Skip to content

สู่วิถีอสุรา 229

ตอนที่ 229 ภาพเขาทมิฬจันทร์โลหิต

ช่วงที่ซูหมิงลืมตาขึ้น นัยน์ตาเขาเปล่งประกาย ก่อนกลับเป็นปกติในชั่วพริบตา ขณะเดียวกัน เกล็ดหิมะหนาที่สะสมบนตัวเขาลอยขึ้นเองอย่างเงียบเชียบ อบอวลอยู่รอบตัวและหมุนโคจรอย่างช้าๆ

ศิษย์พี่รองนั่งอยู่ด้านข้าง เผยรอยยิ้มบางพลางมองอย่างจริงจัง

ยามนี้บนยอดเขา เทียนเสียจื่อเพิ่งเก็บตราออกคำสั่งด้วยสีหน้าลำพองใจ เหมือนเขาสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง จึงมองไปทางซูหมิง เพียงแต่ช่วงที่มองเขากลับมีท่าทีต่างจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง สีหน้าค่อยๆ เคร่งขรึมจริงจัง

ขณะเดียวกัน หู่จื่อภายในถ้ำก็เดินออกมาเช่นกัน เขายืนอยู่ด้านนอก มองไปทางแท่นราบกลางเขา

ภายในแอ่งกระทะใต้ชั้นน้ำแข็งยอดเขาลำดับเก้า ยามนี้ก็มีสายตาคู่หนึ่งกำลังเพ่งสมาธิมองมาเช่นกัน

ซูหมิงกำลังลืมตา ทว่าแววตาของเขากลับสงบนิ่ง ความสงบนิ่งนี้ต่างจากความสงบเยือกเย็นแต่ก่อน เป็นความสงบที่สภาพจิตใจที่ไม่เคลื่อนไหว ต่อให้ภูเขาถล่มแผ่นดินแยกตรงหน้า จะไม่เกิดระลอกคลื่นภายในจิตใจแม้แต่น้อย

สิ่งที่ทำให้เขาสงบนิ่งเช่นนี้ได้คือ เกล็ดหิมะที่เขามองอยู่ตรงหน้า ขณะพวกมันลอยวน ซูหมิงค่อยๆ ยกมือขวาขึ้น หิมะเหล่านั้นพลันเข้ามารวมตรงมือขวาเขา กลายเป็นพู่กันน้ำแข็ง

ซูหมิงถือพู่กันด้ามนี้แล้ววาดอากาศตรงหน้าเขา

กวัดแกว่งพู่กันหลายครั้ง จุดที่ปลายพู่กันลากผ่านทิ้งเศษหิมะลอยล่องเอาไว้ ยามสะบัดพู่กัน ซูหมิงใช้อากาศตรงหน้าเป็นผืนภาพ และวาดออกมาเป็นภูเขาลูกหนึ่ง

ลายเส้นภูเขาวาดขึ้นจากเศษหิมะ ลอยอยู่กลางอากาศเหมือนธรรมดาสามัญ แต่หากมองอย่างละเอียดนานๆ จะเกิดความรู้สึกว่ามันคล้ายมีชีวิต

ระหว่างที่วาดภูเขาลูกนี้ จิตใจของซูหมิงสงบนิ่ง มันเป็นความสงบนิ่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตั้งแต่ออกจากภูเขาทมิฬ เขาก็ไม่เคยใจสงบอีกเลย

ภายใต้ความสงบนิ่งเช่นนี้ เขาไม่รู้ว่าด้านหลังตนยังมีศิษย์พี่รองนั่งอยู่ ไม่รู้ว่ายังมีสายตาของหู่จื่อมองอยู่ไกลๆ ไม่รู้ว่าในแอ่งกระทะใต้ยอดเขาแห่งนี้มีความเป็นห่วงของศิษย์พี่ใหญ่อยู่ รวมถึงชายชราเสื้อขาวบนปลายสุดยอดเขาแห่งนี้

สมาธิทั้งหมดของเขารวมอยู่ในพู่กันตรงมือขวา รวมอยู่ที่เศษหิมะเหล่านั้น และภาพที่อยากวาดออกมามากที่สุดในใจเขาเวลานี้

เขาในตอนนี้มิได้นั่งฌาน ทว่ากลับเหมือนยิ่งกว่านั่งฌาน ไม่ได้หลับตาเข้าสู่สภาวะประหลาด แต่กลับเหมือนอยู่ในส่วนลึกของสภาวะยิ่งกว่า ไม่ยอมถอนตัวขึ้นมา

“การสร้าง…สร้างภาพวาด….นี่คือคำตอบที่เขาให้ข้า…”

