Skip to content

ต้าวอ้วนสื่อรัก 2

Chapter 2

ดินเนอร์ 1

บอดี้การ์ดคนอื่นๆ ก็ระวังตัวอยู่ในที บอดี้การ์ดคนนั้นเปิดประตูแง้มเล็กน้อย มองผู้หญิงคนนั้น ถามว่า “มีอะไรครับ?”

“คือแมวฉันหายไป ฉันว่าฉันได้ยินเสียงแมวจากห้องคุณน่ะค่ะ” พลอยไพลินบอก บอดี้การ์ดถาม “แมวดำตัวใหญ่ๆ ใช่ไหม?”

“ใช่ค่ะๆ” พลอยไพลินพยักหน้าหงึกๆ บอดี้การ์ดมองผู้หญิงตรงหน้า เห็นว่าท่าทางเป็นผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง จึงหันไปบอกคนในห้องว่า “เธอบอกว่าเป็นเจ้าของแมวหมูตัวนั้นน่ะ”

“ให้เธอเข้ามาเอาแมวออกไป” อัมมานสั่ง บอดี้การ์ดรับคำสั่ง “ครับ”

บอดี้การ์ดคนอื่นๆ ก็ระวังตัวอยู่ในที มือกำด้ามปืนที่เอวเอาไว้อย่างแนบเนียน บอดี้การ์ดเปิดประตูให้ผู้หญิงคนนั้น “เชิญ”

พลอยไพลินได้ยินเสียงต้าวอ้วนจึงรีบเดินเข้าไปพลางพูดขอโทษไปด้วย “ขอโทษด้วยค่ะที่รบกวน”

เธอเดินเข้าไปเห็นผู้ชายหลายคนก็ชะงักกึกอย่างรู้สึกกลัวๆ ท่าทางพวกเขาเหมือนพวกบอดี้การ์ดที่เห็นในหนังบ่อยๆ ทำให้เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างหวาดๆ

“แง๊ววววว…แง๊ววววว…” เสียงต้าวอ้วนร้อง พลอยไพลินมองไปเห็นต้าวอ้วนซุกอยู่ตรงมุมห้อง ถูกผู้ชายหลายคนล้อมเอาไว้ ทำเธอลืมความหวาดกลัวไปชั่วขณะ รีบเดินไปหาต้าวอ้วนทันที เธอเรียกมันน้ำเสียงอ่อนโยนปลอบประโลม “ต้าวอ้วน…เมี้ยวๆ”

“แง๊ววววว…” ต้าวอ้วนยังร้องขู่ แต่เสียงร้องอ่อนลงไปนิดหน่อย “แง๊ววววว…”

พลอยไพลิน ยอบตัวลงไปนั่งยองๆ อยู่ข้างมัน ค่อยๆ ยื่นมือไปใกล้ๆ มัน “ต้าวอ้วน…เมี้ยว…”

อัมมานมองดูผู้หญิงคนนั้นกับแมวดำตัวใหญ่นั่น เขาได้ยินเสียง ‘เมี้ยว’ ของเธอ ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ

“แง๊ววววว…แง๊ววววว…” ต้าวอ้วนร้องขู่เสียงอ่อนลงเรื่อยๆ มันมองมือขาวๆ ที่ยื่นมือใกล้ จนกระทั่งมือนั้นลูบๆ หัวมัน

“เมี้ยวๆ มานี่มาเด็กดีๆ” พลอยไพลินลูบๆ หัวต้าวอ้วนแล้วอุ้มมันขึ้นมา ต้าวอ้วนเกาะแน่นอย่างหวาดกลัว สายตามันมองคนพวกนั้นเขม็ง ราวกับจะบอกว่า ‘อย่ามาใกล้เรานะ เราแจกยันต์ 5 แถวนะ’

พลอยไพลินลุกขึ้นยืน มองคนกลุ่มนั้นแล้วพูดขอโทษ “ขอโทษค่ะๆ”

“อ่า…” บอดี้การ์ดคนหนึ่งกำลังจะพูดว่า ‘ไม่เป็นไร’ แต่อัมมานกลับพูดขึ้นว่า “แมวคุณทำลูกน้องผมบาดเจ็บ คุณต้องชดใช้”

