ตอนที่ 198 ซือหม่าซิ่น
“ซือหม่าซิ่น!” หานชางจื่อมีสีหน้าเคียดแค้น ถอยหลังไปอีกหลายก้าว
ฟางเซินยืนอึ้งงัน เมื่อเห็นเงาคนแปลกหน้าในความคุ้นเคย เขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจ ด้วยรู้ว่าอาการบาดเจ็บของฟางมู่คืออะไร เพียงแต่เขาแกล้งไม่รู้ นอกจากทำแบบนี้แล้วจะให้เขาทำอย่างไร…..
เขาต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ แสร้งหาวิธีรักษาทุกอย่างเพื่อบุตรชาย เขาทราบดี มีแต่ต้องทำแบบนี้เท่านั้น บางทีอาจมีวันหนึ่งที่ฟางมู่จะหายเป็นปกติจริงๆ
“จ้าวเผ่าบูรพาสงบฟางเซิน คารวะท่านซือหม่า…” ฟางเซินก้มหน้า อดกลั้นความเจ็บปวดในใจ กล่าวด้วยความเคารพ
ฟางมู่ยังคงมีสีหน้าอ่อนโยนราวมองไม่เห็นความเคียดแค้นของหานชางจื่อ
เขาไม่สนใจฟางเซินด้านข้าง แต่เดินไปทางหานชางจื่อจนกระทั่งยืนอยู่ตรงหน้านาง ใช้มือขวาเชยคางขาวซีดขึ้น
“ระฆังเขาหานเป็นของข้า ฟางมู่เป็นของข้า เจ้าเองก็เป็นของข้า! ตอนนี้ข้าขอดูสักหน่อยว่าใครกันที่กล้ามาแตะต้องของของข้าซือหม่าซิ่น!” ฟางมู่กล่าว สีหน้ามืดทะมึน เขาสะบัดแขนเสื้อไม่สนใจหานชางจื่ออีก แต่เดินขึ้นบันไดสู่ยอดเขาบูรพาสงบ
ทุกขั้นที่เขาเดินผ่านล้วนมีไอหนาวเยือกปกคลุม เมื่อเขาเดินถึงยอดเขา
จ้าวหมานบูรพาสงบเพียงมองแวบแรกตัวก็สั่นสะท้าน รีบยืนขึ้นคารวะฟางมู่
“จ้าวหมานบูรพาสงบ คารวะท่านซือหม่า”
ฟางมู่ไม่กล่าว แต่เดินผ่านจ้าวหมานบูรพาสงบด้วยความเย็นชา ไปยืนมองเมืองเขาหานอยู่ตรงขอบหน้าผา!
เมื่อมิได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย จ้าวหมานบูรพาสงบจึงมิกล้าเงยหน้าขึ้น คารวะค้างอยู่นานจนผู้คนโดยรอบที่สังเกตเห็นต่างพากันตื่นตะลึง ก่อนจะคารวะโดยไม่กล้าเงยหน้าขึ้นเช่นกัน
แทบจะเป็นช่วงที่ฟางมู่ยืนบนยอดเขาและมองไปทางซูหมิงบนระฆังเขาหาน สายฟ้าจากในตัวซูหมิงพลันระเบิดกระแสไฟและส่งเสียงดังสนั่นอย่างรุนแรง การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้ซูหมิงตัวสั่นสะท้าน พรั่งพรูออกจากในสู่นอกร่างกาย
มันเป็นกระแสไฟลักษณะโค้ง ไหลเวียนอยู่ทั้งในและนอกร่างกายเขา การปรากฏขึ้นของมันไม่ได้เหนี่ยวนำจากรอบตัว แต่เกิดขึ้นในร่างกายของเขา เมื่อกระแสไฟจากแผ่นดินและอากาศกระทบกันอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การหลอมรวมโดยไม่หยุดหย่อน ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ!
สิ่งที่เขาหลอมมิใช่สายฟ้า แต่เป็นต้นกำเนิดของพลัง!
