Skip to content

Swallowed Star 186

ตอนที่ 186 : ซากโบราณสถาน ที่ล่มสลาย

สำนักงานใหญ่เมืองหงหนิง สำนักงานใหญ่ของ สำนักขีดสุด คืออาคารรูปทรงยานอวกาศขนาดยักษ์ บริเวณที่จอดรถข้างยานอวกาศขนาดยักษ์มีเครื่องบินเจ็ทรูปทรงสามเหลี่ยมสีน้ำเงินเข้มกำลังลงจอด

ภายในเครื่องบินเจ็ทอัตโนมัติ

“เราไม่สามารถใช้ชุด ‘เกราะเทพทมิฬ ‘ ในซากโบราณสถานได้ ดังนั้นฉันต้องทิ้งไว้ที่นี่” หลัวเฟิงยื่นมือขวาของเขา ออกจากนั้นวัสดุสีดำ ค่อยๆ

รวมตัวกันบนมือขวาและเปลี่ยนเป็นถุงมือสีดำ “ฉันยังคงต้องเลิก

ควบคุม”

หลังจากชุด เกราะเทพทมิฬ ได้ดูดซับเลือดของเจ้าของแล้ว มันก็

เปลี่ยนแปลง มันจะเชื่อมต่ออยู่กับร่างกายของเจ้าของอย่างที่มันเคย

เป็นมาก่อน เช่น ถ้ามันเคยเป็นผิวของเจ้าของ มันอาจเปลี่ยนเป็นสิ่งของต่างๆ ที่แตกต่างกัน แม้กระทั่งซ่อนอยู่ใต้ผิวหนัง! และมันมีข้อเสียเพียงอย่างเดียว…เมื่อคุณพยายามที่จะถอดมันออก

มีสองวิธีที่จะทำให้มันออกจากร่างกายของคุณวิธีแรก เจ้าของตาย!

วิธีที่สอง คือ การดูดเลือดออกจากชุด เกราะเทพทมิฬ ด้วยวิธีนี้ชุด เกราะเทพทมิฬ จะหลุดออกมาโดยอัตโนมัติ

“ตอนนี้ฉันจะต้องถอดชุด เกราะเทพทมิฬ ก่อน แล้วค่อยกลับมาให้มันดูดซึมเลือดของฉันอีกครั้งในภายหลัง” หลัวเฟิงหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้ในขณะที่ถุงมือสีดำ ตกลงไปบนที่นั่งของเครื่องบินเจ็ทอัตโนมัติ

“ที่ 1 เก็บ ชุด เกราะเทพทมิฬ” หลังจากพูดจบ หลัวเฟิงทิ้งเจ็ทอัตโนมัติไว้

…..

เมื่อหลัวเฟิงมาถึงภายในยานอวกาศขนาดมหึมา เขาไปที่ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ซึ่งภายในมีเก้าอี้ไม่กี่สิบตัว

มีคนหกคนอยู่ภายในห้องนั่งเล่น หลัวเฟิงสามารถแยกได้ทันที มีชายหญิงคู่หนึ่งที่เป็นชาวจีน คนที่นั่งหลับตาคนนั้นเป็นชาวอินเดีย ส่วนชายอีกคนมีผิวสีดำคล้ำ และสุดท้าย ชายผิวขาวที่มีผมสีทอง

“สวัสดี หลัวเฟิง ผมคือไต๋บาหยางจากเมืองเกียวโต” ชายชาวจีนเข้ามาและแนะนำตัวเอง “จากที่ผมรู้ว่าจะมีเทพสงครามจำนวน 8 คนที่ออกเดินทางในเวลานี้ มีเพียงคุณและผมเท่านั้นที่มาจากประเทศจีน โอ้ เลดี้หลี่ที่ฉันคุยด้วยก็มาจากสำนักงานใหญ่เมืองหงหนิง”

“โอ้” หลัวเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย เขาทักทายไม่กี่คำแล้วก็นั่งอยู่ข้างๆ

เพื่อเตรียมพร้อมในการเข้าสำรวจโบราณสถาน…

เร็วๆ นี้สมาชิกคนที่ 8 และสมาชิกสุดท้ายมาถึงแล้ว สมาชิกทั้งหมด

ของ สำนักขีดสุด พวกเขาเตรียมที่จะมุ่งหน้าไปยังซากโบราณสถาน

หมายเลข 9

“ทุกคน โปรดตามผมมา”

