ตอนที่ 685 ตายพร้อมกับเจ้า
ช่วงที่ตี้เทียนชี้นิ้วไป เขากัดปลายลิ้นพ่นโลหิตสีทองออกมา
โลหิตที่พ่นออกมากลายเป็นเม็ดสีทองหลายเม็ด ตรงไปยังน้ำวนบนฟ้าตามแรงสะบัดแขนเสื้อมือขวา
“ด้วยความคิดของข้า ขอเปิดของวิเศษแห่งเซียน ลงมาเยือนโลกมายาแห่งมรณะหยิน ทันฑ์สวรรค์แห่งโชคชะตา!” เสียงตี้เทียนดังก้องกังวานรอบๆ น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความน่าเกรงขาม คนที่ได้ยินล้วนใจสั่นสะท้าน
โดยเฉพาะอภินิหารครั้งนี้ของตี้เทียนมิใช่ธรรมดา เพราะถึงขั้นยอมจ่ายโลหิตของร่างอาคมเพื่อใช้วิชานี้ เทียบกับตอนร่างแยกใช้แล้วไม่มีทางอยู่ในระดับเดียวกัน
หลังจากร่างอาคมตี้เทียนออกมาก็ยังไม่เคยใช้วิชาอ่อนแอเลย ไม่ว่าจะเป็นกระบี่ยมโลกหรือลงทัณฑ์โชคชะตาล้วนมีไว้สังหาร!
แทบทันทีที่โลหิตปานสายรุ้งสีทองตรงไปยังน้ำวนที่ปกคลุมทั้งเผ่าหมาน น้ำวนของเผ่าหมานพลันหยุดชะงัก ราวกับว่าการหมุนโคจรในนั้นหยุดนิ่ง
ขณะเดียวกันนอกน้ำวนบนฟ้าเผ่าหมาน ตรงกลางฟ้ากระจ่างดาวไร้สิ้นสุด
ดาราแท้จริงเก้าดวงที่เหมือนปกป้องแดนมรณะหยินแห่งนี้ไว้เปล่งแสงสว่างพร่างพราว ในนั้นมีดาราแท้จริงดวงหนึ่งปล่อยลำแสงมาจากภายใน พุ่งทะลวงมายังหมอกมรณะหยิน ทำให้หมอกกระจายออกโดยรอบอย่างเร็วรี่ ก่อนที่ลำแสงเส้นนั้นจะข้ามผ่านมาอีกเล็กน้อย แล้วลงมายังซูหมิง
ไม่ใช่สายเดียว!
แต่มีเก้าสาย!
ดาราแท้จริงเก้าดวงส่งลำแสงพุ่งลงมา ทำให้น้ำวนมรณะหยินเกิดเสียงโครมคราม หมอกหนาเหล่านั้นกระจายออกโดยรอบอย่างบ้าคลั่ง ตรงกลางหมอก…ปรากฏหลุมลึกว่างเปล่า!
ณ โลกหมาน ยามนี้หากมองขึ้นฟ้าจะเห็นชัดเลยว่าตรงกลางน้ำวนบนฟ้า หลังหมอกหยุดนิ่งไปชั่วครู่แล้วก็เริ่มม้วนตลบออกรอบๆ คล้ายเดือดพล่าน และยังขยายออกไปเรื่อยๆ จนเผยให้เห็น…
หลุมยักษ์!
ภายในหลุมนี้ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตชาวเผ่าหมานที่ได้เห็น…ผืนฟ้ากระจ่างดาวจริงๆ!
ทว่าฟ้ากระจ่างดาวเพิ่งปรากฏ ก็ถูกลำแสงสว่างจ้าตาเก้าสายเข้ามาแทน ลำแสงเก้าสายนั้นมาพร้อมกับเสียงลากยาวเล็กแหลม ทะลวงผ่านหมอกมรณะหยินลงมายังแผ่นดิน แล้วกลายเป็นแสงเด่นชัดที่สุดในโลกหมานทันที
การลงทัณฑ์เก้าครั้งพร้อมกัน พิพากษาประหารซู่มิ่ง!
