Skip to content

สู่วิถีอสุรา 916

ตอนที่ 916 เม็ดยาวิญญาณสูญสลาย

“ท่านกระเรียน…เอ่อ ข้าก็ไม่ต้องการอะไรมาก ขอเพียงอันดับรายชื่อเดียวพอ เจ้าจะให้ข้าเรียกเจ้าว่าท่านก็ได้ แต่ขอเพียงอันดับรายชื่อเดียว!” กระเรียนดำมีสีหน้าคาดหวัง มันกระพือปีกบินมาอยู่ตรงหน้าเรือผุพังนั้น มาอยู่ตรงหน้าซูหมิง

ตาข่ายยักษ์ด้านหลังมันสุดลูกหูลูกตา ภายในมีสัตว์คลื่นเสียงหลายแสนตัวอยู่กันแน่นขนัด ไม่มีตัวใดขนาดต่ำกว่าร้อยจั้งเลย พันจั้งก็มีไม่น้อย กระทั่งหมื่นจั้งก็มีอยู่สิบกว่าตัว

และสิ่งที่ทำให้ซูหมิงใจสั่นยิ่งกว่าเดิมคือ ในกลุ่มสัตว์คลื่นเสียงนี้มีตัวหนึ่งที่ทั้งร่างแผ่กลิ่นอายแก่ชรา ร่างกายมันเป็นสีทองทุกส่วน และยังมีขนาดสี่หมื่นกว่าจั้ง กำลังหลับตาแน่นิ่งอยู่

“เป็นเจ้ากระเรียนน้อยอีกแล้ว” เสียงแก่เฒ่าพร้อมด้วยทำนองพิลึกดังจากปากชายชราที่ซูหมิงใช้ร่างอยู่อย่างสุขุมสง่างาม

นี่ไม่ใช่เสียงซูหมิง แต่เป็นเสียงชายชราคนนั้น

แม้ซูหมิงจะรู้สึกว่าตนเป็นชายชราคนนั้น ทว่าความจริง สภาพเขาในตอนนี้น่าจะใช้คำว่ามุมมองที่สามดูจะเหมาะสมกว่า สายตามองภาพอันเงียบสงัดที่เคยเกิดขึ้นในอดีตนี้

เขามองกระเรียนดำตรงหน้า เดิมทีในใจเกิดความสงสัยอยู่บ้าง แต่พอได้ยินเสียงกระเรียนดำ เห็นความหยิ่งยโสและต่ำทรามอยู่คู่กันแล้ว เขาจึงมั่นใจอยู่แปดส่วนว่ากระเรียนดำตรงหน้าก็คือกระเรียนขนร่วงในอดีต

พอคาดเดาแบบนี้แล้ว เช่นนั้นกาลเวลาที่อยู่ในตอนนี้น่าจะเก่าแก่อย่างยิ่ง….

‘สิ่งมีชีวิตเก้าตัว สี่กลุ่มเผ่าพันธุ์….’ ซูหมิงใจเต้นกระตุก

‘เอ้อชางกับกระเรียนขนร่วงคือสิ่งมีชีวิตในระดับเดียวกัน สิ่งมีชีวิตเก้าตัวในเพลงกลอนนี้…จะมีพวกมันอยู่ด้วยหรือไม่?’ ความคิดนี้ทำให้ซูหมิงหรี่ตาลง ตอนนี้เองเสียงชายชราก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“จะแลกอันดับรายชื่อไปได้หรือไม่นั้นต้องดูของเซ่นไหว้ที่เจ้านำมา ว่าใช่ของที่ข้าต้องการหรือไม่” ชายชราส่ายศีรษะ เขายกมือขวาชี้กระเรียนดำ สัตว์คลื่นเสียงสองร้อยกว่าจั้งตัวหนึ่งในตาข่ายใหญ่ด้านหลังกระเรียนดำพลันเลือนหายไปกลางตาข่าย แล้วมาปรากฏอยู่ตรงหน้าชายชรา

ครั้นสัตว์คลื่นเสียงตัวนี้ออกจากตาข่ายมาแล้วก็ร้องคำรามเสียงแหลมทันที นัยน์ตาฉายแววดุร้ายและคลุ้มคลั่ง มันยกกรงเล็บขวาพุ่งตรงไปใกล้ชายชรา

ชายชรามีสีหน้าปกติ เพียงมองสัตว์คลื่นเสียงเรียบๆ แวบหนึ่ง แค่แวบเดียวนี้สัตว์คลื่นเสียงกลับตัวสั่น ความดุร้ายในแววตาหายไปทันใด พริบตาที่เข้าใกล้ชายชรา มันพลันหยุดนิ่ง ก้มหน้าลงคารวะอยู่หน้าชายชรา

