Skip to content

สู่วิถีอสุรา 830

ตอนที่ 830 ร่างแยกเอ้อชาง 2

วิญญาณซูหมิงแน่นิ่ง กระเรียนขนร่วงตึงเครียดอย่างยิ่ง ในความรู้สึกมัน ต้นไม้ใหญ่สีทองนี้มีกลิ่นอายพลังที่สร้างความหวาดกลัวให้กับมัน อีกทั้งแรงกดดันยังเหนือกว่าวงแหวนอาคมผนึกจิต กระทั่งภายใต้กลิ่นอายพลังและแรงกดดันนี้ ยังทำให้ความทรงจำเลือนรางปั่นป่วนเล็กน้อย มันรู้สึกเหมือนเคยรู้จักต้นไม้ใหญ่สีทองนี้มาก่อน ทว่ากลับนึกไม่ค่อยออก

ครั้นเสียงคำรามด้วยความโกรธดังกึกก้อง และตามมาด้วยเสียงอุทานเบาๆ ด้วยความประหลาดใจ อักขระที่รวมจากเส้นใยมหาศาลก็ขยับแสงวูบวาบ ดวงจิตทรงพลังลากผ่านไปรอบๆ โดยพลัน เคลื่อนผ่านกระเรียนขนร่วงที่แปลงร่างปกคลุมซูหมิงจนผ่านไป

เมื่อลากผ่านไปๆ มาๆ หลายครั้ง จะว่าซูหมิงไม่ตึงเครียดเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้เกี่ยวกับแผนการยึดร่างต้นไม้ใหญ่เป็นร่างแยกว่าจะสำเร็จหรือไม่ หากวิชาแปลงกายของกระเรียนขนร่วงถูกอีกฝ่ายตรวจพบก็คงเจอไปนานแล้ว โอกาสสำเร็จของเขาก็จะน้อยลง

กลับกัน หากสังเกตเจอช้าไปสักพัก ขอเพียงให้เวลาเขาถึงแปดร้อยลมหายใจ เขาก็จะมีโอกาสทำสำเร็จ

กระเรียนขนร่วงใช้พลังทั้งหมดควบคุมวิชาแปลงกายของมัน ปกคลุมกลิ่นอายพลังของซูหมิงไว้ จุดที่วิชาแปลงกายปกคลุมอยู่ ไม่ว่ามองอย่างไรก็เหมือนกับเส้นใยสีทองทุกประการ

เวลาค่อยๆ ผ่านไป หลายลมหายใจต่อมา มีเสียงหึเย็นชาแว่วมาจากดวงจิตแก่กล้า

“ซุ่ยเฉินจื่อไอ้คนสมควรตาย เจ้าตายก็ตายไปแล้ว ยังทิ้งกฏเอาไว้เหยียบย่ำข้า บัดซบ บัดซบ ถ้าไม่อย่างนั้นข้าคงสังหารเจ้าคนที่คิดจะยึดร่างข้าไปนานแล้ว!

ซุ่ยเฉินจื่อ เจ้าตายไปก็ไม่น่าเสียดาย เจ้ามันสมควรตายแล้ว หากไม่ใช่เพราะตอนนั้นเจ้าต่อต้าน ข้าจะเป็นแบบนี้รึ จะเป็นแบบนี้ได้รึ!” ดวงจิตนั้นตะโกนด้วยความบ้าคลั่งแล้วค่อยๆ หายไป

“ฮ่าๆ สำเร็จแล้ว ท่านกระเรียนผู้นี้เก่งจริงๆ เจ้าต้นไม้เล็กจ้อยแค่นี้ยังกล้ามาหือกับท่านกระเรียน ข้าเพียงเปลี่ยนร่างแบบง่ายๆ มันกลับหาไม่เจอ ฮ่าๆ” กระเรียนขนร่วงกล่าวผ่านวิญญาณด้วยความตื่นเต้นลำพองใจ ราวกับลืมความหวาดกลัวและตึงเครียดเมื่อครู่ไปแล้ว

