Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 320

Cover Renegade Immortal 1

320. เข็มทิศ

“ความหมายที่ซ่อนอยู่อะไร?” จิตใจซุนไท่อยู่ในความตระหนกแต่เขาไม่ได้แสดงอาการอะไร

หวังหลินหัวเราะและเคลื่อนที่ไปข้างหน้าต่อ “ท่านควรจะคิดความหมายที่ซ่อนอยู่ด้วตัวเอง หากท่านยังไม่เข้าใจในท้ายที่สุดเช่นนั้นก็จะเป็นวันที่ท่านสิ้นชีวิตแล้ว!”

ซุนไท่ถอยหลังต่อ ครั้งนี้เขาเคลื่อนที่เร็วมากขึ้นและรีบไปให้ไกล “ข้าจะไม่ลดตัวเองมาต่อกรกับเด็กน้อยเช่นเจ้า หากเจ้ากล้าทำลายวิญญาณดวงที่สามของเขา เจ้าจะได้เห็นว่าข้าจะตอบโต้เช่นไร!”

เช่นนั้นเขาเหาะหินออกไปไกลอย่างรวดเร็วและไม่พูดคุยเพื่อตกหลุมของหวังหลินอีก

หวังหลินยืนอยู่ที่หนึ่งขณะเฝ้าดูซุนไท่หายวับไปไกล มีเพียงหลังจากเขาหายไปแล้วหวังหลินจึงผ่อนคลายเล็กน้อย

ระดับของซุนไท่ในตอนนี้สูงส่งเกินไป รูปแบบทาสเช่นนี้เป็นสิ่งที่หวังหลินไม่เคยต้องการ ดูเหมือนว่าแม้กระทั่งโจวยี่ก็ไม่ตระหนักได้ถึงซุนไท่ที่มีวิญญาณดวงที่สี่

หวังหลินลอบคิด “หากแม้เขาจะมีวิญญาณดวงที่สี่ ทว่าเมื่อวิญญาณดวงที่สามตายไประดับฝึกฝนของเขาจะตกลงอย่างมาก มันอาจจะทิ้งรอยแผลไว้เบื้องหลัง หากเป็นเช่นนั้นซุนไท่จะไม่กลัวหนีไปเพียงแค่คำพูดไม่กี่คำจากข้าแน่” เขาหันกลับและเหาะเหินเข้าหาฉีหูและเข็มทิศ

หวังหลินรู้ได้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นอันตรายอย่างมาก หากเขาลังเลเพียงวินาทีเดียวคงถูกซุนไท่จับได้ไปแล้ว

“หากข้าสามารถทำลายวิญญาณดวงที่สี่ของซุนไท่ได้ เช่นนั้นก็ทำให้เขากลายเป็นทาสของข้าได้จริงๆ!”

หวังหลินรีบกลับไปที่เข็มทิศดวงดาว

“น้องเซิ่ง ซุนไท่คนนั้นเป็นถึงหัวหน้าผู้อาวุโสของสำนักซากศพ เจ้าต้องระมัดระวังตัวในอนาคต” ฉีหูเห็นเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้นและสถานะของหวังหลินเพิ่มขึ้นในใจเขา สำหรับปรมาจารย์น้อยแห่งสำนักมารยักษ์ เขาต้องการให้กลายเป็นมิตรสหายแทนที่จะสร้างศัตรู

ตลอดการเดินทางของพวกเขา หวังหลินได้แสดงทั้งเชาว์ปัญญาและความตั้งใจของเขา ระดับฝึกฝนของเขาอัศจรรย์มากซึ่งทำให้ฉีหูต้องการให้หวังหลินเป็นมิตรที่ดี

หวังหลินยิ้ม “ไม่ต้องห่วง หากไม่ใช่ว่าผู้อาวุโสโจวยี่บอกข้าถึงประโยชน์การใช้งานมหาศาลในเก็บชีวิตเขาไว้ ข้าคงสังหารเขาไปแล้วและใช้เจดีย์แห่งนี้ผนึกวิญญาณดวงที่สี่ ซึ่งไม่มีทางที่เขาจะหนีรอดจากโชคชะตาไปได้” หวังหลินพูดเรื่องทั้งหมดนี้ด้วยใบหน้าสงบนิ่ง เขารู้กระทั่งว่าหากซุนไท่จากไป เขาคงใช้สัมผัสวิญญาณเพื่อสอดส่องได้

