Skip to content

Swallowed Star 76

ตอนที่ 76 จางเจ๋อหู่…ตาย!

ณ รุ่งสางในฤดูหนาวอันหนาวเหน็บ ซากของสัตว์ประหลาดหลายตัวบนพื้นเริ่มจะแข็งตัว หลัวเฟิงเดินไปตามถนนอย่างช้าๆ แมวเงาพิฆาต 2 ตัวกำลังขย้ำเนื้อสดๆ ของหมูป่าขนเหล็กอย่างเพลิดเพลิน แต่เมื่อพวกมันรู้ตัวว่ามีคนผ่านมา ก็ขยับหลบไปอย่างรวดเร็ว

สัตว์ประหลาดก็มีสติปัญญาเล็กน้อยเช่นกัน ในเมืองหมายเลข 003 นักสู้ที่กำลังเตร็ดเตร่อยู่ในแถบนี้ต่างก็ทรงพลังทั้งนั้น สัตว์ประหลาดระดับไพร่พลเพียงตัวสองตัวจึงไม่อาจทำอะไรพวกเขาได้เลย

“2 ตัวนั้นอาจจะไปเรียกพวกมาก็ได้”

หลัวเฟิงทะยานผ่านตรงนั้นไปอย่างรวดเร็ว จงใจเคลื่อนอ้อมพวกมันไป แล้วจากนั้นก็ค่อยๆ เคลื่อนตรงไป

…………………

ครึ่งชั่วโมงต่อมาหลัวเฟิงก็มาถึงประตูฝั่งด้านเหนือของร้านเหล้าแห่งนั้น

ประตูของร้านเหล้านั้นสกปรกมาก คราบเลือดแห้งกรังเขลอะติดเต็มไปหมด ร่องรอยน้ำฝนสาดชะล้างบางส่วนลงมาฉาบพื้นจนดูเป็นสีดำ หลัวเฟิงยืนอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง

“ครึ่งชั่วโมงแล้ว พวก 7 คนน้นน่าจะไปไกลแล้วล่ะ”

หลัวเฟิงมองดูประตูตรงหน้าเขาที่สภาพแทบจะไม่เป็นประตูแล้ว และตอนนั้นเอง เขาก็ใช้พลังจิตเพ่งไปที่ปลอกแขน โล่และดาบที่ด้านหลังของเขา ด้วยพลังมหาศาลนี้ทำให้ร่างกายของเขาเบาขึ้นอย่างมาก ทุกก้าวของเขาแผ่วเบาสุดๆ

“ชั้นบน”

เขาก้าวตามบันไดไปทีละก้าวโดยไม่ส่งเสียงแม้แต่น้อย

หลัวเฟิงระมัดระวังมาก แต่ในขณะที่เขาถึงชั้นที่ 3 หางตาของเขาก็เหลือบไปเห็นหมาพยัคฆ์ตัวหนึ่งซึ่งกำลังเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ หมาพยัคฆ์มองเห็นได้ทันทีว่ามีมนุษย์ผ่านมา! ต่างฝ่ายต่างมองเห็นกันในขณะเดียวกันหลัวเฟิงตกใจจนเกือบจะมีเหงื่อผุดออกมา!

วูบ! วูบ!

เงา 2 เงาพุ่งทะยานเข้าเสียบทะลุหมาพยัคฆ์ในทันที หัวอันใหญ่โตของมันทิ้งดิ่งลงสู่พื้นโดยไม่มีโอกาสจะได้ร้องสักแอะเดียว มีดบิน 2 เล่มบินวนมาแล้วเข้าเก็บในกระเป๋าที่ขากางเกงของเขาอย่างเป็นระเบียบ

“เฮ้อ…แล้วไป” หลัวเฟิงหายใจหายคอได้ “โชคดีที่มันไม่ร้องซะก่อน ถ้าเอะอะให้พวกนั้นได้ยิน คงจะเกิดปัญหาแน่”

ถึงแม้ว่าการฆ่าจางเจ๋อหู่กับหลีเสี่ยวนั้นจะง่ายเหมือนเชือดคอไก่ก็ตาม

แต่ถ้าพวกเขารู้ตัว พวกเขาอาจจะติดต่อไปยังคนอื่นๆ ในทีมสายฟ้าก่อนจะขาดใจตายได้…ถ้าสมาชิกคนอื่นๆ รู้ว่ามีคนจ้องเล่นงานพวกเขาอยู่ ต่อไปหลัวเฟิงก็จะทำการยากมากขึ้นอีกเป็นร้อยเท่า

“ชั้น 6!”