“เจ้าซูน้อย เจ้าอย่าลืมเรื่องหินผลึกของข้าด้วย ครั้งนี้ข้าใช้พลังจนไม่เหลือเลย ข้าเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว เจ้าดูสิ ขากับแขนเล็กๆ ของข้าซูบผอมเลย…” กระเรียนขนร่วงรีบอาศัยจังหวะนี้เอ่ยเน้นความลำบากและคุณูปการของตน

ซูหมิงเงียบงัน เขาไม่มองแขนขาเล็กๆ ของกระเรียนขนร่วง สำหรับกระเรียนขนร่วงที่รวมร่างจากวิญญาณมายา หากมันต้องการ จะแปลงเป็นคนยักษ์ขาแขนใหญ่ก็ยังได้

ในเวลาเร่งด่วน วินาทีที่ดวงจิตแก่กล้ากระจายหายไป ซูหมิงขยายวิญญาณอีกครั้ง ครองพื้นที่ต้นไม้ใหญ่สีทองอย่างต่อเนื่อง หนึ่งลมหายใจ หนึ่งลมหายใจ…

ทุกลมหายใจที่ผ่านไป โอกาสสำเร็จของซูหมิงจะเพิ่มมาเล็กน้อย สำหรับเขาแล้วนี่คือการช่วงชิง เป็นการแข่งกับเวลาอย่างหนึ่ง

‘เร็ว เร็ว เร็วขึ้นอีก!’ ซูหมิงร้องตะโกนในใจ วิญญาณแผ่ขยายออกไม่หยุดหย่อน จากสิบสี่ส่วนร้อยก่อนหน้านี้เป็นสิบหก สิบแปด ยี่สิบ…..

เพียงแต่ว่าตรงจุดที่วิญญาณเขาปกคลุมจะถูกวิชาแปลงกายของกระเรียนขนร่วงครอบคลุมในเวลาเดียวกัน เปลี่ยนจากสีดำให้เป็นสีทอง ดวงจิตของต้นไม้ใหญ่จึงไม่อาจสังเกตเห็นเลย

จนกระทั่งไปถึงยี่สิบแปดส่วนร้อย เวลาผ่านไปเกือบร้อยลมหายใจ ความเร็วระดับนี้สูงมากแล้ว ทว่าซูหมิงก็ยังรู้สึกว่าช้าอยู่ ความรู้สึกเขาตอนนี้เหมือนกับคนแปลกหน้ากำลังจะขโมยของคนอื่น เจ้าของบ้านจะมาเจอได้ตลอดเวลา มีแต่ต้องทำให้เสร็จเร็วๆ เท่านั้นถึงจะสำเร็จ

กระเรียนขนร่วงดูเหมือนตื่นเต้น แต่ความจริงแล้วความตึงเครียดในใจไม่ลดน้อยลงเลย เมื่อเวลาผ่านไปก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มันที่อยู่ข้างๆ เริ่มเร่งซูหมิงอย่างอดไม่ไหว

“เร็วหน่อย เร็วหน่อยสิ…หยุด!” วิญญาณกระเรียนขนร่วงร้องเสียงแหลมทันที

ซูหมิงจึงหยุดแผ่ขยายวิญญาณ

แทบเป็นช่วงที่เขาหยุด มีดวงจิตซึ่งเพียงพอจะสังหารทุกสรรพสิ่งพร้อมด้วยเสียงตะโกนบ้าคลั่งมาเยือนอีกครั้ง ดวงจิตนี้ส่งเสียงร้องลั่น ลากผ่านมาที่นี่ ขณะตามหาไม่หยุดก็ยังส่งเสียงดังกึกก้อง

“ไอ้เดรัจฉานเลื้อยคลานสมควรตาย เจ้ายังอยู่ ข้ารู้ว่าเจ้ายังอยู่ เจ้าคนต่ำทรามไร้ยางอาย ข้าไม่รู้ว่าเจ้าใช้วิธีใดหลบซ่อน แต่ข้าจะหาเจ้าเจอแน่ จะต้องเจอแน่!”