ฉีหูตกตะลึง เขาไม่ต้องการถามอะไรอื่นขณะเพ่งสมาธิไปที่การควบคุมเข็มทิศดวงดาว พวกเขาหายวับเข้าไปในมิติว่าง

หลังจากที่พวกเขาจากไปไม่นาน ซุนไท่ปรากฎตัว เขาจ้องทิศทางที่หวังหลินหายไปด้วยใบหน้ายุ่งเหยิง

“แม้ข้าจะไม่เชื่อทุกสิ่งที่เด็กน้อยคนนี้พูดมา แต่แปดในสิบส่วนควรจะเป็นจริง เซียนขั้นตัดวิญญาณระดับต้นจะสงบนิ่งตอนที่เผชิญหน้ากับข้าได้อย่างไร? หืมมม ข้ากำลังสงสัยว่าทำไมเขาไม่ทำลายวิญญาณดวงที่สามของข้า ดูเหมือนโจวยี่จะได้ส่งข้อความหนึ่งให้เขา ตอนนี้ข้าต้องหาให้ได้ว่าพวกมันมีเจตนาจะใช้ข้าเพื่อ…”

ซุนไท่ครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะเหาะเหินไปข้างหน้า

“ปัญหาในตอนนี้ก็คือ…ข้าไม่อาจสังหารหรือกักขังเขาไว้ได้ ทำไมมันถึงเป็นเช่นนี้ไปได้กัน? หากข้าบังคับเขามากเกินไป เขาอาจจะตัดสินใจกลับคำของโจวยี่และทำลายวิญญาณดวงที่สามของข้า แม้ข้าจะมีวิญญาณดวงที่สี่แต่มันยังไม่เติบโตเต็มที่นัก การตายของวิญญาณดวงที่สามจะไม่เพียงแค่ลดระดับฝึกฝนของข้าแต่มันยังลดอายุขัยของข้าด้วย…”

เขาถอนหายใจอย่างผิดหวัง

เข็มทิศดวงดาวที่หวังหลินและฉีหูอยู่ได้เคลื่อนที่รวดเร็วข้ามผ่านมิติว่าง ทว่าหลังจากไปได้ไม่กี่ชั่วโมงรอยร้าวบนเข็มทิศได้เพิ่มขึ้นจนในที่สุดเข็มทิศหยุดชะงักและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีก

หวังหลินยังไม่ได้เคลื่อนไหวหรือพูดสิ่งใด

“น้องเซิ่ง เข็มทิศดวงดาวนี้ไม่สามารถใช้บินได้อีกแล้ว เราจะต้องเหาะเหินด้วยตัวเอง ทว่ามิติว่างแห่งนี้อันตรายเกินไป อาห์!” ฉีหูกระโดดออกจากเข็มทิศด้วยใบหน้าขมขื่น

หวังหลินมองเข็มทิศดวงดาวอย่างละเอียดและพูดขึ้น “พี่ฉีหู ท่านนำเข็มทิศมาเพียงชิ้นเดียวหรือ?”

ฉีหูยิ้ม “น้องเซิ่ง เข็มทิศดวงดาวเป็นสมบัติหายากมาก แม้กระทั่งในดาวเคราะห์ซูซาคุก็ไม่ได้มีมากนัก สำนักมารยักษ์ของเรามีเพียงแค่ชิ้นเดียวจากตอนที่เคลื่อนย้ายมาสู่ดาวเคราะห์ แต่ตอนนี้มันถูกข้าทำเสียหายไปแล้ว เมื่อข้ากลับไปจะถูกลงโทษให้ปิดด่านฝึกตนแน่นอน”