ภายใต้การนำของชายที่สวมเสื้อคลุมสีแดง หลัวเฟิงและเทพสงครามอีกเจ็ดคนจากทั่วทุกมุมโลกมาถึงห้องที่ทำจากไม้สีม่วงซึ่งมันค่อนข้างแปลก

หลัวเฟิงและคนอื่นๆ ไม่เคยเห็นไม้ที่มีสีม่วงที่ใช้สร้างห้องนี้ขึ้นมา อย่างไรก็ตามมันมีกลิ่นแปลกๆ ที่สามารถช่วยให้คนสามารถรวบรวมสมาธิและจิตวิญญาณของพวกเขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ขณะที่ชายสวมชุดสีดำ กำลังยืนอยู่ในห้อง เขายืนหันหลังให้กับหลัวเฟิงและคนอื่นๆ

“หง!”

หลัวเฟิงและอีกเจ็ดคน ทั้งหมดโค้งคำนับเล็กน้อย

หลังจากนั้น ชายผิวดำก็หันกลับมา เขามองสแกนกลุ่มของหลัวเฟิง ในขณะที่เขาพูดอย่างไร้ความรู้สึกว่า “ซากโบราณสถานหมายเลข 9 แม้ว่าจะเป็นหนึ่งในซากโบราณสถาน ที่มีความปลอดภัย แต่อัตราการตายยังคงมีสูงมาก ถ้าคุณต้องการกลับ คุณสามารถพูดได้ในขณะนี้ มิฉะนั้นจะสายเกินที่จะเสียใจ หลังจากเข้าสำรวจซาก โบราณสถาน”

ทุกคนนิ่งเงียบ

“ดีมาก” ชายผิวดำ คนใจเย็น “อัลรูส เข้ามา”

เสียงของเขาแผ่กระจายออกไป

หวือ!

ภาพเงาที่พร่ามัวอยู่นอกประตู ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นหญิงสาวลึกลับ

เธอสวมหน้ากากสีทองและเสื้อคลุมสีดำ ผมยาวสีดำ ผมยาวของเธอ

กระจายออกไป เพราะหน้ากากปิดกั้นใบหน้าของเธอ คุณจึงมองเห็น

เฉพาะตาจมูกและปากเท่านั้น อย่างไรก็ตามจากสิ่งเหล่านี้ คุณสามารถบอกได้ว่าเธอเป็นคนที่สวยมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายตาคู่นั้นดูเหมือนจะสามารถดึงดูดส่วนลึกของจิตวิญญาณของผู้มองได้

“เธอเป็นลูกครึ่ง” หลัวเฟิงสามารถรู้สึกได้จากการมองดวงตาของเธอ “อัลรูส หนึ่งในผู้นำกองกำลังส่วนตัวของอาจารย์หง ไม่แปลกใจที่เธอได้ชื่อเล่นว่า อัลรูส”

(TL อัลรูส แปลว่า ยั่วยวน)

ทั้งสามคนเป็นผู้คุ้มกันที่ภักดีที่สุดของ ‘หง’!

เพราะพวกเขาอยู่กับหงเสมอ ทั้งสามคนจึงมีพลังที่แข็งแกร่งมากกว่า

ผู้ตรวจการณ์ทั้งห้า

“พวกคุณแปดคนจะออกเดินทางไปยังซากโบราณสถานที่ 9 อัลรูสจะ

เป็นคนพาพวกคุณไป” หงกล่าว

“ตกลง”

ทุกคนรับทราบคำสั่ง

“หลัวเฟิงอยู่ก่อน ทุกคนออกไปพักได้” หงกล่าว

ไม่นานก็เหลือเพียงหลัวเฟิงและอาจารย์หงเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในห้อง

หงพูดอย่างสงบ “หลัวเฟิง คุณได้โทรศัพท์มาสอบถามเกี่ยวกับด้านในของซากโบราณสถานหรือไม่? คุณไม่ต้องการไป?”

