ตอนที่ 812 แก้แค้น
“บรรพบุรุษตระกูลจ้าว!”
“เป็นจ้าวเทียนกังบรรพบุรุษตระกูลจ้าว หนึ่งในสามตระกูลใหญ่แห่งเขตดาราวงแหวนบูรพา เล่าลือว่าเมื่อสองพันปีก่อนเขาบรรลุถึงจุดสูงสุดเจ้าปกครองโลกตอนกลางแล้ว ห่างจากตอนปลายอีกเพียงก้าวเดียว”
“เฮอะ ห่างเพียงก้าวเดียวก็เหมือนกับหมื่นลี้ ในระดับเจ้าปกครองโลกตอนเพิ่งเริ่มต้นยังไม่ห่างอะไรมากนัก เจ้าปกครองโลกตอนต้นมีกำลังรบต่างกันไม่มาก กระทั่งผู้ฝึกฌานระดับฟ้าที่แกร่งขึ้นมาหน่อย หากใช้กลอุบายพิเศษกับของวิเศษบางอย่าง ก็ใช่ว่าจะสู้กับเจ้าปกครองโลกตอนต้นไม่ได้
แต่หากบรรลุถึงเจ้าปกครองโลกตอนกลาง กำลังรบจะเพิ่มขึ้นไม่รู้ตั้งเท่าไร ผู้แข็งแกร่งเจ้าปกครองโลกตอนกลางคนเดียวสังหารเจ้าปกครองโลกตอนต้นได้อย่างง่ายดาย ต่อให้เป็นผู้ฝึกฌานระดับฟ้าที่มีของวิเศษมหัศจรรย์ก็สังหารได้เพียงเจ้าปกครองโลกตอนต้นเท่านั้น ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าปกครองโลกตอนกลางจะไม่ใช่คู่มือด้วยเลย”
“ไม่ผิด พวกข้าเข้าใจหลักการนี้ อีกอย่างเจ้าปกครองโลกตอนกลางต่างออกไป จุดสูงสุดของเจ้าปกครองโลกตอนกลางสามารถกำราบเจ้าปกครองโลกตอนกลางคนอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย มิเช่นนั้นแล้วตระกูลจ้าวจะมีชื่อเสียงโด่งดังเพราะจ้าวเทียนกังคนเดียวได้อย่างไร”
เสียงพุ่งทะยานปะปนกับเสียงแหลมลากยาวแว่วมาจากรอบๆ อย่างรวดเร็ว กลายเป็นร่างเงาคนหลายสิบคนกระจายกันอยู่บริเวณสนามต่อสู้ของซูหมิงกับบรรพบุรุษตระกูลจ้าวเมื่อครู่
คนเหล่านี้มาล่าสังหารโม่ซู และเพราะระลอกคลื่นของที่นี่ พอมาถึงก็เห็นบรรพบุรุษตระกูลจ้าวยืนเงียบอยู่ไกลๆ แต่กลับไม่เจอโม่ซู
“น่าเสียดาย บรรพบุรุษตระกูลจ้าวคว้าโอกาสไปแล้ว เกรงว่าโม่ซูนั่นคงถูกสังหารไม่ก็ถูกเขาจับตัวไปแล้ว”
“ได้ดาวแท้จริงที่มีต้นกำเนิดโลกสมบูรณ์หนึ่งดวง ภายภาคหน้าตระกูลจ้าวคงจะแกร่งกว่านี้อีก กระทั่งบรรพบุรุษตระกูลจ้าวยังมีโอกาสบรรลุถึงระดับเจ้าปกครองโลกตอนปลาย”
“แต่ถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็เป็นจุดสูงสุดเจ้าปกครองโลกตอนกลางแล้ว หากเจอเจ้าปกครองโลกตอนปลาย ต่อให้เป็นตาแก่ที่เพิ่งก้าวสู่ตอนปลายก็คงกำราบเขาได้อย่างอยู่หมัด เว้นแต่จะมีกลอุบายหลบหนีไป ถ้าไม่อย่างนั้นต้องตายแน่
น่าเสียดายในเขตดาราวงแหวนบูรพาของเรามีเจ้าปกครองโลกตอนปลายเพียงสามคน สามคนนี้นอกจากบรรพบุรุษตระกูลหลี่ที่ปิดด่านฝึกฝนตลอดปีแล้ว อีกสองคนก็ไม่รู้ว่าไปซุ่มฝึกอยู่ที่ใด ไม่เคยเผยตัวมานานมากแล้ว”
