Skip to content

สู่วิถีอสุรา 850

ตอนที่ 850 วงแหวนอาคมผนึกนภาพังทลาย

ในขุมอำนาจรักษาการณ์สี่มหาโลกแท้จริง ซูหมิงคาดเดาว่าจะต้องมีผู้แข็งแกร่งอย่างยิ่งอยู่แน่นอน คนเหล่านี้จะไม่ออกไปข้างนอกในเวลาปกติ ทว่าหากมีศัตรูบุกเข้ามายังฐานทัพใหญ่ขุมอำนาจรักษาการณ์สี่มหาโลกแท้จริง พวกเขาจะต้องปรากฏตัวอย่างรวดเร็วที่สุดแน่นอน

ซูหมิงยังไม่หลงระเริงถึงขั้นต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งอย่างยิ่งเหล่านั้น เขารู้ว่าถึงร่างแยกเอ้อชางจะต่อต้านกับฟ้ากระจ่างดาวได้ ทว่านี่เป็นเพราะต้นกำเนิดจิต และเป็นเพราะสัญชาตญาณระหว่างสิ่งมีชีวิตเอ้อชางกับผืนฟ้า

กล่าวได้ว่าระดับชีวิตของเอ้อชางคือระดับเดียวกับฟ้า ทว่า…มันยังอ่อนแออยู่ ยังไม่สมบูรณ์ดี ฉะนั้น…แม้ฟ้ากระจ่างดาวจะสังหารเขาไม่ได้ ทว่าผู้ฝึกฌานในฟ้านี้มีคนทำได้

‘ขุมอำนาจรักษาการณ์สี่มหาโลกแท้จริงแบ่งเป็นสี่เขต สี่เขตนี้แยกกันอยู่ในสี่เขตดาราใหญ่รวมถึงเขตวงแหวนบูรพา…หลังจากสี่เขตนี้ก็จะเป็นทะเลดาราไม่มีที่สิ้นสุด ตรงส่วนลึกสุด…มีน้ำวนดาราอยู่ ที่นั่น…ก็คือฐานทัพใหญ่ของขุมอำนาจสี่มหาโลกแท้จริง’ ในความคิดซูหมิงลอยขึ้นมาเป็นภาพตอนที่กระเรียนขนร่วงยังตื่นอยู่ เขาใช้วงแหวนอาคมผนึกจิตมองดูขุมอำนาจรักษาการณ์สี่มหาโลกแท้จริง

‘โอกาสมีเพียงครั้งเดียว ข้าต้องบุกเข้าไปยังฐานใหญ่อย่างเดียวเท่านั้น’ สายฟ้าสีม่วงระเบิดฟ้ากระจ่างดาว ซูหมิงมีสีหน้าเฉยชาอยู่ภายใน ร่างกายลอยอยู่ สายฟ้าใต้เท้าม้วนตลบราวกับน้ำทะเล พาร่างเขาห้อเหยียดไปด้วยความเร็วใกล้เคียงกับการเคลื่อนย้ายในพริบตา

‘ผู้ฝึกฌานโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์เฝ้ารักษาการณ์อยู่เขตดาราวงแหวนบูรพา รักษาการณ์ที่ล่าสังหารข้าในตอนนั้นส่วนใหญ่มาจากโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์

เจ๋อหลงเซิน หลีหั่วและจีอวิ๋นไห่ก็อยู่ในนั้น

ก่อนหน้านี้ข่งหวนก็เคยพูดว่าท่านรองแม่ทัพ ด้วยข้อมูลฐานะนี้ หากข้าอยากรู้ก็คงไม่ยาก’ เส้นผมม่วงปลิวไสว ทำให้ใบหน้าที่เกือบจะดูผ่านโลกมานานมาพร้อมความประหลาดน่าเหลือเชื่อ โดยเฉพาะสีหน้าซีดขาวเหมือนคนป่วยหนัก ยิ่งทำให้ความรู้สึกประหลาดเพิ่มขึ้นหลายเท่า

