ตอนที่ 868 มนุษย์
เมื่อพวกเขาได้ก้าวผ่านเข้ามา ก็พบกับพื้นผิวที่เป็นหิน ไม่ใช่พื้นที่
ทะเลทรายอีกต่อไป
หลัวเฟิงมองไปรอบๆ ด้วยความตกใจ
มันเป็นพื้นที่กว้างใหญ่
สะพานหินโค้งที่ทอดยาวออกไป ไม่มีอะไรยึดติด แต่มันก็ยังสามารถ
ลอยอยู่ได้อย่างปกติโดยไม่ร่วงหล่น
ศรคลั่งได้ลงมาข้างๆ หลัวเฟิงที่กำลังบิน เขาชี้ไปยังปลายสะพาน
“นายท่าน ที่ปลายสุดทางเดินนี้จะนำเราไปยังพื้นที่หวงห้ามอีกที่หนึ่ง”
“อะไรอยู่ด้านล่าง? เราบินลงไปได้ไหม” หลัวเฟิงมองไปยังด้านล่างของสะพาน
“ไม่มีอะไรทั้งสิ้น” ศรคลั่งยิ้ม
“ถ้าโชคดีท่านอาจจะได้เห็นผนึกดวงดาวบนเส้นทาง แต่ว่าสถานที่
เหล่านั้นจะอันตรายมาก มันจะมีบาเรียที่มองไม่เห็นคอยกันนักรบที่จะเข้าใกล้ ถ้าใครเข้าไปใกล้จะต้องตาย”
“เมื่อก่อนข้าได้เห็นผนึกดวงดาว ถ้าโชคดีจะได้พบมันในทุก 1 หรือ 2 ปี ถ้าโชคไม่ดีก็จะทุก 1 พันปี”
“ตอนนั้นมีจักรพรรดิเผ่าพันธุ์อื่นได้พบมัน พวกเขาตื่นเต้นกันมากแล้วพยายามที่จะคว้ามัน ทำให้พวกเขาถูกฆ่า”
“เห็นมันทุกหนึ่งหรือสองปี? ข้าคิดว่า ข้าน่าจะได้เห็นมันแล้ว” หลัวเฟิงมองลงไปยังด้านล่าง
ศรคลั่งตะลึง แล้วมองไปยังด้านล่างและตาของเขาเปิดกว้างขึ้น “จริง
ด้วย”
ลึกลงไปในพื้นที่ว่าง มีดวงดาวกำลังหมุนอยู่ มันมีขนาดเท่ากับดาวฤกษ์ทั่วไป กำลังปล่อยพลังงานที่น่ากลัวออกมา มันได้หมุนด้วยความเร็วคงที่ภายในช่องว่างขนาดใหญ่
“สมบัติที่แท้จริง” หลัวเฟิงกล่าว
“เราทำได้เพียงแค่ดูมัน ตามบันทึกแล้วมีพวกมันอยู่จำนวนมากใน
หอคอย และมีอีกมากที่ยังไม่ถูกค้นพบ มันน่าเสียดายที่ต้องให้มันหลุดออกมาเอง แม้ผู้ยิ่งใหญ่ของ 4 เผ่าพันธุ์ชั้นยอดก็ใช้กำลังเอามันออกมาไม่ได้” ศรคลั่งกล่าว
หลัวเฟิงเดินหน้าต่อไป
“ผนึกดวงดาวอีกอัน” ศรคลั่งได้ร้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
ขณะที่กำลังเดินไปตามสะพาน
หลัวเฟิงได้เดินไปตามสะพาน ด้านล่างมีช่องวางที่สามารถเห็นผนึก
ดวงดาวกำลังหมุนอยู่ในตำแหน่งอื่นๆ
ขณะที่กำลังเดินไปบนสะพาน หลัวเฟิงได้รับการโทรหา เขาก็ส่งจิตสำนึกไปยังเครือข่ายจักรวาลเสมือนเพื่อรับสาย
“หยาง”
“จักรพรรดิเทียนเฉิน” หลัวเฟิงยิ้มรับให้กับจักรพรรดิมนุษย์
หลัวเฟิงได้อยู่ในพันธมิตรหงไม่นานและได้พูดคุยกับจักรพรรดิมนุษย์เพียงไม่กี่คน หลายคนอาจจะฝึกฝนอยู่ในดินแดนลับหรืออื่นๆ ถึงแม้ว่าหลัวเฟิงจะไม่ได้คุยกับพวกเขามากนักแต่ก็รวบรวมข้อมูลพื้นฐานส่วนใหญ่ของพวกเขาไว้
“ตอนนี้ข้าอยู่ในหอคอยดวงดาว ระบบกองทัพได้แสดงว่าเจ้าอยู่ใกล้ๆ ข้าจึงส่งข้อความหาเจ้าทันที” เทียนเฉิน กล่าว
หลัวเฟิงพยักหน้ารับ
ระบบกองทัพจะบอกตำแหน่งของทหารและบันทึกภาพเข้าไปในระบบจักรวาลเสมือน แม้จะอยู่ในพื้นที่พิเศษอย่างพื้นที่หวงห้าม ก็ยังสามารถที่จะค้นพบพันธมิตรของเขา
