Skip to content

Swallowed Star 89

ตอนที่ 89 คุนซาน…คือที่ไหน?

บัดนี้เงา 2 เงากำลังยืนอยู่บนดาดฟ้าอันยับเยินของคาร์ฟูร์ 2 เงานี้คือดาบเงาหวังหง และหมียักษ์หลี่ค่าน

“พี่หวัง ไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกเราจะเสียเปรียบ” เสียงของหลี่ค่านทุ้มต่ำมาก “มังกรตัวนั้นเพิ่งจะวางไข่ต้องมีมือดีมาขโมยไข่ของมันตอนที่พวกเราต่อสู้กับมันอยู่แน่ๆ มันถึงรีบวิ่งมานี่อย่างบ้าคลั่งแบบนั้น!”

“อย่างที่เห็น…บริเวณนี้ว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย” หวังหงพยักหน้า

เมื่อพวกเขามาถึง พวกเขาก็ตรวจสอบพื้นที่ไปรอบๆ

สำหรับกลุ่มของสัตว์ประหลาดระดับบัญชาการที่เฝ้าอยู่ พวกมันสามารถฆ่าเทพสงครามขั้นต่ำได้อย่างง่ายดายและเทพสงครามขั้นสูงอย่างน้อยๆ ก็ต้องได้รับบาดเจ็บไป…

แต่อย่างไรก็ตาม! สำหรับเทพสงครามขั้นสูงอย่างหวังหง กลุ่มที่เฝ้ารังอยู่นี้แทบจะกลายเป็นผงไปในทันทีที่หวังหงกับหลี่ค่านเข้ามาถึง

“คนๆ นี้…มันหน้าไม่อายจริงๆ” หลี่ค่านกล่าวเสียงหนัก

หวังหงหัวเราะ “มันหน้าไม่อายอยู่หรอก! แต่หนีรอดจากการโจมตีของฝูงสัตว์ประหลาดระดับบัญชาการและขโมยไข่หนีไปได้ ทักษะแบบนี้…อย่างน้อยๆ คนๆ นั้นก็น่าจะอยู่ในระดับเทพสงครามขั้นกลาง! แต่ว่าเทพสงครามขั้นกลางมีวิธีมากมายที่จะทำเงินได้ แล้วเขาจะมาขโมยไข่มังกรเพื่ออะไร?”

ไข่มังกรมีมูลค่าสูง แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเปรียบเทียบกับอะไร! ยกตัวอย่างเช่น ระหว่างไข่มังกรกับชุดต่อสู้ระดับ SS ความแตกต่างก็มีมหาศาล

ถ้าไข่มังกรใบนี้ฟักออกมา มันจะกลายเป็นมังกรเกราะเหล็กตัวเล็ก และเมื่อมันโตขึ้นอีกหน่อยโดยส่วนใหญ่ก็จะกลายเป็นระดับจ่าฝูงขั้นต้น หลังจากผ่านการต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่ามันก็จะโตขึ้นและพัฒนาขึ้น…แต่จะแข็งแกร่งกว่าพ่อกับแม่นั้นก็ไม่เสมอไป

ยกตัวอย่างเช่น ลูกๆ ของนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ‘อาจารย์หง’ ก็ยากจะไล่ตามความแข็งแกร่งของ ‘อาจารย์หง’ ได้ทัน

ตัวโตเต็มวัยของมังกรเกราะเหล็กธรรมดา หรือกล่าวอีกอย่างคือ มังกรเกราะเหล็กระดับจ่าฝูงขั้นต่ำจะมีมูลค่าราวๆ 3 พันล้าน

และเพราะไข่มังกรที่ยังไม่ฟักนั้นหายากมาก พวกมันจึงมีค่ายิ่งกว่ามังกรตัวโตเต็มวัยเสียอีก แต่พวกมันก็จะมีมูลค่าอยู่ราวๆ 5 พันล้านหยวน ถึงจำนวน 5 พันล้านจะดูมากก็จริง แต่สำหรับเทพสงครามขั้นกลางนั้น เขาสามารถใช้พลังของตัวเองล่าระดับจ่าฝูงได้จำนวนมากอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นที่เขาจะต้องมาขโมยไข่มังกรแบบนี้

ซึ่งนี่ทำให้หวังหงและหลี่ค่านไม่ได้รู้สึกเสียดายอะไรนัก พวกเขาก็แค่รู้สึกว่าคนที่ขโมยไข่นี้มันหน้าไม่อาย!

