Skip to content

Swallowed Star 49

ตอนที่ 49 วิกฤติเสี่ยงตาย

“เส้นเอ็นของตัวสองหางนี่คุ้มค่ามากทีเดียว” ด้วยคมดาบของ หลัวเฟิง มันเฉือนผ่านหางและทำให้เส้นเอ็นโผล่ออกมา หลัวเฟิง มองดูเว่ยเถี่ยด้านข้างแล้วก็หัวเราะ “พี่เถี่ยนี่แกร่งจริงๆ เลย การ ปะทะกับโอซีล็อตสองหางเมื่อกี้ พี่เถี่ยกระอักเสือดเลยนะ ทำเอาผมตกใจ แต่ตอนนี้ดูเหมือนพี่จะไม่เป็นไรแล้วนะ!”

“เจ้าโง่ ไม่กระอักเลือดแล้วจะให้ฉันทนเจ็บเหรอ? แบบนั้นเจ็บ หมักกว่าอีกนะ!” เว่ยเถี่ยด่าพร้อมหัวเราะ

“เอาล่ะๆ รีบมารวมตัวกันเร็ว” เฉินกู่หัวเราะ

สมาชิกทั้ง 6 ของทีมค้อนอัคคีต่างก็อารมณ์ดี เกาเฟิงนั่งลงใกล้ๆ กับซากโอซีล็อตสองหางพลางลงมือชำแหละ แน่นอนร่าง ของโอซีล็อตสองหางนั่นชำแหละยากที่สุด

“หลัวเฟิงนำโชคมาให้ทีมเรา นี่เป็นวันแรก แต่เราฆ่าระดับ บัญชาการได้ถคง 2 ตัวแล้ว” เกาเฟิงหัวเราะไปพลางชำแหละไปพลาง

“ฮ่า’ๆ หัวหน้าต้องชมผม เป็นเพราะผมนี่แหละชักจูงหลัวเฟิงมา เข้าทีมเรา” เฉินกู่ก็หัวเราะเช่นกัน

ทั้งทีมหัวเราะอย่างสุขสันต์

“หือ?”

ราวกับว่าถูกไฟเผา ตาของหลัวเฟิงเบิกโพลง ไม่ต่างกับตอนที่ เขาเข้าทดสอบปฏิกิริยาโต้ตอบกับปืนยิงกระสุนยาง….สิ่งที่ทำให้ อากาศตรงหน้าสั่นสะเทือนคือกระสุดนัดหนึ่ง!

ความเร็วของกระสุนเร็วกว่าปืนยิงกระสุนยางตอนเข้าทดสอบ อย่างน้อยสิบเท่า! หลัวเฟิงไม่มีเวลาแม้แต่จะร้องเตือน

ภายใต้แรงกดดันมหาศาลนี้ ร่างกายของหลัวเฟิงสูบฉีด อะดรีนาลีนจนพลุ่งพล่าน แสะห้าใจของเขาก็เต้นตูมตามจนถึงขีดอันตราย ขนทั่วร่างเขาลุกชูชัน ความคิดของเขาถูกผลักดันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน! แม้แต่พลังจิตของเขาที่กำลังหลับใหลอยู่ข้าง ในก็พุ่งกระจายไปทั่วร่างของเขาโดยอัตโนมัติ!

วิกฤติความเป็นความตาย!

สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของมนุษย์เป็นเหตุให้ร่างกาย และพลังจิตของหลัวเฟิงพุ่งขึ้นถึงขีดจำกัดอย่างกะทันหัน!

“ฟิ้ว!”

กระสุนเจาะเกราะพุ่งแหวกอากาศแสะตรงเข้าหาศีรษะของหลัวเฟิง

หลัวเฟิงใช้ดาบปีศาจที่เดิมใช้ชำาแหละซากโอซีล็อตสองหาง บล็อกลูกกระสุน เขาผุดลุกขึ้นและใช้พลังทั้งหมดในการตวัดดาบไปรอบๆ ขณะที่ส่วนเอวของเขาออกแรงครั้งแรก ก็ออกแรงครั้งที่สองต่อทันที!

ทุกอย่างได้จังหวะพอดี! การเผชิญหน้ากับความเป็นความตาย ร่างกายของเขาจึงสามารถออกแรงได้สองครั้งติดในขณะที่ พลังจิตและร่างกายของเขาถึงขีดจำกัดไปแล้ว

ดาบสายฟ้า 9 ขั้น….ขั้นแรก!