คนโดยรอบมากันเยอะขึ้นเรื่อยๆ ครู่เดียวก็เกือบร้อยคน คนเหล่านี้นัยน์ตาแวววาวอยู่รอบๆ ตอนที่เห็นจ้าวเทียนกังต่างก็เริ่มสนทนากัน
ครู่ต่อมามีระลอกคลื่นมาจากฟ้ากระจ่างดาวไกลลิบ กระบี่โบราณสัมฤทธิ์ยักษ์เก้าเล่มโผล่มากลางฟ้า แรงกดดันทรงอานุภาพแผ่กระจาย ทำให้ผู้คนโดยรอบพากันถอยไป จากนั้นกระบี่ใหญ่เก้าเล่มก็หยุดนิ่งช้าๆ
“บรรพบุรุษตระกูลจ้าว ผลการต่อสู้เป็นอย่างไรบ้าง?” มีคนผู้หนึ่งเดินออกมาจากกระบี่ใหญ่ตรงหน้าสุด คนผู้นี้สวมชุดเกราะนักรบ เป็นชายชราที่หนีออกมาหลังสู้กับซูหมิงบนดาวสมบัติสวรรค์นั่นเอง
ชายชรามีขั้นพลังเจ้าปกครองโลกตอนกลางเช่นเดียวกัน ทว่าจากคำพูดจะเห็นว่าเขาค่อนข้างเกรงใจบรรพบุรุษตระกูลจ้าว ไม่ได้มีท่าทีสูงส่งเหมือนที่ใช้กับคนอื่นๆ ในแดนรกร้างคนบาป
ถึงสภาพแวดล้อมกับฐานะจะสำคัญ ทว่ารากฐานของผู้ฝึกฌานก็ยังเป็นขั้นพลัง ผู้อ่อนแอย่อมเคารพผู้แข็งแกร่ง ไม่ว่ายุคสมัยใด ไม่ว่าโลกใด ก็ต้องใช้โครงสร้างรากฐานระบบของทั้งจักรวาล
“เขาหนีไปแล้ว” จ้าวเทียนกังลอบถอนหายใจ ครั้งนี้เขามีขั้นพลังสูงสุดในกลุ่มคนที่ล่าสังหารซูหมิง ด้วยฐานะและขั้นพลัง ถึงจะมีความแค้นอย่างยิ่งต่อสี่มหาโลกแท้จริง ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อตระกูลขยายใหญ่ขึ้น จึงทำได้เพียงแอบซ่อนความแค้นนี้อยู่ในใจ
เขาต้องระงับเจตนาร้ายต่อสี่มหาโลกแท้จริงเพื่อตระกูล ยอมฟังคำสั่งชั่วคราวและล่าสังหารซูหมิง
เขาเพิ่งกล่าวจบ ทุกคนโดยรอบต่างส่งเสียงดังเกรียวกราว แทบทุกคนตกตะลึงกับคำพูดเขา หนีรอดจากเงื้อมมือบรรพบุรุษตระกูลจ้าวได้ ในใจพวกเขารู้ดีว่าหมายถึงอะไร
จ้าวเทียนกังไม่อยากพูดมาก เขาสะบัดแขนเสื้อทีหนึ่ง เงามายาพลันปรากฏตรงหน้า กลางเงามายานั้นมีภาพนับไม่ถ้วนขยับวูบวาบ เป็นภาพต่างๆ ตอนสู้กับซูหมิง
ทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบเผยต่อหน้าทุกคนอย่างชัดเจน จากนั้นบรรพบุรุษตระกูลจ้าวเงียบงัน ก่อนหมุนตัวจากไป เขารออยู่ที่นี่ก็เพื่อรอรายงานกับขุมอำนาจสี่มหาโลกแท้จริงเท่านั้น ตอนนี้รายงานเสร็จแล้วจึงไม่อยากอยู่นานนัก
ระหว่างที่ทุกคนมองภาพมายาตาไม่กะพริบ ณ ฟ้ากระจ่างดาวห่างจากที่นี่ไปไกลลิบ มีระลอกคลื่นผุดขึ้นมาแล้วแผ่กระจายออก ซูหมิงเดินออกมาจากความว่างเปล่า
วินาทีที่เดินออกมา เขากระอักโลหิต