พลอยไพลินมองคนพูด เธอเห็นเขาหล่อดีแต่เธอไม่ได้สนใจความหล่อของเขานักหรอก เธอสนใจคำว่า ‘ต้องชดใช้’ นั่นต่างหาก เธอมองผู้ชายพวกนั้นที่มีรอยข่วนกันถ้วนหน้า มากบ้างน้อยบ้างต่างกันไป ดูจากสภาพพวกเขาแล้วคงพยายามจับต้าวอ้วนจนมันสู้สุดชีวิตแน่ๆ เลย ต้าวอ้วนไม่ใช่แมวที่เป็นมิตรกับทุกคน มันเป็นมิตรกับคนบางคนเท่านั้น อย่างเช่นเธอ อย่างเช่นป้าใจ ส่วนคนอื่นๆ ก็ต้องดูตามความคุ้นเคย เธอมองพวกเขาแล้วหน้าเจื่อนๆ คาดว่าค่ารักษาไม่น้อยแน่ๆ

“ฉันจะรับผิดชอบค่ารักษาค่ะ แต่ว่าตอนนี้ฉันมีเงินแค่ 750 บาท เดี๋ยวฉันไปหยิบมาให้ ส่วนที่เหลือฉันจะทยอยจ่ายทีหลังค่ะ” เธอบอกอย่างมีความรับผิดชอบ อัมมานฟังแล้วเดาจากน้ำเสียงของเธอได้ทันทีว่าเธอน่าจะมีปัญหาทางการเงินอยู่ แต่เขาก็ไม่ค่อยแน่ใจนักเพราะเธอพักที่นี่ มีเงินจ่ายค่าห้องก็ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องเงินนี่นา หรือว่าเธอเป็นสาวไซด์ไลน์ที่แขกพามา?

“คุณพักอยู่ห้องไหน?” อัมมานถาม พลอยไพลินเกือบจะบอกออกไป “ห้อง…” เธอชะงักไปไม่กล้าบอกเพราะเธอแอบเข้ามาพัก ถ้าคนอื่นรู้ อาจทำให้ไข่ดาวเดือดร้อนก็ได้ เธอจึงหาทางเลี่ยงว่า “เอ่อ เดี๋ยวฉันเอาแมวไปเก็บก่อนแล้วจะเอาเงินมาให้ค่ะ”

“เชิญ” อัมมานบอก พลอยไพลินรีบอุ้มต้าวอ้วนเดินออกไปทันที เมื่อพ้นประตูห้องออกมาแล้วเธอได้ยินเสียงประตูปิดตามหลัง เธอหันไปมอง ไม่เห็นใครตามออกมาด้วยก็แอบโล่งใจ “เฮ้อ…”

เธอรีบเดินกลับห้อง ล้วงคีย์การ์ดออกมาเสียบที่ประตูแล้วเปิดประตูเดินเข้าห้องไป เธอพาต้าวอ้วนไปขังไว้ในห้องน้ำก่อน จากนั้นก็เดินไปหยิบเงินมาแล้วใส่กระเป๋ากางเกงเดินออกจากห้องไป กลับไปที่ห้องนั้นอีกครั้ง เมื่อไปถึงหน้าห้องเธอก็กดกริ่งข้างประตู กริ๊งงงงง…

ประตูเปิดออก บอดี้การ์ดบอก “เชิญ”

พลอยไพลินเดินเข้าไปในห้อง พยายามทำใจให้เข้มแข็ง เธอเดินไปยืนใกล้ๆ กับผู้ชายที่หล่อๆ คนนั้นซึ่งเธอเดาว่าเขาเป็นหัวหน้าของคนกลุ่มนี้ เธอล้วงเงิน 750 บาทออกมายื่นให้เขา “นี่ค่ะ ค่ารักษา ตอนนี้ฉันมีเท่านี้ แต่ฉันจะพยายามหามาให้พวกคุณเร็วที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้”

อัมมานมองเงินในมือเธอ ถามตรงๆ ว่า “คุณมีเงินเท่านี้?”

“ค่ะ” พลอยไพลินพยักหน้ารับ เธอยื่นเงินไปใกล้เขา อัมมานส่งสายตาไล่บอดี้การ์ด พวกบอดี้การ์ดเห็นสายตาเจ้านายก็ค่อยๆ ถอยออกไปอย่างเงียบๆ จนพวกบอดี้การ์ดออกไปหมดแล้วอัมมานจึงถามว่า “คุณทำงานอย่างว่าเหรอ?”

