Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1442

Cover Renegade Immortal 1

1442. โอกาสรักษา!

อสูรร่างมนุษย์หลายพันตัวไม่ชอบเสียงดัง แต่หากมองดูพวกมันกำลังพุ่งออกมาจากสายหมอกและปลดปล่อยเสียงกรีดร้องแหลมแสบหู คงเป็นภาพที่น่าตกตะลึงยิ่ง

สีหน้าท่าทางดุร้ายของพวกมัน ความเร็วและรูปลักษณ์อันน่าหวาดกลัวทำให้พวกมันดูทรงพลัง

หากเทียบเหล่าอสูรหลายพันเหล่านี้กับกลุ่มของหวังหลินจำนวนยี่สิบห้าคนแล้ว ดูเหมือนกลุ่มของหวังหลินจะเป็นเพียงเรือลำเล็กในมหาสมุทรที่สามารถจมลงได้ ทุกเวลา

เหล่าอสูรร่างมนุษย์ทั้งหมดมีระดับบ่มเพาะหลายระดับ พวกที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ในขั้นทะลวงสวรรค์ระดับที่สาม ส่วนตัวที่อ่อนแอที่สุดอยู่ในขั้นทลายสวรรค์ระดับสูงสุด

พวกมันมีหลายพันและความเร็วหลายระดับจนยากจะต่อกร แต่กระนั้นเหล่าเซียนเหล่านี้ก็ไม่ได้อ่อนแอ ทั้งหมดเริ่มโจมตีด้วยวิชาเซียนและสมบัติวิเศษ การต่อสู้ได้เริ่มขึ้นแล้ว

หวังหลินมีท่าทีสงบนิ่ง ยกแขนขวาขึ้นมาส่งปราณกระบี่ออกไปสิบล้านสาย พวกมันก่อตัวเป็นพายุกวาดไปในบริเวณ เหล่าอสูรพุ่งเข้ามาปะทะใส่และตายกันไปมากมาย

อย่างไรก็ตามขณะที่พวกมันตาย มีแสงสีแดงกะพริบวูบวาบ แม้ถูกพายุกระบี่สังหาร พวกมันก็ยังสามารถทำลายตัวเองได้

พลังของการทำลายตัวเองนั้นรุนแรงกว่ากำลังกายดั้งเดิมอยู่หลายเท่า เมื่อพวกมันหลายตัวระเบิดร่างในคราเดียวกันจึงส่งผลให้เกิดเสียงดังอึกทึกและแพร่กระจายออกไปไกล

อสูรหลายสิบตัวที่ถูกพายุกระบี่สังหาร พวกมันระเบิดตัวเองจนเกิดเป็นพลังการโจมตีของเซียนขั้นทะลวงสวรรค์ระดับที่ห้า ขณะที่พลังระเบิดพุ่งเข้าใส่หวังหลิน ดวงตาพลันส่องสว่างและเกิดเงาแสงขึ้นด้านหลังทันที!

เงาแสงห่อหุ้มร่างกายและเปล่งแสงสว่างเจิดจ้า แรงระเบิดปะทะกับเงาแสงจนเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง เงาแสงบิดเบี้ยวแต่ไม่แตกสลาย พลังการทำลายล้างถูกสะท้อนกลับไป

อสูรดุร้ายในคลื่นลูกที่สองจึงถูกพลังสะท้อนกลับไปนี้โจมตีเข้าใส่ พวกมันส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน ทว่ากลับเกิดคลื่นพลังทำลายล้างขึ้นอีกลูก เกิดการระเบิดทับซ้อนกันหลายชั้นโดยมีหวังหลินอยู่ใจกลาง

พลังทำลายล้างรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆเข้าโจมตีใส่หวังหลิน หวังหลินสงบนิ่งโดยมีเงาแสงรอบๆตัวที่ส่องสว่าง เงาแสงนี้ซ่อนใบหน้าหวังหลินเอาไว้จนคนภายนอกไม่สามารถมองเห็นได้

ความคิดหวังหลินสั่นสะเทือน อสูรพวกนี้ไม่ได้มีเวลาทำลายตัวเองได้ทุกตัว บางตัวถูกหวังหลินสังหารไปก่อนจะระเบิดได้ ซึ่งเมื่อไหร่ที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจะมีพลังงานสีขาวเข้าไปในร่างหวังหลิน พลังงานนี้ไม่ใช่พลังเทพโบราณแต่เป็นพลังชีวิต

พลังชีวิตสายนี้เริ่มช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บเขาได้ทันที มันดียิ่งกว่าการกลืนกินเหล่าเซียนเสียอีก หวังหลินเลียริมฝีปากพลางก้าวเท้าออกไปจากแท่นหินและพุ่งเข้าหาเหล่าอสูร

ห่างออกไปไม่ไกล เหล่าเซียนที่เหลือทั้งหมดกำลังต่อต้าน แต่มีไม่กี่คนที่ลดระดับการป้องกันลงจากพลังทำลายล้าง พวกเขากระอักโลหิตและกระเด็นถอยไป จากนั้นก็โดนล้อมรอบ ขณะที่กำลังจะต้านทาน เหล่าอสูรรอบๆก็ระเบิดตัวเองอีกครั้งปลดปล่อยพลังแข็งแกร่งเข้าทำลายเหล่าเซียน