“ข้าติดต่อเพื่อนได้ไม่กี่คน เพราะถูกโจมตีจากผู้คุ้มกันภายใน
พื้นที่ มันจึงสร้างปัญหาให้พอสมควร เพื่อนสามคนของข้าได้ติดต่อ
มา เพื่อนัดพบกันแล้วเจ้าล่ะ”
“อ้า เจ้าก็ด้วย? ข้าก็ถูกโจมตีโดยผู้คุ้มกันเหมือนกัน” หลัวเฟิงกล่าว
“จริงสิ…ดูเหมือนว่าโอกาสที่ผนึกดวงดาวจะตกลงมามีสูงมาก”
“หยาง…ถ้าผนึกดวงดาวกำลังตกลงมา พื้นที่หวงห้ามจะเต็มไปด้วย
นักรบจำนวนมาก พวกเขาจะมุ่งตรงไปยังผนึกดวงดาว ที่นั่นจะมีการ
สังหารหมู่เกิดขึ้น เจ้าควรระวังตัวไว้ด้วย ข้ากำลังจะไปยังพื้นที่
ต่อไป” เทียนเฉิน กล่าว
หลังจากที่จบการติดต่อจากเทียนเฉิน หลัวเฟิงก็ได้ติดต่ออีก 6 คนจากพันธมิตรที่อยู่ใกล้เคียงในระยะตรวจสอบ 1 พันล้านกิโลเมตรที่สามารถตรวจพบเขา พวกเขาเหมือนจะพบกับปัญหาแบบเดียวกัน และสงสัยเกี่ยวกับผนึกดวงดาวเหมือนกัน ว่าจะมีโอกาสที่มันจะตกลงมาสูง
“ผนึกดวงดาวจะตกลงมาจริงๆ หรือ”
แม้ว่าผนึกดวงดาวจะเป็นสมบัติที่แท้จริง ทว่าหลัวเฟิงที่ถูกการเรียกจากหอคอยอย่างรุนแรงนั้นแตกต่างออกไป ทำให้มุมมองของเขาสูงกว่าคนอื่นๆ
“ผนึกดวงดาวหนึ่งอันตกลงมาครั้งหนึ่งในช่วงเวลาที่ยาวนาน”
“แล้วมันตกลงมาเมื่อข้าเข้ามาที่นี่”
“มันไม่น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ”
“ศรคลั่ง มันจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อผนึกดวงดาวตกลงมา” หลัวเฟิงถาม
“มันมีความแตกต่างกันอยู่ และมันจะเหมือนๆ กันตรงที่ พื้นที่หวง
ห้ามทั้งหมดจะรวมนักรบทั้งหมดเข้าด้วยกัน ในท้ายที่สุดจะทำให้เกิด
ทะเลเลือด” ศรคลั่งอธิบาย
“อืม ไปกันเถอะ”
หลัวเฟิงพยักหน้า แล้วไม่พูดอะไรอีกขณะที่รีบไปให้ถึงปลายทาง
เมื่อมองไปยังช่องว่างใต้สะพาน ก็ยังสามารถเห็นผนึกดวงดาวที่กำลังหมุนอยู่ด้านล่าง เขาได้เก็บศรคลั่งไว้ในแหวนโลกของเขาก่อนจะเดินไปยังพื้นที่หวงห้ามอีกแห่ง
มันเป็นโลกที่มีมหาสมุทร
ขณะที่หลัวเฟิงได้ก้าวผ่านประตูก็ได้มาโผล่ยังกลางอากาศเหนือมหาสมุทร พร้อมกับมองหาเส้นทางไปยังพื้นที่ต่อไป ภายใต้สถานการณ์ปกติ ทางเดินสามารถที่จะหาพบได้ภายใน 1 วัน นั่นเป็นเวลานานที่สุด
เมื่อภายในพื้นที่เกิดความปั่นป่วนอย่างรุนแรง หลังจากนั้น็จะมีการ
ระเบิดตามมา
เสียงร้องแหลมเจาะหูดังขึ้น งูสีน้ำเงินหยกที่เต็มไปด้วยเกล็ดโลหะได้
ออกมาจากมหาสมุทร มันโผล่ออกมาจากผิวทะเลประมาณ 2 เมตร ครึ่ง ร่างของมันมีแขนขาที่หลบอยู่ใต้ทะเล
ดวงตาสีทองของมันจ้องไปยังมนุษย์ที่มีปีกสีเงินและใส่เกราะสีเงิน
“ผู้คุ้มกันอีกแล้ว” หลัวเฟิงบ่น
———-
หอคอยดวงดาวนี้เหมือนจะไม่เป็นมิตรกับหลัวเฟิง จากพื้นที่ 1–9 ทุกพื้นที่มีผู้คุ้มกันปรากฎออกมา พวกมันใช้เทคนิคและสไตล์การต่อสู้ที่