พลอยไพลินเข้าใจคำถามของเขา ‘อย่างว่า’ ที่เขาหมายถึงก็คือสาวขายบริการไง เธอจึงหน้าตึงขึ้นมาทันควัน “ฉันไม่ได้ทำงานอย่างว่า”

“ถ้าไม่ใช่แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่? เป็นแขกที่มาพักโรงแรมนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องเงินนะ” อัมมานพูดพลางมองเธอ พลอยไพลินพูดว่า “ฉันมีปัญหาเรื่องเงินนั่นเป็นปัญหาของฉัน แต่ฉันรับรองว่าฉันจะหาเงินมาจ่ายค่ารักษาให้คุณจนครบแน่ๆ”

“เอางี้ล่ะกัน ผมให้คุณชดใช้ด้วยการไปทานดินเนอร์กับผมมื้อนึง” อัมมานบอก พลอยไพลินเบิกตาโต “ห๊ะ!”

“ว่าไง? ดินเนอร์มื้อเดียว จบหนี้ที่คุณติดลูกน้องผมทั้งหมด” อัมมานถามพลางมองเธอ พลอยไพลินคิดๆ แล้วถามออกไป “แค่ดินเนอร์จริงๆ นะ”

“จริง” อัมมานพยักหน้า พลอยไพลินมองเขาอย่างไม่ค่อยไว้ใจ แต่ดูๆ แล้วเขาก็น่าจะเป็นสุภาพบุรุษ อีกอย่างเขาน่าจะรวยมากด้วย พักห้องสวีทหรูขนาดนี้ไม่รวยพักไม่ได้หรอก แล้วเขาก็มีลูกน้องตั้งหลายคน คนประเภทนี้ไม่น่าจะขาดแคลนผู้หญิง บางทีเขาแค่อาจจะอยากได้คนกินข้าวด้วยแก้ขัดล่ะมั้ง อีกอย่างหน้าตาเธอก็ไม่ใช่ประเภทสวยหยาดฟ้ามาดิน ก็แค่ตัวเล็กๆ ขาวๆ หน้าตาดีนิดหน่อยเท่านั้นเอง

“ว่าไง?” อัมมานเร่ง พลอยไพลินจึงพยักหน้า “ตกลง”

“งั้นคืนนี้ 1 ทุ่ม คุณมาที่นี่นะ” อัมมานบอก พลอยไพลินพยักหน้า “ค่ะ”

“เชิญ” อัมมานผายมือไล่ พลอยไพลินจึงเดินออกจากห้องเขา ทั้งโล่งใจทั้งหนักใจ โล่งใจที่หาทางจบหนี้ที่ต้าวอ้วนก่อได้แล้ว แต่หนักใจที่ต้องดินเนอร์กับคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันนี่แหละ ไม่รู้ว่าเขาจะมีแผนอะไรรึเปล่า? เธอเดินกลับห้องไป

หลังจากผู้หญิงคนนั้นกลับไปแล้ว อัมมานก็เรียกเลขามาถาม “เธออยู่ห้องไหน?”

ซัลมา เลขาของอัมมานก้าวไปยืนข้างๆ ตอบว่า “ห้อง 2205 ครับ”

“อ่อ” อัมมานพยักหน้ารับรู้ ซัลมาพูดต่อ “แต่ว่าห้องนั้นปิดรอซ่อมอยู่ครับ ดูเหมือนว่าเธอจะแอบเข้ามาพักโดยที่มีคนในรู้เห็นครับ”

“ไปสืบมา” อัมมานสั่ง ซัลมารับคำ “ครับ” เขาถอยออกไป แล้วเร่งไปสืบเรื่องอย่างละเอียด

เมื่อกลับถึงห้อง พลอยไพลินก็เข้าไปในห้องน้ำ นั่งลงข้างๆ ต้าวอ้วนแล้วบ่น “ไอ้ต้าวอ้วนตัวดี แกก่อเรื่องให้ฉันแล้วนะ จะแอบออกไปทำไมเนี่ย ดีนะที่เขาแค่ให้ไปกินข้าวด้วย ถ้าต้องจ่ายตังคงหลายพันแน่เลย นี่ๆ แกจะเที่ยวแจกยันต์ 5 แถวไปทั่วแบบนี้ไม่ได้นะ”

