Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 318

Cover Renegade Immortal 1

318. ของขวัญสองอย่าง

ลูกปัดขนาดเท่ากำปั้นปรากฎบนหน้าผากโจวยี่แต่มันร่วงและรวมเข้ากับอุกาบาตที่กำลังเผาไหม้ในทันที

เปลวเพลิงรอบอุกกาบาตหายไปกลายเป็นร่างแสงสีแดงยืนอยู่ระหว่างสวรรค์และปฐพี ใบหน้าเผยความเศร้าลึกๆขณะนิ้วมือขวาค่อยๆชี้ไปที่ชายชรา

ชายชรากำลังจะหลบแต่เขาพบว่าไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ ใบหน้าซีดเผือดขณะจ้องโจวยี่ด้วยความตกใจ

“เซียนเทวะ…”

“เมื่อข้าเข้ามาที่ดินแดนสวรรค์แห่งนี้ครั้งแรกข้าได้พบเจ้า…เขตแดนแห่งความบ้าคลั่งเป็นสิ่งเจ้ายัดเยียดให้ข้า ตอนนี้ข้ารู้เป้าหมายของเจ้าแล้วและข้าเข้าใจมันทั้งหมด แต่ข้าไม่เสียใจเลย หากข้ามีโอกาสอีกครั้งก็ขอเลือกพบเจ้าอีกครั้ง…” โจวยี่ไม่ได้มองชายชราเลยแต่เพียงจ้องซากศพในอ้อมแขน

เขาเป็นศิษญ์ที่มีพรสวรรค์มากในสำนักเบญจธาตุและมีความมุ่งมั่นมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป เขาฝึกฝนวิถีเบญจธาตุและก้าวข้ามผ่านสหายศิษย์ทีละคนจนในที่สุดเขาก็กลายเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสขั้นแปลงวิญญาณแต่เพียงผู้เดียวในสำนักและระดับฝึกฝนเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ

เมื่อเขาบรรลุขั้นตัดวิญญาณ อาจารย์ได้มอบของขวัญให้เขาคือหม้อพิรุณ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงได้มากมายเพียงไหน

ในดินแดนสวรรค์ เขาได้เข้ามาในวังแห่งหนึ่งและพบศพหญิงสาว ในตอนนั้นเขาหลงเสน่ห์นางและทิ้งตัวตนเดิมของเขาไว้เบื้องหลัง

ในสายตาเขา ศพของนางคนนี้คือทุกสิ่งทุกอย่าง

เพื่อร่างศพนี้ เขาทิ้งสำนักตัวเอง อาจารย์ไม่ยอมสังหารลูกศิษย์อันเป็นที่รักดังนั้นจึงถอนหายใจยาวสามคราและปล่อยเขาไป

ผู้รักซากศพ คนบ้า ชื่อเสียงเล่าลือทั้งหมดกระจายไปทั่วซูซาคุ ทว่าไม่มีผลกระทบต่อเขา เขาไม่ได้เสียใจอะไรเลย

เมื่อยืมพลังเขตแดนแห่งความบ้าคลั่ง ระดับฝึกฝนของเขาจึงแข็งแกร่งยิ่งขึ้นจนบรรลุขั้นแปลงวิญญาณได้

อาจารย์ของเขาล้มเหลวในการบรรลุขั้นเทวะและจบสิ้นอายุขัย ในวันที่อาจารย์ตาย โจวยี่คุกเข่าเบื้องหน้าสำนักเบญจธาตุอยู่เจ็ดวันเจ็ดคืน

หลังจากนั้นเขาลงมือช่วยสำนักเบญจธาตุไว้สามครั้งแต่เขาไม่มีศิษย์คนไหนเลย

ตอนนี้ทุกสิ่งทั้งหมดปรากฎในใจโจวยี่

ชายชรายอมแพ้ต่อการดื้นรน เขาไม่มีโอกาสต่อต้านเซียนขั้นเทวะอยู่แล้ว เขตแดนที่แตกต่างกันสามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างได้

แววตาโจวยี่เต็มไปด้วยความชัดเจน แม้ว่าเขาจะไม่อ่อนโยนอีกแต่เต็มไปด้วยเขตแดนอันทรงพลัง เขาก้มศีรษะลงบรรจงจุมพิษหน้าผากนางและสายตาจ้องหวังหลินและฉีหู ในตอนท้ายสายตาตกลงบนฉีหูและเขาเอ่ยอย่างสงบนิ่ง

“น้องชาย ช่วยดูแลภรรยาข้า ตกลงไหม?”

