324. คาถาสวรรค์บทไหนก็ไม่สามารถซ่อนความหลงใหลที่เจ้ามีต่อข้านับพันปีได้
สตรีชุดขาวกระซิบ “เจ้าไม่สามารถออกมาได้ก่อนที่กระบี่เล่มที่สี่จะเกิดรูปร่าง!”
นางโบกแขนและกระบี่สายฟ้าพลันแตกกระจายทันที ชายชราถอยร่นและสร้างกระบี่สองร้อยเล่มในครั้งเดียว เขาพุ่งเข้าหานางด้วยแววตาตื่นเต้นมากกว่าครั้งก่อน
ตอนนี้คลื่นกระบี่สุดท้ายได้มาถึง เสียงดังสนั่นกึกก้องจากการรวบรวมของเหล่ากระบี่และมังกรตัวที่สี่ได้เกิดรูปร่างขึ้นมา
แววตาของสตรีชุดขาวกลับยิ่งสงบนิ่งพร้อมกับขยับฝ่ามือ มังกรทั้งสี่ตัวม้วนรอบๆนาง นางชี้ไปที่ตัวหนึ่งและมันแตกสลายในทันทีเกิดเป็นกระบี่สวรรค์ธรรมดา
การชี้ครั้งนี้ของนางทำให้รัศมีแห่งความตายกระจายสู่ใบหน้า พลังปราณสวรรค์สองพันปีได้ใช้ไปเกือบหมดหากไม่ใช่ว่านางจำเป็นต้องใช้พลังปราณไปจำนวนมากเพื่อเปลี่ยนวิญญาณของโจวยี่นางคงสังหารชายชราคนนี้ด้วยนิ้วเดียวไปแล้ว
“กระบี่พิรุณสวรรค์เล่มที่สอง วิญญาณกระบี่ จงปรากฎ!”
กระบี่สวรรค์ปลดปล่อยแสงสีทองจากนั้นวัตถุทรงกลมสีทองลอยออกมาจากใบมีด รัศมีแห่งความตายบนร่างหญิงสาวกระจายมากกว่าเดิม นางคว้าก้อนทองคำอย่างรวดเร็วและโยนมันเข้าหามังกรที่มีมวลสีม่วงบนหน้าผาก
หลังจากสูญเสียก้อนทองคำ กระบี่สวรรค์สูญเสียความเปล่งปลั่งและตกลงจากท้องฟ้า
เมื่อกระบี่หล่นลง เหล่าเซียนโดยรอบทั้งหมดต่างจ้องตาเป็นมัน
ชายชราพุ่งเข้ามาข้างหน้าอีกครั้ง คราวนี้เขาสร้างผนึกขึ้นและกระบี่สิบเล่มปรากฎเบื้องหน้าเขา มันร้องคำรามและพุ่งไปทันที
ขณะนี้เองมีใครคนหนึ่งพุ่งออกมาจากฝูงชน เขาเป็นชายวัยกลางคนที่เคยสู้กับหวังหลินและฉีหู
จังหวะที่พุ่งออกมา ผลึกสีโลหิตปรากฎล้อมรอบเขาสามก้อน เขาควบคุมให้พุ่งเข้าหาชายชรา
ชายชรามองตรงเข้าหาคนผู้นั้นและสะบัดแขนโดยไร้คำพูด
ชายวัยกลางคนร้องตะโกน “ผลึกโลหิตจิตสังหาร ระเบิด!”
ปัง! ปัง! ปัง!
ผลึกโลหิตระเบิดออกมาเป็นเสียงดังสามครั้งและใจกลางการระเบิดปรากฎวังวนสีดำ ฝ่ามือยักษ์โผล่ออกมาจากวังวนและยื่นเข้าหาชายชรา
ใบหน้าชายชราเปลี่ยนไปเมื่อเห็นฝ่ามือนั้น เขาร้องตะโกน “เทียนหยุนจื่อ หากเจ้าไม่ให้ข้าได้กระบี่สวรรค์ไป สำนักของเราสองจะเกิดการนองเลือดเป็นพันปีเมื่อข้ากลับไป!”
