Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1459

Cover Renegade Immortal 1

1459. มอบเต๋า

‘ดูเหมือนว่าวิธีอื่นที่จักรพรรดิสวรรค์โบราณคิดขึ้นมาจะเกี่ยวข้องกับบัญชาโบราณ! จักรพรรดิสวรรค์โบราณล่อล่วงบัญชาโบราณมาที่นี่…เขาวางแผนรวบรวมบัญชาโบราณและอีกสามเผ่า เขาต้องการใช้พวกเขาเพื่อยกระดับเต๋าสวรรค์!’

‘คนเช่นจักรพรรดิสวรรค์โบราณจะลงมือตอนที่มั่นใจเต็มร้อยเท่านั้น ดังนั้น เขาน่าจะทำสำเร็จ…แต่สุดท้ายเต๋าสววรรค์ถูกสังหารได้อย่างไร…’

‘รวมถึงตอนที่ข้าอยู่ในดาราจักรพันธมิตรเซียน ข้าผ่านทัณฑ์สวรรค์แต่บังเอิญไปเปิดรอยแยกอวกาศที่นำทางไปสู่โลกประหลาด ที่นั่นมีรูปปั้นเทพโบราณ ปีศาจโบราณและมารโบราณอยู่หลายตน…หรือว่าที่นั่นจะเกี่ยวข้องกับสุสานบัญชาโบราณและเกี่ยวข้องกับเซียนเต๋าเจ็ดสีด้วย…’

‘นอกจากนี้วิหคศักดิ์สิทธิ์แทบทุกรุ่นถูกผนึกเอาไว้ ทุกอย่างชี้ไปที่อาจารย์ของราชันย์…ใครคืออาจารย์ของราชันย์…’

‘มีร่างศพเงินที่กรีดร้องและบ้าคลั่งไปหลังจากเห็นรูปปั้นเซียนเต๋าเจ็ดสีอีก นางบอกตลอดว่านางไม่ได้เปิดประตู…ประตูคืออะไรแล้วทำไมเซียนเต๋าเจ็ดสีถึงเกรี้ยวโกรธจนเริ่มสังหาร…’

‘ประตูนี้ หรือมันจะเป็นประตูที่นำไปสู่เต๋าสวรรค์? หรือเป็นประตูที่ผนึกศัตรูของเขา? หรือ…ประตูสู่โลกอื่น?’

‘หรือทุกอย่างที่ข้าเดามันผิด…’ หวังหลินขมวดคิ้ว เขาสามารถวิเคราะห์มาจนถึงจุดนี้ได้จากเบาะแสที่ค้นพบ หวังหลินไม่มั่นใจตัวเองมากนัก

‘ตอนที่บรรลุแท่นระดับห้า เสียงที่เรียกตัวเองว่า ‘เย่โม่’ ได้บอกว่าคนของเผ่าเขาสามารถผ่านประตูก่อกำเนิดเพื่อได้รับมรดก คนที่ไม่ใช่เผ่าของเขาสามารถเข้าสู่ตำหนักปฐพี…อะไรคือตำหนักปฐพี…’

หวังหลินลูบคางและดวงตาส่องสว่างขึ้น

‘ไม่ว่าจะเป็นอะไร ตัวตนของสุสานบัญชาโบราณถือว่ามีขอบเขตเกี่ยวข้องกับเซียนเต๋าเจ็ดสี สถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อยกระดับเต๋าสวรรค์หรือไม่…หรือเป็นสถานที่ที่เย่โม่สร้างขึ้นมาส่งต่อมรดกของตัวเองหลังจากที่เขาตาย…’

‘ที่นี่เรียกว่า ‘สุสานบัญชาโบราณ…’ หรือจะเป็นสุสานของบัญชาโบราณเย่โม่…’ ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน

หลังจากผ่านไปสักพักเขาจึงถอนหายใจและไม่คิดเรื่องกวนใจพวกนี้อีก ดวงตาส่องสว่างและมองดูต้นไม้แห้งเหี่ยวรอบๆ

‘หากข้าเดาไม่ผิด ต้นไม้พวกนี้ถูกใครสักคนปลูกเอาไว้ หลังจากรูปปั้นผนึกกะโหลก ต้นไม้จึงดูดซับกลิ่นอายเทพโบราณเข้าไป’

‘เหตุผลที่พวกมันแห้งเหี่ยวและตายไปหมดก็เพราะพลังเทพโบราณทั้งหมดในกะโหลกสูญสลายไปตามกาลเวลา เมื่อไร้พลังเทพโบราณจึงแห้งเหี่ยว ตอนที่ทันหลางมาที่นี่เขาเห็นต้นไม้เหลือเพียงต้นเดียว หากเขาไม่ได้เข้ามา ดูเหมือนว่าต้นไม้สุดท้ายก็คงแห้งเหี่ยวไปด้วย’