สิ่งที่เขาหลอมคือกระแสไฟจากอากาศและจากแผ่นดิน มีแค่นำสองสิ่งนี้มากระทบกันอย่างต่อเนื่องแล้วหลอมมันในเสี้ยววินาทีที่มันเป็นรูปธรรมเท่านั้น ถึงจะทำสำเร็จ
กระแสไฟจากแผ่นดินหลั่งทะลักเข้าไปในอวัยวะในร่างกายของเขา สายฟ้าจากอากาศแน่นขนัดตรงบริเวณกลางศีรษะในสมอง เมื่อกระแสไฟที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าสองชนิดกระทบกัน จะทำให้เกิดเป็นพลังทรงอานุภาพ รอบตัวเขาจะเกิดเป็นกระแสไฟไหลเวียน
ซูหมิงตัวสั่นเทิ้ม ในที่สุดเขาก็หลอมสายฟ้าจนสำเร็จ กลายเป็นสมบัติประจำตัวขั้นชำระล้างของเขา! ทว่าทันใดนั้น หัวใจซูหมิงพลันเต้นแรง ความตื่นตะลึงเข้ามาแทนที่ เขาคิดเสมอว่าสิ่งที่เขาหลอมคือสายฟ้า แต่หลังจากหลอมสำเร็จ เขากลับพบว่าในร่างกายมีบางสิ่งที่น่าเหลือเชื่ออยู่!
สายฟ้าอบอวลในร่างกายของเขา แต่มันไม่สร้างอันตรายแก่เขา
ในทางตรงกันข้ามกลับรู้สึกเหมือนหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว รอบตัวเขามีกระแสไฟไหลเวียนเช่นกัน มันส่งเสียงดังเปรี๊ยะๆ กึกก้อง ตรงระหว่างคิ้วซูหมิงพลันปรากฏตราสัญลักษณ์สายฟ้า!
เขาทำสำเร็จแล้ว!
เขาหลอมสายฟ้าเป็นสมบัติประจำตัวสำเร็จ ท้องฟ้าส่งเสียงอัสนีบาตดังสนั่น แผ่ขยายราวกับมีคนจำนวนมากกำลังแผดเสียงตะโกนแสดงความยินดีกับซูหมิงในเวลานี้!
ความรู้สึกแข็งแกร่งผุดขึ้นในจิตใจ ทว่าไม่อาจกลบความตื่นตะลึงของเขาได้ ผ่านไปพักหนึ่งเขาจึงระงับความรู้สึก ลืมตาทั้งสองข้างขึ้น กระบี่เล็กแสงดำรอบตัวเขาพลันหยุดชะงัก แล้วเคลื่อนกวาดรอบนอก ทะลวงผ่านระหว่างคิ้วของผู้นำนักรบบูรพาสงบที่กำลังโจมตีอย่างต่อเนื่อง เมื่อโลหิตสาดกระเซ็น ผู้นำนักรบตัวสั่นก่อนสิ้นใจลง
ขณะเดียวกัน สายฟ้าจำนวนมากขยายมาจากรอบตัวซูหมิงก่อนตรงเข้าใส่อีกสี่คนที่เหลือ คนทั้งสี่มีหมอกดำโอบล้อมทั้งตัว ยังไม่ทันหลบร่างกายก็พลันสั่นสะท้าน ครั้นสายฟ้าปกคลุมตัวพวกเขาและถูกพลังสายฟ้าจู่โจม จากสี่คนมีหนึ่งคนร่างกายระเบิดกระจุย อีกสามคนกระอักโลหิต ขณะกระเด็นถอย กระบี่เล็กแสงดำตามเข้ามาทันใด จากนั้นบินกวาดตัดศีรษะของทั้งสามคนพร้อมกัน
แววตาสงบนิ่งของซูหมิงฉายแววเย็นชา เขาเป็นคนไม่ล่วงเกินคนอื่นก่อน ทว่าหากมีใครมาล่วงเกินเขา เช่นนั้นจะไม่ออมมือเด็ดขาด!
ซูหมิงสังหารต่อเนื่องสี่คน เขามองยอดเขาบูรพาสงบ มีความรู้สึกเด่นชัดว่าบนนั้นมีคนกำลังมองเขา ในช่วงที่เขามองไป สายตาเขาประสานกับสายตาของซือหม่าซิ่นบนยอดเขาบูรพาสงบ
ขณะที่ทั้งสองสบสายตากัน ฟางมู่บนยอดเขาบูรพาสงบพลันตัวสั่น กระแสไฟจำนวนมากรอบตัวแผ่ขยายมาตามพื้นดินตรงตีนเขา ซือหม่าซิ่นพลันหรี่ตาลง
“ข้าประเมินเขาต่ำไป!”