หวังหลินยิ้มด้วยความสงบ “พี่ฉีหู แม้เราจะไม่ได้รู้กกันมานานเท่าใดนัก เราได้ผ่านความเป็นความตายร่วมกกันมา ข้าจะไม่โกหกท่าน ข้าสามารถซ่อมเข็มทิศดวงดาวนี้ได้”

ฉีหูตกตะลึง เขากำลังคิดว่าจะทำอะไรหากไม่มีเข็มทิศดวงดาว ไม่เพียงแต่ความเร็วของพวกเขาจะลดลงไปมากแต่พวกเขาไม่มีแผนที่นำทางอีก มันคงต้องใช้เวลานานมากเพื่อออกจากที่นี่หากเหาะเหินด้วยตัวเอง และมีอันตรายจากสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนที่อาศัยอยู่ในมิติว่าง

“หากน้องซิ่งสามารถซ่อมเข็มทิศดวงดาวนี้ได้ เช่นนั้นเราทั้งสองคนสามารถออกจากที่นี่ได้แน่นอน!” ฉีหูไม่ได้ถามว่าหวังหลินรู้วิธีซ่อมเข็มทิศดวงดาวที่หายากเช่นนี้ได้อย่างไร ทุกคนมีความลับของตัวเองและหากหวังหลินไม่ต้องการพูดเช่นนั้นก็คงเสียมารยาทหากจะถามออกไป

หวังหลินยิ้มเงียบๆมองฉีหู

ฉีหูเข้าใจทันทีและรีบพูด “น้องเซิ่ง ข้าไม่ได้ขอให้เจ้าซ่อมเข็มทิศดวงดาวโดยไม่มีอะไรตอบแทน หากมีสิ่งใดที่เจ้าต้องการก็บอกได้เลย”

หวังหลินส่ายศีรษะ “วัตถุดิบสำหรับซ่อมเข็มทิศดวงดาวนั้นล้ำค่าเกินไปและมันยังจำเป็นต้องใช้พลังปราณจำนวนมาก หากข้าซ่อมเข็มทิศดวงดาวชิ้นนี้มันจำป็นต้องกลายเป็นของข้า ข้าหวังว่าพี่ฉีหูจะเข้าใจ”

ใบหน้าฉีหูไม่เปลี่ยนแปลงแต่เขาเงียบลง เข็มทิศดวงดาวชิ้นนี้เป็นสมบัติที่สำคัญต่อตระกูลของเขา แม้ว่าตอนนี้มันจะไร้ประโยชน์ การให้มันไปง่ายๆทำให้เขารู้สึกหมดหวังอย่างมาก

หวังหลินยิ้มบาง “หากมันยากเกินไปต่อพี่ฉีหู ข้ายังจะซ่อมมันให้ท่านเพื่อเป็นเกียรติแห่งความสัมพันธ์ของเรา”

ฉีหูยกศีรษะ เขามองหวังหลินและหัวเราะ “น้องเซิ่ง นี่เจ้าพูดจริงหรือ?”

หวังหลินยิ้ม “จริงสิ ทว่าข้าจะจำเป็นต้องใช้เข็มทิศดวงดาวนี้ในอนาคต เช่นนั้นเมื่อข้าจำเป็นต้องใช้มัน โปรดอย่าปฏิเสธข้า”

ฉีหูจ้องหวังหลินและลอบสงสัยว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องจริงหรือกำลังโกหก ทว่าเขาหัวเราะและยอมแพ้ต่อความคิดนี้ ไม่ว่าหวังหลินจะพูดจริงหรือโกหกหรือไม่ ความหมายก็ยังคงเดิม

“หากเซิ่งหนิวพยายามบังคับข้าหรือหลอกข้า เช่นนั้นแม้ข้าจะยกเข็มทิศดวงดาวให้ก็คงไม่มีความสุขนัก หากเป็นเช่นนั้นและข้าปล่อยให้เขามีชีวิต ข้าจะหาทางแก้แค้นแน่นอน ทว่าวิธีที่เขาพูดกลับเต็มไปด้วยความจริงใจ เขานับถือข้าเป็นสหายจริงๆ”