เธอบ่นพลางลูบๆ มันไปด้วย ต้าวอ้วนลุกขึ้นบิดขี้เกียจแล้วก้าวขึ้นไปบนตักนุ่มๆ พลอยไพลินจึงอุ้มมันออกไปนอนที่เตียง เธอนอนกอดมัน มันก็นอนอยู่ข้างๆ เธอ สักพักหนึ่งคนหนึ่งแมวก็หลับไปด้วยกัน

ช่วงที่พลอยไพลินกำลังหลับ ซัลมาก็ไปพบผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการใหญ่รีบลุกขึ้นต้อนรับ “โอ้ มาหาผมถึงนี่ มีอะไรให้ผมรับใช้เหรอครับ? อันที่จริงคุณไม่ต้องมาก็ได้ครับ แค่โทรมาผมก็จะรีบไปพบทันทีเลยครับ”

“ผมต้องการให้คุณตรวจสอบหน่อยว่าห้อง 2205 ใครเป็นคนทำคีย์การ์ดครั้งล่าสุด” ซัลมาบอก โกเมศขมวดคิ้ว “หือ?”

“รีบเช็กซิ” ซัลมาเร่ง โกเมศจึงเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน เข้าระบบแล้วเช็กข้อมูล สักครู่เขาก็บอกว่า “พนักงานรินรดาเป็นคนทำคีย์การ์ดครับ”

“ตามเธอมาที่นี่ เดี๋ยวนี้” ซัลมาสั่ง โกเมศรับคำสั่ง “ครับ”

เขายกหูโทรศัพท์แล้วต่อสายไปที่เคาน์เตอร์ล็อบบี้ เมื่อปลายสายรับสายเขาก็สั่งว่า “ให้คุณรินรดามาพบผมที่ห้องผมด่วน”

“ค่ะ” อัญญารินรับคำสั่ง เสียงต้นสายก็ตัดไป เธอวางโทรศัพท์แล้วบอกรินรดาว่า “ดาว ผู้จัดการใหญ่เรียกพบเดี๋ยวนี้น่ะ”

“หือ?” รินรดาชะงักไป 2 วิ. แล้วพยักหน้ารับ “งั้นฉันไปก่อนนะ”

“อืมๆ รีบไปเถอะ” อัญญารินบอก รินรดาก็ดึงบัตรออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ตรงหน้าแล้วเดินออกจากส่วนเคาน์เตอร์บริการ รีบเดินไปหาผู้จัดการใหญ่ทันที เมื่อเธอไปถึงหน้าห้อง เลขาหน้าห้องก็ยกหูโทรศัพท์ “คุณรินรดามาแล้วค่ะ”

“ให้เข้ามาได้เลย” โกเมศตอบ เลขารับคำ “ค่ะ”

จากนั้นเธอก็วางหูโทรศัพท์แล้วบอกรินรดาว่า “เชิญเข้าไปได้เลยค่ะ”

“ค่ะ” รินรดารับคำแล้วเดินไปเคาะประตูห้อง ก๊อกๆ

“เชิญ” เสียงด้านในดังออกมา รินรดาจึงเปิดประตูเดินเข้าไป เธอเดินไปยืนตรงหน้าโต๊ะทำงานของผู้จัดการใหญ่ ยกมือไหว้ “ผู้จัดการ”

“เชิญนั่ง” โกเมศสั่ง ผายมือไปที่โซฟาซึ่งซัลมานั่งอยู่ก่อนแล้ว รินรดาจึงยกมือไหว้แขกที่นั่งอยู่ก่อน แล้วค่อยๆ เดินไปนั่งตรงข้ามกับเขา โกเมศเดินตามไปนั่งที่โซฟาอีกตัว บอกว่า “คุณรินรดามาแล้วครับ”

“อืม” ซัลมาพยักหน้า มองพนักงานรินรดาแล้วพูดว่า “คุณทำคีย์การ์ดห้อง 2205 วันนี้ ตอนเวลา 10.36”

รินรดาสะดุ้งเฮือก ใจเต้นตึกๆ ขึ้นมา ไม่คิดเลยว่าเรื่องจะแตกไวขนาดนี้ เธอได้แต่ยอมรับ “ค่ะ”