เงาอักขระซ้อนทับในดวงตาขวาขยับวูบวาบ ทันใดนั้นในดวงตาซ้ายก็เกิดน้ำวนขึ้น กลางน้ำวนมีสายฟ้าสีม่วงกระจายออก มันเหมือนแฝงไว้ด้วยหนึ่งโลก ในโลกนี้มีแผ่นศิลาสีม่วงอยู่หมื่นอัน ใต้แผ่นศิลามีหลายร้อยคนหมดสติอยู่ ในนั้นมีสองคนที่เป็นผู้รักษาการณ์ชายร่างกำยำกับชายชราที่ถูกเขาบีบให้เข้าไปในแดนประหลาด

ระหว่างที่สองคนนี้หมดสติ แผ่นศิลาตรงหน้าพวกเขาแผ่ไอสีม่วงออกมาทันที ก่อนจะมุดเข้าไปในสมองพวกเขา ภาพความทรงจำต่างๆ ก็ลอยขึ้นในดวงตาซ้ายซูหมิง

‘โลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์…ดาวไท่อา (ชื่อกระบี่โบราณ)…รองแม่ทัพ….อู่ลี่จื่อ!’

‘ดาวไท่อา….นอกฐานทัพใหญ่…หนึ่งในดาวอินขุมอำนาจรักษาการณ์สี่มหาโลกแท้จริง!’ ดวงตาซ้ายซูหมิงขยับวูบวาบ ตอนที่กลับมาชัดเจนอีกครั้ง นัยน์ตาฉายประกายเย็นเยียบ

‘ที่แท้ไม่ได้อยู่ในฐานทัพใหญ่ ถ้าอย่างนั้น…โอกาสสำเร็จก็มีมากถึงแปดส่วนแล้ว!’

ซูหมิงหลับตาลง สายฟ้าสีม่วงนอกตัวส่งเสียงครึกโครม ความเร็วเพิ่มขึ้นอีกในเสี้ยววินาทีเดียวโดยไม่มีที่สิ้นสุด มุ่งหน้าไปยังขุมอำนาจรักษาการณ์โลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์

มองจากความเร็วของเขามันเหมือนกับแสงสีม่วงลากผ่านฟ้ากระจ่างดาว จุดที่ผ่านกฏของผืนฟ้าจะหลีกให้ทั้งหมดราวกับไม่อยากเข้าใกล้ จะเห็นได้ถึงการใช้อำนาจบาตรใหญ่ของร่างแยกเอ้อชาง และบ่งบอกอีกว่าความเร็วของเขาบรรลุถึงระดับน่าสะพรึงกลัวแล้ว

‘อีกเก้าสิบลมหายใจ ข้าก็จะเห็นวงแหวนอาคมผนึกนภานอกขุมอำนาจสี่มหาโลกแท้จริง’

…….

สามสิบลมหายใจต่อมา บนดาวแท้จริงจำนวนมากในเขตดาราวงแหวนบูรพา มีผู้ฝึกฌานไม่น้อยเห็นผืนฟ้ากระจ่างดาวถูกสีม่วงปกคลุมในพริบตา ทำให้ฟ้าในตอนนี้กลายเป็นสีม่วงอย่างสมบูรณ์

เวลาเดียวกัน ในขุมอำนาจรักษาการณ์สี่มหาโลกแท้จริง ตรงพื้นที่รักษาการณ์ของโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ ค่อนข้างไกลออกไป ห่างจากฐานใหญ่สี่มหาโลกแท้จริงไม่ไกลนัก มีดาวอินยักษ์ดวงหนึ่ง ดาวที่คล้ายขั้นบันไดบิดเบี้ยวนี้เปล่งแสงสว่างจ้า ตรงกลางดาวอินคล้ายตำแหน่งหัวใจคนมีแผ่นดินใหญ่สีเขียวอยู่แห่งหนึ่ง

แผ่นดินเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ภูเขาสีเขียวมีอยู่ทุกที่ สัตว์ที่ปราดเปรียวนับไม่ถ้วนกำลังวิ่งเล่นกัน สายลมพัดผ่านพื้นหญ้า ส่งเสียงซ่าๆ ดังก้อง ซ้อนทับกับเสียงสายลม สร้างขึ้นเป็นเสียงของธรรมชาติอันไพเราะ สั่นไหวตามแรงลมไปรอบๆ งดงามจับใจคน