กลับได้ผลทั้งอย่างนี้!

ความเร็วของดาบปีศาจพุ่งทะยานขึ้นทันที!

“เร่งความเร็ว!” หลัวเฟิงใช้พลังจิตของเขากับดาบปีศาจ เพื่อให้มันเคลื่อนที่เร็วขึ้น!

“ลดความเร็ว!”

โดยไม่ชักช้า พลังจิตถูกใช้ควบคุมกระสุนเจาะเกราะที่กำลัง พุ่งเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วสุดขั้ว กระสุนนั้นลดความเร็วจาก 4 มัค เป็น 1 มัค! ดาบของหลัวเฟิงปะทะกับกระสุนลูกนั้นดัง “เกร๊ง”

กระสุนเจาะเกราะกระทบเข้ากับดาบปีศาจและกระเด็นออกไป

“เป๊ง!”

กระสุนอีกลูกหนึ่งพุ่งไปที่ศีรษะของหัวหน้าเกาเฟิง ตามแผน ของทีมเขี้ยวพยัคฆ์ จางเจ๋อหู่ขอให้สังหารหลัวเฟิง ขณะที่อีกลูก หนึ่งให้ยิงสมาชิกที่มีพลังมากที่สุดของทีมซึ่งก็คือเกาเฟิง ดังนั้น กระสุนทั้งสองลูกนี้จึงพุ่งทะยานมายังหลัวเฟิงและเกาเฟิงนั่นเอง!

“แคว่ก!” เกาเฟิงกำลังก้มเฉือนขนอันทนทานของโอซีล็อ ตสองหางนั่นอยู่…สิ่งนี้ทำให้ตัวของเกาเฟิงเคลื่อนไหวไปมา ทำให้ กระสุนที่พุ่งตรงมายังศีรษะของเขาพลาดเป้าไป

ฟิ้ว!

กระสุนเจาะเกราะพุ่งเฉี่ยวใบหูของเกาเฟิงไปอย่างรวดเร็ว แรง กดอากาศทำให้เลือดที่หูของเกาเฟิงไหลซึมออกมา

“ปัง!”

กระสุนเจาะเกราะพุ่งปะทะกับไหล่ของจางเคอที่นั่งอยู่ข้างๆ เกาเฟิงอย่างเต็มเหนี่ยว กระสุนซึ่งสามารถเจาะทะลุเกราะของสัตว์ ประหลาดระดับบัญชาการขั้นต่ำได้เข้าไปตีคว้านทำลายกระดูก และกล้ามเนื้อหัวไหล่ของจางเคอในทันที ด้วยแรงปะทะมหาศาล ไหล่ขวาของจางเคอฉีกขาดออกเป็นแผลเหวอะอย่างน่ากลัว

“ฟู่ …” เลือดสดๆ พุ่งเป็นฝอยออกมาราวกับน้ำพุ

“อ๊าก!” จางเคอร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

“สไนเปอร์!”

เกาเฟิงมองไปที่หัวไหล่แผลเหวอะหวะของจางเคอซึ่งกำลังมี เลือดทะลักออกมาไม่หยุด เลือดนั่นพุ่งใส่หน้าเกาเฟิง ทำให้ตาของ เขากลายเป็นสีแดง เขาคำรามออกมา “ศัตรูโจมตี!”

“ไอ้สารเลวเอ๊ย!” สองพี่น้องเว่ยตะโกนออกมาด้วยความโกรธ

แค้น

ขณะที่พวกเขาตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้นนั้น สมาชิก ที่เหลือก็พากันเคลื่อนที่ไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว ไม่มีใครกล้ายืนอยู่ กับที่ขณะที่ตกเป็นเป้าจากมือสไนเปอร์ เกาเฟิงสามารถรอดพ้นจากคมกระ สุนได้ ก็เพราะการเฉือนหนังสัตว์ประหลาดที่ทำให้ตัวเขาไม่อยู่นิ่งกับที่

“ปัง!”

“ปัง!”

“ปัง!”

“ปัง!”

เสียงระเบิดกระสุนอีก 4 นัด!

“ทางนั้น!” เกาเฟิง หลัวเฟิง และที่เหลือพากันจ้องไปยังแหล่งที่มาของกระสุนด้วยดวงตาอันแดงก่ำ

บนดาดฟ้าห่างออกไป มีเงาเคลื่อนไหวให้เห็นแล้วก็หายไป

“ทีมเขี้ยวพยัคฆ์นี่!” เกาเฟิงกัดกรามแน่นจนเป็นสันนูน “เขี้ยว พยัคฆ์!!!”

