Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1032

ตอนที่ 1032 เจ้าลองดู

จูโหย่วไฉหน้าเปลี่ยนสี เขาหลบไม่ทัน ยามนี้นัยน์ตาฉายแววเย็นชา และไม่คิดจะหลบแล้ว แต่หลับตาลง พลังจากขั้นพลังปะทุมาจากในร่างกาย จากนั้นเข้าปะทะกับมือยักษ์นั้น

เสียงโครมดังขึ้น มือยักษ์สั่นสะท้าน จูโหย่วไฉกระอักเลือด ร่างลอยไปราวกับ ว่าวสายป่านขาด ตอนที่ไปตกอยู่บนหินผุพังเสียงดังลั่น ทั่วร่างเขาแห้งเหี่ยวอย่างรวดเร็ว ร่างกายใหญ่กลายเป็นเหมือนโครงกระดูก

พลังชีวิตทั่วร่างคล้ายกับถูกมือยักษ์สูบเอาไปทั้งหมดในพริบตาเมื่อครู่ ตอนนี้ มือยักษ์ที่รวมจากผุยผงเปล่งแสงนุ่มนวล มีเลือดเนื้องอกออกมาอย่างว่องไว

“วงโคจรชีวิตเยี่ยมจริงๆ…ของบำรุงแบบนี้ฟื้นฟูให้ข้าได้เล็กน้อย” ขณะเสียง แหบแห้งดังก้องในอากาศ จูโหย่วไฉดวงตาเป็นประกายเย็นชาทันที

“วัฏจักรชีวิตยืนยาว ข้ายินยอมมีชีวิต ข้ายินยอม…ระเบิด!”

สิ้นเสียงนี้ เสียงแก่ชราที่ดังก้องในอากาศพลันเงียบลง ในเวลาเดียวกัน มือยักษ์ที่รวมจากผุยผงสั่นสะท้านกลางอากาศ เลือดเนื้อที่งอกออกมาจากในนั้นแหลกออกพร้อมกับเสียงระเบิด

พริบตาที่ระเบิดออก จูโหย่วไฉยิ้มเยาะ พร้อมกันนั้นยังมีเสียงคำรามด้วยความโกรธดังก้องมาจากความว่างเปล่า

“เต๋าสิ้นสูญ! เจ้าคือสายของหงเยวี่ย เจ้าคือศิษย์ของเขา!”

สิ้นคำพูดนี้ ทันใดนั้นจูโหย่วไฉตัวสั่นขึ้นมา ดวงตาเขาเบิกกว้าง จ้องมือยักษ์ที่พังทลายลงตาเขม็ง ข้างหูดังก้องเพียงคำพูดของอีกฝ่ายว่า เต๋าสิ้นสูญ!

วิชาที่เขาใช้คือวิชาวัฏจักรชีวิตยืนยาวที่ได้รับสืบทอดมาจากอาจารย์หงเยวี่ย ส่วนสิ้นสูญคือเสียงจากใจที่เกิดขึ้นหลังจากเขาเสียคนรัก แต่ตอนนี้ สิ่งประหลาดของเผ่าเหริงอูกลับเอ่ยว่าวิชานี้คือ เต๋าสิ้นสูญ แรงกระทบกระเทือนที่สร้างให้กับจูโหย่วไฉ ทำให้เขาตกอยู่กลางความสับสน ภายในความสับสนมีความกลัวอยู่ลึกๆ และยัง…หวนนึกถึงสิ่งที่อาจารย์ทำในอดีต

“ฆ่ามัน จะให้มันดำรงอยู่ไม่ได้ คนที่ฝึกเต๋าสิ้นสูญทุกคนต้องสูญสิ้น ต้องสูญสิ้นไปทั้งหมด จะต้องสูญสิ้นไป!” เสียงคลุ้มคลั่งดังก้องอยู่กลางอากาศ หมอกดำจำนวนมากที่ออกมาจากมือยักษ์ม้วนหายไปในอากาศ ขณะเดียวกันบรรพบุรุษรุ่นแรกของ เผ่าเหริงอูขยับวูบไหวตรงไปหาจูโหย่วไฉ

จูโหย่วไฉตัวสั่น แววตาสับสน

บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงที่อยู่บนหินผุพังไกลๆ มีสีหน้ามัวหมอง เขาบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน

ชั่วขณะที่บรรพบุรุษเหริงอูเข้ามาใกล้ ซูหมิงเส้นผมเทาที่นั่งฌานแน่นิ่งมา หกเดือนลืมตาขึ้น

ตอนที่เขาลืมตา ทวนสิ้นสูญส่งเสียงร้องอื้ออึง กลายเป็นแสงดำตรงมาหาซูหมิง เขายันกายขึ้นคว้าทวนเอาไว้ ก่อนก้าวเดินไปพร้อมกับปาทวนใส่บรรพบุรุษเหริงอู