ตรงกลางที่ราบหญ้ามีกระโจมหลังหนึ่ง นอกกระโจมมีเด็กแปดคนกำลังเล่นกัน ต่างฝ่ายต่างมีความสุข ส่งเสียงหัวเราะแว่วออกไป

ภายในกระโจมมีหญิงสาวสวมอาภรณ์สีเขียวอยู่คนหนึ่ง เห็นเพียงแผ่นหลังนาง ขณะนี้นางกำลังมองกระจกทองแดงและหวีผมงาม นางนั่งอยู่ตรงนั้น รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ดึงดูดให้คนคิดไปไกล

………

ผ่านไปอีกสามสิบลมหายใจ สายฟ้าสีม่วงกลางฟ้ากระจ่างดาววงแหวนบูรพาส่งเสียงระเบิดดังขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เพียงผู้ฝึกฌานบนดาวแท้จริงที่เห็นเท่านั้น กระทั่งผู้ฝึกฌานที่กำลังบินอยู่กลางฟ้ากระจ่างดาวต่างพากันหน้าเปลี่ยนสี แสงสว่างทุกอย่างรอบตัวพวกเขากลายเป็นสีม่วง อีกทั้งพวกเขายังรู้สึกว่ากฏฟ้าดินรอบๆ เกิดการบิดเบี้ยวและถอยร่นไป

ภาพนี้ทำให้ผู้ฝึกฌานที่เห็นทั้งหมดจิตใจสั่นสะท้าน ตามองสายฟ้าสีม่วงราวกับทะเลกลางฟ้ากระจ่างดาวพร้อมกัน

ภายในขุมอำนาจโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ นอกดาวอินที่มีนามว่าไท่อา มีชายหนุ่มสวมอาภรณ์สีฟ้าคนหนึ่ง ตรงระหว่างคิ้วมีสัญลักษณ์เปลวเพลิง ซึ่งเดิมทีตรงนี้เป็นดอกท้อ

เขามีสีหน้าเฉยชา นอกร่างกายเหมือนมีเปลวเพลิงไร้รูป เขาเดินอย่างเนิบช้าเข้าไปในดาวอินนี้ เดินมาจนถึงส่วนลึกของดาว ด้านนอกกระโจมบนแผ่นดินใหญ่สีเขียว

“คารวะท่านรองแม่ทัพเต้าเหริน” แทบเป็นช่วงที่ชายหนุ่มมาถึง เด็กแปดคนที่กำลังเล่นกันอยู่เงียบเสียงในทันที แล้วยืนประสานมือคารวะพร้อมกันตรงหน้าชายหนุ่ม

ชายหนุ่มเต้าเหรินยิ้มน้อยๆ ให้เด็กแปดคนนั้น แล้วมองกระโจมด้วยแววตาอ่อนโยน

“อู่ลี่จื่อ เจ้ายังไม่ยอมพบข้าอีกรึ?” เขากล่าวเสียงเบา

ภายในกระโจมไม่มีเสียงตอบรับ หญิงสาวเสื้อคลุมเขียวไม่ได้ยิน นางยังคงหวีผมงามอยู่

สุดท้ายลมหายใจที่เก้าสิบก็ผ่านไป เต้าเหรินนอกกระโจมยิ้มเฝื่อนพลางส่ายศีรษะ ก่อนหมุนตัวเตรียมจากไป ตั้งแต่ที่เขาเป็นทูตของแม่ทัพหั่วตู๋ พันปีมานี้อู่ลี่จื่อก็ยังไม่ยอมพบหน้าเขา

แม้เขาจะมาแทบทุกๆ หลายวัน ทว่าก็ยังไม่อาจคลี่คลายความสัมพันธ์ระหว่างกัน

ช่วงที่เต้าเหรินหมุนตัวกลับเตรียมจะออกจากดาวไท่อา พลันเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ฟ้าดินสั่นสะเทือน เขตดาราทั้งหมดสั่นไหว ทำให้ดาวทั้งหมดสั่นตามไปด้วย ดาวอินไท่อาโคลงเคลงอย่างรุนแรง สิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนแผ่นดินสีเขียวตื่นกลัว เด็กแปดคนนั้นหน้าเปลี่ยนสี