หลังพูดคำนั้นเขาหลบไปด้านข้างและพุ่งเข้าหาหญิงสาวชุดขาวอย่างรวดเร็ว
ฝ่ามือติดตามไล่ลังเขาไป น้ำเสียงแหบพร่าดังออกมาจากวังวน
“หลิงเทียนโฮว กระบี่สวรรค์เป็นของคนที่มีชะตาต้องกัน หากเจ้าสามารถได้มันไปเช่นนั้นถือว่าโชคชะตาอยู่ข้างเจ้า”
“เทียนหยุนจื่อ!” ร่างหวังหลินสั่นเทา สายตาเขาจ้องไปที่วังวนด้วยแสงอันลึกลับและขบคิดอย่างเงียบๆ
ชายชราใบหน้ามืดมน เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับสายฟ้าและในพริบตาจึงปรากฎเบื้องหน้าสตรีชุดขาว เขาเอื้อมมือเข้าหากระบี่สวรรค์ที่กำลังก่อตัวขึ้น
ทว่าขณะที่กำลังจะคว้าจับกระบี่นั้น คนผู้หนึ่งพุ่งออกมาจากฝูงคนซึ่งเร็วยิ่งกว่า เขาคว้ากระบี่สวรรค์ก่อนที่ชายชราจะทำได้และหนีไปอย่างรวดเร็ว
“ฮ่าฮ่า หลิงเทียนโฮว ข้าเทียนโม่จื่อขอไม่โลภมาก เพียงแค่กระบี่สวรรค์สี่เล่มนี้ข้าขอตัวลาก่อน!” คนผู้นี้คือปราชญ์วัยกลางคน เขามาถึงก่อนชายชราและซ่อนตัวอยู่ในฝูงชน เมื่อตอนที่ลงมือเขาก็สามารถขโมยกระบี่สวรรค์ในเงื้อมมือเดียว
“เทียนโม่จื่อ! เจ้ากล้าขโมยไปจากข้าหรือ? รอก่อนเถอะ ดาวเคราะห์ของเจ้า เทียนโม่ ถูกสำนักกระบี่ต้าโหลวของข้ากวาดล้าง!”
“ฮ่าฮ่า หลิงเทียน คงยากนักที่จะหลีกหนีการต่อสู้ระหว่างเราสองคนไปได้ ข้าจะรอเจ้าทุกเมื่อ!” เทียนโม่จื่อหัวเราะเพื่อคุกคามหลิงเทียนโฮว เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วยิ่งจนเมื่อมาถึงมิติว่าง ทันใดนั้นวังวนสีดำปรากฎขึ้นและเขาเข้าไปข้างใน วังวนนี้นำไปสู่ดาวเคราะห์ของเขา
“รวดเร็วอะไรเช่นนี้! เขาเร็วมากกว่าเข็มทิศดวงดาวของข้าเสียอีก!” หวังหลินสูดหายใจลึก เขาเห็นได้แต่เพียงภาพติดตาเท่านั้น
สตรีชุดขาวไม่แม้แต่กระพริบตา นางชี้ไปที่มังกรทองอีกตัว มังกรทองตัวนั้นร้องคำรามและเปลี่ยนไปเป็นกระบี่ต้องสาป
สายตาชายชราสว่างขึ้นและยื่นมือออกเข้าหากระบี่แต่ฝ่ามือเทียนหยุนจื่อเข้าใกล้เขายิ่งขึ้น
แววตาสตรีชุดขาวกลายเป็นเย็นชาพร้อมกับชี้ไปที่หลิงเทียนโฮว หลิงเทียนร้องตะโกนและเสื้อผ้าบนหน้าอกเขาฉีกขาดเป็นรอยประทับนิ้วมือสีดำบนหน้าอก
หลิงเทียนกระอักโลหิตแต่ฝ่ามือไม่ได้ช้าลงขณะยื่นมือออกไปหากระบี่สวรรค์
รัศมีแห่งความตายได้พุ่งขึ้นจนจุดสูงสุด แววตาของนางเต็มไปด้วยความเศร้าหมองพลางกระซิบขึ้น “หากเจ้าต้องการกระบี่เล่มนี้ เจ้าก็เอามันไปได้ แต่วิญญาณกระบี่เป็นของข้า!”