“คุ้มค่ารึ? รู้ทั้งรู้ว่าแพ้ก็ยังลงมือ แลกกลับมาเป็นอาการบาดเจ็บสาหัส มันคุ้มกันรึ?” ชื่อหั่วโหวปรากฏตัวข้างซูหมิง เขามองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าซับซ้อนเล็กน้อย
“คุ้ม!” ซูหมิงเช็ดคราบโลหิต ดวงตาแวววาว
“ในมุมมองข้า ขั้นพลังคือภูเขาใหญ่ ตรงหน้าจะมีภูเขาสูงอยู่จำนวนมาก ข้ามไปหนึ่งลูกก็เท่ากับข้ามไปหนึ่งขั้น
และศัตรูก็เป็นภูเขาใหญ่เช่นกัน ข้าถูกภูเขาขวางทางเอาไว้ แม้จะเจอกับภูเขาที่ชีวิตนี้ไม่อาจข้ามผ่านก็ไม่เป็นไร แต่หากตอนที่ข้าเจอกับภูเขาแบบนี้แล้ว กระทั่งลองดูยังไม่กล้า เพียงเพราะมันสูงเกินไป ความยิ่งใหญ่ของมันทำให้ข้ารู้สึกเป็นมดปลวดเล็กจ้อย จะก้าวเดินยังทำไม่ได้ เช่นนั้น…ข้าจะฝึกฝนอะไรได้อีก!”
ซูหมิงมองชื่อหั่วโหว น้ำเสียงเรียบนิ่งแฝงไว้ด้วยความยึดมั่นที่สร้างความตื่นตะลึงกับชื่อหั่วโหว
“หากข้าไม่อยู่ข้างเจ้า หากใช้วิชาเคลื่อนย้ายพริบตาพาเจ้าหนีมาไม่ได้ เจ้าจะทำอย่างไร?” ชั่วประเดี๋ยวเดียวชื่อหั่วโหวก็เอ่ยขึ้น
“ก็ยังเป็นแบบเดิม” ซูหมิงตอบอย่างเด็ดขาด ไร้ความลังเลใดๆ
“ในเมื่อต้องตาย เช่นนั้นระหว่างหลับตารอความตายโดยไม่ขัดขืนกับสู้จนตัวตาย ข้าขอเลือกอย่างหลังดีกว่า” ซูหมิงมีสีหน้าแน่วแน่ แม้จะกล่าวเสียงไม่ดัง แต่พอเข้าถึงหูชื่อหั่วโหวกลับทำให้เขาเงียบงัน
“จากนี้เจ้าจะทำอย่างไร เคลื่อนย้ายพริบตาสองครั้งใช้ไปครั้งหนึ่งแล้ว อีกครั้งที่เหลือจะต้องใช้ตอนใกล้ถึงดาวทมิฬ ข้าจะได้พาเจ้าเข้าไปในดาวนั่นได้” ชื่อหั่วโหวเอ่ยขึ้นหลังผ่านไปสิบลมหายใจ
“ในเมื่อพวกมันสร้างปัญหาให้ข้า ข้าก็จะให้พวกมันได้รู้บ้างเช่นกัน” หลังซูหมิงหยิบเม็ดยาขึ้นมากินจำนวนหนึ่ง นัยน์ตาเขาฉายประกายเย็นชา และยังมีความคลุ้มคลั่งเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวเสียงเย็นชา
สามวันต่อมา
บนดาวแท้จริงดวงหนึ่งซึ่งใกล้กับจุดที่ซูหมิงเคลื่อนย้ายมามากที่สุด เสียงโครมครามดังสนั่นนภา ระหว่างที่เสียงนี้ดังก้อง ก็มีเสียงคำรามสัตว์ร้ายดังกังวาน กลิ่นอายพลังสัตว์ร้ายเหล่านี้ล้วนแข็งแกร่ง และยังมีบางตัวบินออกจากดาวมาร้องคำรามอยู่กลางฟ้า
กระทั่งขณะเดียวกับที่สัตว์ร้ายเหล่านี้ถูกปลดผนึก ตรงส่วนลึกของดาวยังมีเสียงคำรามด้วยความตื่นเต้นดังกังวาน เสียงคำรามแฝงไว้ด้วยความบ้าคลั่งและเคียดแค้น นั่นคือเสียงของผู้ฝึกฌานเผ่าประหลาดที่ถูกผนึกอยู่บนดาวดวงนี้!