ซูหมิงเห็นชายชรายกมือขวา…บางทีอาจกล่าวได้ว่าเขารู้สึกว่าตนยกมือขวาขึ้นกดตรงกลางกระหม่อมสัตว์คลื่นเสียง เมื่อกดไปแล้วก็มีพลังนุ่มนวลสายหนึ่งหลั่งไหลเข้าสู่ร่างสัตว์คลื่นเสียง

หลังวนรอบหนึ่งแล้ว สัตว์คลื่นเสียงก็ตัวสั่นไหวอย่างรุนแรง มันเงยหน้าขึ้นร้องคำรามเสียงสะเทือนฟ้า ดวงตาสองข้างแดงก่ำ ร่างกายขยายออกด้วยความเร็วระดับตาเนื้อ พริบตาเดียวก็ไม่ใช่ขนาดร้อยจั้งอีก แต่กลายเป็นสัตว์ยักษ์พันจั้ง

ราวกับว่าพลังงานนุ่มนวลจากมือชายชราที่เข้าสู่ร่างกายมันคือพลังอัศจรรย์ที่สามารถกระตุ้นระดับชีวิตของสัตว์คลื่นเสียง ระหว่างพลังงานไหลเวียน ก็ทำให้มันปะทุทุกอย่างของมรดกสายเลือดขึ้นมา

พอซูหมิงเห็นภาพน่าทึ่งนี้แล้ว จิตใจสั่นสะท้านตาม เขาไม่รู้ว่าต้องมีขั้นพลังระดับใดถึงทำให้สัตว์ตัวหนึ่งพัฒนาระดับชีวิตแบบก้าวกระโดดได้ในพริบตา

ทุกอย่างเหมือนจะยังไม่จบลง ซูหมิงเห็นอีกว่าเมื่อพลังนุ่มนวลจากมือขวาชายชราไหลเวียนในร่างสัตว์คลื่นเสียงครบสองรอบแล้ว ร่างกายพันจั้งก็สั่นไหวรุนแรงยิ่งกว่าเดิม เสี้ยวลมหายใจเดียว ทั้งตัวมันอาบชโลมไปด้วยโลหิต เลือดเนื้อเติบโตขึ้นอย่างประหลาด ร่างกายใหญ่ขึ้นไม่หยุด ก่อนมันจะร้องคำรามด้วยความเจ็บปวดและบ้าคลั่ง มัน….พัฒนาจากพันจั้งสู่ความใหญ่หมื่นจั้ง

ความตื่นตกใจของซูหมิงยากจะบรรยายได้แล้ว เขาจ้องสัตว์คลื่นเสียงหมื่นจั้งตาเขม็ง เขาอยากดูว่าเมื่อพลังจากชายชราไหลเวียนในร่างสัตว์คลื่นเสียงครบสามรอบแล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร

เสี้ยวพริบตาเดียว พลังงานก็วนเวียนครบสามรอบ

สัตว์คลื่นเสียงหมื่นจั้งตัวสั่น โลหิตอาบไปทั่วร่าง ร่างกายมันพองออกโดยพลัน ขยายเป็นสองหมื่นจั้ง สามหมื่นจั้ง สี่หมื่นจั้ง…หลังจากร่างขยายใหญ่ขึ้นไม่หยุด กระเรียนดำก็มีสีหน้ากระหายและยึดมั่น สัตว์ร้ายคลื่นเสียงในตาข่ายใหญ่สุดลูกหูลูกตาข้างหลังต่างพากันตะลึงงัน เห็นสัตว์คลื่นเสียงที่มีขนาดเจ็ดหมื่นกว่าจั้งแล้ว พวกมันตัวสั่น และต่างคุกเข่าลงเหมือนคารวะราชาของพวกมัน

ทว่า แทบเป็นช่วงที่พวกมันคุกเข่าคารวะ ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ร่างสัตว์คลื่นเสียงตัวนี้ขยายเกือบเก้าหมื่นจั้ง มันร้องโหยหวนดังสนั่นฟ้าดิน ร่างกาย…เกิดเสียงครึกโครมแล้วพลันระเบิดออก เหมือนไม่อาจรับการเพิ่มระดับชีวิตได้อีก จึงถูกระเบิดไปทั้งเป็น

“เป็นอย่างไรบ้าง ตาแก่ ของเซ่นไหว้ครั้งนี้เป็นอย่างไร?” กระเรียนดำมีสีหน้าตื่นเต้น มันรีบกล่าวขึ้น

