Skip to content

สู่วิถีอสุรา 463

SVTASR
BC

ตอนที่ 463 บุกเดี่ยว!

ชายร่างกำยำวิญญาณหยินมองซูหมิงแวบหนึ่ง คิดจะพูดห้าม ทว่าสุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรและพยักหน้ารับ

C

“เจ้าเคยช่วยชีวิตข้า ทั้งยังมีสัญญาจ้างวานกับข้าอยู่ ข้าจะส่งพวกเขาสองคนกลับเมืองเชมันอย่างปลอดภัย จากนั้นจะรีบกลับมานี่ให้เร็วที่สุด หากเจ้ายังออกมาไม่ได้ ข้าจะรอเจ้าสิบปี”

ชายร่างกำยำประสานมือคารวะซูหมิง แล้วเดินมายังหลันหลันกับอาหู่

เด็กหนุ่มสาวสองคนหันกลับมามองซูหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน ทว่าไม่พูดอะไร หมุนตัวกลับเดินเข้าไปในหมอกพร้อมกับชายร่างกำยำอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นซูหมิงไม่ขยับ วิญญาณในหมอกเหล่านั้นจึงเปิดทางให้ทั้งสามคนออกไป ก่อนปิดล้อมเข้ามาอีกครั้ง

นัยน์ตาซูหมิงฉายแววเย็นชา ขณะกำลังจะส่งกระแสจิตก็มีเสียงยานคางดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้มันดังกังวานอยู่ข้างหูไม่หยุด

“เจ้า…ส่งชาวเผ่าตนที่สี่ของข้ามา…ให้ข้ากิน นี่คือโชคชะตาของเผ่าข้า เจ้าถอยไป ข้าจะ…ตื่นขึ้นอีกครั้ง…จิตของจู๋อิน ความรุ่งเรืองของนภา แสงสว่างของผืนปฐพี เริ่มชีวิตยืนยาวแห่งจู๋จิ่วอิน!” ประโยคสุดท้ายเปี่ยมไปด้วยความกระหายชัดเจน นี่เป็นครั้งแรกที่มีคลื่นอารมณ์อยู่ในคำพูด

ช่วงที่เสียงกระจายมา หนอนงูในระฆังเขาหานร้องเสียงดังที่สุด มันตัวสั่น เกล็ดปริแตกทั้งตัวราวกับจะสลายไป ทันทีที่พุ่งชนเข้าใส่ระฆังเขาหาน ร่างมันพลันกลายเป็นมายาออกจากระฆังแล้วมาปรากฏอยู่ตรงหน้าซูหมิง

ความสามารถแบบนนี้ ซูหมิงไม่เคยเห็นมันทำมาก่อน เขายังไม่ทันคิดอะไร หนอนงูประหลาดขนาดเท่าเล็บมือก็เงยหน้าส่งเสียงร้องดุดันตรงหน้าซูหมิง

ขณะมันร้อง เสียงสะอื้นไห้ของเงาคนสีขาวพลันแหลมเล็กถึงขีดสุด เสียงคำรามของสัตว์หมอกยังดังสนั่นยิ่งขึ้น และยังมีคนเล็กมารกระดูกเหล่านั้น พวกมันร้องคำรามขึ้นพร้อมกัน

กระทั่งลูกตายักษ์ หมอกรอบตัวมันม้วนตลบอย่างรุนแรง ราวกับเสียงทุกอย่างนี้ประจบเอาใจเสียงร้องของหนอนงูพิลึก

นัยน์ตาหนอนงูดูดิ้นรน มันหันมามองซูหมิงแวบหนึ่ง แววตามีการอาลัยอาวรณ์ มีความเศร้าและไม่อยากแยกจาก

ซูหมิงเห็นแววตาหนอนงูก็ใจสั่นไหว ขณะหนอนงูร้องลั่น สัตว์หมอกที่ขวางซูหมิงอยู่ ยามนี้ก็พากันถอยออกเปิดเป็นเส้นทางให้ซูหมิง

หากซูหมิงเดินไปตามทางนี้ เขาจะออกไปจากแดนฝังกระดูกของจู๋จิ่วอินได้อย่างปลอดภัย!