“เทพสงครามขั้นกลางชุบมือเปิดเรางั้นเหรอ” หลี่ค่านส่ายหัว

“เอาล่ะ ช่างมัน มังกรตัวนั้นได้รับบาดเจ็บหนักและก็ยังฝืนวิ่งมาที่นี่สุดชีวิต ตอนนี้มันต้องแย่ลงไปมากแน่” หวังหงหัวเราะ “เป้าหมายของเราก็คือจัดการกับมังกรจ่าฝูงตัวนั้น อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้”

“ไปเถอะ…” หลี่ค่านพยักหน้า

สัตว์ประหลาดระดับจ่าฝูงขั้นต่ำมีมูลค่าราวๆ 500 ล้านถึง 3 พันล้าน เนื่องจากพวกมันมีสายพันธุ์ที่แตกต่างหลากหลาย ราคาจึงแตกต่างกันค่อนข้างมากและมังกรเกราะเหล็กก็มีมูลค่าถึง 3 พันล้าน

สัตว์ประหลาดระดับจ่าฝูงขั้นกลางมีมูลค่าราวๆ 1.5-9 พันล้าน

สัตว์ประหลาดระดับจ่าฝูงขั้นสูงจะมีมูลค่าราวๆ 5 พันล้านถึง 2 หมื่นล้านเลยทีเดียว

พวกสัตว์ประหลาดระดับจ่าฝูงโดยส่วนใหญ่จะอยู่ในขอบเขตนี้ แน่นอน มันอาจมีพวกที่นอกเหนือจากนี้จำพวกที่หาได้ยากมากๆ ย่อมไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ

จ่าฝูงขั้นสูงตัวนี้มูลค่าน่าจะราวๆ 18,000 ล้าน แต่น่าเสียดาย มีเทพสงครามขั้นสูงเพียงส่วนน้อยมากๆ เท่านั้นที่สามารถล่ามังกรเกราะเหล็กระดับจ่าฝูงขั้นสูงได้ แน่นอน นี่ไม่ได้รวมถึงพวกที่เหนือกว่าเทพสงครามขึ้นไป

………….

บนพื้นที่ราบใกล้กับชายแดนของเมืองหมายเลข 003 สมาชิก 4 คนของทีมสายฟ้าตอนนี้กำลังพักผ่อนกันอยู่ที่ห้องๆ หนึ่งบนชั้นที่ 8 ของตึกขนาด 8 ชั้นแห่งหนึ่ง

หวังหงกับหลี่ค่านบอกพวกเขาให้ออกจากเมืองและเดินทางไปตามถนนหลวง เพราะว่าเป็นเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งๆ ที่สมาชิกทีมสายฟ้าพากันอยากรู้อยากเห็นการต่อสู้ของเทพสงคราม 2 คนนั้นกับมังกรเกราะเหล็กระดับจ่าฝูงขั้นสูง ดังนั้น พวกเขาจึงตัดสินใจซ่อนตัวอยู่แถวรอบนอกของเมือง จากที่นี่ พวกเขาสามารถหลบหนีได้ทันทีที่รู้สึกถึงอันตรายที่เข้ามาใกล้

“ครืนน…”

ด้วยรัศมี 10 ไมล์ของเมือง เสียงคำรามของสัตว์ประหลาดนับพันๆ ตัวดังก้องไปทั่วท้องฟ้า

“มังกรตัวนั้นคงจะคลั่งแล้วเรียกหาสมุนนับพันของมัน ตอนนี้มันคงจะเต็มทีแล้ว” นักสู้ชราหัวเราะ “คุณหวังนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ สามารถทำให้มังกรเกราะเหล็กต้องใช้ลูกไม้นี้ได้”