“ประธาน” หลัวเฟิงโค้งคำนับเล็กน้อย “ผมโทรมาเพื่อสอบถามเรื่องนี้ ในตอนนั้นผมคิดว่ามันไม่คุ้มที่จะเข้าสู่ ‘ซากโบราณสถาน’ เพราะหลังจากที่เสี่ยงชีวิตของผมแล้ว สิ่งเดียวที่ผมจะได้รับในตอนท้ายคือ… ‘ชุด เกราะเทพทมิฬ’ ด้วยเหตุนี้ ผมค่อนข้างลังเลในตอนนั้น”

“คุณเปลี่ยนใจแล้วหรือ?” หงมองหลัวเฟิงด้วยความรู้สึกตกใจ

“ใช่” หลัวเฟิงพยักหน้า “เส้นทางที่จะมุ่งไปสู่การเป็นผู้ที่แข็งแกร่งนั้น ชีวิตย่อมเต็มไปด้วยความยากลำบาก แน่นอนว่าผมไม่สามารถหลีกเลี่ยงความท้าทายได้!”

“คนเดินเท้าสามารถโดนรถชนได้” (สำนวนจีน…คงจะเหมือนทุกคน

ย่อมมีอุปสรรค)

“หากแม้คุณอยู่แต่ในบ้าน แจกันยังอาจหล่นลงศีรษะของคุณได้ ไม่มี

อะไรที่ปลอดภัยอย่างแน่นอน!”

“ผมเลือกเส้นทางนี้ เพราะผมต้องการความกล้าหาญในการต่อสู้ ถ้ามันปลอดภัยอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรที่ท้าทาย การมีอันตรายนั้นทำให้เลือดของผมสูบฉีด และผมมีความตั้งใจที่จะต่อสู้! และผมรู้ว่าโอกาสในการประสบความสำเร็จของผมสูงกว่า 80% ดังนั้นผมจะต้องกลัวอะไร?” ดวงตาของหลัวเฟิงสว่างขึ้น

หงมองหน้าหลัวเฟิง และพยักหน้าช้าๆ

ชายหนุ่มคนนี้ เขามีพรสวรรค์ แต่จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เพียง

แค่พรสวรรค์ไม่เพียงพอ

ชายหนุ่มคนนี้ เมื่อเทียบกับครั้งสุดท้ายที่เขาเห็น เขามีจิตวิญญาณการต่อสู้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยสองเท่า! วิญญาณการต่อสู้ที่ไหลลื่นซึ่งดูเหมือนจะถูกขัดเกลาซ้ำแล้วซ้ำอีก! หากคุณต้องการข้ามขีดจำกัดของชีวิต และกลายเป็นนักสู้ที่มีพลังมากที่สุดในโลกแล้ว คุณต้องมีจิตวิญญาณการต่อสู้ที่ท่วมท้น และคุณต้องไม่ยอมแพ้ต่อสิ่งใดๆ!

“ดี ทั้งหมดที่ผมต้องการจะบอกคุณคือ…ถึงแม้ว่าผู้อ่านจิตวิญญาณ

ระดับสูงที่เข้าไปในซากโบราณสถาน หมายเลข 9 ก็ล้มเหลวได้ แต่ไม่มีใครตาย” หงกล่าว

หัวใจของหลัวเฟิงเต้นถี่ ไม่ต้องสงสัยเลย…

ไม่ต้องแปลกใจเลยที่หงต้องการให้เขาเข้าไป ราวกับว่าหงรู้ว่าจะไม่มี

อะไรผิดพลาด

“แน่นอนว่าแทบจะไม่มีผู้อ่านจิตวิญญาณระดับสูงเคยเข้าไปมาก่อน

ดังนั้นเราจึงไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะรับรองความปลอดภัยของคุณได้”

หงกล่าวต่อ “คุณตกลง เข้าร่วมกลุ่ม?”

“ใช่ อาจารย์หง”

หลัวเฟิงเดินออกจากห้องทันที

หวือ!