เห็นได้ชัดว่าหนอนงูสร้างเส้นทางนี้ขึ้นเพื่อซูหมิง!

ยามนี้ตัวหนอนงูยังมีเส้นเลือดรอยปริแตกอยู่ มันพลันละสายตากลับ ขณะร้องด้วยความเศร้าโศกก็มีสีหน้าต่อสู้ดิ้นรนมากขึ้นทุกที ทว่ามันไม่อาจคุมร่างกายตัวเอง ตรงดิ่งไปยังศพของจู๋จิ่วอิน ก่อนทะลวงเข้าไปทางหัวที่ไม่รู้ว่ามีขนาดใหญ่เท่าใด

ดวงตาซูหมิงเห่อร้อน เขาออกไปได้ตอนนี้ แต่เขาทำไม่ได้!

หนอนงูตัวนี้ติดตามเขามาหลายปี โดยเฉพาะในถ้ำครั้งนั้น หลังจากซูหมิงหายตัวไปและกลับมาอีกครั้ง เขารู้สึกได้ถึงความดีใจของหนอนงู

ตอนนี้เขาไม่อาจมองหนอนงูหายเข้าไปในร่างของจู๋จิ่วอินเฉยๆ สิ่งที่รอมันอยู่คือการถูกเผ่าเดียวกันกิน และกลายเป็นชีวิตทำให้เผ่าเดียวกันตื่นขึ้น

ซูหมิงพลันยกมือซ้ายขึ้นแล้วสะบัดไปทางอากาศ

“เจ๋อหลงเซิน!”

เมื่อซูหมิงสะบัดมือ ตราสัญลักษณ์เผ่าวิญญาณหยินบนมือซ้ายพลันเปล่งแสงเด่นชัด ทั้งยังมีเสียงถอนหายใจดังแว่วออกมา ก่อนค่อยๆ ปรากฏเงาชายชราวิญญาณหยินตรงหน้า

“ผู้อาวุโสช่วยเข้าไปในร่างของจู๋จิ่วอินตัวนี้เพื่อห้ามไม่ให้มันกลืนกินด้วย!” ซูหมิงพลันมองชายชรา

“ข้าช่วยเจ้าไม่ได้….สัตว์ศักดิ์สิทธิ์เก้าหยินตัวนี้ ตอนยังมีชีวิตเผ่าข้าก็เป็นผู้เซ่นไหว้ หลังจากมันตายก็ยังทิ้งจิตเอาไว้ ยามนี้ในจิตมันมีความบ้าคลั่งอยู่…” ชายชรามองศพของจู๋จิ่วอินพลางกล่าวเสียงเบา

“ข้าต่อต้านไม่ได้….” ชายชราละสายตากลับ มองซูหมิงด้วยแววตาขอโทษ

“ข้าจะให้โอสถชิงวิญญาณท่านมากกว่านี้!” ซูหมิงจิตใจร้อนรน รีบกล่าวขึ้น

“มีโอสถชิงวิญญาณอีกเท่าไรก็ไม่มีประโยชน์ ด้วยจิตนี้ ไม่ว่าใครก็ยากจะเข้าไป แต่หนอนงูตัวนั้นเป็นของเจ้า บางทีเจ้าอาจเข้าไปได้ ทว่าข้าทำไม่ได้…..” ขณะชายชรากล่าวก็เดินหน้าไปหนึ่งก้าวทันใด แล้วมาปรากฏตัวอยู่ข้างรอยเปิดของศพจู๋จิ่วอิน ตอนกำลังจะเข้าไปพลันมีแรงสะท้อนกลับจากร่างของจู๋จิ่วอิน ทำให้ชายชราถูกกระแทกจนถอยมาหลายก้าว จากนั้นเขาจึงฝืนยิ้มมองซูหมิง

ซูหมิงมองศพของจู๋จิ่วอิน นัยน์ตาวาววับและเด็ดขาด เรื่องในโลกใบนี้ไม่มีคำว่าอะไรควรหรือไม่ควร ขอแค่ตนคิดว่าต้องทำ เช่นนั้นก็ควรทำ!