‘กล่าวได้ว่านอกจากทันหลางแล้ว การจะมีใครสักคนมาที่นี่นับว่ายาวนานมาก รวมถึงคนที่ปลูกต้นไม้ไว้ด้วย ดูเหมือนเขาปลูกเอาไว้และไม่เคยกลับมา…’

หวังหลินดวงตาส่องสว่าง หลังจากขบคิดเล็กน้อยจึงเผยสายตามุ่งมั่น นั่งกลางหน้าผากของหัวกะโหลกและสูดหายใจลึก จากนั้นฝ่ามือสร้างผนึกให้เขตอาคมเต็มไปทั่วท้องฟ้าเพื่อสร้างม่านป้องกัน

เขายังอัญเชิญอักขระสายฟ้าออกมาและซ่อนมันในสายฟ้าไปด้วย เพลิงเก้าสีก็ปรากฏขึ้น แม้กระทั่งกระบี่โลหิตก็ถูกหวังหลินซ่อนเอาไว้ในท้องฟ้า

การเตรียมการทั้งหมดของเขาเป็นการทับซ้อนกันจนเกิดเป็นค่ายกลสังหารที่ทรงพลัง หากใครกล้าพุ่งเข้ามาโดยไม่ระมัดระวังตัวเองก็จะเจอกับค่ายกลสังหารนี้

หลังจากวางการป้องกันเอาไว้ หวังหลินส่งพลังเทพโบราณทั้งหมดของตัวเองเข้าไปในกะโหลกด้านล่าง

กะโหลกเป็นเหมือนหลุมที่ไร้ก้นบึ้ง ไม่ว่าหวังหลินจะใส่พลังเทพโบราณไปมากแค่ไหนมันก็ไม่เปลี่ยนแปลง วันเวลาผ่านไปอย่างช้าๆแต่หวังหลินก็ไม่หยุดความพยายาม

ดวงดาวกลางหน้าผากเทพโบราณเริ่มส่องประกาย ดาวทั้งหกหมุนวนจนกระทั่งมีพลังเทพโบราณพรั่งพรูออกมา

หลังจากหวังหลินหล่อเลี้ยงกะโหลกด้วยพลังเทพโบราณไปหลายชั่วโมง เขาสังเกตการเปลี่ยนแปลงของกะโหลกได้ ต้นไม้แห้งเหี่ยวดูเหมือนได้รับการ หล่อเลี้ยงและเริ่มแสดงสัญญาณแห่งชีวิต

อย่างไรก็ตามหากเขาต้องการฟื้นชีวิตต้นไม้ทั้งหมดที่นี่ มันไม่เพียงแต่จะใช้เวลามากเกินไป แม้แต่หวังหลินก็ไม่มีพลังเทพโบราณมากพอ

หลังจากขบคิดเล็กน้อย หวังหลินล้มเลิกการฟื้นพวกมันทั้งหมดและเพ่งสมาธิ พลังเทพโบราณของตนเองไปยังต้นไม้ ทั้งสิบเก้าต้น

เวลาค่อยๆผ่านไป ต้นไม้ทั้งสิบเก้าต้นค่อยๆเปลี่ยนจากสภาวะแห้งเหี่ยวมามีชีวิตมากขึ้น ลำต้นกลับคืนมาเป็นสีเดิมและค่อยๆเกิดการซ่อมแซมแผ่กระจายออกไป

กระบวนการนี้น่าเบื่อยิ่ง ขณะที่หวังหลินประคองการเติมพลังเทพโบราณไป แขนขวาชี้ใส่กลางหน้าผากและปรากฏเตาหลอมจักรพรรดิขึ้นเบื้องหน้า

เตาหลอมจักรพรรดิสามารถเปลี่ยนได้ทั้งใหญ่หรือเล็ก ตอนนี้มันมีขนาดเพียงร้อยฟุตเท่านั้น ข้างในปั่นป่วนและมีเสียงกรีดร้องดังขึ้นเบาๆ หวังหลินแบ่งความคิดออกเป็นสองส่วน จากนั้นสร้างผนึกและชี้ใส่เตาหลอม

ความปั่นป่วนข้างในเตาหลอมพลันหายไป ปรากฏมหาสมุทรสีดำขึ้นเบื้องหน้าหวังหลิน มหาสมุทรนี้ไร้ชีวิตและไม่มีคลื่น วิญญาณเพลิงนรกานต์ที่ถูกพิษจำนวนมากอยู่ข้างใน

“หลอม!” หวังหลินชี้ไปข้างหน้า มหาสมุทรพิษดูเหมือนเผาไหม้ เสียงร้องอื้ออึงดังออกมา คลื่นจำนวนมากกลายเป็นน้ำวนอย่างรุนแรง

‘มหาสมุทรนี้สร้างขึ้นจากพิษของเฒ่าเดียวดายและวิญญาณเพลิงนรกานต์ของปรมาจารย์เต๋าเมียวหยิน หลังจากข้าหลอมมันไป มันจะกลายเป็นสมบัติพิษที่ ทรงพลัง!’