หลัวเฟิงยังไม่สามารถมองเห็นพวกนั้นได้เลย….ระยะห่าง ออกไปมากและทีมเขี้ยวพยัคฆ์ก็หายตัวไปแล้ว อยากจะมองเห็น พวกนั้นได้สายตาต้องดีถึงขั้นน่าประหลาดใจ! ประสาทรับรู้ ทางการมองเห็นและการได้ยินของนักสู้จะพัฒนาขึ้นไปตามระดับ สมรรถภาพร่างกาย ในบรรดาสมาชิกทั้ง 6 คนของทีมค้อนอัคคี หัวหน้าเกาเฟิงมีสมรรถภาพร่างกายเกือบถึงระดับ ‘แม่ทัพขั้นกลาง’ เข้าไปแล้ว

ดังนั้น จึงมีแต่เขาเท่านั้นที่มองเห็นพวกนั้นได้อย่างชัดเจน

“ทีมเขี้ยวพยัคฆ์? ทีมเขี้ยวพยัคฆ์ที่มีจางเจอหู่อยู่ด้วยน่ะเหรอ?” หลัวเฟิงรู้สึกเคียดแค้นขึ้นมาเป็นเท่าทวี แน่นอน เขาเคย เช็คดูมาก่อนแล้วว่าจางเจ๋อหู่อยู่ในทีมเขี้ยวพยัคฆ์ “มันต้องการฆ่าเรา?”

เขานิ่งงันไป!

หลัวเฟิงรู้สึกตัวจริงๆ แล้วว่า นักสู้ไม่ได้อยู่อย่างสมัครสมาน สามัคคีกันเลย!

“จางเคอ!”

“สหายจาง!”

สมาชิกคนอื่นๆ รวมทั้งหลัวเฟิงต่างก็ปราดเข้าไปหาจางเคอ จางเคอทิ้งตัวเหยียดลงบนพื้นด้วยใบหน้าอันซีดเผือด ไหล่ขวา ของเขายับเยินจากแรงปะทะของกระสุนเจาะเกราะ แล้วแขนขวา ของเขาก็ขาดออกหลังจากนั้น แม้แต่ชุดต่อสู้ของเขายังฉีกขาดรุ่งริ่ง พลังของกระสุนร้ายแรงมาก หน้าของจางเคอซีดเผือดขณะที่ เฉินกู่พยายามห้ามเลือดเป็นพัลวัน

“เป็นเพราะฉันเอง จางเคอ นายรับกระสุนแทนฉัน!” เกาเฟิง กล่าวขณะที่ยังเอามือปิดหู

“พี่จาง” หลัวเฟิงกำหมัดแน่น ดวงตาของเขาแดงก่ำ…

พี่จางกับพี่เฉินเป็นคนชักจูงเขาให้เข้าร่วมทีมค้อนอัคคี

“แย่แล้ว!” สีหน้าของเกาเฟิงเปลี่ยนไปกะหันหัน “หนีเร็ว!”

ทีมเขี้ยวพยัคฆ์สาดกระสุนออกมาอีก 6 นัด จำนวน 2 นัดพุ่ง ตรงมายังหลัวเฟิงและเกาเฟิง ขณะที่อีก 4 นัดพุ่งตรงไปยังสัตว์ ประหลาดที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น และแล้วเหล่าสัตว์ประหลาด บริเวณนั้นก็เริ่มร้องคำรามอย่างเกรี้ยวกราด ทุกคนในทีมค้อนอัคคี เข้าใจได้ทันทีว่าพวกทีมเขี้ยวพยัคฆ์ยิงมาเพิ่มอีกทำไมถึง 4 นัด

“เลวมาก”

“พวกมันต้องการฆ่าเราทั้งหมด,,

“หนีเร็ว,,

เว่ยชิงแบกจางเคอผู้โชกเลือดขึ้นหลังแล้วทั้งกลุ่มก็เริ่มออกวิ่ง

“ครืนนน…” หมูป่าขนเหล็กฝูงใหญ่ปรากฏตัวขึ้นบนถนน ด้านหน้าพวกเขา แต่ละตัวใหญ่โตบึกบึน แล้วพวกมันก็พร้อมใจ กันพุ่งตรงมาที่ทีมค้อนอัคคี ดูเหมือนแผ่นดินจะสะเทือนเลือนลั่น ขณะที่พวกมันออกวิ่งพร้อมๆ กัน ทั้งทีมหน้าถอดสี พวกเขาจึง พยายามเปลี่ยนทิศทางหนี แต่ก็มีเสียงอึกทึกของสัตว์ใหญ่ดัง สะเทือนมาจากอีกฝั่งหนึ่งเช่นกัน