“ใช่ สมกับที่เป็นดาบเงา” หัวหน้าทีมเขี้ยวพยัคฆ์พานย่าพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

ถึงแม้พวกเขาจะอยู่รอบนอกสุดของเมืองและไม่ได้แน่ใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองมากนัก แต่ยังไงพวกเขาก็สามารถเดาได้จากเสียงร้องที่พวกเขาได้ยิน

“ฝูงสัตว์ประหลาดมหาศาล สังสัยจริงๆ ว่ามันเป็นยังไง” ตาของเด็กหนุ่มลูกครึ่งหลี่เวยเป็นประกาย

“คุณชาย ถึงฝูงสัตว์ประหลาดพวกนั้นจะอยู่ห่างออกไปหลายสิบไมล์ แต่ยังไงพวกเราก็ควรรีบหนีออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ พวกเราไม่อาจจะรู้ได้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นในเหตุการณ์เช่นนี้” นักสู้ชราหัวเราะ นักสู้ผิวขาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็หันมามองที่เด็กหนุ่มเช่นกัน เด็กหนุ่มเห็นดังนั้นก็พยักหน้า “ก็ได้ครับ ออกจากที่นี่แล้วกลับเข้าหัวเมืองกันเถอะ”

หลังจากนั้น สมาชิกทั้ง 4 คนของทีมสายฟ้าก็ออกเดินทางไปที่ถนนหลวง พวกเขามุ่งหน้าออกจากเมืองหมายเลข 003 ไป

………

ในเขตเล็กๆ…

หลัวเฟิงกำลังเดินไปมาอยู่ภายในลานจอดรถชั้นใต้ดิน

ลานจอดรถชั้นใต้ดินนี้ค่อนข้างกว้างใหญ่ ชั้นใต้ดินสำคัญๆ ของตึกส่วนใหญ่ในเขตนี้ต่างก็เชื่อมต่อกับลานจอดรถชั้นใต้ดินแห่งนี้…ด้วยเหตุนี้ บรรดาเจ้าของอพาร์ทเมนต์ต่างก็สามารถลงมาที่ชั้นใต้ดินและเข้ามาเอารถของพวกเขาในลานจอดรถแห่งนี้ได้

แผนผังนี้ช่วยอำนวยความสะดวกให้บรรดาเจ้าของได้อย่างดี

“ฮ่าๆๆ บังเอิญจริงๆ! ไม่อยากเชื่อเลยว่าตึกพวกนี้จะเชื่อมต่อกัน”

หลัวเฟิงปามีดของเขานำหน้าไปก่อน จากนั้นเขาก็เข้าไปในชั้นใต้ดินของตึกที่เชื่อมต่อกัน

ชั้นใต้ดินของตึกนี้แบ่งเป็นห้องบิลเลียด ห้องดนตรี พื้นที่บาร์ เป็นต้น

“พวกเขารู้จักหาความสุขกันจริงๆ” หลัวเฟิงหัวเราะพลางค่อยๆ ไต่ขึ้นบันไดมุ่งหน้าขึ้นไปบนชั้นแรกของตึกหลังนั้น…

เขาเข้ามาแอบซ่อนตัวอยู่ที่หน้าต่างทางด้านเหนือของห้องนั่งเล่นบนชั้นแรกของตึกนั้น และเฝ้าสังเกตดูสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นด้านนอก

หางใหญ่ยักษ์สีเขียวเข้มที่กำลังตวัดไปมาของมังกรเกราะเหล็กสามารถมองเห็นได้ในระยะร้อยเมตรห่างออกไป เกล็ดสีเขียวเข้มของหางมันดูมันระยับน่ากลัวภายใต้แสงดวงตะวันแห่งฤดูหนาว สำหรับส่วนอื่นๆ ของร่างกายมันถูกบดบังโดยตึกสูง

“มังกรตัวนี้ฉลาดไม่ใช่เล่น มันอาจจะคิดว่าเรากำลังซ่อนตัวอยู่ภายในเขตนี้ มันเลยกำลังสอดส่ายสายตาหาเราแน่”