หวังหลินท่าทีสงบนิ่งและเริ่มหล่อหลอม

มหาสมุทรข้างในเตาหลอมส่งเสียงร้องคำรามอย่างรุนแรง ดวงวิญญาณ เพลิงนรกานต์มากมายกรีดร้องโหยหวน เสียงพวกมันรุนแรงเกรี้ยวกราด โชคดีที่ถูกเตาหลอมจักรพรรดิขัดขวางเอาไว้ ดังนั้นเมื่อเสียงผุดออกไปด้านนอกก็เบาลงมากแล้ว

เสียงดังสนั่นไม่มีหยุด ควันสีดำจำนวนมากลอยเหนือมหาสมุทร ควันสีดำคือมหาสมุทรที่ถูกหลอมกลายเป็นหมอกควันและมันเต็มไปทั่วเตาหลอมในเวลาไม่นาน

อย่างไรก็ตามหมอกสีดำไม่ได้สลายไป มันรวบรวมไปเรื่อยๆจนถึงจุดหนึ่งจึงกลายเป็นเมฆสีดำ จากนั้นหยดลงมาเป็นฝนสีดำตกลงไปในมหาสมุทร

จากนั้นเริ่มเป็นวัฏจักร แต่เมื่อน้ำในมหาสมุทรเปลี่ยนกลายเป็นฝน มันก็ลดลงไปจำนวนมาก ทว่าพิษไม่ได้ลดลงไป กลับมีพิษควบแน่นมากขึ้นแทน!

หลังจากนั้นไม่นานนักมีเมฆสีดำโผล่ขึ้นในเตาหลอมจักรพรรดิมากขึ้น ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องจนระดับมหาสมุทรลดลง หลังจากฝนตกไปสามวันโดยไม่หยุด ตอนนี้เหลือมหาสมุทรเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น

ตอนนี้สีสันของมหาสมุทรเป็นสีดำเข้ม ไม่เพียงแต่สัมผัสวิญญาณจะทะลวงไปไม่ได้ พิษข้างในยังน่ากลัวมากกว่าเดิม

พอเห็นว่าไม่มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นและมหาสมุทรพิษยังคงโดนหลอม หวังหลินจึงผ่อนคลายลง เขาสะบัดแขนให้มหาสมุทรพิษหายไปและมีอีกมิติปรากฏขึ้นมา

มิติแห่งนี้เต็มไปด้วยมหาสมุทรอันไร้ขอบเขต แต่มันเป็นมหาสมุทรสีม่วงและเต็มไปด้วยวิญญาณเพลิงนรกานต์ที่หาได้ยาก

หลิงตงนั่งอยู่ข้างใต้มหาสมุทร ฝ่ามือสร้างผนึกพลางหลอมวิญญาณเพลิงนรกานต์อย่างบ้าคลั่ง เขาพยายามทำให้เพลิงนรกานต์แต่ละดวงมาที่เขา

ด้านหลังหลิงตงมีรูปปั้นยักษ์อยู่หนึ่งรูป รูปปั้นนี้คือรูปปั้นเทพมารจากเผ่าของหลิงตง มันเปล่งแสงสว่าง วิญญาณทั้งหมดที่ถูกแสงนี้ห่อหุ้มจะเผยความสับสนและดิ้นรน

วิญญาณเพลิงนรกานต์บางส่วนได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วทำให้เพลิงนรกานต์ถูก หลิงตงดูดซับ หลิงตงมีใบหน้าเบิกบานและเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

ตอนที่หวังหลินเห็นแบบนี้ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย วิญญาณเพลิงนรกานต์เหล่านี้เป็นของปรมาจารย์เต๋าเมียวหยิน แม้สำหรับหลิงตงแล้วก็คงใช้เวลานานกว่าจะเปลี่ยนแปลงพวกมันได้ ถึงหวังหลินจะไม่ได้รีบแต่สุสานบัญชาโบราณนั้นอันตราย หากเขาสามารถเร่งความเร็วการดูดซับของหลิงตงได้และช่วยเขาบรรลุขั้นที่สาม จะเป็นการช่วยหวังหลินไปในตัวอย่างมหาศาล

ขณะขบคิดหวังหลินก็แบ่งสัมผัสวิญญาณส่วนหนึ่งเข้าไปในเตาหลอมจักรพรรดิ จากนั้นเขาปรากฏร่างขึ้นมาในท้องฟ้าเหนือมหาสมุทรสีม่วง

‘ทาสโบราณ!’