“คนที่พักห้องนั้นชื่ออะไร? เป็นใคร? ตอบตามความจริงด้วย อย่าโกหกแม้แต่น้อย ไม่งั้นคุณก็เตรียมถูกไล่ออกได้เลย” ซัลมาบอกน้ำเสียงเข้ม รินรดาตัวสั่นๆ หน้าซีดๆ แล้วก็พูดขึ้นว่า “ทุกอย่างเป็นความผิดของฉันคนเดียว เพื่อนฉันไม่เกี่ยว ถ้าจะเก็บเงินก็เก็บจากฉันได้เลยค่ะ”

เธอพูดออกไปแล้วก็นึกถึงยอดเงินในบัญชีที่มีอยู่ไม่กี่พันบาท ถ้าจะเก็บค่าห้องพัก 1 คืน เงินในบัญชีก็น่าจะพอจ่าย

“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” โกเมศถามขึ้นมา พลางมองรินรดากับคุณซัลมาอย่างงงๆ ซัลมามองโกเมศแล้วไล่ว่า “คุณออกไปก่อน”

“อ่า…” โกเมศอ้าปากหวอ พอเห็นสายตาคุณซัลมาหลิ่วตาไล่ เขาจึงรับคำ “ครับ” แล้วลุกออกไป ซัลมามองรินรดาแล้วบอกว่า “ผมรู้แล้วว่าคุณทำคีย์การ์ดให้คนอื่นเข้าพักห้องนั้นโดยไม่ได้ลงทะเบียนตามปกติ คุณมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์สินของโรงแรม ดังนั้นตอนนี้คุณไม่มีทางเลือกอะไรทั้งนั้นนอกจากตอบคำถามผม ตอบมา ผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไร? เป็นใคร?”

รินรดามองดูผู้ชายตรงข้าม ดูแล้วตำแหน่งเขาต้องใหญ่กว่าผู้จัดการใหญ่แน่ๆ ขนาดผู้จัดการใหญ่ยังถูกเขาไล่ออกจากห้องด้วยประโยคเดียว เธอกลืนน้ำลายเอือก แล้วบอกว่า “ทุกอย่างเป็นความผิดของฉันเองค่ะ เพื่อนฉันไม่เกี่ยว เรื่องนี้ฉันเป็นคนทำ ฉันขอรับผิดทุกอย่างค่ะ คุณจะเก็บเงินค่าห้องฉันจะจ่ายให้เองค่ะ แล้วเดี๋ยวฉันจะบอกให้เพื่อนออกจากที่นี่ทันทีค่ะ”

“ซัลมา บอกเธอว่า ถ้าเธอยอมบอกเรื่องผู้หญิงคนนั้น จะพิจารณาไม่ไล่เธอออกจากงาน และก็จะยอมให้ผู้หญิงคนนั้นพักอยู่ที่นี่ต่อไป” เสียงอัมมานดังขึ้นจากลำโพงบลูทูธที่ซัลมาใส่ไว้ในหูข้างหนึ่ง แน่นอนว่าการสนทนานี้อัมมานได้ยินด้วยเพราะว่าเขาคอลกับซัลมาอยู่เพื่อฟังการสอบสวนในครั้งนี้ด้วย ซัลมาฟังแล้วจึงบอกกับรินรดาว่า “ถ้าคุณบอกเกี่ยวกับเพื่อนของคุณคนนี้ ผมจะพิจารณาไม่ไล่คุณออก แล้วก็จะยอมให้เพื่อนคุณพักอยู่ที่นี่ต่อไปด้วย”

รินรดาฟังแล้วอึ้งไปครู่หนึ่ง เธอคิดๆ แล้วถามว่า “จริงเหรอคะ?”

“จริง” ซัลมายืนยัน รินรดาคิดๆ พักหนึ่ง จากนั้นก็ถามว่า “แล้วเพื่อนฉันจะมีความผิดด้วยรึเปล่า? ถ้าคุณไม่เอาเรื่องเพื่อนฉัน ฉันก็จะยอมพูดก็ได้”

“หึ! ต่อรองงั้นรึ” เสียงอัมมานดังอยู่ในหูซัลมา ซัลมามองรินรดาที่กล้าต่อรองทั้งๆ ที่สถานการณ์ในตอนนี้เธอไม่มีสิทธิ์ต่อรองเลยด้วยซ้ำ ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ของโรงแรมก็เพียงพอให้ไล่เธอออกแล้ว ทั้งยังจะเรียกเก็บค่าห้องพักเต็มจำนวนตามราคาของโรงแรมอีกด้วย

