ตอนที่ 79 โอกาสทอง
หญิงวัยกลางคนกล่าวอย่างร้อนใจ “อย่าเพิ่งโกรธสิ โกรธไปก็คงไม่มีประโยชน์อะไรหรอก คุณมีลูกสาวคนเดียวนะ จะทำยังไงได้อีกล่ะ? ที่สำคัญที่สุด เราควรคิดเรื่องแยกเธอออกจากหนุ่มพิการนั่น แต่ก็ต้องพยายามไม่ให้เธอเสียความรู้สึกด้วย”
“ฉันเข้าใจ”
ชายวัยกลางคนทำคิ้วขมวดขณะที่พ่นควันบุหรี่ออกมา
ควันจากบุหรี่คลุ้งไปทั่วทั้งห้อง และห้องก็ยังคงเงียบกริบ มีแต่เสียง ติ๊ก…ต๊อกๆ จากนาฬิกาดังแว่วให้ได้ยินอยู่ตลอด
…………..
เช้าวันรุ่งขึ้น ในเมืองหมายเลข 003 อันหนาวเหน็บจับใจ และเต็มไปด้วยเสียงร้องของสัตว์ประหลาดต่างๆ ถ้าจะบอกว่านครเจียงหนานคือนครที่เจริญรุ่งเรื่องมีชีวิตชีวา เช่นนั้นเมืองนี้ที่เคยเป็นเมืองยิ่งใหญ่ที่สุดของจีนในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา บัดนี้ก็ลายเป็นดินแดนของสัตว์ประหลาดไปเสียแล้ว ที่นี่สามารถเห็นคราบเลือดและซากศพที่กลาดเกลื่อนอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งได้เป็นปกติ
ที่นี่คือรังของพวกสัตว์ประหลาดดีๆ นี่เอง!
ภายในอพาร์ทเมนต์สูง 18 ชั้นอันเต็มไปด้วยฝุ่น หลัวเฟิงในชุดต่อสู้กำลังถือกล้องส่องทางไกลด้วยมือข้างเดียมมองลงไปยังด้านล่างและอีกมือหนึ่งก็ถืออาหารยัดใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ อยู่
เขาเคี้ยว…และกลืน…
ในห้องนั้นเงียบสนิท ได้ยินแต่เสียงเคี้ยวของหลัวเฟิงดังกรุบกรับ
“อึก…อึก…” หลัวเฟิงหยิบถุงน้ำขึ้นมาดื่ม
หลัวเฟิงไม่ได้นำอาหารและน้ำเข้ามาในแดนเถื่อนมากนัก ดังนั้น เขาจึงต้องคอยประหยัดกินประหยัดใช้ในทุกๆ วัน
“พวกมันออกไปพร้อมกันหมดอีกแล้ว!” หลัวเฟิงมองผ่านกล้องส่องทางไกลและเห็นได้อย่างชัดเจนว่าทั้ง 7 คนนั้นออกไปจากอพาร์ทเมนต์สูง 6 ชั้นพร้อมกันทั้งหมดท่ามกลางสายหมอกยามเช้าตรู่ หลัวเฟิงขมวดคิ้วขณะปากล้องส่องทางไกลของเขาใส่เตียงนอนที่อยู่ด้านข้างอย่างเคืองๆ
หลัวเฟิงนวดขมับตัวเอง เขาใช้เวลาตลอดทั้งวันในการก้มหน้าก้มตาสังเกตการณ์ แววตาของเขาแสดงอาการเหนื่อยล้าสุดๆ
“พวกมัน 7 คนไปด้วยกันอีกแล้ว ไม่เปิดโอกาสให้เราเลยสักนิด” หลัวเฟิงขมวดคิ้ว “ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ต้องรอจนเด็กหนุ่มลูกครึ่งนั้นฝึกเสร็จแน่ ถ้าเป็นแบบนั้น เราจะมัวเสียเวลาอยู่อย่างนี้ไม่ได้หรอกนะ! ทำไงดี?”
หลัวเฟิงเริ่มคิดอย่างรวดเร็ว เขาไม่มีแม้แต่โอกาสจะโจมตีเลย
เขาจะทำแค่รอต่อไปจริงๆ เหรอ?