หลังเปิดผนึกสัตว์ร้ายแล้ว ดาวดวงนี้ก็เกิดเหตุการณ์เหมือนดาวแดงเพลิง วงแหวนอาคมผนึกพังลง มอบโอกาสให้ยอดผู้ฝึกฌานเผ่าประหลาดหลุดจากผนึก ส่วนท้ายที่สุดจะหนีไปได้หรือไม่นั้นต้องดูที่โชควาสนาของเขา
เจ็ดวันต่อมา บนดาวแท้จริงอีกดวงใกล้ๆ กับที่นี่เกิดเสียงครึกโครมแบบเดียวกัน ระหว่างที่เสียงระเบิดสะเทือนฟ้ากระจ่างดาว สัตว์ร้ายจำนวนมากต่างคำรามดังสนั่นไปรอบๆ
หลายวันต่อมา ดาวแท้จริงดวงที่สามก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น…..
เวลาผ่านไปพริบตาเดียวก็สองเดือน ในสองเดือนนี้มีดาวมากกว่าสิบดวงเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ขุมอำนาจสี่มหาโลกแท้จริงโกรธแค้น สัตว์ร้ายนับไม่ถ้วนบินอยู่กลางฟ้ากระจ่าวดาว ผนึกบนดาวแท้จริงแต่ละดวงถูกทำลาย เผ่าประหลาดที่ถูกผนึกเหล่านั้นมีทีท่าว่าจะหนีออกมาได้
หากเหตุการณ์ดำเนินเช่นนี้ต่อไป อีกพันปีจากนี้ เขตดาราวงแหวนบูรพาจะระเบิดพลังของเผ่าประหลาดที่โค่นล้มทุกสิ่งอย่าง
นี่คือความบ้าคลั่งของซูหมิง และก็เป็นของขวัญชิ้นใหญ่ที่เขาเตรียมไว้ให้ขุมอำนาจรักษาการณ์สี่มหาโลกแท้จริง ใช้วิธีแบบนี้โต้ตอบการล่าสังหารจากสี่มหาโลกแท้จริง
กระเรียนขนร่วงตื่นเต้นกว่าซูหมิงเสียอีก มันแค้นเรื่องที่ปิดวงแหวนอาคมผนึกจิตอย่างยิ่ง และสนับสนุนแผนการนี้ของซูหมิงอย่างเต็มที่ กระทั่งไม่ต้องให้ซูหมิงจ่ายหินผลึกก็ลงมือช่วยอย่างที่เห็นได้ยาก
โครม!