เมื่อเสียงครึกโครมดังกึกก้อง ก็มีเสียงเย็นชาไร้ปรานีดังมาจากในเขตรักษาการณ์โลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ทันที

“นอกวงแหวนอาคมผนึกนภา เขตดาราวงแหวนบูรพา มีพลังระดับสิบห้าคิดจะทำลายวงแหวนอาคมเข้ามา ด้วยพลังระดับสิบห้านี้ ต้องใช้เวลาสองพันหนึ่งร้อยสามสิบห้าปีถึงจะทำลายสำเร็จ”

สิ้นเสียงนี้ ผู้ฝึกฌานบนดาวทั้งหมดในขุมอำนาจรักษาการณ์โลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ต่างหน้าเปลี่ยนสี คนจำนวนมากบินออกจากดาวอย่างรวดเร็ว

และยังมีอีกไม่น้อยที่เกิดความหวาดกลัวภายใต้เสียงครึกโครมดังสนั่นนี้

ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยเจอคนที่บ้าระห่ำจากแดนรกร้างคนบาปที่คิดจะทำลายวงแหวนอาคมผนึกนภามาก่อน ทว่า…ตั้งแต่โบราณมา คนที่มีพลังเกินระดับสิบห้ามีเพียงสามครั้งเท่านั้น!

ตอนนี้…คือครั้งที่สี่!

แม้ว่าสามครั้งก่อนคนจากแดนรกร้างคนบาปจะทำลายวงแหวนอาคมล้มเหลว เพียงแต่…คนที่โจมตีครั้งแรกก็เรียกพลังระดับสิบห้าออกมาได้เลย ในสี่ครั้งนี้ นี่เป็นครั้งแรก!

“พลังระดับสิบห้าแล้วอย่างไร วงแหวนอาคมผนึกนภาไม่เคยถูกใครทำลายมาก่อน ครั้งนี้ก็คงเป็นอย่างนั้น”

“คนจากแดนรกร้างคนบาปใจกล้าขนาดนี้เชียวรึ ไม่อยากเชื่อว่าจะโจมตีวงแหวนอาคมผนึกนภา ข้าจำได้ว่าสามครั้งก่อนหน้านี้มีบันทึกไว้ว่าหลังจากพวกเขาล้มเหลวแล้ว ผู้รักษาการณ์โลกหยินศักดิ์สิทธิ์ของเราก็ส่งคนออกไปจำนวนมาก แล้วล้อมสังหารครั้งใหญ่”

“หึ พวกมันรนหาที่ตาย!”

ขณะเสียงเย็นชาดังก้องดาวอิน ก็มีกระแสจิตคุยกันกังวานอยู่ในเขตดารา ทันใดนั้นมีมากกว่าหลายพันคนห้อเหยียดอยู่กลางฟ้ากระจ่างดาว ร่างเงาแต่ละขยับวูบไหวพุ่งตัวไปยังวงแหวนอาคมผนึกนภา พวกเขาคือนักรบระลอกแรก ต้องไปดูว่าใครกันที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ กล้าหยาบคายต่อสี่มหาโลกแท้จริงอย่างพวกเขา

ทว่าคนเหล่านี้เพิ่งจะบินขึ้น ยังไม่ทันไปถึงพันจั้ง ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวรุนแรงกว่าเดิมอีกครั้ง มันสั่นสะเทือนรอบๆ ในตอนนี้ ทำให้ฟ้ากระจ่างดาวเหมือนโคลงเคลง เสียงดังสนั่นนั้นสะเทือนแก้วหูคน กลายเป็นความตื่นกลัวไม่มีสิ้นสุดในพริบตา เสียงเย็นชาจากดาวอินดังกังวานอีกครั้ง