ดวงจิตแก่กล้าลากผ่านไปมาไม่หยุด ครั้งแล้วครั้งเล่า กระเรียนขนร่วงก็ตึงเครียดอย่างยิ่ง แน่นิ่งไม่กล้าขยับ

พริบตาเดียวก็สิบลมหายใจ ดวงจิตแก่กล้ายิ่งตามหาถี่ยิ่งขึ้น อีกทั้งยังแผ่ขยายกว้างขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ตอนนี้มากกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า กวาดไปรอบๆ พลางส่งเสียงดังสนั่นไม่หยุด

“ข้าไม่เชื่อว่าจะหาเจ้าไม่เจอ เจ้าคนต่ำทราม!” ดวงจิตของต้นไม้ใหญ่ส่งเสียงตะโกนมา ทันใดนั้นเส้นใยสีทองพลันบิดเบี้ยวพร้อมกัน แล้วเข้าไปใกล้หัวใจตรงใจกลางที่มีกลิ่นอายมรณะ

กระเรียนขนร่วงรีบใช้วิชาแปลงกายทำท่าทางแบบเดียวกัน ทำให้ตอนที่มองไป พื้นที่ที่วิญญาณซูหมิงปกคลุมอยู่บิดเบี้ยวตามไปด้วยเหมือนกับส่วนอื่นๆ

ทว่าวินาทีที่เส้นใยสีทองเหล่านั้นเข้าใกล้หัวใจที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายมรณะ

ซูหมิงพลันรู้สึกถึงอันตรายร้ายแรง ในเวลาเดียวกัน ท่ามกลางเสียงตะโกนของดวงจิตต้นไม้ใหญ่ หัวใจที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายมรณะกลับหดตัว!

มันหดตัวแล้วขยายออกเหมือนกับการเต้นของหัวใจครั้งหนึ่ง

ตึก!

หัวใจเต้นหนึ่งครั้ง มีหมอกสีม่วงอมทองกระจายมาจากในหัวใจโดยพลัน หมอกม้วนตลบไม่มีที่สิ้นสุด ตอนที่ชนเข้ากับพื้นที่วิชาแปลงกายของกระเรียนขนร่วง กระเรียนขนร่วงร้องเสียงแหลม

“มันเจอแล้ว!”

“ที่แท้ก็อยู่นี่!” ดวงจิตต้นไม้ใหญ่ตะโกนเสียงดังกังวาน ขณะเดียวกันดวงจิตสังหารก็ตรงมาหาซูหมิงในพริบตา

ซูหมิงไม่ลังเลแม้แต่น้อย ในเมื่อถูกพบแล้วเขาก็จะไม่ซ่อนตัวอีก แต่ให้พลังวิญญาณขยายออกอย่างรวดเร็วพลางกล่าวผ่านวิญญาณไปหากระเรียนขนร่วง

“หินผลึกหนึ่งหมื่น!” เมื่อกระเรียนขนร่วงได้ยินดังนั้น ร่างมันพลันรวมเข้าด้วยกันเป็นร่างกระเรียน และยังตัวสั่นไหว เหตุที่มันสั่นเป็นเพราะความตื่นเต้นจากหินผลึกหมื่นก้อน มันเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า ดวงตาสองข้างแดงก่ำ ตอนนี้ในใจมีเพียงคำพูดซูหมิงดังกึกก้อง หินผลึกหมื่นก้อน สำหรับมันแล้วนี่คือความลุ่มหลงที่รุนแรงกว่าทุกเรื่องในโลกนี้ ความลุ่มหลงเช่นนี้มากพอจะทำให้มันบ้าคลั่ง

“อ๊าก! หินผลึกหมื่นก้อน หินผลึกพร่างพราวหมื่นก้อน บวกกับอีกห้าพันก้อนที่ซูหมิงรับปากข้าไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งหมดหมื่นห้าพันก้อน สู้สุดกำลัง สู้สุดชีวิต!”