กระทั่งไม่ใช่เพียงร่างของซู่มิ่งเท่านั้น อานุภาพของลำแสงเก้าสายนี้ยังทำให้แผ่นดินรกร้างบูรพาแตกกระจาย นี้….คืออาวุธสังหารทรงพลังที่ตี้เทียนเตรียมไว้สำหรับสังหารซูหมิง!
“เจ้ามันเสียสติไปแล้ว!” จี๋อั้นซึ่งกำลังประมือกับศิษย์พี่ใหญ่ของซูหมิงในหมอกดำเอ่ยตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยว
เซียนบนแผ่นดินล้วนมีสีหน้าหวาดกลัว พากันห้อเหยียดหนีไป ลำแสงเก้าสายยังมาไม่ถึง แผ่นดินก็ร้อนระอุประดุจทะเลเพลิง!
ขุมอำนาจเผ่าหมานสองฝ่ายบนฟ้าอึ้งงันอยู่ชั่วครู่ จ้องลำแสงบนฟ้ากำลังตกลงมา พวกเขา…ไม่มีที่หลบ!
“ซู่มิ่ง ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะรอดจากการลงทัณฑ์ครั้งนี้ไปได้! อีกอย่าง…”
ตี้เทียนชุดคลุมดำมีสีหน้าเหี้ยมโหด เขากัดปลายลิ้นพ่นโลหิตของร่างอาคมอีกครั้ง โลหิตนั้นตรงไปยังผืนฟ้าทันที
ในเวลาเดียวกัน ดาราแท้จริงเก้าดวงนอกหมอกมรณะหยินก็เปล่งแสงอีกครั้ง ลำแสงเก้าสายสั่นสะเทือนฟ้ากระจ่างดาวก่อนพุ่งลงมาอีกครั้ง
“ข้าอยากรู้นัก…ว่าเจ้าจะรับมืออย่างไร!” ตี้เทียนชุดคลุมดำส่งเสียงคำราม นัยน์ตาฉายแววเหี้ยมโหด สายตามองซูหมิงที่ผสานรวมกับเทวรูปหมานกลางอากาศ
แสงแห่งการลงทัณฑ์สิบแปดสายนี้ ข้ามเรื่องที่ว่าตี้เทียนต้องจ่ายเท่าไรถึงจะขับเคลื่อนมันได้ไปก่อน หากมันตกลงมาถึงแดนรกร้างบูรพา เช่นนั้นจะเกิดภัยพิบัติรุนแรงยิ่งกว่าตอนแดนอรุณใต้ถูกชนเสียอีก
ตอนนี้ของวิเศษล้ำค่าแห่งการลงทัณฑ์ของเซียนที่สามารถทำลายล้างเผ่าหมานเผยอยู่ในโลกหมานอย่างชัดเจน บางทีอาจเป็นของวิเศษล้ำค่าไร้ที่เปรียบนี้ต่างหากที่น่ากลัวที่สุดสำหรับเผ่าหมาน
“ข้าจะไม่สังหารเจ้าก็ได้ เพียงแค่เจ้าก้มหัวต่อหน้าข้าแล้วหลับใหลอีกครั้ง ข้า…..จะให้โอกาสสุดท้ายกับเจ้า!” ตี้เทียนชุดคลุมดำยืนอยู่กลางอากาศ มองซูหมิงด้วยสายตาเย็นชา
เขาในตอนนี้ควบคุมข้อได้เปรียบของสนามรบเอาไว้แล้ว หากการลงทันฑ์แท้จริงมาถึง คนที่ดับสูญไปไม่ใช่เพียงซูหมิง แต่ยังมีเผ่าหมานนับไม่ถ้วนบนแดนรกร้างบูรพา
ซูหมิงมองท้องฟ้า เห็นลำแสงเก้าสายลากยาวเข้ามาใกล้ และเห็นลำแสงระลอกที่สองอีกเก้าสายตามอยู่ด้านหลัง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นตี้เทียนใช้วิชานี้ ทว่าตอนนี้ไม่อาจเปรียบกับตอนนั้นได้เลย นี่ต่างหาก….คือการลงทัณฑ์ที่แท้จริง!