“นอกวงแหวนอาคมผนึกนภา เขตดาราวงแหวนบูรพา มีพลังระดับสิบเก้าคิดจะทำลายวงแหวนอาคมเข้ามา ด้วยพลังระดับสิบเก้านี้ ต้องใช้เวลาหนึ่งร้อยยี่สิบห้าปีถึงจะทำลายสำเร็จ”

ขณะเดียวกับที่เสียงดังกึกก้อง นอกวงแหวนผนึกนภา ซูหมิงยืนอยู่กลางสายฟ้าสีม่วงอย่างเงียบๆ ก่อนชักมือขวากลับ ตรงหน้าเป็นธารดาราไม่มีที่สิ้นสุด ยามนี้ธารดารากำลังเกิดเสียงดังสนั่น ดวงดาวภายในธารแห่งนี้กำลังชนกันเอง เกิดเสียงโครมครามไม่หยุดหย่อน

“สมกับเป็นวงแหวนอาคมผนึกนภา” ซูหมิงกล่าวเสียงเย็นชา

“ทว่า…วงแหวนอาคมที่ขวางผู้ฝึกฌานระดับกุมชะตาเกิดดับได้นี้มีจุดอ่อนร้ายแรงอยู่ มัน….เป็นของฟ้ากระจ่างดาวแห่งนี้” ซูหมิงยกมือขวาขึ้น อักขระต้นกำเนิดจิตในดวงตาขยับวิบวับ ก่อนจะกดมือลงอย่างช้าๆ

ทันทีที่กดฝ่ามือลงไป ธารดาราตรงหน้าเกิดเสียงระเบิดดังเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น ภายใต้เสียงระเบิดดังสนั่น ดาวนับไม่ถ้วนชนกันจนระเบิดออก ท่ามกลางเสียงอึกทึก หลังจากซูหมิงแผ่ขยายดวงจิตออกไปปกคลุมรอบๆ ข้อบังคับและกฎที่วนเวียนอยู่รอบฟ้าแห่งนี้ก็หายไปพร้อมกัน

เมื่อกฎและข้อบังคับหายไป ธารดาราสายนี้จึงเหมือนสูญเสียพลังงานที่ทำให้มันลอยอยู่กลางฟ้ากระจ่างดาวไป จากนั้น…ก็ร่วงหล่นไปต่อหน้าต่อตาซูหมิงอย่างเร็วไว

หากมองไกลๆ ภาพนี้น่าตะลึงอย่างยิ่ง มากพอจะทำให้ทุกคนเกิดเสียงโครมในจิตใจ ธารดารากลายเป็นสายฝนตกจากฟ้า…

นี่คือการถูกทำลายครั้งแรกของวงแหวนอาคมผนึกนภาของขุมอำนาจสี่มหาโลกแท้จริง การทำลายครั้งนี้ยังแฝงไว้ด้วยความประหลาดที่ทำให้คนเหลือเชื่อ ไม่ใช่การใช้พลังทำลาย ไม่ใช่การหลบหลีกได้โดยบังเอิญ แต่…เป็นการเอาข้อบังคับและกฎออก ทำให้วงแหวนอาคมนี้…เหมือนเสียรากฐานไป แล้วร่วงลงประหนึ่งสายฝน เหมือนกับผ้าม่านไข่มุกประตูห้องที่ใช้กันฝุ่นเสียเชือกร้อยไป เม็ดไข่มุกจึงตกลงพื้นพร้อมกับประตูหายไป

ซูหมิงมีสีหน้าปกติ ชื่อหั่วโหวอยู่ที่นี่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรมากนักจึงกลายเป็นภาพสัญลักษณ์ไปแล้ว ช่วงที่วงแหวนอาคมผนึกนภาพังทลาย เขาก็ม้วนพาสายฟ้าสีม่วงแสนลี้มุ่งหน้าเข้าไปในเขตดารารักษาการณ์สี่มหาโลกแท้จริงที่ไม่รู้กี่ปีมานี้ไม่มีใครจากแดนรกร้างคนบาปเข้าไปได้

“การต่อสู้ครั้งนี้ต้องเร็ว!”

“รีบสู้รีบตัดสิน!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!