ซูหมิงเดินหน้าหนึ่งก้าว ยกมือขวาชี้ไปยังมังกรแดงฉานบนท้องฟ้า มันพลันกลายเป็นแสงสีแดงตรงมาหา ก่อนกลายเป็นสัญลักษณ์มังกรบนแขน จากนั้นซูหมิงก็ตรงมายังศพของจู๋จิ่วอิน

ด้านหลังเขายังมีร่างแยกกับศพพิษตามมาติดๆ ด้วย

ทว่าช่วงที่มาถึงและกำลังจะเข้าไปในรอยเปิดของศพ ก็พลันมีแรงสะท้อนกลับแผ่มาจากในโครงกระดูกของจู๋จิ่วอิน แล้วกวาดใส่ซูหมิงในชั่วพริบตา

ซูหมิงตัวสั่นอย่างรุนแรง แรงสะท้อนกลับแกร่งกล้า และยังมีจิตใจใกล้จะบ้าคลั่งแผ่กระจายทั้งตัวเขา จิตใจนี้ทำให้เขามีความรู้สึกเหมือนเป็นเรือโดดเดี่ยวท่ามกลางทะเลลูกคลื่นรุนแรง

“ออกไป!” มีเสียงคำรามดังมาจากจิตใจนั้น ดังสนั่นในความคิดซูหมิง ทำให้ตรามังกรแดงฉานบนแขนขวาถูกบีบออกมาจากตัวเขา

ซูหมิงกระอักเลือด ใบหน้าซีดขาว ร่างถูกผลักออกไปหลายสิบจั้งก่อนกระอักเลือดอีกครั้ง เขาเงยหน้ามองศพของจู๋จิ่วอินด้วยสีหน้าทะมึนยิ่ง

ตอนนี้ชายชราวิญญาณหยินข้างๆ ส่ายศีรษะพลางถอนหายใจ ขณะกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง กลับเห็นนัยน์ตาซูหมิงขยับวูบไหว

เขายกมือขวาขึ้นชี้มังกรแดง มังกรแดงที่ถูกบีบออกเมื่อครู่นี้กลายเป็นตราประทับลงบนแขนซูหมิงอีกครั้ง ขณะเดียวกันซูหมิงก็มองชายชราวิญญาณหยินแล้วส่งกระแสจิตไป

ชายชราถอนหายใจ ร่างค่อยๆ หายไป กลายเป็นตราจางๆ บนหลังมือซ้ายซูหมิง

เมื่อเสร็จสิ้นซูหมิงก็เก็บศพพิษกับร่างแยกไป หลังจากเช็ดคราบโลหิตตรงมุมปากแล้ว ก็สูดลมหายใจเข้าลึก และใช้จิตสัมผัสทะลวงเข้าไปในเศษหินพิลึกตรงคอ เศษหินพิลึกพลันเปล่งแสงสว่างปกคลุมรอบตัวเขา ทันใดนั้นก็มีกลิ่นอายพลังของหนอนงูพิลึกจากตัวซูหมิง

กลิ่นอายพลังนี้สมจริงอย่างยิ่ง แทบจะเหมือนจริงอย่างสมบูรณ์แบบ!

แทบจะเป็นวินาทีที่กลิ่นอายพลังปรากฏ ซูหมิงพลันเดินหน้าด้วยความเร็วทั้งหมด และเข้าไปใกล้ศพของจู๋จิ่วอินอีกครั้งในชั่วพริบตา ขณะเดียวกัน เมื่อแรงดีดกลับโดนตัวซูหมิงก็หายไปในทันใด ภายในจิตใจของจู๋จิ่วอิน เขาได้ยินเสียงหืมอย่างแปลกใจเบาๆ

ในใจซูหมิงรู้ดีว่าหลอกได้เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น อีกไม่นานจิตใจต่อต้านก็จะกลับมาอีกครั้ง ถึงตอนนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาคงยากจะเข้าไปในศพของจู๋จิ่วอินได้อีก ยามนี้จึงทะลวงไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเลจนมาอยู่ในตัวของจู๋จิ่วอิน

ทว่าช่วงที่เข้ามานั้น ตรามังกรแดงฉานบนแขนถูกบีบออกจากร่างกายอีกครั้ง และยังมีตราบนหลังมือซ้ายและมือขวา กระทั่งศพพิษในถุงเก็บวัตถุและหุ่นเชิดร่างแยก ทั้งหมดถูกบีบออกจากตัวซูหมิงและถูกขวางเอาไว้นอกร่างของจู๋จิ่วอิน

สิ่งที่เข้ามาได้มีเพียงร่างจริงของซูหมิงและวิญญาณแรกของเขา!