น้ำเสียงทรงอำนาจดังกึกก้องในเตาหลอมจักรพรรดิ หลิงตงลืมตาขึ้นมาเผยความชื่นชมและเคารพ จากนั้นพุ่งขึ้นสู่เหนือมหาสมุทร

เขาหยุดลงห่างจากหวังหลินไปร้อยฟุตและคุกเข่าลงกลางอากาศ “ทาสโบราณหลิงตงขอคารวะนายท่าน ข้าสงสัยว่านายท่านมีสิ่งที่ต้องการให้ทาสรับใช้ผู้นี้ทำงาน!”

เงารูปร่างหวังหลินหันไปมองหลิงตง ผ่านไปสักพักจึงเอ่ยขึ้น “ข้าจะมอบวิชาให้เจ้า ข้าเชื่อว่าด้วยระดับบ่มเพาะของเจ้าน่าจะสามารถเรียนรู้มันได้รวดเร็ว ด้วยวิชานี้เจ้าสามารถดูดซับเพลิงนรกานต์ที่นี่และบรรลุขั้นที่สามได้จริงๆ!”

หลิงตงพลันเงยศีรษะขึ้นและเต็มไปด้วยแววตาศรัทธา เขาบ่มเพาะมาทั้งชีวิตเพื่อกลายเป็นเซียนขั้นที่สาม แต่เนื่องจากขาดแคลนเพลิงนรกานต์จึงหยุดชะงักลง หากไม่สนว่าเขาอยู่ภายใต้ผลลัพธ์ของวิชาเต๋าสวรรค์ของหวังหลินและเตาหลอมจักรพรรดิ หวังหลินถือว่าให้โชคลาภกับเขามหาศาล แม้เขาไม่ได้อยู่ใต้อิทธิพลของวิชาอันใด เขาก็ยังเลือกจะติดตามหวังหลินอยู่ดี!

ตราบใดที่เขาสามารถทำให้เต๋าสมบูรณ์ได้ เขายอมทำทุกอย่าง!

หวังหลินยกแขนขวาขึ้นมาชี้ไปข้างหน้า ผนึกพุ่งเข้าหาหลิงตง หลิงตงไม่ได้หยุดมัน ยอมให้ทะลุผ่านหน้าผากและร่อนลงไปในวิญญาณดั้งเดิม

“วิชาเต๋าผสาน! รีบทำความเข้าใจวิชานี้ให้รวดเร็ว!”

หวังหลินถอนสายตา เขาพึงพอใจยิ่งที่พูดคุยกับหลิงตง ด้วยเตาหลอมจักรพรรดิและวิธีอื่นๆ เขาไม่กลัวว่าหลิงตงจะทรยศเลย

‘หากข้าเจอเข้ากับเซียนขั้นที่สามระดับต้น มีหลิงตงอยู่ที่นี่คงต่อสู้ด้วยไม่ยาก…หากข้าสามารถจับคนผู้นั้นและหลอมเป็นทาสรับใช้อีกคน…’ สัมผัสวิญญาณของ หวังหลินหายไปจากท้องฟ้าเหนือทะเลและกลับมาที่ร่างด้านนอก

ขณะเดียวกันด้านนอก ชายร่างกำยำจากเผ่าหมาป่าสวรรค์กำลังพุ่งเข้ามาด้วยแท่นระดับห้า เขากำลังเข้ามาใกล้สถานที่แห่งนี้มากขึ้น

‘ห่างไปไม่ไกลนัก อีกแค่สามวันข้าก็จะไปถึงที่นั่น! หากข้าได้ใบไม้เก้าใบ ข้าสามารถใช้เต๋าหมาป่าสวรรค์ของข้ามาผนึกมันให้อยู่กับข้าไปตลอดกาล! แม้ข้ายังอยู่ในขั้นสวรรค์ดับสูญระดับต้น แต่ข้าก็เป็นขั้นดับสูญระดับต้นที่แข็งแกร่งที่สุด!’ ชายร่างกำยำเต็มไปด้วยแววตาตื่นเต้นพลางควบคุมแท่นหินของตนเองให้ทะยานไปเร็วมากขึ้น

…………………………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!