หลัวเฟิงยิ้มออกมาได้เมื่อขึ้นมาถึงชั้นที่ 6 โชคดีที่เขาเจอกับสัตว์ประหลาดเพียงตัวเดียวระหว่างทาง ทีมสายฟ้าจะดูลาดเลาคร่าวๆ ก่อนจะเข้ามาอยู่ที่นี่ และหมาพยัคฆ์นั่นก็อาจจะเพิ่งเข้ามาข้างในก็เป็นได้

บนทางเดินของชั้นที่ 6 หลัวเฟิงเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ

“ในห้องที่มีหน้าต่างหันไปทางทิศใต้ หน้าต่างบานที่ 8 นับจากตะวันออกไปทางตะวันตก” หลัวเฟิงไม่ค่อยแน่ใจว่าหน้าต่างบานไหนเป็นบานที่เล็งไว้

“น่าจะเป็นหนึ่งในสามหรือสี่ห้องนี้”

หลัวเฟิงกลั้นหายใจ ร่างกายอันเบาหวิวของเขาก็ไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมา เขาเดินเข้าไปในห้องหนึ่งแล้วเอาหูแนบกับผนังด้านหนึ่ง ฟังอย่างตั้งใจ อันที่จริง เขาได้ยินเสียงคุยกันเบาๆ อยู่แล้ว จึงทำให้เขารู้ว่า 2 คนนั้นอยู่ในห้องไหน จากนั้นเขาก็เดินอออกมาจากห้องอย่างเงียบๆ

“น่าจะห้องนี้แหละ” หลัวเฟิงกวาดมองเหตุการณ์ภายในห้องนั้นด้วยพลังจิต

“นั่งคุยกันในนั้นงั้นเหรอ?” หลัวเฟิงหัวเราะในใจ

………………

ภายในห้อง

จางเจ๋อหู่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาโกโรโกโสตัวหนึ่ง ส่วนหลีเสี่ยวกำลังเช็ดทำความสะอาดปืนกลอยู่ พวกเขาคุยกันอย่างไม่รู้ตัวถึงเหตุการณ์รอบข้าง

“พวกทีมค้อนอัคคีมันขี้ขลาดจริงๆ ครั้งที่แล้วที่เจอเราพวกมันวิ่งหางจุกตูดกลับฐานไปเลย ไม่แปลกหรอกที่คราวนี้เราจะหาพวกมันไม่เจอ”  จางเจ๋อหู่กล่าวเยาะเย้ย หลีเสี่ยวหัวเราะเยือกเย็น “พวกมันหนีไปได้คราวนี้ แต่คงไม่ตลอดไปหรอก พวกมันกล้าเป็นศัตรูกับเรา ก็เท่ากับว่าพวกมันตายไปแล้ว”

จางเจ๋อหู่เย้ยมาอีก “พวกมันคงคิดว่าจะสู้กับพวกเราได้สินะ? หือ?”

สีหน้าของจางเจ๋อหู่เปลี่ยนไปเล็กน้อย หลีเสี่ยวก็เช่นกัน

“ฉันรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่าง” จางเจ๋อหู่มองหน้าหลีเสี่ยว หลีเสี่ยวขมวดคิ้วพลางกล่าว “ฉันก็ว่างั้น”

เนื่องจากนักสู้จะต้องใช้ชีวิตบนความเป็นความตายอยู่เสมอ พวกเขาจะสัมผัสได้หากรู้สึกว่ามีอันตรายกำลังจะเกิดขึ้น และความรู้สึกนั้นยิ่งชัดเจนเพราะว่า…หลัวเฟิงกวาดมองห้องของพวกเขาด้วยพลังจิต เมื่อพลังจิตแผ่ออกไป คนธรรมดาอาจจะสัมผัสได้ยาก แต่สำหรับนักสู้แล้วจะพอสัมผัสพลังที่แผ่ออกมานั้นได้ตามศักยภาพของตน

“สัตว์ประหลาดงั้นเหรอ?” จางเจ๋อหู่ถามแผ่วเบา

“เป็นไปได้มาก” หลีเสี่ยวพยักหน้า “ถึงพวกเราจะกวาดล้างพวกสัตว์ประหลาดที่อยู่ในร้านนี้ไปแล้วตอนเข้ามาตอนแรก แต่ก็อาจจะมีพวกที่หลงเข้ามาใหม่ก็เป็นได้”

แอ๊ดด…!