“ไม่มีโอกาสเลย”
หลัวเฟิงทำตาลุกวาวแล้วขบกรามแน่น “ในเมื่อไม่มีโอกาส งั้นเราก็ต้องสร้างโอกาสเอง! พวกมันคงไม่ไปด้วยกันตลอดหรอกมั้ง? เราจะต้องแยกพวกมันออกจากกัน!”
หลัวเฟิงปิดปากถุงน้ำหลังจากที่ดื่มเสร็จ
……………..
ราวๆ 3 ชั่วโมงต่อมา สมาชิกทั้ง 7 คนของทีมสายฟ้าค่อยๆ เคลื่อนที่ผ่านรังของสัตว์ประหลาด บางครั้งพวกเขาก็เคลื่อนไปข้างหน้า บางครั้งก็หลบซ่อน และในที่สุดพวกเขาก็ไปถึงอพาร์ทเมนต์สูง 6 ชั้นอันเป็นที่พักของพวกเขา
“ได้เวลาแล้ว!”
หลัวเฟิงซึ่งมีอาวุธพร้อมมือยิ้มออกมาเล็กน้อยพลางพรวดพราดออกจากห้องแล้ววิ่งลงไปชั้นล่างราวกับลิง หลัวเฟิงไม่อาจจะประมาทได้เมื่อออกมาด้านนอก เขาจึงค่อยๆ เคลื่อนที่ไปข้างหน้าพร้อมกับกวาดสายตาหาพื้นที่ว่าง
การหลีกเลี่ยงสัตว์ประหลาดนั้นยาก แต่การหาพวกมันนั้นง่ายมาก!
15 นาทีต่อมา หลัวเฟิงก็มาถึงแหล่งฝูงสัตว์ประหลาดประเภทหมาฝูงหนึ่งที่มีจำนวนราวๆ 2,000-3,000 ตัวได้ ฝูงพวกมันอาศัยอยู่ในโรงงานขนาดใหญ่ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน โดยปกติแล้วนักสู้จะไม่แม้แต่พยายามจะต่อกรกับฝูงขนาดนี้ เพราะฝูงสัตว์ประหลาดจำนวน 2,000-3,000 ตัวนั้นถือว่ามากเกินจะรับมือ
“วู้ว…”
เสียงโหยหวนของฝูงขนาดใหญ่ดังก้องไปทั่วทั้งโรงงาน และกลิ่นฉี่ของพวกมันก็เหม็นคละคลุ้งทั่วไปหมด
“จิ๊ๆ…ฝูงใหญ่มากจริงๆ” หลัวเฟิงมองผ่านช่องของกำแพง “เอาล่ะ!”
อึดใจต่อมา…
“แฮ่…”
“โฮ่ว์…”
พวกสัตว์ประหลาดขู่คำรามอย่างบ้าคลั่ง การตายของพวกมันราวสิบกว่าตัวเป็นเหตุให้ฝูงของพวกมันเริ่มโกรธแค้น พวกมันไม่เคยถูกท้าทายเช่นนี้มาก่อน ตัวหัวหน้าฝูงและหมาสิงโตระดับบัญชาการอีก 2 ตัวคำรามลั่นออกมา และแล้วทั้งฝูงก็เริ่มออกไล่กวดตามหลัวเฟิง
“ไล่มาเร็วจริง!”
ทันใดนั้น โล่ที่ด้านหลังของหลัวเฟิงก็พาหลัวเฟิงบินขึ้นไปราวกับพายุเพราะพลังจิตของเขา
ครืนนนน…
พวกหมาพยัคฆ์เข้าสมทบกับฝูงหมาสิงโต หมาพยัคฆ์วิ่งเร็วพอๆ กับหมาสิงโต พวกมันต่างก็ไล่หลังของหลัวเฟิงมาติดๆ พวกที่วิ่งนำฝูงมามีความเร็วถึง 70-80 เมตรต่อวินาทีทีเดียว! ภายใต้ความเร็วอันน่าทึ่งนี้ พวกมันจะไปถึงตึก 6 ชั้นซึ่งอยู่ห่างจากโรงงานนี้ 4 ไมล์ในเวลาเพียง 30 วินาทีเท่านั้น!