กระเรียนขนร่วงตอนนี้ไม่ใช่กระเรียนขนร่วงอีก มันเป็นนักรบที่ไม่เกรงกลัวความเป็นตาย ไม่เกรงกลัวผู้แข็งแกร่งใดๆ ในโลกนี้!

มันมาพร้อมด้วยพลังที่ไม่เคยมีมาก่อน มาพร้อมความไม่เกรงกลัวต่อฟ้าดิน ความยึดมั่นในหินผลึก และความบ้าคลั่งต่อทุกคนที่จะทำให้มันเสียหินผนึกไป มันพุ่งทะยานไปยังดวงจิตของต้นไม้ใหญ่โดยไม่สนสิ่งใด

กระเรียนขนร่วงรักในหินผลึก แต่ยังชอบความอาฆาตยิ่งกว่า

มันอาฆาตสี่มหาโลกแท้จริงที่ปิดวงแหวนอาคมผนึกจิต ทำให้มันไม่มีอะไรไปต่อรองกับซูหมิง ตอนนั้นมันอาฆาตจนแทบจะกัดฟันเวลานอนหลับฝัน ตอนนี้มันยิ่งแค้นต้นไม้ใหญ่เข้าไปอีก ไม่ใช่แค้นเพราะอีกฝ่ายปรากฏตัว แต่แค้นเพราะเหตุใดอีกฝ่ายถึงแกร่งเช่นนี้…

“สองหมื่น เจ้าต้องให้ข้าทั้งหมดสองหมื่นหินผลึก เพิ่มให้ข้าอีกห้าพันรวมเป็นสองหมื่น ข้า…ข้าจะสู้สุดชีวิต!” กระเรียนขนร่วงตะโกนเสียงดัง ขณะคลุ่มคลั่งอยู่นี้มันต้องการหินผลึกเพิ่มอีกห้าพัน

“ข้าจะให้เจ้าสามหมื่น!” ซูหมิงกล่าวผ่านวิญญาณ เขากำลังทำอย่างเต็มที่ พยายามจะปกคลุมพื้นที่เส้นใยอย่างรวดเร็ว ยังขาดอีกเล็กน้อยก็จะถึงยี่สิบเก้าส่วนร้อยแล้ว

กระเรียนขนร่วงคลุ้มคลั่ง มันพุ่งชนดวงจิตของต้นไม้ใหญ่ราวกับนักรบ

โครม!

เสียงดังสนั่นกึกก้อง สำหรับซูหมิงแล้วดวงจิตต้นไม้ใหญ่นี้น่ากลัวอย่างยิ่ง ทว่าเมื่อชนกับกระเรียนขนร่วงดวงจิตกลับกระเด็นถอยไป ส่วนกระเรียนขนร่างแหลกละเอียด ก่อนจะรวมร่างขึ้นมาใหม่อยู่ห่างไปร้อยจั้ง

มันร้องเสียงดัง ดวงจิตจากต้นไม้ใหญ่ก็ตะโกนมาด้วยความโกรธเกรี้ยว

“เป็นเจ้า! บัดซบ ข้านึกออกแล้ว เจ้าคนขี้แพ้ ยังกล้ามาอยู่ต่อหน้าข้าอีกรึ เจ้าไม่คู่ควรอยู่ต่อหน้าข้า!” ช่วงที่ต้นไม้ใหญ่คำรามเสียงดังกังวาน วิญญาณซูหมิงครองพื้นที่ไปยี่สิบเก้าส่วนร้อยแล้ว ก่อนโหมรวดเดียวขึ้นไปสามสิบส่วนร้อย!