ร่างฉีหูถูกคว้าด้วยพลังอันลึกลับ เขามองโจวยี่ด้วยใบหน้าหวาดกลัว

“เรื่องนี้…”

โจวยี่ขมวดคิ้ว

ฉีหูยิ้มอย่างขมขื่นในใจ เขาไม่ต้องการร่างศพนี้เลย หากผู้อาวุโสในสำนักของเขาค้นเจอเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อเขามากนัก แต่ในตอนนี้มันเป็นคำขอจากเซียนเทวะที่กำลังจะตาย ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ

ฉีหูสูดหายใจลึกและเอ่ยขึ้น “…ผู้น้อยยินดี!”

โจวยี่ส่ายศีรษะและเอ่ยขึ้น “เจ้าเป็นปรมาจารย์น้อยแห่งสำนักมารยักษ์ ดังนั้นเป็นธรรมดาที่เจ้าจะกลัวการตามรอยเท้าของข้า ลืมมันซะ!”

เช่นนั้นสาสยตาหันไปหาหวังหลินและเอ่ยถามเบาๆ “เจ้าจะช่วยข้าไหม?”

หวังหลินรู้สึกถึงแรงกดดันกดทับบนร่างกายในทันที เขายืนขึ้นได้ยินเสียงประโยคของโจวยี่และเริ่มขบคิด

โจวยี่มองไปที่หวังหลิน “ภรรยาของข้าจำเป็นต้องได้รับหินหยกสวรรค์เพื่อให้ร่างกายนางไม่เปลี่ยนแปลง ทุกหนึ่งพันปีเจ้าจะต้องใช้เศษหินหยกสวรรค์หนึ่งพันชิ้น มันยากนิดหน่อยแต่ไม่ยากเกินไป เจ้าจะช่วยไหม?”

หวังหลินขบคิดเล็กน้อยและตอบกลับไป “ข้าไม่กล้าสัญญาว่าข้าสามารถได้หินหยกสวรรค์มามากขนาดนั้นได้หรือไม่”

โจวยี่ยิ้มขณะมองบนท้องฟ้า “เยี่ยมมากหนุ่มน้อย ข้าไม่ได้ให้เจ้าช่วยข้าเป็นพันปีโดยไม่ได้อะไร!”

หวังหลินจ้องโจวยี่แต่ไม่ได้เอ่ยคำพูด

โจวยี่ยื่นมืออกมาและคว้าจับ ทันใดนั้นพระราชวังบนพื้นที่ยังไม่ได้พังทลายได้เสียหายและเศษหินหยกลอยออกมา

เศษหินหยกสวรรค์เหล่านี้ก่อตัวเป็นเจดีย์กลางอากาศ โจวยี่มองร่างหญิงสาวเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะโยนนางเข้าหาเจดีย์และนางหายไปข้างใน โจวยี่ชี้ด้วยฝ่ามือขวาและเจดีย์หดลงพุ่งเข้าสู่ฝ่ามือหวังหลิน

ขณะที่สัมผัสกับเจดีย์ พลังลึกลับสายหนึ่งเข้าสู่ร่างกาย ตอนนี้มีตราประทับเพิ่มขึ้นมาในวิญญาณดั้งเดิมของหวังหลิน

“เจดีย์แห่งนี้บรรจุเขตแดนของข้าไว้ หากเจ้าเจอสถานที่เย็นเฉียบและวางเจดีย์นี้ลงไป มันจะสร้างม่านพลังกว้างหนึ่งร้อยเมตร พวกเขาจะไม่สามารถผ่านม่านแห่งนี้ไปได้โดยที่เจ้าไม่ยินยอม เว้นแต่ว่าคนผู้นั้นจะมีระดับฝึกฝนมากกว่าข้าในปัจจุบัน”

โจวยี่ยิ้มให้หวังหลินพร้อมกับชี้ไปที่คิ้วตนเอง หยกสีแดงขนาดเท่าเล็บก้อยปรากฎและเขาสะบัดเข้าหาหวังหลิน