ยามซูหมิงบนระฆังเขาหานประสานสายตากับซือหม่าซิ่น ทั้งตัวอีกฝ่ายพลันมีไอหนาวจำนวนมากแผ่กระจายมาจากตัว เกิดเป็นชั้นหิมะบางๆ แม้หิมะเหล่านี้จะโดนสายฟ้าบดขยี้จนหายไปอย่างรวดเร็วก็ตาม ทว่ากลับทำให้ตัวเขาสั่น
ซูหมิงยันกายขึ้นอย่างช้าๆ ตอนที่เขายืนจนสุด สายฟ้าบนท้องนภาพลันผ่าลงมาพร้อมกัน ราวกับอยากระบายออกมาให้หมด
‘หลอมสายฟ้าเป็นสมบัติประจำตัว…สมบัติประจำตัวของข้าอยู่ระหว่างรูปธรรมและนามธรรม มันอยู่ในร่างกายข้าจริงๆ…ทว่าช่วงที่ปล่อยออกมาจะเหนี่ยวนำกระแสไฟจากอากาศและแผ่นดินของโลกภายนอกด้วย….’ นัยน์ตาซูหมิงเป็นประกายวาววับ เมื่อสายฟ้าผ่าลงมา เขายกมือขวาขึ้นเหมือนกับคว้าไปทางสายฟ้าจำนวนมาก
เงาร่างของซูหมิงถูกสายฟ้ามหาศาลปกคลุม เสียงฟ้าร้องดังสนั่นฟ้าดิน ท้ายที่สุดบนท้องฟ้าไม่มีสายฟ้าอีก ทั้งหมดมารวมกันอยู่ที่เขาแล้วก่อเป็นลูกสายฟ้าขนาดยักษ์
ลูกกลมนั้นส่องแสงสว่างจ้าราวกับดวงตะวัน
บนยอดเขาบูรพาสงบ ฟางมู่เห็นดังนั้น สีหน้าก็ดูจริงจังมากขึ้น
“เขามีนามว่าอะไร!”
“เรียนท่าน เขามีนามว่าโม่ซู…ถึงขั้นชำระล้างด้วยขั้นรวมโลหิตมหาสมบูรณ์ ได้รับแต่งตั้งเป็น……แม่ทัพเทพชำระล้าง…” จ้าวหมานลังเลครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวเสียงเบา
นัยน์ตาฟางมู่เฉียบคม ยืนอยู่ตรงนั้น ยกมือขวาชี้ไปทางภูเขารกร้างห่างไกล
“หมานสวรรค์เหมันต์ เก้าบรรพกาลสร้างหนึ่ง!” เขาเอ่ยน้ำเสียงเรียบๆ ทว่าเมื่อจ้าวหมานบูรพาสงบได้ยิน กลับทำให้เขาหัวใจเต้นแรง
“เก้าบรรพกาลสร้างหนึ่ง! ไม่อยากเชื่อว่าท่านซือหม่าจะพัฒนาวิชาหมานมาได้ถึงระดับนี้!” ยอดเขาที่ฟางมู่ชี้อยู่ไกลๆ มีไอหนาวเยือกปกคลุมยอดเขา พริบตาเดียวก็กลายเป็นภูเขาน้ำแข็ง
แผ่นดินสั่นสะเทือน ส่งเสียงครืนดังกึกก้อง ภูเขาน้ำแข็งสั่นสะท้าน ชั้นหิมะด้านบนไม่เสียหายแม้แต่น้อย แต่หลุดจากแผ่นดินแล้วลอยขึ้นฟ้า
ทว่าจะให้กล่าวจริงๆ มันเป็นเพียงเปลือกนอกของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น ภายในกลวงโบ๋ แต่ลักษณะของมันกลับเหมือนภูเขาที่ยังอยู่ติดพื้นทุกระเบียดนิ้ว
เปลือกภูเขาน้ำแข็งลอยอยู่กลางอากาศ ตรงมาทางเมืองเขาหานตามคำสั่งจากนิ้วของฟางมู่ เมื่อมาถึงซูหมิงก็พลันกดทับลง ทั้งเมืองเขาหานสั่นสะเทือน เศษหินจำนวนมากร่วงหล่น สิ่งก่อสร้างพลันถล่มทลาย ซูหมิงตัวสั่นอย่างรุนแรง ลูกกลมสายฟ้ายักษ์ลอยขึ้นเช่นกัน ก่อนปะทะกับเปลือกภูเขาน้ำแข็งที่กดทับลงมาจากท้องฟ้า
การปะทะกันระหว่างสายฟ้ากับภูเขาทำให้เกิดเสียงอึกทึกดังสนั่นหวั่นไหว แผ่ขยายเป็นคลื่นเสียงรอบแปดทิศ!