“ไม่รู้จักประมาณตน!” บรรพบุรุษเหริงอูยิ้มเยาะ เขายกมือขวาสะบัดไปยังทวนที่ตรงเข้ามา ในสายตาเขา หากทวนอยู่ในมือจูโหย่วไฉคงทำให้เขาตัวสั่น แต่หากอยู่ในมือคนตรงหน้าก็เหมือนกับเสียของ เพียงสะบัดมืออีกฝ่ายก็สลายหายไปได้แล้ว

เมื่อไม่มีจูโหย่วไฉ เด็กน้อยผู้ครองหินลำดับห้าคนนี้ก็เป็นเพียงขยะที่โจมตีครั้งเดียวดับดิ้นไป!

บรรพบุรุษเหริงอูเกิดความมั่นใจแบบนี้อย่างแรงกล้า แต่ว่าช่วงที่มือเขาปะทะกับทวนสิ้นสูญที่ซูหมิงปามา ทั้งร่างกลับสั่นสะท้าน พลังมหาศาลที่ทำให้เขาหวาดกลัวปะทุมาจากในทวนสิ้นสูญ ในเวลาเดียวกันเมื่อพลังนี้แผ่กระจาย ยังมีดินทรายกระจายออกมาจากทวน ดินทรายเหล่านี้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ชั่ววูบเดียวก็กลายเป็นฝ่ามือดินทรายตรงหน้าบรรพบุรุษเหริงอู เสียงโครมดังขึ้น ฝ่ามือนั้นกดตรงระหว่างคิ้วบรรพบุรุษเหริงอู

ภยันตรายถึงตายพลันเกิดขึ้นในใจเขาอย่างเด่นชัด เขาหรี่ตาลง ร่างกระเด็นถอยไปขณะตกใจกลัว เวลาเดียวกันตรงส่วนลึกในใจยังร้องเรียกเสียงแหลมเล็ก

“วิญญาณบรรพบุรุษปกป้อง!”

ท่ามกลางเสียงโครมคราม ฝ่ามือดินทรายปะทะกับบรรพบุรุษเหริงอู ร่างกายเขาแหลกเป็นเสี่ยงๆ โดยทันที กฎดวงชะตาทุกอย่างของเขาไม่มีแรงต่อต้านใดๆ กับ ฝ่ามือนี้เลย นี่คือความต่างชั้นของพลัง การข่มด้วยความต่างแบบนี้คือความตายที่บรรพบุรุษเหริงอูไม่อาจต่อต้าน

ยามที่ร่างกายเขาระเบิดออกกลายเป็นเลือดเนื้อกระจาย วิญญาณบรรพบุรุษของเขาไม่ได้ลงมาปกป้อง เพราะมือยักษ์ที่รวมจากผุยผงก่อนหน้านี้ก็คือวิญญาณบรรพบุรุษเผ่าเหริงอู

วิญญาณที่สืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษรุ่นแรก ถึงจะแข็งแกร่งแต่ก็มีข้อบกพร่องถึงชีวิตอยู่ ข้อบกพร่องนี้ต่อให้เป็นสี่มหาโลกแท้จริงยังได้แต่คาดเดา ไม่รู้รายละเอียด ทว่า…สี่ผู้ปกปักที่ยิ่งใหญ่แห่งทะเลลำดับห้ารู้

ดังนั้นบรรพบุรุษเผ่าธุลีแผดเผาจึงรู้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ซูหมิงจึงรู้ทุกอย่างจากในแผ่นหยกด้วย

ข้อบกพร่องนี้คือมันจะมีสภาพที่แกร่งที่สุดเมื่ออยู่ในเผ่าของตน และจะมีสภาพอ่อนแอที่สุดเมื่ออยู่นอกเผ่า เพียงแต่วิญญาณบรรพบุรุษเผ่าเหริงอูแทบจะออกมาข้างนอกน้อยมาก เว้นก็แต่…มีสิ่งที่ทำให้เขาต้องออกมา

อย่างเช่นหินลำดับห้าที่มีระลอกคลื่นรุนแรงอย่างยิ่ง และมากกว่าครั้งก่อนในประวัติศาสตร์ทั้งหมด แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ก็ทำให้เพียงใจสั่นไหวเท่านั้น หากจะออกมาเองยังเป็นไปไม่ได้

และเว้นแต่จะมี….ยอดฝีมือขั้นเกิดมาอีกหนึ่งคน!