หลัวเฟิงหัวเราะขณะที่กำลังเดินขึ้นไปบนชั้น 3 เขาก้มตัวลงต่ำเพื่อไม่ให้มังกรเกราะเหล็กมองผ่านหน้าต่างมาเห็นเขา…

ยังดีที่ว่า บรรดาหน้าต่างของตึกในแดนเถื่อนต่างหนาเตอะไปด้วยฝุ่น หลังจากหลายสิบปีที่ถูกทิ้งร้าง

ชั้นที่ 3 ในห้องนอนห้องหนึ่ง

หลัวเฟิงมองผ่านหน้าต่างห้องนอนอย่างระมัดระวังและมองหาทางเข้าสถานีใต้ดินที่เขาเหลือบเห็นตอนที่ลอยผ่านก่อนหน้านี้

“ฮึ่มมม…อยู่นั่นเอง!” หลัวเฟิงค้นพบโดยเร็ว ทางเข้าสถานีใต้ดินทางหนึ่งอยู่ทางด้านนอกของเขต

เขาดูจากขนาดของลานจอดรถชั้นใต้ดินและพื้นที่ของเขตเพื่อคำนวณ…

หลัวเฟิงคำนวณทางที่ใกล้ที่สุดเพื่อไปที่นั่น!

“เอาอย่างนี้ละกัน!”

หลัวเฟิงค่อยๆ ไต่ลงบันไดอย่างระมัดระวังและลงไปที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินตามที่เขาจำได้ เขารีบวิ่งไปที่มุมของลานจอดรถนั้นอย่างรวดเร็ว!

“จากที่นี่ เราจะต้องเจาะตรงเข้าไป และเราน่าจะเข้าไปในสถานีใต้ดินนั้นได้ในระยะ 30 เมตร”

ถึงแม้ว่าระยะทางจะค่อนข้างห่าง แต่นี่ก็เป็นทางที่ใกล้ที่สุดแล้ว

“เจาะไงดีเรา?”

หลัวเฟิงมองไปรอบๆ และก็เห็นรถฝุ่นเขลอะที่จอดเกลี่ยนกลาดอยู่ในลานจอดนั้น

“รู้แล้ว!” หลัวเฟิงยิ้มเล็กน้อย

ด้วยความคิดนั้น มีดปาของเขาก็บินโฉบออกมาทันที เขาตัดฝากระโปรงหน้ารถ 2 คันออกโดยไม่เกิดเสียงแม้แต่น้อย ด้วยการใช้พลังจิตควบคุม…ฝากระโปรงรถ 2 อันนั้นก็ม้วนตัวต่อกันเป็นรูปกรวยแหลม! แล้วหลัวเฟิงก็เข้าไปนอนอยู่ข้างในกรวยแหลมนั้น

“ไป!”

ภายใต้พลังจิตของเขา มีดปาของเขาได้เปิดช่องขนาดใหญ่ของคอนกรีตหนาตรงกำแพงลานจอดรถชั้นใต้ดินนั้น แล้วกรวยเหล็กอันนั้นก็ลอยขึ้นและบินทะลุเข้าไปในดิน!

ครืดดด…

สถานีใต้ดินอันเต็มไปด้วยฝุ่น และกำแพงด้านหนึ่งของมันเกิดเสียง ครืน…

ช่องโหว่ขนาดหนึ่งเมตรระเบิดออก แผ่นคอนกรีตแตกกระจายหล่นลงเกลื่อนพื้น ปลายแหลมของกรวยเริ่มทะลุออกมาก่อน จากนั้นเงาหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ด้านใจก็ม้วนตัวออกมาจากกรวยนั้นแล้วกลิ้งลงมาบนพื้น

“ถึงแม้ว่าการเจาะมาแบบนี้จะช้ากว่าที่พวกสัตว์ประหลาดสามารถเจาะได้ แต่ก็ยังถือว่าเร็วมากแล้วสำหรับนักสู้ที่เป็นมนุษย์”

เนื้อตัวของหลัวเฟิงค่อนข้างจะสะอาดสะอ้านดี

ภายในสถานีใต้ดิน…ชัดเจนว่ามันถูกทิ้งร้างมานานมาก

หลัวเฟิงสังเกตเห็นแผนที่ของสถานีใต้ดินที่ติดอยู่ เขาปัดฝุ่นหนาเตอะที่อยู่บนกระจกครอบแผนที่นั้น เขาเข้าไปมองดูใกล้ๆ “ฮึ่มมม…ถ้าเราตามอุโมงค์นี้ไป เราก็จะไปถึงเมืองคุนซาน? เมืองคุนซาน…ที่ไหนเนี่ย?”