ด้านสตรีชุดขาวเป็นคนที่ผ่อนคลายมากที่สุด สีหน้านางสงบนิ่งและไม่มีใครเห็นว่านางใช้วิชาอันใด แต่อสูรทุกตัวที่เข้าใกล้นางจะปลดปล่อยควันสีดำ จากนั้นกลับส่งเสียงกรีดร้องและล่าถอยด้วยความกลัว

หวังหลินเคลื่อนร่างดุจสายฟ้า เขาเป็นคนแรกในกลุ่มที่ออกมาจากแท่นและ ล้างบางพวกมันเข้าไปในฝูง! เหตุการณ์นี้ทำให้เซียนรอบๆสนใจ

หวังหลินไม่สนใจสายตาพวกเขา เพียงก้าวเดียวเขาก็เข้าใกล้อสูรกลุ่มหนึ่ง สะบัดแขนขวาส่งปราณกระบี่สิบล้านสายเข้าหาและพุ่งทะลุไปในร่าง ฉีกกระชากให้เป็นชิ้นๆ ส่วนหนึ่งตรงเข้าสังหารพวกมันก่อนจะทันได้ระเบิดร่าง พลังสีขาวปลดปล่อยออกมาเข้าสู่ร่างหวังหลินทันที

พลังชีวิตอันแข็งแกร่งของพวกมันถูกวิญญาณดั้งเดิมดูดซับและช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ เมื่อหวังหลินรู้สึกถึงผลพลอยได้ เขาล่าถอยออกมาปรากฏตัวนอกกลุ่มอสูรที่ล้อมรอบเซียนคนหนึ่ง ดัชนีทำเป็นรูปกระบี่และตรงเข้าใส่ร่างอสูรดุร้ายหนึ่งตัว หลังจากมันถูกทำลาย หวังหลินจึงเหมือนมัจฉาในสายธารา

พริบตาเดียวเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง อสูรหลายสิบตัวถูกทำลาย เซียนที่อยู่ตัวคนเดียวซึ่งโดนพวกมันล้อมรอบเอาไว้ถึงกับตื่นเต้นและมองหวังหลินด้วยสายตาขอบคุณ

หวังหลินไม่สนใจและพุ่งออกไปไกล

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหล่าเซียนทั้งหมดให้ความสนใจหวังหลินเนื่องจาก การกระทำของเขา เมื่อไรที่เขาปรากฏตัวจะมีอสูรถูกสังหารและจากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปตำแหน่งอื่น

ชายวัยกลางคนถือขวดสุราในมือซ้ายและกระบี่ในมือขวา เขาเพิ่งแทงใส่ศีรษะอสูรตัวหนึ่ง เขายิ้มใส่ขณะที่เผชิญหน้าอสูรนับร้อยตัว ดื่มสุราไปหนึ่งอึกและกำลังจะใช้วิชาของตนเอง

แต่มีแสงสีขาวกะพริบวาบ หวังหลินเข้ามาใกล้ดุจประกายสายฟ้า เกิดเสียงดังสนั่นกึกก้องและมีอสูรมากกว่าครึ่งตกตาย หลังจากดูดซับพลังชีวิตพวกมันเสร็จสิ้นหวังหลินก็จากไป

ชายวัยกลางคนขมวดคิ้วและบ่นพึมพำ จากนั้นดวงตาพลันหรี่แคบและสังเกตบางอย่างได้ มีอยู่น้อยคนนักที่มองออก อีกทั้งเหล่าเซียนทั้งหมดที่นี่ต่างก็เจ้าเล่ห์ การกระทำของหวังหลินทำให้พวกเขาสนใจและเห็นเหตุผลเบื้องหลังอีกฝ่ายได้ทันที

‘ทุกครั้งที่อสูรถูกฆ่าไปก่อนจะระเบิดร่างได้ พลังชีวิตจะพรั่งพรูเข้าไปในร่างเขา ไม่เพียงแต่จะช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บแต่ยังเทียบเท่าการบ่มเพาะหลายเดือน!’

อย่างไรก็ตามตอนที่พวกเขามองสิ่งนี้ออก อสูรนับพันก็ตายไปด้วยน้ำมือหวังหลินแล้วและอีกสามในสิบส่วนก็ตายจากการระเบิดตัวเอง ที่เหลืออีกประมาณพันตัวนั้นรวมกลุ่มกันหนาแน่น หวังหลินเคลื่อนไหวดุจสายฟ้าและพุ่งหากลุ่มนี้ก่อนหน้าทุกคน

ด้านหลังเขา นอกจากเด็กสาวจากเผ่าทำลายผนึกที่หวาดกลัวเกินไปและหญิงสาวชุดขาวที่ไม่สนใจใยดี เหล่าเซียนที่เหลือทั้งหมดต่างพุ่งมาข้างหน้า สำหรับพวกเขาแล้วอสูรเหล่านี้คือเม็ดยาชั้นเยี่ยม พวกเขาต้องมุ่งหน้ามาให้ถึงก่อนหวังหลิน!