“ตาแก่ หากครั้งนี้ไม่ได้อีก ข้าก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว นี่มันกี่ปีมาแล้ว ข้าให้เครื่องเซ่นไหว้กับเจ้าไปเท่าไร เพียงแค่อันดับรายชื่อเดียวเองไม่ใช่รึ ไม่เห็นเจ้าจะต้องขี้เหนียวขนาดนี้เลย!” กระเรียนดำเห็นชายชราเงียบ มันจึงร้อนใจขึ้นมา

“ยังไม่พอ” ผ่านไปพักหนึ่ง ชายชราก็ตอบราบเรียบ

“ทว่าครั้งนี้ เก็บของเซ่นไหว้เอาไว้ได้”

เดิมทีตอนที่กระเรียนดำได้ยินประโยคแรกของชายชรา มันมีสีหน้าซึมเศร้า แต่พอได้ยินประโยคสองดวงตาพลันเปล่งประกาย มันไม่คิดว่าครั้งนี้จะได้อันดับรายชื่อ ขอเพียงอีกฝ่ายต้องการของเซ่นไหว้ เช่นนั้นหากสั่งสมในระยะยาวไปเรื่อยๆ ก็จะมีโอกาสได้รับอันดับรายชื่อ

ดังนั้นมันจึงยิ้มแย้มมีความสุข ขยับวูบไหวกลายเป็นสายรุ้งยาวบินไกลออกไปในฟ้ากระจ่างดาว พริบตาเดียวก็หายลับไป

คล้อยหลังกระเรียนดำ ซูหมิงมองสัตว์ร้ายคลื่นเสียงหลายแสนตัวในตาข่ายยักษ์ด้วยสีหน้าครุ่นคิด เขาไม่รู้ว่าหลังจากเศษหินสีดำปรากฏยอดเขาที่สองแล้ว มันสูบวิญญาณตนเข้ามาอยู่ในภาพมายาในยุคโบราณเพื่ออะไร

ในความคิดอดนึกไปถึงเสียงที่ดังก้องในความคิดหลังจากที่ตนสัมผัสประตูภูเขาในเส้นทางมิติเศษหินสีดำไม่ได้

‘วิญญาณแรกที่เจ้าเซ่นไหว้คือวิญญาณสัตว์คลื่นเสียง วิญญาณนี้มีข้อบกพร่อง พาจุดบกพร่องของมันให้พบ จะสามารถฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้ได้…เจ้ามีเวลาไม่มีสิ้นสุด ใช้เม็ดโอสถที่เซ่นไหว้ไปก่อนหน้านี้กลั่นออกมาเป็นวิญญาณสูญสลายที่สามารถกระตุ้นข้อบกพร่องของวิญญาณนี้ หากละทิ้ง…ก็จะเป็นการบำรุงก้าวแรกของวิญญาณแห่งการทำลายล้างชีวิต จะเลือกวิญญาณสัตว์คลื่นเสียงไม่ได้’

ซูหมิงขมวดคิ้ว ทว่าทันใดนั้นก็พลันอึ้งงันไป ก่อนหน้านี้เขาเพียงรู้สึกว่าตนเป็นชายชรา ทว่าความจริงเพียงมองจากมุมมองที่สามเท่านั้น ตอนนี้พอตนขมวดคิ้ว ในใจก็สั่นไหว ดวงตาเปล่งประกายตามมา เขายกมือขวา ก้มหน้าลง และค่อยๆ ยันกายขึ้น

ฟ้ากระจ่างดาวกว้างใหญ่ บนเรือยักษ์ผุพัง ซูหมิงตรงหัวเรือมองทอดไกลไปยังความว่างเปล่ามืดมิด

เขาตรึกตรองอยู่ชั่วครู่ แล้วกล่าวขึ้นเนิบๆ

“เม็ดโอสถ”

แทบเป็นช่วงที่เขาเอ่ยประโยคนี้ มวลอากาศตรงหน้าบิดเบี้ยวในทันใด แล้วปรากฏเม็ดโอสถหลายเม็ด มีทุกชนิดในเส้นทางภูเขาลูกแรกของโลกมิติเศษหินที่เขาใช้เซ่นไหว้เพื่อเปิดประตูภูเขา

มองเม็ดโอสถเหล่านี้ก็เหมือนมองอดีตของตัวเอง มองความทรงจำต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของความทรงจำในกาลเวลาของอดีต

ซูหมิงถอนหายใจเบาแล้วควบคุมจิตใจตัวเอง สายตามองเม็ดโอสถที่ลอยอยู่ตรงหน้า แล้วก็มองสัตว์คลื่นเสียงหลายแสนตัวในตาข่ายยักษ์ เขาเริ่มเข้าใจแล้ว

อันดับแรกนี่คือมิติมายา ต่อมา เม็ดโอสถที่ลอยอยู่ตรงหน้ารวมถึงสัตว์คลื่นเสียงหลายแสนตัวนี้คือการเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ทดลองยาให้ซูหมิง

ใช้เม็ดยาเหล่านี้มาผสมกัน หลังดำเนินการกลั่นสองครั้งแล้วก็จะหลอมออกมาเป็นเม็ดยาแห่งวิญญาณสูญสลายที่ใช้โดยตรงกับข้อบกพร่องในชีวิตสัตว์คลื่นเสียงและสามารถฆ่าล้างเผ่าพันธุ์พวกมันได้!