ขณะที่หยกสีแดงชิ้นนี้ปรากฎขึ้น การล่มสลายของพื้นที่ส่วนนี้ดูเหมือนจะหยุดชะงัก หินหยกสีแดงเม็ดนี้ดูเหมือนจะปลดปล่อยพลังแห่งกฎสวรรค์ออกมา

เมื่อหวังหลินเห็นหยกสีแดง เขารู้สึกเหมือนกับตอนที่เปลี่ยนเป็นคนธรรมดาและสัมผัสกับการเวียนว่ายตายเกิดครั้งแรก หินหยกนี้บรรจุพลังที่คล้ายกันเช่นนั้นทำให้หวังหลินสูดหายใจลึก

“นี่เป็นของขวัญชิ้นแรกที่ข้าให้เจ้า ผลึกเทวะ ของชิ้นนี้จะไร้ประโยชน์ต่อเจ้าในตอนนี้แต่หากวันหนึ่งเจ้ากำลังจะบรรลุขั้นเซียนเทวะ เมื่อนั้นของชิ้นนี้จะสามารถช่วยเจ้าได้”

ชายชราจ้องผลึกด้วยความปรารถนาแรงกล้า เขารู้จักของสิ่งนี้ดีว่ามันคุ้มค่าแค่ไหน

แม้ว่าของชิ้นนี้จะไม่มีความสามารถอะไรเลย มันเกิดขึ้นเมื่อเซียนคนหนึ่งบรรลุขั้นเทวะ มันบรรจุความเข้าใจแห่งสวรรค์เอาไว้ หากเขาสามารถได้รับของชิ้นนี้ไปโอกาสที่จะบรรลุขั้นเทวะจะเพิ่มขึ้นสามในสิบส่วน

เจตนาเดียวในของชิ้นนี้คือทำให้ผู้ใช้มีโอกาสที่สองระหว่างการเลือกความเป็นและความตายเพื่อบรรลุขั้นเทวะ

เมื่อเซียนขั้นเทวะสูญเสียผลึกเทวะของตนเอง ระดับของเขาจะตกลงต่อเนื่องจนกว่าจะตาย ผลึกชิ้นนี้จึงไม่แตกต่างจากชีวิตของเขา

ฉีหูจ้องผลึกเทวะอย่างตะลึงเช่นกัน เขาเป็นปรมาจารย์หนุ่มของสำนักมารยักษ์ดังนั้นจึงรู้ค่ามันมากที่สุด เขาจดจำมันได้ตอนที่มองครั้งแรกและเกิดความเศร้าเสียใจอยู่ลึกๆ แม้เขาจะรู้ว่าโจวยี่จะไม่ขอร้องให้คนอื่นดูแลภรรยาเขาโดยไม่มีอะไรตอบแทน แต่เขาไม่คิดว่าโจวยี่จะยื่นของขวัญชิ้นนี้ให้

หากเขารู้เรื่องนี้มาก่อน เขาคงไม่ลังเลและตอบตกลงในทันที อีกทั้งจากสิ่งที่โจวยี่พูดว่านี่เป็นเพียงของขวัญชิ้นแรก นั่นหมายถึงอาจจะมีชิ้นที่สอง ชิ้นที่สาม….

ความเสียใจในใจฉีหูได้ถึงขีดสุด

ใบหน้าของทั้งสองคนทำให้โจวยี่ภูมิใจมาก เขาชี้ที่ชายชราและร่างชายผู้นั้นลอยขึ้นเข้าสู่ฝ่ามือโจวยี่

โจวยี่เอ่ยอย่างสงบนิ่ง “ของขวัญชิ้นที่สองของข้าก็คือคนผู้นี้ หัวหน้าผู้อาวุโสของสำนักซากศพ ข้าสามารถไว้ชีวิตเจ้าแต่เจ้าต้องกลายเป็นทาสหนึ่งพันปี เจ้าจะยอมไหม?”

เบื้องหน้าพลังอำนาจเช่นนี้ หัวหน้าผู้อาวุโสของสำนักซากศพเหลือเพียงสองทางเลือก รอดหรือตาย

ชายชราพูดด้วยความขมขื่น “ชีวิตข้าอยู่ได้ไม่อีกไม่ถึงร้อยปีอยู่แล้ว จะให้ข้าเป็นทาสอีกพันปีหรือ? เจ้าสังหารข้าซะดีกว่า!”