ในเส้นใยสีทองส่วนใหญ่ ตอนนี้มีเกือบสามส่วนกลายเป็นสีดำ แผ่กลิ่นอายพลังของซูหมิงออกมา การครองพื้นที่ระดับนี้ ในชีวิตที่ไม่มีสิ้นสุดของต้นไม้ใหญ่ ในจำนวนหลายพันคนที่จะยึดร่างมัน ยังไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน

มิหนำซ้ำตอนที่ซูหมิงยึดร่างต้นไม้ใหญ่ไปสามสิบส่วนร้อย วิญญาณของเขาพลันเกิดเสียงระเบิด ภายใต้เสียงครึกโครม วิญญาณเขาลอยขึ้นมาเป็นภาพใหญ่ภาพหนึ่ง

ในภาพนั้นเป็นต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งกลางฟ้ากระจ่างดาว ความใหญ่ของมันมองด้วยตาเนื้อไม่เห็น ดาวแท้จริงดูเล็กจ้อยอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับมัน ทุกส่วนของต้นไม้เป็นสีม่วง แรงกดดันจากตัวมันประหนึ่งว่าเพียงหนึ่งความคิดก็พังทลายท้องนภาได้

ต้นไม้ใหญ่สีม่วงไม่ใช่สีม่วงทั้งหมด ภายในมีสีทองเปล่งออกมา ทำให้แสงของมันดูเป็นสีม่วงอมทอง นี่คือภาพที่ปรากฏในวิญญาณซูหมิงหลังจากครองพื้นที่เส้นใยได้สามสิบส่วน อีกทั้งในวินาทีนี้ เขายังรู้แน่ชัดแล้วว่าต้นไม้นี้…คือร่างของต้นไม้ใหญ่ที่ตนกำลังยึดร่างอยู่!

ต้นไม้ใหญ่ไม่สมบูรณ์ ด้านบนมีหลายจุดเหี่ยวแห้ง แม้จะดูใหญ่ยิ่งนัก แต่กลับแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายมรณะและความมัวหมอง ทว่าต่อให้เป็นอย่างนั้นมันก็ยังสร้างความตื่นตะลึงกับซูหมิงอย่างรุนแรง

วิญญาณซูหมิงกับกระเรียนขนร่วงรวมเข้าด้วยกัน ฉะนั้นภาพที่ซูหมิงเห็น กระเรียนขนร่วงจึงเห็นด้วย เดิมทีมันร้องเอะอะเสียงดังอยู่ แต่พอเห็นต้นไม้ใหญ่แล้วก็พลันตะลึงงัน ความทรงจำเป็นเศษเสี้ยวนับไม่ถ้วนในความคิดพลันรวมกันในเวลาสั้นๆ

“เอ้อชาง! เจ้าคือเอ้อชาง ไม่อยากเชื่อว่าเจ้ายังไม่ตาย เจ้ายังไม่ถูกซุ่ยเฉินจื่อสังหารอีกรึ ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะยังมีชีวิตอยู่!” กระเรียนขนร่วงเองก็ไม่รู้ว่าเหตุใดตนถึงพูดแบบนี้ มันมีสีหน้าสับสน ทว่าเสียงกลับแหลมเล็กและดูหวาดกลัว

“จำข้าได้แล้วรึ? ไอ้คนขี้แพ้ เจ้าเด็กน้อยซุ่ยเฉินจื่อยังไม่มีคุณสมบัติพอจะสังหารข้าหรอก เจ้าฝ่าฝืนเจตนารมณ์แห่งสวรรค์ เจ้ามันคนขี้แพ้ เจ้ามันคนทรยศ!” ดวงจิตต้นไม้ใหญ่ตะโกนเสียงดัง ตอนที่เสียงดังกังวาน กระเรียนขนร่วงมีสีหน้าสับสนยิ่งขึ้น ทว่าเสียงกลับแหลมเล็กกว่าเดิม

“เจ้าไม่สมบูรณ์ เจ้าบาดเจ็บสาหัส ซูหมิง…ยึดร่างมันมา ทำให้มันเป็นร่างแยกของเจ้า หากมันอยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่บาดเจ็บสาหัส ในจักรวาลนี้จะไม่มีใครยึดร่างมันได้ ทว่าตอนนี้…เจ้ามีโอกาสทำสำเร็จ! ข้าจะช่วยเจ้ายึดร่างมัน!” กระเรียนกล่าวเสียงแหลมด้วยสีหน้าสับสน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!