไม่กล้ากิน แต่ยันกายขึ้นก่อนวิ่งกลับไปยังเผ่าของตนอย่างรวดเร็ว

หลังจากซือคงจากไป บนพื้นหิมะเงียบสงบพลันปรากฏเงาคนเลือนราง เป็นยายเฒ่าสีหน้าดูมืดครึ้ม ในมือถือไม้เท้ากระดูกใหญ่ ด้านบนมีหัวกะโหลกมนุษย์ฝังอยู่ มันขับแสงอ่อนมาเป็นระลอก

“ใช่เด็กทารกในตอนนั้นหรือไม่…มันใช้วิชาหมานอะไรกัน แม้แต่ข้ายังมองไม่ออก…ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย” ยายเฒ่ามองซูหมิงที่ค่อยๆ ห่างออกไป ดวงตาขยับแสงวูบวาบราวกับกำลังครุ่นคิด ผ่านไปครู่ใหญ่นางจึงหมุนตัวแล้วเดินกลับเผ่ามังกรทมิฬ ค่อยๆ เลือนหายไปบนพื้นหิมะ

ซูหมิงห้อเหยียดอยู่ในป่าทึบ มองหอกยาวในมือแล้วหัวเราะอย่างเบิกบานใจตลอดเวลา ดูท่าเขาจะชอบมันยิ่งนัก แม้แต่เสี่ยวหงที่นั่งอยู่บนบ่ายังมองหอกเล่มนี้ไม่หยุด แผดเสียงร้องบ่อยครั้ง มันสัมผัสได้ว่าในหอกเล่มนี้แฝงไว้ด้วยพลังที่แข็งแกร่งมาก

“เจ้าช่วยห้ามข้าไม่ให้ไปหาไป๋หลิงที ดูจากท่าทางของมันแล้วน่าจะชอบไป๋หลิง เรื่องที่ข้าช่วยนางน่าจะมีคนในเผ่ามังกรทมิฬทราบเรื่องไม่น้อย…” ซูหมิงชะงักฝีเท้า แววตาดูขบคิด

“ไม่รู้ว่าไป๋หลิงจะเล่าเรื่องว่าอย่างไรบ้าง….หากนางเล่าหมด ถ้ำหลอมสมุนไพรของข้าคงไม่ปลอดภัยอีกแล้ว…” ซูหมิงร้อนใจเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วขบคิดอยู่นาน ก่อนเดินทางต่อในป่าทึบท่ามกลางค่ำคืนมืดมิด

เสี่ยวหงกะพริบตาปริบๆ มองซูหมิง ราวกับรู้ว่าเขามีเรื่องในใจ มันกลอกตาไปมา ไม่ทราบว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ทันใดนั้นสีหน้าพลันเปลี่ยนไปราวกับนึกอะไรบางอย่างได้ มันแยกเขี้ยวยิ้มแล้วกระโดดลงจากบ่าของซูหมิง ก่อนหายเข้าไปในป่าทึบ

“จำไว้อย่ากลับไปยอดเขาเพลิงทมิฬ อย่ากลับไปถ้ำภูเขาไฟ!”

ซูหมิงเห็นดังนั้นจึงรีบตะโกนตามไป ป่าเขาแห่งนี้เป็นบ้านของเสี่ยวหง เขาจึงไม่ค่อยเป็นกังวลนัก อีกทั้งตรงจุดนี้ยังห่างจากเผ่าของเขาไม่ไกลมากด้วย ระหว่างทางเขาพยามเลิกนึกถึงเรื่องในใจของตน พยามตั้งสติแล้วพุ่งทะยานกลับไปยังเผ่าเขาทมิฬ

ยามค่ำคืนมืดมิด แสงจันทร์ส่องสว่างที่สุดบนท้องฟ้า ซูหมิงเห็นกองเพลิงขนาดย่อมในชนเผ่าจากป่าทึบที่อยู่ห่างไกล ขณะที่เขากำลังเคลื่อนตัวผ่านป่า พลันได้ยินเสียงร้องเจี๊ยกๆ ดังมาจากข้างหลัง ซูหมิงหันกลับไปมองก็พบว่าเป็นเสี่ยวหงที่วิ่งตามมาด้วยใบหน้าตื่นเต้น

ในมือของมันถือขนสีดำก้อนใหญ่ เมื่อตามมาทันแล้ว ก็พยามยัดใส่มือซูหมิงที่มีสีหน้าประหลาดใจ จากนั้นจึงถอยหลังไปหลายก้าว ก่อนชี้ไปยังขนสีดำดังกล่าว พลางชี้ไปที่ท้องน้อยของมัน ทำท่าทางแบบเดิมซ้ำหลายรอบราวกับสอนให้ซูหมิงรู้ว่าควรจะใช้อย่างไร…

นอกจากนี้มันยังตบหน้าอกตัวเองหลายครั้ง แผดเสียงคำรามด้วยสีหน้าภูมิใจ ราวกับกำลังบอกซูหมิงถึงประสิทธิผลของเจ้าสิ่งนี้…

ซูหมิงมองเสี่ยวหงแล้วหัวเราะเสียงดัง มันเห็นซูหมิงเลิกขมวดคิ้วก็แยกเขี้ยวเผยรอยยิ้มเช่นเดียวกัน มันคิดว่ามันคิดถูกจริงๆ ถึงเรื่องที่ทำให้ซูหมิงเป็นกังวล

“เสี่ยวหง” ซูหมิงย่อตัวลง กวักมือเรียกเสี่ยวหง เจ้าลิงน้อยพลันวิ่งเข้ามา ซูหมิงมองเสี่ยวหงด้วยแววตาอ่อนโยน ตบขนของมันเบาๆ ในใจเกิดความรู้สึกอบอุ่น

“ช่วงที่ข้าไม่อยู่ เจ้าห้ามกลับไปที่ยอดเขาเพลิงทมิฬเด็ดขาด และห้ามเข้าไปในถ้ำภูเขาไฟด้วย จะไปที่ไหนก็ได้ รอข้ากลับมาก่อน ข้าจะไปหาเจ้าเอง”

“ยังมีอีก เม็ดโอสถที่ข้าให้เจ้าไป เจ้าอย่าคิดว่ามันไม่อร่อย ทุกวันต้องกินหนึ่งเม็ดควบคู่กับสมุนไพรที่ข้าแนะนำให้ จำเอาไว้ให้ดี” ซูหมิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ มองเสี่ยวหงแวบหนึ่ง ก่อนยันกายขึ้นแล้วเดินกลับไปยังชนเผ่าของตน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!