หลีเสี่ยวคว้าหยิบปืนกลขณะที่จางเจ๋อหู่กระชับดาบอยู่ในมือ ทั้งคู่ตรงไปที่ประตู หลัวจากถูกกัดกร่อนมาหลายสิบปี กลอนประตูก็พังไปนานแล้ว ด้วยการผลักเพียงนิดเดียวจากจางเจ๋อหู่ ประตูก็เปิดออกโดยง่ายดาย ด้านนอกของประตูไม่มีทั้งเงาของมุนษย์หรือสัตว์ประหลาด

“เงียบฉี่” จางเจ๋อหู่และหลีเสี่ยวถอนหายใจ แล้วจางเจ๋อหู่ก็สูดหายใจเข้าลึกก่อนค่อยๆ ออกไปจากห้องอย่างระมัดระวัง

ขณะนั้นเอง!

วูบ! วูบ!

แสงสีดำลึกลับปรากฎขึ้นต่อหน้าจางเจ๋อหู่และหลีเสี่ยว หนึ่งในนั้นพุ่งเข้าทะลวงตัดแขนซ้ายของจางเจ๋อหู่ แขนซ้ายของเขาขาดออกทันที หลังจากที่ตัดแขนขาดไปแล้วมันไม่ช้าลงเลย กลับพุ่งทะลวงเข้าลำคอของหลีเสี่ยวอย่างรุนแรงจนหัวของเขาขาดหลุดกระเด็นออกทันที

แล้วเงาลึกลับเงาที่สองก็เจาะทะลวงเข้าคอหอยของจางเจ๋อหู่อย่างจัง!

ฉัวะ! ฉึก!

เลือดสดๆ พุ่งกระจายไปทั่ว

“อ๊อก…อ๊อก…” จางเจ๋อหู่ตาเบิกกว้าง แต่เขาไม่อาจส่งเสียงใดๆ ออกมาได้

เงาดำทั้ง 2 นั้นเคลื่อนที่เร็วมาก ระยะห่างของมันจากจางเจ๋อหู่เกรงว่าอยู่ที่ 1-2 เมตรเท่านั้นและห่างจากหลีเสี่ยว 3-4 เมตร ด้วยระยะห่างเพียงแค่นี้…และด้วยความเร็วที่มากกว่าลูกกระสุนปืนจากไรเฟิล ใครล่ะจะไปหลบได้!

บางทีระดับแม่ทัพขั้นสูงอาจจะมีโอกาสรอด แต่สำหรับพวกเขา มันไม่มีโอกาสเลยแม้แต่น้อย

“อ๊อก…” จางเจ๋อหู่ไม่อาจเปล่งสิ่งใดออกมาได้ เขาอยากจะกดนาฬิกาสื่อสาร แต่แขนซ้ายของเขาขาดออกไปแล้วและนาฬิกาสื่อสารก็ตกอยู่บนพื้น

“ฉันกำลังจะตาย? ฉัน…ฉันจะตายได้ยังไง?”

จางเจ๋อหู่จับที่คอหอยของตนด้วยแขนขวา เลือดสดๆ ทะลักออกมาจากตรงนั้นอย่างบ้าคลั่ง เขารู้ตัวว่าชีวิตเขากำลังจะหลุดลอยไป “เกิดขึ้นได้ยังไง? มันเกิดอะไรขึ้น!!!”

ทันใดนั้น…

เงาหนึ่งปรากฏขึ้นที่ประตู สวมชุดเกราะต่อสู้ รองเท้าโลหะ มีเกราะและดาบติดอยู่ด้านหลัง สายตาของเขาจ้องมาที่จางเจ๋อหู่อย่างเยือกเย็น

“อ๊อก!” จางเจ๋อหู่ตาเบิกโพลงขณะที่จ้องมองคนๆ นั้น เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่านักสู้ที่อยู่ต่อหน้าเขา!

คือหลัวเฟิง!

กลับเป็นหลัวเฟิง!