จังหวะที่หลิงเทียนคว้าจับกระบี่ ก้อนทองคำปรากฎและลอยเข้าหานางพลันโยนมันเข้าหาหน้าผากมังกรทองอีกตัวหนึ่ง
“กระบี่เล่มนี้เป็นของข้า!” หลิงเทียนหัวเราะขณะที่อดทนกับความเจ็บปวดบนหน้าอก เขากำกระบี่ไว้และรีบถอยกลับไป
ฝ่ามือเบื้องหลังเขาหยุดกึกและหลบไปด้านข้างโดยไม่ไล่ล่าเขาอีกต่อไป มันคว้าชายวัยกลางคนที่เคยสู้กับหวังหลินและฉีหูแทนและดึงเขากลับเข้าไปในวังวน ชายผู้นั้นแชะฝ่ามือได้หายวับไปอย่างรวดเร็ว
ขณะที่เขาจะหายไป น้ำเสียงโบราณของเทียนหยุนจื่อปรากฎอีกครั้ง
“หลิงเทียนโฮว เจ้าได้รับกระบี่สวรรค์ที่จะเป็นของสรวงสรวรค์ไปแล้ว ดังนั้นข้าจะไม่หยุดเจ้าแต่เจ้าควรรู้ขีดจำกัดของตัวเอง…”
หลิงเทียนโฮวหัวเราะ สายตาจรดลงบนสตรีชุดขาวซึ่งทำให้เขาพูดอย่างเคร่งขรึม “การโจมตีของเจ้าอ่อนแอมากกว่าครั้งก่อนอย่างมาก ประทับรอยนิ้วสวรรค์ครั้งนี้ไม่อาจสังหารข้าได้ เมื่อเห็นว่าเจ้าเป็นเทวดาตนหนึ่งข้าจะไม่สังหารเจ้า แต่กระบี่สวรรค์สองเล่มสุดท้าย เจ้าไม่สามารถนำวิญญาณกระบี่ออกไปได้!”
หลังกระบี่สวรรค์เล่มหนึ่งสูญเสียวิญญาณกระบี่ของมัน แม้ว่ามันจะเป็นกระบี่ที่ไร้เทียมทานทว่ามันไม่มีคาถาอะไรเลย รวมถึงยังจำเป็นต้องใช้วิญญาณกระบี่ดวงใหม่อีก
ความเศร้าในแววตาสตรีชุดขาวเพิ่มพูนขึ้น นางถอนหายใจขณะนั้นชี้ไปที่หนึ่งในมังกรทอง มังกรทองแตกกระจายกลายเป็นกระบี่ยักษ์ที่ลอยมาตรงนี้อย่างเรียบง่าย
ชายชราพ่นลมหายใจพร้อมกับฝ่ามือซ้ายยื่นเข้าหากระบี่
สตรีชุดขาวถอนหายใจและชี้ไปที่ระหว่างคิ้วตัวเอง ปราณกระบี่ในร่างนางเฮือกสุดท้ายถูกใช้เพื่อสร้างโล่ห์รอบตัวบังคับชายชราให้ออกห่างไป
ชายชราร้องคำรามอย่างเกรี้ยวกราดและคลื่นกระบี่สวรรค์อันโหร้ายในมือเขาพุ่งเข้าหาโล่ห์ โล่ห์สั่นเทาแต่ไม่แตกสลาย
หลิงเทียนจะปล่อยให้เกิดเรื่องนี้ได้อย่างไร? เขากวัดแกว่งกระบี่สวรรค์และใช้กระทั่งใช้คาถาบนโล่ห์ใบนั้น
หลังใช้ปราณสวรรค์ที่เหลือ สตรีชุดขาวเริ่มค่อยๆหลับตาของนางลงพร้อมกับรัศมีความตายครอบคลุมนาง
“โจวยี่ ข้าไม่ใช่ดวงวิญญาณของราชาสวรรค์ที่แท้จริง ราชาสวรรค์ไม่ควรต้องมีความรู้สึกใด ข้าเป็นดวงวิญญาณเสียหายที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเหตุผลหนึ่ง ข้าเห็นเจ้าปกป้องข้ามาสองพันปีและเมื่อเจ้าเผาเผลาญดวงวิญญาณดั้งเดิมของเจ้า ในที่สุดข้าก็รู้ว่าข้าถูกสร้างขึ้นมาจากความหลงใหลของเจ้า…”
“…ขอบคุณนะ….หากมีอีกชีวิตนึง ข้าหวังว่าข้าจะไม่ใช่วิญญาณเสียหายและเจ้าจะยังอยู่ข้างๆข้า”
“ถิงเอ๋อ!!!”