“บอกเธอว่า จะไม่เอาผิดเพื่อนเธอคนนั้นถ้าเธอยอมบอกชื่อนามสกุลเพื่อนเธอ” อัมมานสั่ง ซัลมาได้ยินคำสั่งจึงบอกรินรดาว่า “ก็ได้ ผมจะไม่เอาผิดเพื่อนคุณ แต่คุณต้องบอกมาว่าเพื่อนคุณชื่ออะไร นามสกุลอะไร ถ้าคุณคิดจะโกหกล่ะก็ ผมขอเตือนไว้ก่อนนะว่าผมจะไม่ใจเย็นแล้ว แต่จะจับเพื่อนคุณส่งให้ตำรวจเดี๋ยวนี้เลย”

“อย่าๆ ขอร้องล่ะอย่าจับเพื่อนฉันเลยนะ” รินรดายกมือไหว้ ซัลมาจึงคาดคั้นว่า “งั้นก็บอกมาว่าเพื่อนคุณชื่ออะไร นามสกุลอะไร ทำงานที่ไหน? บ้านอยู่ไหน?”

รินรดาฟังแล้วอยากจะสวนว่า ‘เอารีซูเม่เลยไหมคะ’ เล่นถามเป็นชุดขนาดนี้น่าให้รีซูเม่ของไอ้พลอยไปอ่านเอาเองซะเลย! แง่ง!!!

“ถ้าฉันยอมบอกชื่อเพื่อนฉัน คุณจะไม่เอาผิดกับเพื่อนฉันจริงๆ นะ?” รินรดาถามย้ำ ซัลมาพยักหน้า “จริง”

รินรดาคิดๆ แล้วจึงยอมบอกว่า “เพื่อนฉันชื่อพลอยไพลิน รุ่งโรจน์”

“สืบค้นประวัติออกมา” อัมมานสั่ง บอดี้การ์ดคนหนึ่งซึ่งนั่งฟังเสียงการสอบสวนนี้อยู่กับอัมมานด้วยจึงจิ้มคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊คตรงหน้าแล้วสืบประวัติ ‘พลอยไพลิน รุ่งโรจน์’ ออกมา สักพักบอดี้การ์ดก็ยกโน้ตบุ๊คหันไปทางเจ้านาย “ได้ประวัติมาแล้วครับ”

บนหน้าจอปรากฏฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของ ‘พลอยไพลิน รุ่งโรจน์’ อัมมานมองดูรูปที่อยู่บนหน้าจอ เห็นว่าเป็นคนๆ เดียวกับผู้หญิงคนนั้นจึงพยักหน้า แล้วอ่านข้อมูลบนหน้าจอ เขาอ่านแล้วบอกว่า “หาประวัติอื่นๆ ของเธอด้วย ครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมงาน แฟน สืบมาให้หมด”

“ครับ” บอดี้การ์ดรับคำสั่งแล้วยกโน๊ตบุ๊คหันกลับไป เขาคีย์ๆ แป้นคีย์บอร์ด อัมมานก็สั่งซัลมาว่า “กักตัวพนักงานคนนั้นไว้ก่อน ยึดมือถือเธอ ให้คนเฝ้าไว้ตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าผมจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง”

ซัลมาได้ยินคำสั่งแล้วจึง ยื่นมือไป “ขอมือถือของคุณด้วย”

“มือถือฉัน?” รินรดางงๆ

“มือถือของคุณ ส่งมา” ซัลมาสั่งน้ำเสียงเข้ม รินรดาจึงยื่นโทรศัพท์ให้ ซัลมารับไปแล้วบอกว่า “ผมจะยึดไว้ก่อน นับจากนี้ไปคุณจะถูกกักตัวชั่วคราว จนกว่าเบื้องบนจะมีคำสั่งมาใหม่”

“กักตัว!?” รินรดาลุกขึ้นพรวดทันที ซัลมามองแล้วบอกว่า “หรืออยากให้ผมส่งตัวคุณให้ตำรวจตอนนี้เลย คุณแค่ถูกกักตัวไว้ชั่วคราวเท่านั้น คุณมีสิทธิ์เข้าห้องน้ำ กินข้าว 3 มื้อ นอนอยู่ที่นี่ แต่ถ้าผมส่งตัวคุณให้ตำรวจ คุณจะต้องเข้าไปนอนในห้องขังแทน เลือกเอา จะเอาแบบไหน?”