เด็กใหม่หลัวเฟิงคนที่เขาไม่เคยให้ค่าเลย!

“แกไปลงนรกก่อน เดี๋ยวเพื่อนๆ ของแกก็ตามไป” หลัวเฟิงเอ่ยนิ่งๆ ปากของจางเจ๋อหู่อ้ากว้าง แต่ลำคอของเขาเป็นรูโหว่ เขาไม่อาจส่งเสียงใดๆ ออกมาได้ และขณะที่สายตาของเขาเริ่มพร่ามัว เงาดำทั้งสองเงาก็บินกลับมาหาหลัวเฟิงและโฉบไปมาต่อหน้าเขา พวกมันคือมีดปา

มีดปาทั้ง 2 เล่มบินโฉบไปมาอยู่อย่างนั้น และสุดท้ายก็ค่อยเข้าไปเก็บที่กระเป๋าต้นขาของหลัวเฟิง

“อ๊าก…อ๊าก!” จางเจ๋อหู่ตาเบิกกว้างขึ้นไปอีกราวกับอยากจะเปล่งคำใดออกมา แต่ร่างกายของเขาแข็งค้างไปหมด และแล้วเขาก็ขาดใจตายอยู่ตรงนั้น

ก่อนที่จะตาย…

ในที่สุดเขาก็ได้รู้ความลับอันยิ่งใหญ่ของหลัวเฟิง…หลัวเฟิงเป็นนักอ่านจิต!!! ก่อนสิ้นลมหายใจเขายังได้เห็นภาพของนรกที่รอเพื่อนๆ ในทีมของเขาอยู่อีกด้วย

เงียบสนิท!

มีเพียงเสียงของเลือดสดๆ ที่หยดลงใส่พื้นและเปรอะไปทั่วทั้งห้อง ไม่มีเสียงใดๆ อีก ทั้ง 2 ร่างนอนเหยียดอยู่บนพื้น และหลัวเฟิงก็ยืนดูอยู่เงียบๆ

“จางเจ๋อหู่” หลัวเฟิงก้มลงมองไปยังบุคคลที่อยู่ต่อหน้าเขา

ตั้งแต่แรกเริ่ม จางเจ๋อหู่คิดว่าตัวเองเป็นนักสู้โชกโชน ส่วนหลัวเฟิงเป็นแค่เด็กใหม่ ดังนั้น เขาจึงไม่มีเหตุให้ต้องยอมก้มหัวให้กับหลัวเฟิงในตอนที่เจรจาเรื่องจางฮ่าวไป๋ และหลังจากนั้นพลังจิตของหลัวเฟิงก็ตื่นขึ้น

ข้อขัดแย้งตอนนั้นเป็นเพียงกรณีเล็กๆ

ถ้าต้องการเหตุผล ก็จงโทษตอนที่ทีมเขี้ยวพยัคฆ์พยายามจะฆ่าทุกคนในทีมค้อนอัคคี โชคดีที่หลัวเฟิงช่วยชีวิตทุกคนเอาไว้ได้ แต่กระนั้น จางเคอก็ยังถึงกับต้องเสียแขนของเขาไป

ด้วยเหตุนี้ทีมค้อนอัคคีจึงสัญญาที่จะแก้แค้น

ทีมเขี้ยวพยัคฆ์กลัวว่าศัตรูของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นอยู่เหมือนกัน ดังนั้น พวกเขาจึงพยายามจะกำจัดศัตรูของพวกเขาอยู่เช่นกัน! ทั้ง 2 ทีมไม่อาจชะล่าใจอะไรได้เลยหากอีกฝ่ายไม่สูญสิ้นไป!

“จางเจ๋อหู่กับหลีเสี่ยวตายไปแล้ว ยังเหลืออีก 4 จาก 6 คนสินะ” หลัวเฟิงยืนนิ่งคิดอยู่กับตัวเอง “เมื่อพวกเขากลับมาและรู้ว่า 2 คนนี้ถูกฆ่า พวกเขาจะต้องระแวดระวังสุดๆ และหาทางป้องกันทุกวิถีทางแน่! ถ้าอย่างนั้น…เราคงจะต้องจัดฉากซักหน่อยแล้ว จะได้ไม่ได้ผลยังไงก็คงขึ้นอยู่กับสวรรค์กำหนดแล้วล่ะงานนี้”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!