นอกจากนี้แล้ว ทุกอย่างถูกพลังภายนอกขวางเอาไว้!

ซูหมิงถอดหน้ากากออกทั้งสีหน้าตึงเครียด ยามนี้จุดที่เขาอยู่คือเส้นทางเลือดเนื้อแห้งกรัง โดยรอบมืดทึบ มีกลิ่นเน่าเหม็นคละคลุ้ง นี่คือในตัวของจู๋จิ่วอิน เป็นส่วนหางของมัน

ความรู้สึกตอนก้าวเดินคือเหมือนเหยียบดินเลน ให้ความรู้สึกสัมผัสน่าขยะแขยงนัก

ซูหมิงมองไปรอบๆ ตัว วิญญาณแรกกลับมาอยู่ในร่างเขา ดวงตาเขาเป็นประกาย จิตสัมผัสที่แผ่กระจายถูกผนังเนื้อโดยรอบสูบไปทันใด จึงแผ่ขยายได้เพียงสิบจั้งเท่านั้น

ที่นี่จำกัดจิตสัมผัสไว้ อีกทั้งยังตัดขาดการเชื่อมต่อระหว่างเขากับมังกร หุ่นเชิด รวมถึงวิญญาณหยินด้วย ดีที่อยู่ในตัวของจู๋จิ่วอิน การเชื่อมต่อระหว่างเขากับหนอนงูจึงยังมีประโยชน์ ยามนี้เขาเงียบงันและห้อเหยียดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วตามการเชื่อมต่อกับหนอนงู

ซูหมิงหายเข้าไปในโครงกระดูกส่วนหางของจู๋จิ่วอินยักษ์ ด้านนอกหาง หุ่นเชิดศพพิษมีสีหน้าเหม่อลอย มันนั่งขัดสมาธิลง แน่นิ่งไม่ขยับ

ส่วนศพของจีอวิ๋นไห่ล้มอยู่ข้างๆ รอบตัวเขาเต็มไปด้วยแมลงเปลือกแข็งสีดำ นอนแน่นิ่งอยู่เช่นกัน มังกรแดงฉานร้องคำรามและบินวนไปมารอบๆ ด้วยสีหน้าร้อนใจ มันสัมผัสซูหมิงไม่ได้ ผ่านไปอยู่นานก็หดตัวลงกลายเป็นมังกรน้อย รอคอยอยู่ตรงจุดที่ซูหมิงหายตัวไป

ส่วนชายชราวิญญาณหยิน ยามนี้มีสีหน้ากลัดกลุ้ม ถอนหายใจบ่อยครั้ง มิใช่ว่าเขาไม่อยากช่วย แต่เขาเข้าไปในร่างจู๋จิ่วอินไม่ได้จริงๆ เขายังแปลกใจอยู่นิดๆว่าซูหมิงเข้าไปได้อย่างไร นึกดูแล้วบางทีอีกฝ่ายอาจมีกลิ่นอายพลังของจู๋จิ่วอินเหลืออยู่จริงๆ ฉะนั้นเลยเข้าไปได้

กลิ่นอายพลังของซูหมิงที่เปลี่ยนไปเมื่อครู่นี้ ทำให้เขาประหลาดใจยิ่งนัก

‘เด็กคนนี้โชคดีมาก งูเล็กตัวนั้นเป็นชนรุ่นหลังของสายเลือดจู๋จิ่วอินไม่ผิดแน่ แต่สัตว์แบบนี้พบเห็นได้ยากยิ่งในปัจจุบัน…ช่างเถอะ รออยู่ที่นี่สักหน่อยแล้วกัน หากเขาออกมาได้ก็ทำตามสัญญาต่อ หากไม่ออกมา…..ข้าก็คงขาดทุน’ ชายชรานั่งถอนหายใจอยู่ข้างๆ

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!