ภูเขาน้ำแข็งที่มีสายฟ้าปกคลุมสั่นสะเทือนก่อนแตกกระจายเป็นเศษจำนวนมากในทันใด ทว่าในช่วงที่มันแตกกระจาย ลูกกลมสายฟ้าของซูหมิงพลันหายไป จนกระทั่งทุกอย่างกลายเป็นควันลอยหายไปกับอากาศ ทั้งตัวซูหมิงถูกแช่แข็งด้วยหิมะหลายชั้น แม้บอกว่าชั้นหิมะเหล่านี้แตกกระจายอย่างรวดเร็วก็ตาม แต่ใบหน้าเขากลับขาวซีดยิ่งนัก หลังจากหิมะรอบตัวหายไป เขากระอักโลหิตออกมาหนึ่งกอง
ในโลหิตแฝงไว้ด้วยไอหนาว ยามที่ซูหมิงกระอักโลหิต มันกลายเป็นเม็ดน้ำแข็งกระจัดกระจาย ด้านหลังของเขายามนี้มีกระแสไฟปรากฏขึ้นอีกครั้ง พวกมันกระจายตัวอย่างต่อเนื่องเหมือนจะรวมตัวกันใหม่ อีกทั้งตรงระหว่างคิ้วซูหมิงปรากฏตราสายฟ้า
เพียงแต่ตราสายฟ้ามีกิ่งแตกแขนงจำนวนมาก ลักษณะของมันดูไม่สมบูรณ์ ทว่ากลับเหมือนสายฟ้าที่ทุกคนเห็นเป็นประจำบนท้องฟ้า
เวลานี้นอกจากกระแสไฟแล้ว บนตัวเขายังมีหมอกดำก่อรูปเป็นเกราะปกคลุมรอบตัว แม้แต่ใบหน้ายังถูกปกปิด เผยให้เห็นเพียงแววตาเย็นชาทั้งสองข้าง จ้องฟางมู่บนยอดเขาบูรพาสงบที่กำลังมองเขาอยู่เช่นกัน
“ของของข้าอยู่ที่นี่ เจ้ากล้าเอามันไป ก็ต้องจ่ายในราคาที่มากพอ…ต่อให้เป็นสุดหล้าฟ้าเขียวเจ้าก็หนีไม่พ้น!” ฟางมู่กล่าวเรียบๆ เสื้อผ้าที่รวมจากหมอกสีม่วงแหลกสลายอย่างรวดเร็ว เหตุที่เขามาด้วยตัวเองนั่นก็เพราะอยากจะรู้ว่าใครกล้าแตะต้องของของเขา
“น่าเสียดาย ร่างกายนี้แสดงพลังได้ครั้งเดียว…ทว่าจากการโจมตีเพียงครั้งเดียวของข้า เจ้ากลับได้รับบาดเจ็บ เจ้า…อ่อนแอเกินไป ไม่คุ้มให้ข้าต้องมาที่นี่ แต่ข้าก็อยากจะรู้นักว่าหลังจากรับการโจมตีของข้าแล้ว เจ้ายังจะกล้าแตะของของข้าหรือไม่”
ฟางมู่หัวเราะเบาๆ น้ำเสียงดังกังวาน เสื้อผ้าจากหมอกม่วงสลายไปจนหมด เขานั่งขัดสมาธิลงกับพื้น หลังจากมองซูหมิงแวบหนึ่งจึงหลับตาลง เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง นัยน์ตาของเขาสับสน ซือหม่าซิ่นจากไปแล้ว
โดยรอบเงียบสงัด มีเพียงสี่เศียรของสัตว์ร้ายที่ยังคงห่ำหั่นกันบนท้องฟ้า ซูหมิงนิ่งเงียบ เขาทราบแล้วว่าอีกฝ่ายคือซือหม่าซิ่น!
‘เขาแข็งแกร่งมากจริงๆ…’
ซูหมิงเงยหน้ามองสัตว์ร้ายเก้าเศียรบนท้องฟ้า แววตาเป็นประกาย ตัวค่อยๆ ลอยขึ้นจนถึงจุดสูงสุด ก่อนมองไปทางเศียรสัตว์ร้ายของซือหม่าซิ่น
“ถึงอย่างไรก็เลี่ยงไม่ได้…ของของเจ้าอย่างนั้นรึ…ข้าก็จะเอาอยู่ดี!” หลังจากครอบครองสองเศียรสัตว์ร้าย ซูหมิงรู้สึกว่าหากครอบครองได้อีกสองเศียรก็จะชิงระฆังนี้ไปได้