จุดบกพร่องร้ายแรงตรงนี้ วิญญาณบรรพบุรุษเหริงอูใช้เวลามานานไม่รู้กี่ปี สูญเสียไปมากมาย แต่ก็ทำได้เพียงมีดวงจิตพื้นฐานสุดกับความทรงจำที่ลึกซึ้งที่สุดเล็กน้อยเท่านั้น ฉะนั้นแล้ว ทุกช่วงเวลาเขาจะต้องเติมพลังชีวิตหนึ่งครั้ง และการเติมที่ดีที่สุดคือการกินยอดฝีมือขั้นเกิดหนึ่งคน

ในทะเลดาราต้นกำเนิดจิตใช่ว่าจะไม่มียอดฝีมือขั้นเกิด แต่ก็หายไปพอสมควรแล้ว ต่อให้ไม่หายไปก็เลือกอยู่เงียบสงบเหมือนกับบรรพบุรุษดินทราย หากฝืนกินจะได้ผลไม่ดีนัก กลับจะส่งผลกระทบถึงพลังภัยพิบัติด้วย

สิ่งที่เขาต้องการคือยอดฝีมือขั้นเกิดในสภาพสมบูรณ์ แต่เขาไม่เคยไปโลกนอกทะเลดาราต้นกำเนิดจิต ถึงอย่างไรต้นกำเนิดของเขาก็อยู่เผ่าเหริงอู

ดังนั้นพลังขั้นเกิดจากจูโหย่วไฉจึงทำให้ในสติปัญญาซึ่งมีไม่มากของวิญญาณบรรพบุรุษเหริงอูเกิดความโลภอย่างแรงกล้า เขาจึงมาด้วยกัน

“ข้าเสร็จสิ้นคำสัญญากับเจ้าแล้ว เจ้าต้องทำเรื่องที่รับปากกับข้าให้ได้” จูโหย่วไฉหลับตาลง ตอนที่ลืมตาอีกครั้งความสับสนในแววตาถูกซ่อนไว้ในก้นบึ้งหัวใจ เขาพยายามยืนขึ้นบนเศษหินผุพังแล้วมองซูหมิง

“เจ้ารู้นานแล้วรึ?” ซูหมิงมองจูโหย่วไฉ

“ตอนแรกก็ไม่ แต่ทุกอย่างหลังจากนั้นมาก็มองเงื่อนงำออก ใช้ข้าเป็นตัวล่อให้อีกฝ่ายออกมา ดูท่านี่คงจะเป็นสัญญาที่เจ้าทำไว้กับสี่คนแห่งทะเลลำดับห้า” ขณะที่ จูโหย่วไฉกล่าวเรียบๆ บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงที่อยู่ไกลออกไปมีสีหน้ากลับมาดังเดิม เขาหน้าขาวซีด ยามที่มองซูหมิง ซูหมิงผมเทาให้ความรู้สึกที่อ่านความคิดไม่ออกและหวาดกลัวแก่เขา

“ข้าคือชาวเผ่ายมโลก” ซูหมิงมองจูโหย่วไฉแวบหนึ่งแล้วส่งกระแสจิตไป

สิ้นคำพูดนี้ จูโหย่วไฉตาเปล่งประกายทันใด ผ่านไปพักใหญ่จึงพยักหน้า

ซูหมิงหมุนตัวกลับไปมองสี่คนสวมหน้ากากที่ลอยอยู่กลางอากาศทะเลลำดับห้าตอนนี้ สีหน้าเย็นชา จากนั้นถึงใช้มือขวาตบถุงเก็บวัตถุ ในมือมีแผ่นหยกแผ่นหนึ่งโผล่ออกมา โยนไปทางสี่คนก่อนจะเอ่ยเสียงราบเรียบ

“คืนสิ่งนี้ให้” แผ่นหยกนี้เป็นบรรพบุรุษธุลีแผดเผาที่มอบให้เขาในตอนแรก ยังกล่าวไว้อีกว่าให้เปิดทางไปโลกแท้จริงที่ห้าให้แก่ผู้ถือแผ่นหยก ห้ามรบกวน

คนสวมหน้ากากสุขในสี่คนนั้นยกมือขวาคว้าอากาศ แผ่นหยกตรงมายังมือเขา เมื่อคว้าเอาไว้ในมือแล้วก็บีบเบาๆ แผ่นหยกพลันกลายเป็นเถ้าธุลีหายไป

“เซ่นไหว้” คนสวมหน้ากากสุขกล่าวเรียบๆ

“สิ่งมีชีวิตเผ่าขวางสวรรค์หลายพันคน สัตว์ร้ายทะเลดาราเกือบพันตัว ยอดฝีมือหลายคน และยังมี….” ระหว่างที่ซูหมิงกกล่าวเสียงเรียบ ก็มีเสียงร้องโหยหวนดังมาจากข้างหลัง ก่อนเห็นว่ามีดินทรายลากผ่านไป ระหว่างที่มันลากยาวดุจพายุคลั่ง ขณะแผ่ขยายออกไป พลังจากวิญญาณดินทรายสามารถบดขยี้ชาวเผ่าเหริงอูเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย

ต่อให้เป็นยอดฝีมือเผ่าเหริงอูที่บาดเจ็บสาหัสสามคนยังยากจะหนีรอดจากภัยพิบัตินี้

ท่ามกลางเสียงร้องแหลมดังก้อง ซูหมิงกล่าวเสียงดังต่อไป

“ยังมีชาวเผ่าเหริงอูหลายพันคน ยอดฝีมือขั้นกุมสามคน ยอดฝีมือขั้นชะตาหนึ่ง บวกกับวิญญาณบรรพบุรุษเผ่าเหริงอูที่บาดเจ็บ สิ่งเหล่านี้คือของเซ่นไหว้” ซูหมิง สีเทาพูดด้วยความเย็นชา

คนสวมหน้ากากสุขโกรธเศร้าแค้นสี่คนแห่งทะเลลำดับห้าต่างเงียบงัน ผ่านไปครู่หนึ่งสี่คนนี้สะบัดแขนเสื้อ ทันใดนั้นนอกทะเลลำดับห้า ภายในแดนสงครามก่อนหน้านี้มีแสงหม่นนับไม่ถ้วนเผยขึ้น ท่ามกลางแสงเหล่านี้ปรากฏเสี้ยววิญญาณขึ้นทีละดวง เสี้ยววิญญาณเหล่านี้…ก็คือคนที่ตายไปก่อนหน้า

พวกเขาลอยล่องไปทางทะเลลำดับห้าด้วยสีหน้าสับสน เมื่อหลอมรวมเข้าสู่ทะเลแล้ว ทะเลลำดับห้าก็ไหลเชี่ยวโดยพลัน ทั้งยังแผ่ขยายออกไปพันจั้ง จากนั้นถึงกลับมาสงบนิ่งดังเดิม

ยามนี้พวกเขาสี่คนหมุนตัวกลับ ขณะกำลังจะหายตัวไปจากที่นี่ และกลับไปยังส่วนลึกทะเลลำดับห้าเพื่อปฏิบัติหน้าที่เฝ้ารักษาที่นี่ต่อ ซูหมิงกลับเอ่ยขึ้นก่อน

“ข้าต้องการลดเวลาลง ให้ครึ่งปีที่เหลือเปลี่ยนเป็นวันเดียว!” ซูหมิงกล่าวออกไป สี่คนที่กำลังจะหายไปหยุดชะงัก

“เซ่นไหว้!” คนสวมหน้ากากสุขกล่าวขึ้นอีกครั้ง

เส้นผมยาวสีเทาของซูหมิงพลันเปลี่ยนสีเป็นแดงฉาน ในดวงตาเผยความบ้าคลั่งแห่งการทำลายล้าง เขายกมือขวาชี้ฟ้ากระจ่างดาว ผืนฟ้าพลันเกิดเสียงดังสนั่น ทั้งทะเลลำดับห้าไหลเชี่ยวอีกครั้ง พร้อมกันนั้นกลางฟ้ากระจ่างดาวยังมีทะเลเพลิงปรากฏขึ้น ระหว่างที่มันขยายไปก็ปรากฏเงามายาเค้าโครงเตาหลอมลำดับห้ากลางผืนฟ้า

“พวกเจ้าสี่คนลองพูดคำว่าเซ่นไหว้อีกครั้งดู?” ซูหมิงเส้นผมแดงกล่าวด้วยเสียงบ้าอำนาจ สีหน้าเหมือนกำลังชำเลืองมองจากเบื้องสูง สร้างความสั่นสะเทือนไป ทั่วแปดทิศ

เขาในร่างสีเทาจะปฏิบัติตามสติปัญญาอย่างเด็ดขาด ทุกอย่างต้องจ่ายให้น้อยที่สุดและต้องได้มามากที่สุด นี่คือการคงอยู่ของเขา แต่ว่า…ซูหมิงร่างสีแดงเป็นผู้มาเยือนที่เย่อหยิ่ง บ้าอำนาจ บ้าคลั่งและชอบทำลายล้าง เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาในร่างนี้จะไม่มีคำว่าเหตุผล ไม่มีหลักการ มีเพียง…จิตสังหารที่พร้อมจะระเบิดปะทุ

เขาตอนที่มีเตาหลอมลำดับห้าถึงขั้นทำให้จูโหย่วไฉต้องหรี่ตาลง ซ้ำยังเป็นคนที่แกร่งที่สุดในทะเลดาราต้นกำเนิดจิตตอนนี้!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!