“เอ่อ…” รินรดานั่งแปะลงไป เธอไม่อยากถูกส่งตัวให้ตำรวจ เธอไม่อยากไปนอนในคุก ดังนั้นทางเลือกแรกย่อมดีกว่าแน่นอน เธอมองเขาแล้วถามว่า “ฉันต้องถูกกักตัวนานเท่าไหร่?”

“2 วัน จนกว่าผมจะสอบสวนเรื่องนี้เสร็จ” ซัลมาบอก รินรดาคิดๆ แล้วนั่งเงียบๆ ซัลมาเก็บมือถือของรินรดาใส่กระเป๋ากางเกง เขาหยิบมือถือของเขาออกมาเมื่อได้ยินเสียงตัดสาย เห็นเจ้านายตัดสายไปแล้วเขาจึงจิ้มๆ หน้าจอเขี่ยไปเขี่ยมา รินรดามองๆ เห็นเขาไม่สนใจเธอ เธอจึงบอกว่า “ขอตัวไปเข้าห้องน้ำค่ะ”

“เชิญ” ซัลมาบอก รินรดาจึงลุกขึ้นเดินออกไป แต่เมื่อเธอเปิดประตูออกไปก็เห็นผู้ชายใส่สูทสีดำ 2 คนยืนอยู่หน้าห้อง หนึ่งในนั้นผายมือพูดว่า “เชิญ”

รินรดาเดินไป ผู้ชาย 2 คนนั้นก็เดินตามเธอมาด้วย เธอรู้ทันทีว่าเขาสองคนคือคนที่มาคุมเธอไม่ให้เธอหนี เธอเดินไปเข้าห้องน้ำ ผู้ชาย 2 คนนั้นก็ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูห้อง รินรดาไม่มีทางหนีจากสายตาของทั้งสองคนไปได้ อีกทั้งห้องน้ำนี้ก็มีประตูทางออกแค่ทางเดียว กับช่องพัดลมระบายอากาศเล็กๆ เท่านั้น เมื่อเธอเดินออกมาจากห้องน้ำ ผู้ชายคนเดิมก็ผายมือ พูดว่า “เชิญ”

รินรดาจึงเดินกลับไปที่ห้องของผู้จัดการใหญ่ ผู้ชายคนหนึ่งเปิดประตูให้เธอ เธอเดินเข้าไปในห้อง นั่งลงที่โซฟา มองผู้ชายคนนั้นที่สอบสวนเธอ เขามองเธอแวบหนึ่งแล้วก้มหน้าดูมือถือต่อ รินรดาจึงหยิบนิตยสารที่วางอยู่ใต้โต๊ะมาเปิดๆ ดู

เลขาของผู้จัดการใหญ่มองผู้ชายใส่สูททั้งสองคนที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องอย่างอยากรู้อยากเห็น เธอจึงเดินไปหาผู้จัดการใหญ่ที่นั่งอยู่ในห้องประชุมเล็ก เธอเคาะๆ ประตู โกเมศมอง เลขาจึงเปิดประตูเดินเข้าไป ถามว่า “ผู้จัดการคะ เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ? ทำไมผู้จัดการถึงมานั่งตรงนี้ แล้วผู้ชาย 2 คนนั้นเป็นใคร? แล้วคนข้างในนั่นอีกล่ะ? แล้วพนักงานคนนั้น…”

“ทำงานของคุณไป อย่าถามมาก” โกเมศบอกแทรกขึ้นมาก่อนที่เลขาจะพูดจบ เลขาจึงทำหน้าเจื่อนๆ แล้วรีบเดินออกไปทันที โกเมศมองตามเลขาไปแล้วคิดอยู่ในใจ เขาก็อยากรู้จะตายแล้ว แต่เขาก็ไม่กล้าถามคุณซัลมา ใครจะกล้าถามล่ะ? เบื้องบนสั่งยังไง เขามีหน้าที่แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น แล้วคุณซัลมาก็ตำแหน่งใหญ่กว่าเขา ขืนถามมาก บางทีสิ่งที่ได้รับอาจจะกลายเป็นซองขาวก็ได้ เขาย่อมไม่ยอมแลกความอยากรู้อยากเห็นเล็กๆ น้อยๆ นี้กับตำแหน่งงานของเขาแน่นอน