เครื่องบินเจ็ทระดับเอกภพ เริ่มทะยานขึ้นสู่อากาศด้วยความเร็วที่น่า

อัศจรรย์

ด้านในเป็นที่นั่งขนาดใหญ่ แน่นอนว่ามีเทพสงครามทั้ง 8 อยู่ภายใน

ด้วย

“พวกคุณสามารถเรียกฉันว่า ตัวแทน”

(ตำแหน่งจะคล้ายกับตัวแทนของสำนักงานสำนัก นะครับ แต่ตัวแทนคนนี้คือ ตัวแทนประธาน)

พวกเขารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นที่ได้ฟังเสียงของอัลรูสกล่าวว่า “จุดหมายปลายทางของเราคือซากโบราณสถานหมายเลข 9 ซาก

โบราณสถานแห่งนี้ อยู่ในเขตป่าฝนของป่าอเมซอนในอเมริกาใต้ และเป็นหนึ่งในซากโบราณคดีที่ปลอดภัยบนโลก”

ชายผิวขาว กล่าวด้วยความอยากรู้ ” คุณตัวแทน ดังนั้นยังมีซาก

โบราณสถานอื่น ๆ อีกหรือไม่”

“ย่อมมีแน่นอน!”

ไม่มีใครสามารถมองเห็นการแสดงออกทางสีหน้าของอัลรูสได้เต็มตา

แต่คุณจะเห็นปลายปากของเธอโค้งขึ้น ” ฉันสามารถบอกคุณได้ ซาก

โบราณสถานที่ 1 เป็นสถานที่เก่าแก่ที่สุดที่เราพบในโลก ตั้งอยู่ในส่วนลึกของทะเลเบอร์มิวดาใน ‘North Atlantic’ ”

หลัวเฟิงและคนอื่นๆ รู้สึกตกตะลึง

ซากโบราณสถานที่ 1? ค้นพบครั้งแรก?

“อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ ไม่มีทางที่จะเข้าไปด้านในของซาก

โบราณสถานที่ 1 ได้” เสียงของอัลรูสจริงจังมาก “แม้แต่ผู้ที่มีอำนาจ

มากที่สุดและอาวุธที่ยอดเยี่ยมที่สุด…หลังจากเข้าไป จะถูกระบบ

ป้องกันทำลายทันที!”

หลัวเฟิงและคนอื่นๆ หมดคำถาม

มนุษย์ทุกคนในโลกไม่สามารถผ่านเข้าไปในซากโบราณสถานแห่งนี้

ได้ แม้แต่ ‘หง’ และ ‘เทพสายฟ้า’ ก็ไม่สามารถเข้าไปได้ ดูเหมือนว่า

แม้กระทั่งวัสดุระดับ SS หรือระดับที่สูงกว่า ก็จะถูกทำลายในทันที… “ฉันอาจไม่ต้องกังวลเรื่องสถานที่นี้เลย ฉันต้องการที่จะพัฒนาทักษะ

ของฉันเท่านั้น” หลัวเฟิงคิดกับตัวเอง

“ทุกคนฟังให้ดี ฉันจะพูดเพียงครั้งเดียว!” เสียงของอัลรูสเริ่มดังขึ้นเล็กน้อย “ซากโบราณสถานที่ 9 เป็นสถานที่ที่ใช้ในการคัดเลือก เมื่อเข้าสู่ระบบ นักสู้จะต้องเดินทางผ่านอุโมงค์ Type-A ส่วนผู้อ่านจิตวิญญาณ จะถูกจัดให้ผ่านอุโมงค์ Type-B”

หลังจากอัลรูสกล่าว ทุกคนเริ่มฟังอย่างตั้งใจ

มันดูเหมือน…ผู้อ่านจิตวิญญาณและนักต่อสู้ทั่วไปจะได้รับการทดสอบที่แตกต่างกันภายในนั้น

“หลังจากเข้าไปในส่วนลึกของซากโบราณสถาน ทุกคนจะได้พบกับ

สิ่งต่างๆ”

“ความยากลำบากของแต่ละคน จะแตกต่างกันมาก!”

“อย่างไรก็ตามผู้ที่ประสบความสำเร็จจะได้รับของรางวัล ส่วนผู้ที่

ล้มเหลว แม้ว่าจะไม่ตายก็จะกลายเป็นคนพิการ!”

หลังจากกล่าวจบ เธอลุกขึ้นยืนและหันไปออกคำสั่งกับเจ็ทอัตโนมัติ “สั่ง…สำรวจ เบอร์ 9”

เสียงเตือน!

หวือ! หวือ! หวือ!