เสียงระเบิดดังขึ้นบนดาวแท้จริงอีกดวงหนึ่ง ผนึกบนดาวเกิดรอยแยกใหญ่ สัตว์ร้ายต่างบินออกมาคำรามอยู่กลางฟ้ากระจ่างดาว โลงศพสีแดงฉานบินออกจากดาวดวงนี้อย่างรวดเร็ว ก่อนมุ่งหน้าไกลออกไป
แม้ก่อนหน้านี้โลงศพจะถูกบรรพบุรุษตระกูลจ้าวทำลาย แต่ก็เสียหายไม่ถึงรากฐาน ฉะนั้นจึงยังเป็นโลงศพบินต่อไปได้
“ย่ากระเรียนเจ้าเถอะ พวกเลวระยำ พวกเจ้าคนโลกแท้จริงบังอาจมาล่วงเกินข้า ข้าก็จะสู้กับพวกเจ้า ข้าจะทำลาย ทำลาย ทำลายๆๆ ข้าจะทำลายผนึกทั้งหมด ข้าจะให้พวกได้รู้ว่าการล่วงเกินท่านกระเรียนผู้นี้มีผลเป็นอย่างไร!
หึๆ ท่านกระเรียนผู้นี้ใช่ว่าใครจะมารังแกกันได้ง่ายๆ! นึกถึงตอนนั้นที่ลู่ยาถูกข้าไล่ต้อนจนมุม สี่บรรพบุรุษแท้จริงแล้วอย่างไร เมื่ออยู่ต่อหน้าข้าก็เป็นแค่นกเท่านั้น…หืม ว่าแต่ข้าเก่งขนาดนั้นเชียว?” กระเรียนขนร่วงตะโกนอย่างตื่นเต้นพร้อมกับที่โลงศพค่อยๆ บินไกลออกไป
“สังหารมัน ฆ่าคนที่มีนามว่าโม่ซู ไม่ว่ามันจะมาแดนรกร้างต้นกำเนิดจิตอย่างไร มันก็ล้ำเส้นของพวกเราแล้ว มันต้องตาย!” เสียงเกรี้ยวโกรธดังแว่วมาจากฐานที่มั่นโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ในขุมอำนาจรักษาการณ์สี่มหาโลก
“หากมันอยู่เขตดาราอื่นก็แล้วไป แต่อยู่ในเขตดาราในปกครองของโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ และยังเปิดผนึกดาวแท้จริงไปสิบสามดวง นี่คือการยั่วยุและเป็นการแก้แค้นที่พวกเราประกาศจับ”
“ทางฐานทัพใหญ่ไม่พอใจแล้ว มีคำสั่งมาว่าหากในหนึ่งเดือนยังแก้ปัญหานี้ไม่ได้ ผู้รักษาการณ์หยินศักดิ์สิทธิ์จะต้องชดใช้เรื่องนี้”
“ท่านประมุขภัยพิบัติมีคำสั่งมาว่าให้มอบของล้ำค่าเป็นรางวัล ครั้งนี้…ผู้รักษาการณ์หยินศักดิ์สิทธิ์ออกโจมตีทั้งหมด อนุญาตให้ใช้พลังต้นกำเนิดเคลื่อนย้ายได้ ผู้อาวุโสระดับภัยพิบัติจันทราสองท่านจะลงมือด้วย เรื่องนี้ต้องเร่งแก้ไขในหนึ่งเดือน”
กระบี่โบราณสัมฤทธิ์มหึมาแต่ละเล่มบินออกจากวงแหวนอาคมผนึกนภาในเขตฟ้าของฐานที่มั่นโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ มาปรากฏอยู่ ณ เขตดาราวงแหวนบูรพา มองไกลออกไปไม่มีที่สิ้นสุด กระบี่ใหญ่ทุกเล่มยาวหมื่นจั้ง รวมๆ แล้วมีหลายร้อยเล่ม
ฟ้ากระจ่างดาวส่งเสียงอึกทึก
นอกจากนี้ยังมีการประกาศเพิ่มรางวัลไปทั้งเขตดาราวงแหวนบูรพา จึงดึงดูดเขตดาราใหญ่อื่นๆ ด้วย กระทั่งรักษาการณ์โลกแท้จริงอื่นๆ ยังสนใจและเกิดความโลภขึ้น
“สังหารโม่ซู นอกจากรางวัลเดิมแล้ว โลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ยังมีรางวัลพิเศษให้อีกคือ…ของล้ำค่าที่มีกลิ่นอายพลังภัยพิบัติตะวัน!”