จนกระทั่งตอนบ่าย 3 ครึ่ง พลอยไพลินก็ตื่นขึ้นมา ต้าวอ้วนก็ลืมตามอง พลอยไพลินรู้สึกหิวจึงลุกไปที่ห้องครัว เปิดตู้เย็นหยิบเกี๊ยวกุ้งน้ำออกมาฉีกพลาสติกแล้วเปิดฝา เอาเข้าไมโครเวฟ เธอนั่งรออยู่สักพักเสียงไมโครเวฟก็ดังติ๊ง! เธอจึงเปิดไมโครเวฟหยิบเกี๊ยวน้ำออกมา

เธอค่อยๆ นั่งกินเกี๊ยวน้ำจนหมดแล้วก็เก็บถ้วยทิ้งลงถังขยะ จากนั้นก็เดินเข้าห้องน้ำไปเปิดน้ำอุ่นใส่อ่าง เธอถอดเสื้อผ้าออก เดินตัวเปลือยๆ ไปหยิบแปรงสีฟันกับยาสีฟันมา พอเห็นอ่างล้างหน้าที่แตกยังไม่ได้ซ่อมเธอจึงวางของพวกนั้นเอาไว้บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า รอให้อาบน้ำเสร็จแล้วค่อยมาแปรงฟันตรงอ่างอาบน้ำก็ได้ เธอนั่งรอที่ขอบอ่าง

ต้าวอ้วนเดินเข้ามา มันเดินไปเลียน้ำกินแล้วก็กินอาหารของมัน กินอิ่มแล้วมันก็กระโดดขึ้นไปบนโถชักโครก หันก้นได้ที่แล้วมันก็ปล่อยระเบิดแสนเหม็นออกมา พลอยไพลินรอจนมันกระโดดลงจากโถแล้วจึงลุกไปกดน้ำ ต้าวอ้วนมันน่ารักตรงนี้แหละ จะอึจะฉี่มันก็จะไปนั่งบนโถชักโครก ทำให้เธอประหยัดค่าทรายแมวไปได้เยอะเลย ไม่ต้องมีกระบะทรายให้มัน ขอแค่มีโถชักโครกให้มันใช้ก็พอ มันเสร็จธุระแล้วก็เดินกลับไปนอนที่เตียง พลอยไพลินก็เดินกลับไปปิดน้ำอุ่นแล้วลงไปนั่งแช่น้ำในอ่าง

หลังจากอาบน้ำแล้ว เลือกเสื้อผ้าชุดที่ดูดีที่สุดที่มีมาใส่ เธอก็เดินไปนั่งที่โซฟา เปิดทีวีเลือกรายการดู เธอเลือกหนังเรื่องหนึ่งแล้วดูไปเรื่อยๆ จนกระทั่งใกล้ถึงเวลานัด เธอจึงปิดทีวีแล้วเดินออกจากห้องไป เธอพกไปแค่คีย์การ์ดเท่านั้น

เมื่อไปถึงห้องๆ นั้นเธอก็กดกริ่ง กริ๊งงงงง…

ประตูห้องเปิดออก บอดี้การ์ดผายมือ “เชิญครับ”

“ขอบคุณค่ะ” พลอยไพลินเดินเข้าไปในห้อง บอดี้การ์ดก็ออกไปยืนเฝ้าหน้าห้อง อัมมานเดินมาต้อนรับ “เชิญครับ”

เขาเดินนำไปที่โต๊ะอาหารซึ่งจัดอาหารรอไว้แล้ว เขาขยับเก้าอี้ “เชิญครับ”

พลอยไพลินเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวนั้น “ขอบคุณค่ะ”

อัมมานเดินไปนั่งตรงข้าม พลอยไพลินมองอาหารบนโต๊ะที่มีหลายเมนู ทั้งอาหารไทย ฝรั่ง อินเดีย แล้วถามว่า “ทำไมเยอะจัง?”

“ผมไม่รู้ว่าคุณชอบทานอะไรบ้างก็เลยสั่งมาหลายอย่าง” อัมมานบอกแล้วถามว่า “ดื่มไวน์ไหมครับ?”

เขาหยิบขวดไวน์ขึ้นมา พลอยไพลินพยักหน้า “ค่ะ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!