บนยอดเขา เทียนเสียจื่อมิได้มีท่าทางน่าขันเหมือนตอนเผชิญหน้ากับชายชราเสื้อคลุมม่วง แต่กลับมองศิษย์คนที่สี่ของเขาด้วยแววตาเฉลียวฉลาดและมองการณ์ไกลอย่างบอกไม่ถูก

“ศิษย์ใหญ่รู้แจ้งการสร้างเสียง ดังนั้นเขาจึงปิดด่านฝึกพลัง เข้าสู่ความเงียบท่ามกลางเสียงเอะอะ เมื่อละลายทุกสิ่งแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่คือจิตใจดั้งเดิม ดังนั้น เขาจึงฝึกฝนเสียงแห่งการสร้าง”

“ศิษย์รองรู้แจ้งการสร้างดอกไม้ ใช้การสร้างพืชดอกเป็นสองมือแห่งการสร้าง กุมความเป็นและความตาย”

“ศิษย์สามรู้แจ้งร่างกายของคำว่าสร้าง เหมือนความฝันเข้าสู่ฝัน นั่นคือการสร้าง…”

“ข้าไม่คิดเลยว่าศิษย์สี่เด็กคนนี้จะรู้แจ้งชนิดที่สี่…สร้างภาพวาด…”

เทียนเสียจื่อพึมพำเบาๆ แววตาเป็นประกาย

บนแท่นราบ ซูหมิงมองภาพภูเขาที่ตนวาด พู่กันในมือขวายังคงกวัดแกว่ง ห้ายอดเขาค่อยๆ ปรากฏ กลายเป็นภูเขาทมิฬ

วินาทีที่วาดภูเขาทมิฬ ปรากฏลายภูเขารางๆ บนใบหน้าเขา ราวกับมีแสงสะท้อนจากมัน ทำให้ขั้นพลังในตัวซูหมิงเกิดเค้าลางผันเปลี่ยนโดยไม่รู้ตัว

พู่กันน้ำแข็งในมือซูหมิงพลันลากเป็นเส้นยาวลงด้านล่างเมื่อวาดภูเขาเสร็จ เส้นยาวนั้นน่าตะลึงยิ่งนัก เหมือนกับกระบี่คมกริบก็มิปาน แฝงไว้ด้วยจิตสังหารน่าสะพรึง

ยามจิตสังหารเผยออกมา เทียนเสียจื่อบนยอดเขาพลันสีหน้าเปลี่ยน

ขณะเดียวกัน ศิษย์พี่รองที่เฝ้าซูหมิงมาโดยตลอดก็มีสีหน้าจริงจังเช่นกัน หู่จื่อภายในถ้ำไกลๆ ก็เป็นเช่นนี้

และยังมีศิษย์พี่ใหญ่ที่กำลังปิดด่านฝึกพลัง ช่วงที่สัมผัสได้ถึงเส้นลากยาวนี้ ลมหายใจกระชั้นเล็กน้อย

“พลังชั่วร้ายแข็งแกร่งยิ่งนัก!”

ซูหมิงไม่ได้สัมผัสถึงสิ่งเหล่านี้ เขาเพียงวาดตามจิตใจดั้งเดิมของเขาท่ามกลางความสงบนิ่ง วาดออกมาเป็นชีวิตของเขาเอง

พู่กันลากยาวไปจนสุด ร่างลงบนตัวเขาทีละนิด เผ่าเขาทมิฬในลายหมาน ต้นไม้ใบหญ้า เรือนพักอาศัยต่างๆ ค่อยๆ ปรากฏอยู่ตรงหน้า ส่องสะท้อนกับลายหมานของเขากลางอากาศ

เขาไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร หลังจากวาดเผ่าเขาทมิฬเสร็จ พู่กันในมือเขาจึงหยุดลง

ภายในภาพกลางอากาศตรงหน้าเขา มีภูเขา มีทิวทัศน์ มีต้นไม้ใบหญ้า เรือนอาศัยเชื่อมกันเป็นปึกแผ่นและมีรั้วไม้กั้น รวมกันขึ้นเป็นภาพชนเผ่าเสมือนสมบูรณ์

เหมือนกับลายหมานของเขาทุกประการ

ทว่ามือเขายังคงยกอยู่ เพียงแค่หยุดนิ่งราวไม่รู้ว่าจะวาดอย่างไรต่อ แววตาเขายังคงสงบ ทว่าลึกๆ ในความสงบกลับมีความสับสน