แตกต่างกัน
พื้นที่ที่ 7 เป็นจุดที่อันตรายที่สุดที่เขาได้เจอ มันมีกอริลาที่เป็นโลหะสี
ดำ สูง 12 เมตร มันถือค้อนขนาดใหญ่สองอัน และมีความคล่องตัว
ว่องไวมาก
กอริลาสีดำ เป็นผู้คุ้มกันที่เร็วที่สุดใน 9 พื้นที่ แม้ว่าความเร็วและการ
หลบหลีกจะไม่เทียบเท่ากับหลัวเฟิง แต่สองค้อนของมันนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าธนูของศรคลั่ง
มันเป็นครั้งแรกที่หลัวเฟิงได้ใช้พลังเต็มที่กับปีกซาหวู ทั้งป้องกันการโจมตีจากค้อนและหลบหลีก เขาต้องใช้เวลาครึ่งชั่วโมงก่อนที่ทางออกจะปรากฎ เพื่อทำการหลบหนีจากกอริลา ตอนที่เขาหนีมามันยังส่งเสียงร้องคำรามตามออกมา
“โชคดีที่มันเป็นเพียงหุ่นกล ไม่เช่นนั้นมันคงจะเผาไหม้ร่างกายอมตะ” หลัวเฟิงบ่น
“ด้านความแข็งแกร่งของมันใกล้เคียงกับจักรพรรดิระดับขีดจำกัด ถ้า
มันสามารถที่จะเผาไหม้ร่างกายอมตะได้ ก็จะแข็งแกร่งเพิ่มได้อีก 1พันเท่า” ศรคลั่งสั่นจากอาการช็อค
หลังจากพื้นที่ที่ 9 ก็ไม่ได้รับการโจมตีใดๆ จากผู้คุ้มกันอีก
หลัวเฟิง กำลังมุ่งหน้าไปยังทางออกที่นำไปสู่พื้นที่ที่ 21
———-
พื้นที่ที่ 21 เป็นที่ราบรุ่ม มีอมตะจากเผ่าพันธุ์อื่นสองกลุ่มกำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า
กลุ่มหนึ่งมากจากเผ่าพันธุ์หุ่นยนต์พวกเขามีทั้งหมด 22 อมตะ ทั้งหมดเป็นระดับจักรพรรดิ และมีเพียงสองคนที่มาจากเผ่าหุ่นยนต์
ส่วนอีกกลุ่มมาจากเผ่าแมลง พวกเขามี 6 จักรพรรดิ แต่ระดับพลังงานก็สูงมาก ท่ามกลางทั้ง 6 มีหนึ่งหุ่นเชิดที่เป็นจักรพรรดิระดับขีดจำกัด ทำให้เห็นถึงความน่ากลัวของอมตะเผ่าพันธุ์แมลง
“คาดไม่ถึงว่าต้องมาพบกับพวกเขาที่นี่”
“นี่อาจเป็นปัญหา”
เผ่าหุ่นยนต์ที่ใส่เกราะสีดำได้แลกเปลี่ยนสายตากับเผ่าหุ่นยนต์อีกคน
ส่วนจักรพรรดิคนอื่นๆ เป็นผู้ติดตาม
จำนวนของเผ่าหุ่นยนต์นั้นมีน้อย แต่ระดับจักรพรรดิทั้งหมดนั้นเป็น
ตัวแทนของความแข็งแกร่งอันน่าสะพรึงกลัว
ภายใต้สถานการณ์ทั่วไป พวกเขายังอ่อนแอกว่าเผ่าพันธุ์แมลงระดับ
อมตะ ที่ควบคุมทหารแมลงระดับอมตะใช้การโจมตีร่วม สร้างความ
หวาดกลัวให้กับจักรพรรดิ
เกิดการแบ่งพื้นที่
เงาของนักรบใส่เกราะสีเงิน ปีกสีเงินลอยอยู่กลางอากาศ
ทั้งสองฝ่ายเหมือนจะไม่สนใจนักรบที่ปรากฎตัวมาเพียงลำพังมากนัก
“มันเป็นจักรพรรดิดาบสายน้ำ”
“นั่นจักรพรรดิดาบสายน้ำ มนุษย์”
“นี่คือผู้ไล่ล่าจักรพรรดิเลือดอสูรเลือด และทำให้ศรคลั่งตกอยู่ใน
อาการโคม่า”
ทั้งสองฝ่ายได้ระวังตัวอย่างเต็มที่ จากชื่อเสียงในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ทำให้เขาไม่ประมาทมนุษย์คนนี้
หลัวเฟิงมองไปยังสองฝ่ายที่เผชิญหน้ากันกลางอากาศ โดยเฉพาะพลังงานของพวกเขาที่เล็ดลอดออกมา ทำให้เขาเกิดความกังวล