แสงไฟสีแดงแปดดวงถูกยิงออกจากควบคุมอัตโนมัติ พวกมันยิงไปที่

นาฬิกาสื่อสารทางยุทธวิธีของหลัวเฟิง และเทพสงครามคนอื่นๆ นาฬิกาบนข้อมือของพวกเขาเริ่มส่งสัญญาณเตือน

“อย่าตกใจ” ด้านข้างปากของอัลรูสโค้งขึ้นเล็กน้อย ราวกับว่าเธอกำลังหัวเราะ

“มีคำพูดที่อยู่ภายในซากโบราณสถาน หมายเลข 9 อย่างไรก็ตาม พวกมันต่างจากภาษาใดๆ บนโลก” อัลรูสกล่าว “ถ้าคุณไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเขาพูด และไม่สามารถอ่านข้อความด้านในได้ คุณจะเสียเวลามากในช่วงที่ไม่มีใครเข้าใจภาษาเหล่านี้ เทพสงครามที่เข้าไปสำรวจ จะใช้เวลานานถึง 7 เดือนเต็ม กว่าจะกลับออกมาได้”

“การทำความเข้าใจกับสิ่งที่ได้พูดออกไปเกี่ยวกับซากโบราณสถาน จะช่วยให้พวกคุณประหยัดเวลาได้เป็นจำนวนมาก”

“ดังนั้น ฉันกำลังติดตั้งชิ้นส่วนและอัพเดทซอฟต์แวร์การแปลใน

นาฬิกายุทธวิธีการสื่อสารของคุณ ซอฟต์แวร์การแปลนี้สามารถแปลทุกสิ่งทุกอย่างในซากโบราณสถาน เป็นภาษาจีนและภาษาอังกฤษได้ หลังจากที่พวกคุณออกมา ฉันจะต้องรับผิดชอบในการยกเลิกการติดตั้งซอฟต์แวร์แปลภาษาฉบับนี้”

หลังจากห้านาทีภายไป กระบวนการติดตั้งเสร็จสิ้น

ทวีปอเมริกาใต้ เขตป่าฝน ภายในป่าอเมซอน ในช่วงเวลากลางคืน…

เครื่องบินรบค่อยๆ ลดระดับลง

ติ่ง!

ประตูเปิดออก

หลัวเฟิง และเทพสงครามอีกเจ็ดคน และ ‘อัลรูส’ เดินออกมาพร้อมกัน สิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวพวกเขาคือป่า ต้นไม้ที่สูงใหญ่ จนกระทั่งไม่สามารถมองเห็นยอดไม้ได้ มีสัตว์ประหลาดเพียงไม่กี่ตัวที่สามารถมองเห็นได้ แต่ไม่มีตัวใดกล้าที่จะเข้ามาใกล้ เสียง ติ่ง ติ่ง ดังขึ้นและพื้นดินค่อยๆ แยกออกเป็นสองส่วน อย่างที่ไม่มีใครคาดคิดได้ เมื่อพื้นดินแยกออกแล้วเผยให้เห็นอุโมงค์ที่อยู่ด้านใต้ มันมีความกว้างประมาณห้าเมตร

เสียงบี๊บ!

ลิฟท์สีเทาเงินเลื่อนขึ้นมา ประตูลิฟต์เปิดออก มีชายชราคนหนึ่งสวม

เสื้อคลุมสีแดงก้าวออกมา

“ตัวแทนอัลรูส” ชายชราก้มตัวเล็กน้อย

“ตกลง”

อัลรูสมองไปที่หลัวเฟิงและคนที่เหลืออีก 7 คน ที่ด้านข้างของปากของเธอโค้งขึ้นเล็กน้อย “ตกลง รีบเข้าไปในซากโบราณสถานกันเถอะ! แต่ละคนจะพบกับสิ่งต่างๆ ฉันหวังว่าทุกคนจะสามารถกลับออกมาได้!”

หลังจากนั้นตัวแทนอัลรูสได้เดินกลับเข้าสู่เครื่องบินเจ็ตอัตโนมัติ และ

บินออกไปอย่างรวดเร็ว

“ทุกคนโปรดรีบหน่อย ซากโบราณสถานแห่งนี้จะเปิดเป็นเวลาสอง

ชั่วโมงเท่านั้น” ชายชรารีบเตือน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!