เสียงร้องไห้ดังออกมาจากมวลสีม่วงบนหน้าผากมังกรทองตัวสุดท้าย
ร่างหญิงสาวขุดขาวเริ่มหล่นลง นางฝืนชี้ไปที่กระบี่เล่มสุดท้าย ก้อนสีทองลอยออกมาจากกระบี่และรวมเข้ากับมังกรทองตัวนั้น
เมื่อทำทั้งหมดนี้เสร็จ เป็นครั้งแรกที่นางได้ยิ้มออกมาด้วยความสุข มันสวยงามมากมายนัก
ขอบคุณสวรรค์ ขอบคุณผืนดิน ขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้เรามาเจอกัน…
คาถาสวรรค์บทไหนก็ไม่สามารถซ่อนความหลงใหลที่เจ้ามีต่อข้านับพันปีได้…
การปกป้องหลายพันปีทำให้เกิดปาฏิหาริย์ครั้งนี้ขึ้น…
ความหลงใหลของเจ้าสั่นสะเทือนสวรรค์ ความรู้สึกของเจ้าสั่นสะเทือนปฐพี สำหรับข้าแล้วเจ้าได้ทิ้งชีวิตของเจ้า สำหรับเจ้า ข้าก็จะขอทิ้งชีวิตของข้าเช่นกัน…
เจ้าและข้าจะเจอกันในชาติหน้า เมื่อเราเจอกันอีกครั้งโปรดอย่าลืม…ชีวิตนี้…
“ไม่นะ!!!” เสียงร้องโหยหวนดังออกมาจากมวลสีม่วงบนมังกรทองตัวสุดท้าย ปราณกระบี่สีม่วงพุ่งออกมาจากมังกรเกิดเป็นรูปร่างโจวยี่
ก้อนทองคำได้รวมเข้ากันบนหน้าผากโจวยี่ เมื่อรวมกันได้อย่างสมบูรณ์จึงปรากฎกระบี่มายาบนหน้าผากเขาและทั้งร่างเริ่มเรืองแสงสีทอง
ทว่าลำแสงสีทองนี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกอ่อนโยนแต่กลับกลายเป็นสัมผัสแห่งความเศร้าอันลึกล้ำ
จังหวะที่โจวยี่พุ่งออกมา มังกรทองได้สลายไปเกิดเป็นกระบี่สั้นสำหรับสตรี มันลอยคว้างด้านข้างกระบี่เล่มใหญ่
กระบี่เล่มใหญ่และกระบี่เล็กราวกับเป็นคู่รัก
สตรีชุดขาวหลับตาลงและร่างของนางหล่นลง ด้วยความตายของนางทำให้โล่ห์หายไป
“ทำไม!!! ทำไมเจ้าต้องทำเช่นนี้!! หากข้าคิดว่าจะตายข้าก็ต้องตาย ทำไมเจ้าต้องทำทั้งหมดนี้เพื่อข้า…เจ้าตาย ข้ารอด…เจ้ารอด ข้าตาย…ลิขิตฟ้ามักจะเป็นเช่นนี้เสมอหรือไร? ไม่นะ!!!” โจวยี่ต้องการกอดนางแต่เมื่อเขาสัมผัส ร่างกายของนางโปร่งใสและมือของเขาทะลุนางไป
ความเศร้าโศกในแววตาเขาสามารถสั่นสะเทือนสวรรค์! สั่นคลอนผืนปฐพี!
ร่างศพหญิงสาวผ่านร่างกายเขาไปและตกลงข้างล่าง เมื่อโล่ห์หายไป กระบี่สวรรค์สองเล่มดูเหมือนจะติดตามไปด้วยและหล่นไปพร้อมกับนาง…
เมื่อมองร่างศพที่กำลังหล่นลง ความเศร้าในแววตาเขายิ่งมากขึ้น
ถิงเอ๋อ…
ข้าไม่ใช่ถิงเอ๋อ…
แต่ว่าชื่อถิงเอ๋อ…ข้าชอบมันมาก…
ข้าเป็นเพียงวิญญาณเสียหายที่เกิดมาจากความหลงใหลของเจ้า…
หลิงเทียนโฮวปลดปล่อยเสียงคำรามอันโกรธเกรี้ยวพร้อมกับพุ่งเข้าหากระบี่สวรรค์สองเล่มที่อยู่ถัดจากร่างศพสตรี ในเวลาเดียวกันสายตากวาดผ่านโจวยี่ด้วยความหวาดกลัว
หวังหลินมองเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากระยะไกล ร่องรอยความโศกเศร้าปรากฎในใจเขา