เพียง 30 วินาที!
และหลัวเฟิงก็พุ่งตรงไปยังตึกสูง 6 ชั้นที่อยู่ของทีมสายฟ้าด้วยความเร็วปานแสง
…………….
ภายในห้องขนาดใหญ่ห้องหนึ่งบนชั้นที่ 6 ของตึกหลังนั้น สมาชิกทั้ง 7 คนของทีมสายฟ้ากำลังพักผ่อนกันอยู่ ความจริงก็คือ เมื่อสัตว์ประหลาดทั้งฝูงร้องคำรามและไล่กวดหลัวเฟิงมา สมาชิกทั้ง 7 คนของทีมสายฟ้ากลับไม่รู้สึกเอะใจแต่อย่างใด…ด้วยสาเหตุที่ว่า ไม่มีที่ไหนในเมืองนี้ไม่มีเสียงร้องของสัตว์ประหลาดในระยะ 4 ไมล์อยู่แล้ว
แต่หลังจากนั้นราว 10 วินามี
“ดูเหมือนจะมีการต่อสู้ใหญ่ทางฝั่งตะวันออกของเรานะ” ชายตาเดียวเอ่ยขึ้น
“ใครสนล่ะ ในเมืองนี้การต่อสู้แบบนี้ก็มีเป็นประจำอยู่แล้ว ตอนนี้ นักสู้อาจจะปะทะกับฝูงสัตว์ประหลาดอยู่ก็ได้” หัวหน้าทีมเขี้ยวพยัคฆ์ ‘พานย่า’ ยังคงสงบนิ่ง เพราะเขามีประสบการในการต่อสู้มานับสิบปี เขาต้องเจอกับสถานการณ์แบบนี้นับครั้งไม่ถ้วนอยู่แล้ว
เพียงแต่ช่วงเวลาที่คุยกันสั้นๆ นั้น
“พวกมันดูจะเข้ามาใกล้เราเต็มทีแล้วนะ!”
“ตึกเริ่มสั่นแล้วด้วย”
ทันใดนั้น สมาชิกทั้ง 7 คนของทีมสายฟ้าต่างก็รีบพุ่งไปที่หน้าต่างทางทิศเหนือแล้วมองลงไปข้างล่าง พวกเขาก็ได้เห็นฝูงสัตว์ประหลาดประเภทหมาไหลเข้าประชิดประตูทางเข้าของตึก 6 ชั้นนั้นแล้ว ในวินาทีนั้นเอง ตึกทั้งตึกก็สั่นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหว และเสียงขู่คำรามของสัตว์ประหลาดก็ดังสนั่นกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณ
“ตูมมม!” ประตูห้องพักที่ทั้ง 7 คนของทีมสายฟ้าอยู่ถูกระเบิดกระจุย
พวกหมาสิงโตพร้อมร่างกายอันใหญ่โตขนาดรถ SUV หลั่งไหลเข้าไปในห้องนั้นอย่างไม่ขาดสาย ไม่เพียงแต่ประตูเท่านั้นที่แตกกระจาย แต่บัดนี้ฝาผนังก็เริ่มปริแตกออกมาให้เห็นแล้ว ฝูงสัตว์ประหลาดนับพันตัวที่หลั่งไหลกันเข้ามาในตึกเรื่อยๆ ราวกับว่าจะทำให้ตึกนั่นถล่มลงในวินาทีใดก็ได้
ด้านอกของตึกนั้นก็ถูกแวดล้อมด้วยฝูงหมาสิงโตอีกนับพันๆ ตัว พวกหมาสิงโตพวกนี้ไม่สามารถเข้าไปในตึกได้ ดังนั้นพวกมันจึงคอยล้อมตึกเอาไว้ทั่ว ถ้าสามารถนึกภาพรถ SUV ขนาดใหญ่จอดล้อมตึกนี้เอาไว้ ก็จะสามารถนึกถึงภาพน่าสะพรึงของสัตว์ประหลาดที่กำลังล้อมตึกนี้เอาไว้ได้
“เกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย!!!” เด็กหนุ่มลูกครึ่งคำรามลั่นด้วยสีหน้าอันซีดเผือด