ผู้คนรุ่นใหม่ต่างก็ลืมเลือนชื่อเมืองส่วนใหญ่ในช่วงก่อนยุคมหานิพพานไปแล้ว

แม้แต่หลัวเฟิงก็ยังจำได้เฉพาะชื่อเมืองดังๆ เท่านั้น เช่น เซี่ยงไฮ้ นานกิง ซูโจว หางโจว…

คุนซาน? ใครจะรู้ว่าจะไปโผล่ที่ไหน อีกอย่างไม่รู้ว่าคุนซานนั่นจะเป็นส่วนหนึ่งของเซี่ยงไฮ้หรือเปล่า

“อืม ทางนี้ล่ะ” หลัวเฟิงเดินไปที่ช่องทางเส้นหนึ่งมันเป็นช่องที่รถไฟวิ่ง แล้วเขาก็กระโดดเข้าไปที่ช่องนั้น จากนั้นออกวิ่งมุ่งหน้าไปยังเมือง ‘คุนซาน’ อย่างรวดเร็ว

เป็นที่แน่นอนว่ายังคงมีสัตว์ประหลาดที่อาศัยอยู่ในสถานีใต้ดินอยู่บ้าง ขณะที่หลัวเฟิงรุดหน้าไป เขาได้ปะทะกับสัตว์ประหลาดจำนวนหนึ่ง ส่วนมากจะเป็นพวกไพร่พลขั้นต่ำ แต่อย่างไรก็ตาม เขายังได้พบกับพวกระดับบัญชาการขั้นต่ำอยู่ 3 ตัวและระดับบัญชาการขั้นกลางอีก 1 ตัวด้วย แต่พวกมันล้วนไม่ได้มีขนาดใหญ่โตอะไรนัก

และแน่นอน…มีดบินภายใต้พลังจิตของเขาเก็บกวาดพวกมันจนเหี้ยนเตียนไปอย่างง่ายดายและรวดเร็ว

บางช่วงของสถานีใต้ดินนี้บางครั้งก็เชื่อมต่อขึ้นไปบนภาพพื้นดิน เส้นนี้ถูกใช้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างเซี่ยงไฮ้กับคุนซานมาเนิ่นนานแล้ว

“เรารุดหน้ามาประมาณร้อยไมล์แล้ว ก็น่าจะพ้นเมืองหมายเลข 003 มาแล้วนะ”

หลัวเฟิงตรวจดู GPS บนนาฬิกาสื่อสารของเขา อันที่จริง เขาวิ่งมาได้ราว 50 ไมล์จากเซี่ยงไฮ้แล้ว

“เราควรจะขึ้นถนนหลวงและมุ่งหน้ากลับหัวเมืองใหญ่ได้แล้ว…ใครจะไปรู้ว่าในสถานีใต้ดินนั่นจะมีสัตว์ประหลาดอะไรโผล่ออกมาอีก ที่สำคัญเราไม่ได้อยากไปคุนซานซะหน่อย ไม่รู้ว่าเมืองนั่นมันจะเป็นยังไงด้วย”

หลัวเฟิงยิ้มออกมาอย่างสดใสและอารมณ์ดีขึ้น เขาจะไม่ดีใจได้ยังไง? เขาหนีออกมาจากเมืองเซี่ยงไฮ้ได้แล้วนี่นา

หลัวเฟิงยิ้มร่าขณะที่สะพายกระเป๋าอันตุงไปด้วยไข่มังกรและอุปกรณ์ต่างๆ ของเทพสงคราม ด้วยการนำทางของ GPS เขามุ่งตรงเข้าสู่ถนนหลวงเส้นหลักในทันที

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!