‘ทุกอย่าง….จะจบแล้วหรือ…’ ในใจซูหมิงเกิดความขมขื่น แม้จะบรรลุถึงขั้นวิญญาณหมานสมบูรณ์แล้ว แต่เมื่อเผชิญหน้ากับของวิเศษเผ่าเซียนที่สามารถทำลายล้างโลกหมาน เขา…..กลับต่อต้านไม่ได้
เวลานี้เสียงตี้เทียนเหมือนกลายเป็นเสียงหัวเราะเยาะถากถาง และความจริงที่ล้มเหลว
นี่ยังไม่ใช่ร่างจริงของตี้เทียน นี่เป็นเพียงร่างอาคมเท่านั้น
‘ทว่าข้าไม่ยอม!’ นัยน์ตาซูหมิงฉายแววคลุ้มคลั่งและเป็นประกายสีแดงก่ำ มันเกิดจากเส้นเลือดฝอย เป็นความยึดมั่นจากในแววตาของเทวรูปหมานและตัวเขาเอง
“ข้าไม่ยอม ข้าไม่มีทางก้มหัวให้เจ้าตี้เทียน!” ซูหมิงเงยหน้าคำรามเสียงแหบแห้ง เสียงนั้นบ้าคลั่ง เป็นเสียงตะโกนด้วยความโกรธโดยไม่สนว่าจะเป็นตายอย่างไร
“ข้าซูหมิงตายได้ แต่ต่อให้ตายก็ต้องยืนหยัดตายและเงยหน้าตาย ตี้เทียน เจ้ามีอะไรคู่ควรให้ข้าต้องก้มหัว!”
“ขั้นพลังข้าสู้เจ้าไม่ได้ ทว่ากระดูกสันหลังข้า…มันคือความบ้าคลั่งที่ฟ้าดินก็ไม่อาจให้โค้งงอ!” ซูหมิงตะโกนพร้อมกับพุ่งออกไป ชกหมัดซ้ายไปยังลำแสงสายแรกที่มาถึง
ร่างเงาเขาแฝงไว้ด้วยความยึดมั่นและจิตใจแน่วแน่อันน่าตะลึงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นั่นคือความบ้าคลั่งที่ยอมตาย แต่ไม่ยอมก้มหัวให้!
ชั่ววินาทีที่หมัดปะทะกับลำแสงสายแรกก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว แขนซ้ายเทวรูปหมานระเบิดเป็นเศษกระจาย
วินาทีที่ระลอกคลื่นรุนแรงแผ่เป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว เสียงหัวเราะซูหมิงดังก้องฟ้าดิน
“ข้าซูหมิงชั่วชีวิตว่างเปล่า สับสน หาบ้านไม่เจอ ไม่มีบ้าน…ทว่าแล้วมันอย่างไร!” ซูหมิงยกมือขวาพร้อมกับบินขึ้นฟ้า แล้วชกใส่ลำแสงสายที่สอง
เสียงครึกโครมดังกึกก้องอีกครั้งจนสั่นสะเทือนนภา แขนขวาซูหมิง…ปริแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“แล้วมันอย่างไร! ความตายกับการไม่ก้มหัวให้ ข้าเลือก…อย่างหลัง!”
เทวรูปหมานเสียแขนสองข้างไป ทว่าร่างกายเขายังคงบินขึ้น ก่อนหมุนตัวยกขาขวาเตะไปยังลำแสงสายที่สาม
ลำแสงสว่างจ้าและมืดหม่นลง ขาขวาเทวรูปหมานซูหมิงแหลกละเอียด!