“ระดับฝึกฝนของเซิ่งหนิวนับว่าน่าตกใจยิ่งนัก รวมถึงเขาได้รับผลึกเทวะจากโจวยี่ทำให้เขาเป็นบุคคลในรุ่นข้าที่มีโอกาสบรรลุขั้นเทวะมากที่สุด หากข้ากลายเป็นสหายกับเข้าตอนนี้ เขาอาจจะสามารถช่วยสำนักข้าในอนาคตได้”

เมื่อคิดเช่นนี้เขาพูดอย่างเคารพ “น้องเซิ่ง เมื่อเจ้านับถือข้าเป็นสหาย แล้วข้าจะใจแคบได้อย่างไร? หากเจ้าจะยืมมันในภายภาคหน้า ด้วยนิสัยของเหล่าตาเฒ่าที่บ้าน ไม่มีทางที่เจ้าจะยืมมันไปได้ง่ายๆแน่ ดังนั้นในวันนี้ให้เจ้าเป็นของขวัญเสียดีกว่า!”

หวังหลินยิ้มพลางคำนับฝ่ามือและเอ่ยขึ้น “ขอบคุณ!”

โดยไม่ต้องเอ่ยคำใด ฉีหูสะบัดแขนและเข็มทิศดวงดาวกลับเข้าสู่มือเขา เขากวาดผ่านตราประทับบนเข็มทิศและส่งมันให้หวังหลิน “น้องเซิ่ง เข็มทิศดวงดาวชิ้นนี้เป็นของเจ้าแล้ว”

หวังหลินยิ้มบาง “ข้าจะต้องขอให้พี่ฉีหูปกป้องข้า ตอนนี้ข้ากำลังจะหลอมมัน”

“เจ้าต้องการให้ข้าปกป้องหรือ?” ฉีหูจ้องหวังหลินด้วยใบหน้าเคร่งเครียด หลังเวลาผ่านไปพักใหญ่เขาพยักหน้าและเอ่ยขึ้น “น้องเซิ่ง ข้าฉีหูนับถือเจ้าเป็นสหาย เช่นนั้นโปรดมั่นใจได้เลย!”

หวังหลินไม่ได้เอ่ยสิ่งใดขณะนั่งลงในท่านั่งดอกบัวกลางอากาศ เขาตบกระเป๋าและนำก้อนหินม่วงทองคำออกมา หลังวางผนึกไม่กี่อย่างเข้าไปเขาจึงเริ่มหลอมหินม่วงทองคำ

หวังหลินปลดปล่อยวิญญาณเร่ร่อนจำนวนมากออกมาจากคิ้ว คนธรรมดาจะไม่สามารถเห็นวิญญาณเร่ร่อนพวกนี้แต่หากฉีหูพยายามโจมตีเขา วิญญาณเร่ร่อนจะปกป้องหวังหลินเอง

ผ่านไปสี่ร้อยกว่าปีแห่งการสังหาร หวังหลินไม่ได้เชื่อใจใครง่ายๆ

หลังเวลาผ่านไปพักใหญ่ ของเหลวสีม่วงทองได้ลอยเบื้องหน้าเขา แสงผสมสีม่วงและสีทองดูสวยมาก

หากไม่มีเข็มทิศดวงดาวและเขาต้องสร้างขึ้นจากความว่างเปล่า มันต้องใช้วัตถุดิบมากมายเกินไป แม้ว่าเข็มทิศดวงดาวแห่งนี้จะได้รับความเสียหายหนัก การซ่อมมันนั้นง่ายกว่าที่จะสร้างขึ้นมาใหม่มากนัก

ฝ่ามือขวาของหวังหลินชี้ไปที่ของเหลวสีม่วงทองและมันรวมเข้ากับเข็มทิศดวงดาว จากนั้นฝ่ามือสร้างผนึกหลายอย่างจากความทรงจำของเทพโบราณเพื่อหลอมมันอย่างรวดเร็ว