“หากเจ้าต้องการตาย เช่นนี้ข้าจะช่วยเจ้าเอง ด้วยความแข็งแกร่งที่เหลือของข้า ข้าสามารถปรับแต่งเจ้าให้กลายเป็นหุ่นเชิด แม้ว่าระดับฝึกฝนของเจ้าจะตกลงก็ยังถือว่าเป็นสมบัติชิ้นที่สองของข้า!” เช่นนั้นโจวยี่ชี้เข้าหาหน้าผากชายชรา

เขาต้องการเพียงแค่ชี้ไปที่หน้าผากและหัวหน้าผู้อาวุโสสำนักซากศพจะตายในทันที

นิ้วมือเข้าใกล้ขึ้น หน้าผากชายชราปกคลุมไปด้วยเหงื่อ กลิ่นอายแห่งความตายเพิ่มขึ้นไร้ขีดจำกัด แม้ว่าเขาจะเหลือชีวิตอยู่อีกไม่ถึงร้อยปี หากเขาสามารถทะลวงผ่านขั้นแปลงวิญญาณระดับปลายได้ อายุขัยเขาจะขยายออก รวมถึงวิธีของสำนักซากศพ เขาจะมีทางยืดอายุได้อีกหลายทาง

เมื่อนิ้วมือเข้าใกล้ เขาตอบด้วยความขมขื่น “ข้าตกลง”

ฝ่ามือขวาของโจวยี่ไม่ได้หยุดแต่เคลื่อนไหวเร็วขึ้นจนสัมผัสกับหน้าผากชายชรา ฝ่ามืออีกข้างชี้ไปที่หวังหลินและร่างหวังหลินลอยเข้าหาเขาอย่างไร้การควบคุม

แสงลึกลับออกมาจากหน้าผากชายชรา เดินทางผ่านโจวยี่และเข้าสู่หวังหลิน

หวังหลินรู้สึกได้ทันทีว่าเขาสามารถสัมผัสเจตนาของหัวหน้าผู้อาวุโสสำนักซากศพได้ทั้งหมดและเพียงแค่คิดก็สามารถทำลายวิญญาณชายชราได้

หัวหน้าผู้อาวุโสของสำนักซากศพถอนหายใจขณะที่หันเข้าหาหวังหลินแบบไม่เป็นธรรมชาติและพูดด้วยความเคารพ “ข้ารับใช้ซุนไท่ขอคารวะเจ้านาย…” จิตใจของเขาขื่นขมจนไม่อาจอธิบายออกมาได้

ฉีหูจดจ้องฉากเบื้องหน้า ความเศร้าเสียใจได้มาถึงอีกระดับเรียบร้อย

“ทาสขั้นแปลงวิญญาณ นี่…หากข้ากลับไปสำนักด้วยสิ่งนี้ข้าคงไม่ได้กลายเป็นปรมาจารย์น้อยอีกแล้ว แต่เป็นหัวหน้าสำนักแทน หากมีคนผู้นี้ไว้ในมือ นอกจากในแคว้นซูซาคุแล้วข้าจะเดินไปที่ไหนก็ได้ในดาวเคราะห์อย่างอิสระ ข้าไม่ควรลังเลเลย!”

ร่างโจวยี่ได้มาถึงจุดจบ เขาไม่ได้ดูชัดเจนอีกและพร้อมจะหายไปได้ทุกเวลา เขามองรอบๆและในที่สุดก็พูดกับหวังหลิน “ดูแลนางให้ดีด้วย”

หวังหลินสูดหายใจลึกและพยักหน้า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรวดเร็วมาก แม้กระทั่งตอนนี้เขายังไม่เชื่อว่าเขาจะได้รับอะไรเช่นนี้มา

โจวยี่เห็นหวังหลินพยักหน้าและยิ้มขึ้น ในตอนนี้ร่างกายเขาเริ่มแตกสลายตั้งแต่เท้าขึ้นมา ในตอนท้ายหลงเหลือแต่เพียงใบหน้าพร้อมกับรอยยิ้มของเขา

“อาจารย์ หากมีโลกหลังความตาย ข้าจะยังเป็นศิษย์ของท่าน…”

ขณะนั้นเองเจดีย์ลอยออกมาจากฝ่ามือหวังหลินและขยายออก มันปลดปล่อยแสงสีขาวและร่างศพสตรีออกมาด้วยตัวเองและลอยกลางอากาศ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!