สัตว์ประหลาดจำนวนที่น่าตกใจยิ่งกว่าเดิมกำลังยกโขยงมายัง พวกเขาในอีกฝั่งหนึ่งนั้น ไม่เพียงแต่หมูป่าเขาเดียวเท่านั้น แต่ยังมี หมาสิงโตรวมอยู่ในนั้นด้วย พวกมันทั้งหมดรวมกันแล้วมีประมาณ 1,000 ตัว

“งานเข้า..”

สมาชิกทีมค้อนอัคคีหน้าซีดไปตามๆ กัน!

“ข้ามกำแพง!” เกาเฟิงตะโกนสั่ง

วูบ! วูบ! วูบ!

ทุกคนพุ่งข้ามกำแพงอันปรักหักพังไปอย่างรวดเร็ว กระสุน 4 นัดนั้นยั่วพวกสัตว์ประหลาดได้เป็นอย่างดี พวกสัตว์ประหลาดรู้แค่ ว่า….มีแต่มนุษย์เท่านั้นที่สามารถซุ่มยิงพวกมันได้แบบนี้! เมื่อพวก มันเห็นมนุษย์วิ่งข้ามกำแพง พวกมันทั้งหมดก็เข้ารวมกลุ่มกันพุ่ง ตามมาอย่างไม่มีลดละ….

“ครืนน…” พวกหมูป่าเขาเดียวก้มหัวลงแล้วก็ตรงเข้าหากำแพง กำแพงซึ่งผุพังทรุดโทรมจากแดดและลมมายาวนานจึง พังหลายลงไปอย่างง่ายดาย แล้วสัตว์ประหลาดนับพันก็กรูกันข้าม กำแพงนั่นไปได้

ทีมค้อนอัคคีหันกลับมาดูก็ต้องสีหน้าเปลี่ยนไปตามๆ กัน

“ทุกคนแยกย้าย หนีเอาตัวรอด ถ้าเราอยู่ด้วยกัน เราจะตาย กันทุกคน!” เกาเฟิงนัยน์ตาแดงก่ำตะโกนสั่งขณะที่ยังสาวเท้าไม่หยุด “ทีมเขี้ยวพยัคฆ์สารเลว ถ้าฉันเกาเฟิงรอดไปได้ ฉันจะให้ พวกแกชดใช้ให้สาสม!!!”

“ทุกคน แยกย้าย!” เว่ยเถี่ยและเว่ยชิงขบกรามแน่น

การต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดนับพัน แม้แต่ยอดฝีมือระดับแม่ทัพก็ยังหนีรอดยากเลย

“ทีมเขี้ยวพยัคฆ์จางเจ๋อหู่!” หลัวเฟิงรู้สึกได้รางๆ ว่า ที่ทีม เขี้ยวพยัคฆ์ทำเช่นนี้ก็เพราะว่าเขาทำให้จางเจ๋อหู่ต้องเสียเงิน 100 ล้านในตอนนั้น “พวกมันคงจะไม่ทำอย่างนี้โดยไร้เหตุผล? หรือ เป็นเพราะเรา..เพราะเราพี่จางเลยต้องเป็นแบบนี้?”

ความรู้สึกผิดปรากฏในใจของหลัวเฟิง รวมถึงความรู้สึกอยาก ฆ่า!!!

“จางเจ๋อหู่! ทีมเขี้ยวพยัคฆ์” สองตาของหลัวเฟิงแดงก่ำ

“หัวหน้า พี่เฉิน” หลัวเฟิงตะโกน

เสียงตะโกนทำให้ทุกคนหันมายังหลัวเฟิงอย่างตกใจ หลัวเฟิง ขบกรามแน่น “ตามผมมา! ทุกคนต้องรอด!!!”

“เฟี้ยว…”มีดบินลอยขึ้นรอบๆ ตัวของหลัวเฟิงและบิน ฉวัดเฉวียนไปมาอย่างรวดเร็ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!