‘การหลอมเม็ดยาชนิดนี้ต้องลองหลายครั้ง ต้องเข้าใจสัตว์คลื่นเสียงให้มากพอ กระทั่งนิสัยของมัน ชีวิตรวมถึงโครงสร้างทั้งหมดของเลือดในร่างกาย ต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงจะหาข้อบกพร่องสัตว์ชนิดนี้พบ จากนั้นก็หลอมเป็นยาวิญญาณสูญสลาย

ข้ามเรื่องที่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ไปก่อน ต่อให้สุดท้ายหลอมสำเร็จ ก็ต้องใช้เวลานานมาก….หากเป็นอย่างนั้น มิติมายานี้จึงมีโอกาสสูงมากที่เวลาจะต่างกับโลกภายนอก’

ซูหมิงใจสั่นไหว เขามองตาข่ายใหญ่ที่ลอยอยู่ในมวลอากาศตรงหน้าก่อน สัตว์คลื่นเสียงหลายแสนตัวในนั้นตอนนี้ไม่ร้องคำรามอยู่นานแล้ว แต่ยังคงท่าทางต่างๆ ไว้ราวกับถูกหยุดนิ่ง

‘กระทั่งมีโอกาสสูงมาก….ที่เวลาของที่นี่ จะเท่ากับโลกภายนอกหยุดนิ่ง เพราะนี่คืออดีต มันไม่มีจุดเชื่อมกันกับเวลาในปัจจุบัน’ นัยน์ตาซูหมิงแวววาว ในชีวิตนี้ เขาคุ้ยเคยกับมิติแบบนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเศษหินสีดำหรือโลกของจู๋จิ่วอิน หรือโลกของ เอ้อชาง เขาก็ผ่านมาไม่น้อยแล้ว

มิติเหล่านี้กับโลกภายนอกมีบ้างที่เวลาช้าลง บ้างก็เวลาตรงกับโลกข้างนอก ส่วนลึกในใจซูหมิงยังเคยคิดว่าเหตุใดกันแน่ถึงทำให้เวลาในมิติเหล่านี้ต่างกัน

เพียงแต่ความคิดมันซับซ้อนเกินไป เขาจึงหาสาเหตุไม่เจอสักที ตอนนี้เขามองมวลอากาศรอบๆ เงียบอยู่ครู่หนึ่งแล้วนัยน์ตาพลันเป็นสมาธิ ก่อนยกมือขวาชี้ไปยังสัตว์คลื่นเสียงหลายแสนตัวในตาข่ายยักษ์

ตาข่ายยักษ์มีอยู่จุดหนึ่งเลือนรางในทันใด สัตว์ร้ายที่ถูกซูหมิงชี้ก็หายไปแล้วมาปรากฏอยู่ข้างกายเขา มันลืมตาจ้องเขา แต่กลับแน่นิ่งดุจดั่งรูปปั้น

ซูหมิงมองสัตว์คลื่นเสียงตรงหน้าพลางยกมือขวาขึ้นกดบนตัวมัน จิตสัมผัสขยายออกและไหลเข้าสู่ร่างกายมัน ก่อนเริ่มทำการสังเกตอย่างละเอียดทีละน้อย

เพื่อเข้าใจทุกอย่างของสัตว์ตัวนี้ จากนั้นก็หาข้อบกพร่องของเผ่าพันธุ์นี้ แล้วหลอมเป็นยาแห่งวิญญาณสัตว์คลื่นเสียงสูญสลาย!

‘ชายชราคนนั้นเพียงสัมผัสมัน ก็ทำให้ระดับชีวิตมันพัฒนาขึ้นไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าในเสี้ยววินาทีนั้น เขาเข้าใจโครงสร้างชีวิตทั้งหมดของมัน ดังนั้นจึงทำแบบนั้นได้

สัตว์คลื่นเสียงเป็นเช่นนี้ ดูๆ แล้วชายชราคนนั้นคงทำแบบนี้กับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ได้อย่างง่ายดายเช่นกัน

เขาใช้เพียงชั่วขณะเดียว แต่ข้าต้องใช้เวลาไม่มีสิ้นสุด ทว่าทิศทางของเราเหมือนกัน สักวันหนึ่งข้าจะเป็นแบบนั้นบ้าง’

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!