เวลาเคลื่อนผ่านไปเนิ่นนาน

“สร้างเสียง สร้างดอกไม้ สร้างภาพวาด และการสร้าง…ล้วนเกิดจากไม่มี…มีความตะลึงในความเงียบ มีกระจกในกระจก…ศิษย์น้องเล็ก ข้าคิดว่าในภาพนี้ยังขาดอะไรไปบางอย่าง…..” คำพูดของศิษย์พี่รองดังกึกก้องอยู่ข้างหูซูหมิงอย่างนุ่มนวล

ซูหมิงเงียบ ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง ปรากฏดวงจันทร์บนท้องฟ้า แสงจันทร์สาดส่องแผ่นดินจนเกิดเป็นแสงสีเงิน ทำให้คนมองเกิดความรู้สึกหนาวเยือก

ภายในค่ำคืนนี้ ยอดเขาลำดับเก้าไม่มีใครนอนหลับ ทุกคนล้วนเพ่งมองซูหมิง พวกเขารู้ว่าวันนี้เป็นวันที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับซูหมิง โดยเฉพาะตอนนี้เขาค้นพบวิธีทำให้จิตใจสงบแล้ว แต่กลับยังสับสน ไม่ครบสมบูรณ์

เวลานี้เป็นช่วงเวลาสำคัญอย่างมากสำหรับเขา

บางทีคนสำนักเหมันต์สวรรค์นอกยอดเขาลำดับเก้าอาจจะเข้าใจจุดนี้น้อยมาก ทว่าบนยอดเขานี้ พวกเขาฝึกฝนต่างจากคนอื่น ทราบดีว่าการรู้แจ้งครั้งแรกของการเรียนรู้พื้นฐานสำคัญขนาดไหน

จนกระทั่งท้องฟ้ามืดมิดค่อยๆ เปลี่ยนผัน ขอบฟ้ามีแสงสว่างอีกครั้ง ดวงจันทร์บนท้องฟ้าใกล้จะเลือนหาย ช่วงที่มันเหลือเพียงเงาราง มือขวาที่หยุดชะงักอยู่นานของซูหมิงพลันเคลื่อนไหว!

ตอนที่มือขวาเขาขยับ เทียนเสียจื่อบนยอดเขาพลันมีสีหน้าจริงจังยิ่งนัก ศิษย์พี่รอง ศิษย์พี่สาม และศิษย์พี่ใหญ่ก็เช่นเดียวกัน

พวกเขามองมือขวาของซูหมิงกำลังเคลื่อนไหว ถือพู่กันวาดวงกลมลงบนภาพเผ่าเขาทมิฬที่ใช้อากาศเป็นผืนภาพ

วงกลมนี้ช่างง่ายดาย เพียงพู่กันเดียวก็เป็นอันเสร็จ ทว่าการวาดง่ายๆ เช่นนี้ซูหมิงใช้เวลาทั้งคืน เมื่อวาดเสร็จเขาตัวสั่นอย่างรุนแรง บนใบหน้าของเขาข้างลายภูเขาทมิฬ ยามนี้ค่อยๆ ผุดวงกลมขึ้นเช่นกัน

ขณะเดียวกัน พลังในกายของซูหมิงพลันโคจร พริบตาเดียวก็ทะลวงถึงขีดสุด บรรลุถึงจุดสูงสุดของขั้นชำระล้างตอนต้น ราวกับอีกก้าวเดียวจะเหยียบเข้าสู่ขั้นชำระล้างตอนกลาง!

ในยามนี้เอง วงกลมภายในภาพที่ซูหมิงวาดออกมาตรงหน้าเปล่งแสงสว่างจ้าตา มันเป็นแสงสีแดงดุจกำลังแผดเผา ก่อนกลายเป็นดวงจันทร์!

จันทร์โลหิต!

จันทร์โลหิตแผดเผา!

นี่เป็นความรู้สึกแรกของซูหมิง เป็นลายหมานแรกที่เขาละทิ้ง ยามนี้ภายใต้สภาวะสงบนิ่ง มันถูกวาดออกมาบนภาพแรกของชีวิตเขา

ช่วงที่วาดจันทร์โลหิตเสร็จ กลิ่นอายพลังของภาพวาดพลันเปลี่ยน กลายเป็นภาพภูเขาทมิฬจันทร์โลหิต! พลังชั่วร้ายน่าสะพรึงเผยออกมาจากในภาพวาดนี้ ความเข้มข้นของพลังชั่วร้ายทำให้ศิษย์พี่รองที่อยู่ข้างกายซูหมิงมีสีหน้าเคร่งขึ้นมา