เป็นใครก็ต้องหวาดกลัวหากต้องมาอยู่ในตึกที่สั่นสะเทือนและกำลังจะถล่ม จำนวนมหาศาลของสัตว์ประหลาดที่หลั่งไหลเข้ามาในห้องและอีกมหาศาลที่ล้อมรออยู่ด้านล่าง
“คุ้มกันคุณชาย! ทีมเขี้ยวพยัคฆ์ป้องกันด้านหลัง!” นักสู้ชราแซ่หลิวคำรามลั่น
“ปังๆๆๆๆ…”
ตงจื่อมือปืนกลสาดกระสุดอย่างบ้าคลั่ง กระสุนพลังสูงพุ่งเข้าปะทะกับร่างของพวกหมาสิงโตอย่างไม่ปรานี พวกสัตว์ประหลาดที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วแม้จะโดนกระสุนแต่พวกมันก็ไม่ได้หยุดพุ่งเข้ามาแต่อย่างใด ชายหัวล้าน ชายตาเดียวและหัวหน้าพานย่าต่างก็ใช้ดาบและอาวุธคู่กายเข้าฟาดฟันกับฝูงสัตว์ประหลาดที่ไหลเข้ามาปานน้ำป่าไหลหลาก
“เพล้ง!”
“เพล้ง!”
“เพล้ง!”
นักสู้ชราแซ่หลิวกับนักสู้ผิวขาวหน้าเหี้ยมคว้าตัวเด็กหนุ่มแล้วพากระโดดออกจากหน้าต่าง
“ไปเร็ว!” หัวหน้าทีมเขี้ยวพยัคฆ์คำรามลั่นและกระโดดตามออกไปทางหน้าต่างทันที
“ตงจื่อเร็วเข้า!” ชายตาเดียวตะโกน
เมื่อเปรียบเทียบสมรรถภาพร่างกาย มือปืนเป็นผู้ที่อ่อนแอที่สุด มือปืนตงจื่อขบกรามแน่นขณะที่กระโดดออกทางหน้าต่าง สุดท้าย ชายตาเดียวกับชายหัวล้านก็กระโดดตามออกไป ถึงแม้ว่าแม่ทัพขั้นต้นจะถือของหนักถึงกว่าร้อยกิโลกรัม แต่พวกเขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บจากการกระโดดลงจากตึกสูง 6 ชั้นแต่อย่างใด
แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่รอพวกเขาอยู่ด้านล่างไม่ใช่แค่พื้นเรียบๆ แต่มันคือสัตว์ประหลาดนับพันๆ ตัว!
กำแพงของชั้นที่ 2 ของตึกเริ่มแตกร้าวออกเป็นชิ้นๆ และหลัวเฟิงก็กำลังซ่อนตัวอยู่ตรงมุมของชั้นที่ 2 นั้น!
ตอนหลัวเฟิงวิ่งเข้ามาในห้องนี้ เขาใช้พลังจิตควบคุมกำแพงคอนกรีต โต๊ะหิน และอื่นๆ มาบังห้องน้ำที่เขาซ่อนตัวอยู่ และเขายังพังเพดานชั้น 3 ลงมา ห้องนี้ก็กลายเป็นซากปรักหักพังไปในทันที ดังนั้น แม้สัตว์ประหลาดจะพุ่งเข้ามาก็จะไม่พบตัวหลัวเฟิง
หลังจากนั้น พวกสัตว์ประหลาดก็มองเห็นทีมสายฟ้าบนชั้นที่ 6 จึงพุ่งตรงเข้าไปหาพวกเขา
หลัวเฟิงยืนอยู่ที่ข้างหน้าต่างของห้องน้ำ เขาจ้องออกไปและได้ยินอย่างชัดเจน
“พวกมันต่อสู้แล้ว!” หลัวเฟิงได้ยินเสียงสับสนวุ่นวายมาจากชั้นที่ 6
หลังจากนั้น เงา 3 เงาก็พุ่งลงมาจากด้านบน
“โดดลงไปแล้ว” หลัวเฟิงตาเป็นประกายแล้วมีดบินสีดำ 2 เล่มก็ออกบินโฉบอยู่ข้างๆ เขา