สัญลักษณ์อันซับซ้อนบนเข็มทิศเริ่มส่องแสง ขณะที่เวลาผ่านไป สัญลักษณ์หลายจุดบนเข็มทิศยิ่งเริ่มกระพริบรวดเร็ว

ฉีหูยังกระจายสัมผัสวิญญาณออกมาด้วยความตื่นตัว เขารับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างภายในรัศมีหนึ่งร้อยเมตร เขาไม่กล้ากระจายมันออกไปไกลเกินไปเนื่องจากยิ่งไกลยิ่งอันตรายเกินต่อสิ่งที่ซ่อนในมิติว่าง

หากเขากระจายสัมผัสวิญญาณออกไปไกล มันคงกลายเป็นแสงเพื่อนำทางสิ่งมีชีวิตเหล่านี้มาที่นี่เป็นแน่

ฉีหูไม่ได้มองผนึกและวิชาที่หวังหลินกำลังใช้เลย มีหลุมล้อมรอบหวังหลินกว้างขนาดยี่สิบฟุตซึ่งสัมผัสวิญญาณของเขาจะไม่แตะต้องมัน

“เมื่อเซิ่งหนิวมีเจตนาที่ดีและเชื่อข้า แล้วข้าฉีหูผู้ซึ่งยืนอย่างภาคภูมิใจว่าเป็นชายที่น่าเคารพและปล่อยให้เขารู้สึกเคร่งเครียดได้อย่างไร? รวมถึงผนึกเทวะที่เป็นของขวัญจากโจวยี่จะต้องมีกฎเกณฑ์บนนั้นแน่ แม้ข้าจะได้มันมาครอบครอง มันจะนำปัญหาจำนวนมากมาให้ในอนาคต ตระกูลเซิ่งมีสมาชิกที่แข็งแกร่งจำนวนมาก เช่นนั้นข้าไม่สามารถทำให้สำนักเกิดหายนะเช่นนี้ได้ อีกทั้งแม้ข้าจะใช้สมบัติลับของสำนัก ข้ารู้สึกว่ามีโอกาสห้าในสิบส่วนที่จะชนะ การไม่ลงมือในตอนนี้จะดีเสียกว่า”

ซุนไท่กำลังสังเกตการณ์พวกเขาจากระยะไกล เขาอยู่ข้างนอกระยะการตรวจจับ

“เซิ่งหนิวคนนี้กระทั่งรู้วิธีการซ่อมเข็มทิศดวงดาว เขาไม่ใช่คนจัดการได้ง่ายๆ! หากข้าลงมือตอนนี้ข้ามั่นใจเจ็ดในสิบส่วนที่จะสามารถยับยั้งเขาก่อนที่จะทำอย่างอื่นได้ ทว่าหากข้าลงมือโดยไม่มั่นใจเต็มร้อย มันส่งผลให้ข้าสูญเสียบางอย่างที่ไม่สามารถจะจ่ายกลับคืนมาได้…ยาก….ยากยิ่งนัก…ผนึกทาสนี้แข็งแกร่งเกินไป การทำลายวิญญาณของข้าเพียงแค่คิดเช่นนี้ทำให้มันอันตรายเกินที่ข้าจะเสี่ยง”

สายตาเขาเผยความลังเล หลังจากเวลาผ่านไปพักใหญ่เขาถอนหายใจและล้มเลิกการพนันครั้งนี้ วิญญาณดวงที่สามเป็นวิญญาณดวงหลักของเขา มันไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยงเว้นแต่ว่าเขาจะจำเป็นต้องทำ

ไม่กี่วันหลังจากนั้น เข็มทิศดวงดาวเบื้องหน้าหวังหลินเรืองแสงสว่างจ้า สัญลักษณ์ประหลาดทั้งหมดสว่างเรืองรองก่อนจะสลัวกลับลงมา

ดวงตาหวังหลินเปิดขึ้น

ฉีหูรับรู้ได้ทันทีและมองเข้ามา

“น้องเซิ่ง เจ้าซ่อมแซมมันเสร็จแล้วหรือ?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!