“สหายเซียนชุดขาว ในเมื่อเราเป็นกลุ่มเดียวกัน เรามิอาจยอมให้เจ้าเผชิญหน้ากับอสูรนับพันพวกนี้ด้วยตัวเองแน่ ให้เราร่วมมือกันเถอะ!”

“สหายเซียนไม่ต้องรีบ พวกมันมีเกือบพันตัวและหากพวกมันทำลายตัวเองคงเป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัว เราควรต้องระมัดระวังให้มากขึ้น!”

“สหายเซียนชุดขาว ข้าไม่สนใจพวกที่เหลือ ทิ้งพวกมันให้ข้าสักสามร้อยตัวก็พอ!”

เสียงคำรามดังออกมาจากเหล่าเซียนที่เร่งความเร็วขึ้นไล่ตามหลังหวังหลิน!

หวังหลินมีท่าทีสงบนิ่งและเยาะเย้ย ดวงดาวเทพโบราณกลางหน้าผากกำลังกะพริบเบาบางและมีแสงน่ากลัวกะพริบจากดาวดวงแรก

หวังหลินใช้ฝ่ามือสร้างผนึกและสะบัดออกไป

ปรากฏเตาหลอมจักรพรรดิขึ้นมาล้อมรอบอสูรเกือบพันตัวทันที เมื่อเตาหลอมจักรพรรดิขนาดยักษ์ปรากฏ กลิ่นอายเก่าแก่เกิดเป็นวังวนเข้ากวาดล้างพื้นที่!

ชั่วขณะที่เหล่าเซียนเข้ามาใกล้ หวังหลินร้องคำราม “หลอม!”

เพียงคำเดียว เตาหลอมจักรพรรดิส่งเสียงดังลั่น อสูรดุร้ายข้างในพลันกรีดร้อง ก่อนที่พวกมันจะทำลายตัวเองได้ พลังเทพโบราณพุ่งผ่านเตาหลอมเข้ามา เหล่าเซียนยี่สิบกว่าคนจ้องมองเตาหลอมจักรพรรดิที่หดเล็กลงและหายวับไปกลางหน้าผากหวังหลิน

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในพริบตา หวังหลินชิงอสูรดุร้ายที่เหลือทั้งหมดไปไม่มีเหลือให้สักตัว!

หวังหลินหันตัวกลับมากวาดสายตาผ่านทุกคนที่ไล่ตาม เขาเห็นอารมณ์รุนแรงจากพวกเขา พลันก้าวเท้าและกลับไปที่แท่นหินของตนเอง สะบัดแขนเสื้อเพื่อกระจายระดับบ่มเพาะอันทรงพลังออกไปกดดันทั่วพื้นที่

เหล่าเซียนยี่สิบกว่าคนต่างก็มีสายตาไม่เป็นมิตร แต่ทั้งหมดหวาดกลัวสายตาของ หวังหลิน ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าลงมือก่อน เด็กสาวจากเผ่าทำลายผนึกเห็นโอกาสนี้และกำลังจะก้าวไปข้างหน้า แต่วินาทีนั้นสายตาเยือกเย็นของหวังหลินได้จับจ้อง ที่นาง

ความคิดนางสั่นไหวและใบหน้าซีดเซียว ฝ่าเท้าหยุดลงและไม่กล้าเคลื่อนไหวเลย

ครู่ต่อมาเหล่าเซียนนับยี่สิบคนกลับเข้ามาที่แท่นหินของตัวเอง เมินเฉยเรื่องนี้ไปชั่วคราว อย่างไรก็ตามสายตาพวกเขาที่มีต่อหวังหลินก็ไม่เป็นมิตรอย่างรุนแรง

มีเพียงสตรีชุดขาวที่มองหวังหลินด้วยความชื่นชมและพยักหน้าเล็กน้อยให้หวังหลิน

ชั่วขณะนี้เองแท่นหินที่ทุกคนอยู่เกิดการสั่นสะเทือน มันหยุดไปชั่วครู่ก่อนจะมุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงสุดและหายวับเข้าไปในสายหมอก

‘อสูรร่างมนุษย์พวกนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งมันช่วยให้ข้าฟื้นฟูได้ ดังนั้นจะไม่มีใครขโมยพวกมันไปจากข้าได้!’ หวังหลินยืนสงบนิ่งบนแท่นหิน เผยท่าทีไร้อารมณ์ความรู้สึกแต่ในสายตากะพริบเย็นวาบ พลังชีวิตทรงพลังโผล่ออกมาจากเตาหลอมจักรพรรดิและพุ่งเข้าไปในร่างเขาเพื่อช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ

‘ถึงเวลาแสดงพลังอำนาจของข้าแล้ว…’ เปลวเพลิงมายาในตาซ้ายเริ่มเผาไหม้ส่องสว่างขึ้นเรื่อยๆ

……………………………………………..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!