ภาพเหล่านี้ กระทั่งตี้เทียนเห็นแล้วยังตื่นตะลึง การบุกโจมตีอย่างน่าเวทนาทำให้เขาเหมือนได้รู้จักกับซูหมิงจริงๆ เป็นครั้งแรก
ทางด้านจี๋อั้นกับสิงกาน ตอนนี้ไม่สู้กันอีก เสียงระเบิดน่าอนาถเพียงพอจะสร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคน เผ่าเซียนหลายหมื่นคนด้านล่างล้วนเงียบ ในใจรู้สึกเวทนาและตื่นตกใจกับซูหมิง
ขุมอำนาจเผ่าสองกลุ่มบนฟ้า ตอนนี้มีคนน้ำตาไหล
เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว แต่ไม่อาจกลบเสียงหัวเราะลากยาวของซูหมิงได้ เขาพลันสะบัดขาซ้ายเข้าปะทะกับลำแสงสายที่สี่ หลังจากขาซ้ายสลายไปแล้ว ซูหมิงที่ไร้แขนขาก็ใช้ลำตัวเข้าปะทะกับลำแสงสายที่ห้าต่อ
เสียงครึกโครมทุกครั้งจะทำให้ผู้มองทุกคนเงียบยิ่งกว่าเดิม ช่วงที่ลำตัวเทวรูปหมานแตกสลายเหลือเพียงศีรษะกลางอากาศ ลำแสงสายที่หกก็ตรงเข้ามา
ซูหมิงหัวเราะเสียงลากยาว ใช้ศีรษะพุ่งชนกับลำแสงสายที่หก ส่งเสียงสั่นสะเทือนเลือนลั่น ตอนที่ศีรษะเทวรูปหมานฉีกขาด ร่างจริงซูหมิงก็ปรากฏอยู่กลางอากาศ กระอักโลหิตและดิ่งลงสู่พื้น
ลำแสงสายที่เจ็ด สายที่แปด สายที่เก้า…จนถึงสายที่สิบแปดกำลังตรงเข้ามา
“ข้ายังไหว!” ซูหมิงกัดฟัน ตัวเขาที่ไม่มีเทวรูปหมานคงจะสลายเป็นควันหายไปในทันที จังหวะที่เขาระเบิดพลังเฮือกสุดท้ายแล้วฝืนพุ่งไปยังลำแสงสายที่เจ็ด ตรงหน้าเขาปรากฏร่างสูงใหญ่ไร้หัวคนหนึ่ง
“ศิษย์น้องเล็ก ศิษย์พี่จะตายพร้อมกับเจ้า!” น้ำเสียงนั้นดังกึกก้อง ซูหมิงมีน้ำตาไหลริน ก่อนหัวเราะเสียงดัง
“มารดามันเถอะ รู้อย่างนี้แต่แรกคงไม่มา…ทว่าในเมื่อมาแล้ว…เสวี่ยซาแห่งเผ่าเมฆยักษ์จะขอตายพร้อมเทพหมาน!” ชายชราซูบผอมแห่งเผ่าเมฆายักษ์ถอนหายใจ ทว่ากลับตรงไปหาซูหมิงด้วยความเร็วที่เพิ่มมากขึ้น
“ชาวเผ่าเมฆายักษ์ก็ขอตายพร้อมเทพหมาน!” ชาวเผ่าเกือบหมื่นของเผ่าเมฆายักษ์ด้านหลังชายชราไม่มีใครถอย ล้วนร้องตะโกนพลางห้อเหยียดเข้าไป
“เทียนฉี่แห่งสำนักเวไนยสัตว์คารวะเทพหมาน ข้าก็ขอยอมตายพร้อมเทพหมาน!” เทียนฉี่แห่งสำนักเวไนยสัตว์คือคนแรกที่เลือกมาหาซูหมิง ตอนนี้มีสีหน้าซับซ้อนเล็กน้อย แต่กลับเอ่ยคำนี้ออกไปอย่างไม่ลังเล ก่อนขยับกายวูบไหวตรงไปหาซูหมิง
ชาวเผ่ายี่สิบเผ่าของสำนักเวไนยสัตว์ด้านหลังก็ร้องตะโกนพร้อมกันแล้วบินเข้าไป
“ขอยอมตายพร้อมเทพหมาน!”
ในเวลานี้ เสียงสองหมื่นคนสั่นสะเทือนจิตใจคน!
จิตใจซูหมิงถูกเสียงเหล่านี้ซัดสาดใส่อย่างรุนแรง…เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ขณะที่จิตใจถูกเสียงโหมซัดสาดใส่อยู่นี้ มันรวมขึ้นเป็นความอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ทั้งยังปรากฏเป็นครั้งแรกในความทรงจำเขา