หู่จื่อที่อยู่นอกถ้ำของตนตัวสั่น พึมพำเบาๆ หลายประโยค

ส่วนศิษย์พี่ใหญ่ หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ก็มีเสียงถอนหายใจดังแว่วออกมา

“ยอดเขาลำดับเก้า จากนี้ไปอาจไม่เงียบสงบอีก…ทว่าเขาเป็นศิษย์น้องเล็ก แค่นี้ก็พอแล้ว”

การปรากฏของภาพภูเขาทมิฬจันทร์โลหิตทำให้ซูหมิงตัวสั่น ขั้นพลังทะลวงถึงขีดจำกัดมากกว่าก่อนหน้านี้ มีเสียงอึกทึกดังกึกก้องในตัวเขา ขั้นพลังทะลวงจากชำระล้างตอนต้นเข้าสู่ชำระล้างตอนกลางทันที!

การรู้แจ้งครั้งหนึ่ง ภาพวาดหนึ่งผืน จันทร์โลหิตหนึ่งพู่กัน ปรับลวดลายของซูหมิง และทำให้เขาทะลวงขั้นพลัง!

‘ศิษย์ของข้าเทียนเสียจื่อ ไม่ต้องการวิชา ไม่ต้องการอภินิหาร เพียงแค่รู้จักการทำจิตใจสงบ เข้าใจการสร้างของฟ้าดิน…’

คำพูดของเทียนเสียจื่อผุดขึ้นในจิตใจของซูหมิง ยามนี้เขาเข้าใจแล้วว่าเทียนเสียจื่อถ่ายทอดอะไรให้เขา

นั่นคือเส้นทางการฝึกจิตที่ต่างจากคนอื่นโดยสิ้นเชิง!

การฝึกฝนที่สืบทอดกันมาของยอดเขาลำดับเก้า มิใช่พลังจากเคล็ดวิชา มิใช่พลังจากอภินิหาร แต่เป็นจิตใจ!

เทียนเสียจื่อบนยอดเขาเงียบขรึมอยู่นานก่อนค่อยๆ หมุนตัวกลับ แล้วเดินไปทางวิหารใหญ่ที่ถูกผนึก เงาแผ่นหลังเชื่องช้าเล็กน้อย ทว่าจังหวะก้าวกลับสงบนิ่งและมั่นคง

เขาที่หมุนตัวกลับ ไม่มีใครมองเห็นว่าสีหน้าของเขาแฝงไว้ด้วยความแน่วแน่อันเศร้าโศก

“อาจารย์ ข้าจะพิสูจน์ให้ท่านดูว่าเส้นทางการฝึกฝนของเผ่าหมาน…..เป็นสิ่งที่ผิด! ท่านผิด พวกท่านผิด!”

เมื่อเทียนเสียจื่อไป ความสงบนิ่งในแววตาของซูหมิงเลือนหายและออกจากฌานสมาธิอย่างแท้จริง ภาพวาดตรงหน้าเขาบนแท่นราบยอดเขาลำดับเก้า จึงค่อยๆ กลายเป็นเกล็ดหิมะตกลงสู่พื้น

“ศิษย์น้องเล็ก ศิษย์พี่เห็นว่าทำเลตรงนี้ไม่เลว อยากจะปลูกพืชดอกบนแท่นราบนี้ เจ้าเห็นด้วยหรือไม่?” ช่วงที่ซูหมิงออกฌาน เขาได้ยินเสียงอ่อนโยนของศิษย์พี่รองดังแว่วข้างหู

ซูหมิงตะลึงงัน พลันหันไปมองศิษย์พี่รองที่ปรากฏตัวเมื่อไรไม่ทราบ เขารีบยืนขึ้น มองพืชดอกที่ขึ้นเต็มแท่นราบในเวลานี้

“เอ่อ…ศิษย์พี่รองเหลือที่ไว้ให้ข้านั่งฌานก็พอ…”

“อ้อ ได้ ข้าจะเหลือไว้ให้เจ้าเสียหน่อย…” ศิษย์พี่รองขยิบตา หัวเราะอย่างอบอุ่น

“ใช่แล้ว หลายวันนี้ที่เจ้ากำลังนั่งฌาน ศิษย์พี่รองจับสิ่งมีชีวิตให้เจ้าตัวหนึ่ง ตอนนี้อยู่กับศิษย์พี่สามของเจ้า หากมีเวลาก็ไปดูหน่อย

และอีกอย่าง มีศิษย์หลานงดงามยิ่งนักคนหนึ่งมาหาเจ้า หากเจ้าได้พบนาง ช่วยศิษย์พี่ถามชื่อเด็กสาวที่มากับนางให้ข้าหน่อย”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!