Skip to content

King of Gods 1201

King Of Gods

บทที่ 1201 ต่อสู้ชุลมุน

ถึงแม้มังกรวารีล้างโลกาจะเจ็บใจเป็นอย่างมาก แต่พัฒนาการของจ้าวเฟิง เขาก็เห็นอยู่กับตา

ดวงตาของจ้าวเฟิงสามารถใช้กลวิชามิติ แต่ตัวเขาไม่ได้บรรลุเสวียนอ้าวมิติ

แต่เมื่อครู่ มังกรวารีล้างโลกาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าในฝ่ามือของจ้าวเฟิงแฝงไว้ด้วยพลังเสวียนอ้าวมิติที่ถึงขอบเขตขั้นที่หนึ่งแล้ว!

รอบแรก หลักๆ แล้วคือการทดสอบความเข้าใจใน ‘เสวียนอ้าวมิติ’ ของคนทั้งหมดที่นั่น

ส่วนเสวียนอ้าวมิติของจ้าวเฟิง แค่เวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งวันก็ก้าวเข้าสู่ขั้นที่หนึ่ง

การพัฒนาก้าวใหญ่เช่นนี้ ย่อมพิสูจน์ชัดว่าพลังบรรลุของเขาผ่านด่าน จะทำลายฟองอากาศมิติก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร

“เจ้าเด็กนี่ทำสำเร็จแล้วงั้นรึ?”

จ้าวเฟิงทำลายฟองอากาศมิติได้สำเร็จ ดึงดูดคนทั้งหมดที่นั่นทันที

นอกจากคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ ตอนนี้มีเพียงแค่จ้าวเฟิงและมังกรวารีล้างโลกาเท่านั้นที่ทำลายฟองอากาศมิติได้

มังกรวารีล้างโลกาชวนให้รู้สึกว่าลึกล้ำจนไม่อาจหยั่งถึง เป็นไปได้มากว่าเป็นตัวประหลาดที่อยู่มานานหลายปี แต่จ้าวเฟิงเป็นเพียงแค่ปฐมเทพอายุน้อยเท่านั้น

“บ้าเอ๊ย เจ้าสองคนนี้เร็วขนาดนี้เชียว!”

เสี่ยวหลิงพูดอย่างไม่ค่อยพอใจ

ถึงแม้นางจะเป็นปฐมเทพขั้นสี่ แต่ก็ไม่เชี่ยวชาญเสวียนอ้าวมิติจริงๆ

คนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติในที่นั้นกวาดตามองมังกรวารีล้างโลกาและจ้าวเฟิงแวบหนึ่ง ก่อนจะตระหนักรู้วิชาต่อ

ในสายตาพวกเขา ‘ชุดคลุมมิติ’ กำหนดแน่ชัดแล้วว่าเป็นของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ

วู้ม! จ้าวเฟิงและมังกรวารีล้างโลกาทะยานผ่านประตูบานยักษ์สีเงิน

ข้างหลังประตูใหญ่คือท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวกว้างไกล แต่ใต้เท้าคนทั้งสองเป็นแผ่นกระดานหินสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่กว้างยาวหลายหมื่นลี้ บนกระดานหินมีลายภาพมหัศจรรย์มากมาย

ในยามนี้ บนกระดานหินมหึมามีคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิตินั่งขัดสมาธิอยู่สี่คน

ทั้งสี่คนกวาดสายตามองจ้าวเฟิงแวบหนึ่ง เผยสีหน้าตื่นตกใจ

เห็นได้ชัดเจน พวกเขาคิดว่าคนที่ตามมาถึงที่นี่น่าจะเป็นคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ หรือผู้แข็งแกร่งที่มีพลังฝึกตนสูงมาก แต่กลับคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเพียงเทพแท้จริงขั้นสองคนหนึ่ง ปฐมเทพคนหนึ่ง อีกทั้งพวกเขายังไม่มีภาพจำอะไรกับทั้งสองนัก

“เป็นสถานที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก!”

จ้าวเฟิงสัมผัสได้ว่า มิติรอบด้านเหมือนมีเสวียนอ้าวแห่งมิติเคลื่อนไหวอย่างชัดเจน

“นายท่าน ที่แห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับฝึกฝนเสวียนอ้าวมิติ หากฝึกฝนที่นี่จะประหยัดเวลาการฝึกได้กว่าครึ่ง!”

มังกรวารีล้างโลกาส่งกระแสจิตให้จ้าวเฟิงทันที

เสวียนอ้าวมิติคือเสวียนอ้าวที่ต้องฝึกฝน ส่วนเสวียนอ้าวเวลาก็เป็นหนึ่งในเสวียนอ้าวสูงสุด แข็งแกร่งเหนือสิ่งอื่นใด

แต่เสวียนอ้าวทั้งสองชนิดยากที่จะบรรลุเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นระดับความล้ำค่าของมิติแห่งนี้จึงพอจะรู้กันได้

“ที่แท้นี่ก็คือผลประโยชน์ที่ผู้อาวุโสคนนั้นพูดถึง คนมาถึงที่นี่ก่อนก็สามารถฝึกฝนได้นาน!”

จ้าวเฟิงเผยรอยยิ้มออกมา เขาทำลายฟองอากาศมิติด้วยความเร็วสูงสุด ท่าทางจะคุ้มค่าแล้ว

หลังจากนั้น จ้าวเฟิงและมังกรวารีล้างโลกาหาที่แห่งหนึ่งแล้วนั่งลงไป

ต่อมา พวกจ้าวเฟิงสองคนยังไม่ได้เริ่มตระหนักรู้เสวียนอ้าวมิติเวลาของที่นี่ ก็ได้ยินเสียงแสบหู

“ยังไงต่อไปคนสองคนนี้ก็จะกลายเป็นศัตรูของพวกเรา ไม่สู้จัดการทิ้งตอนนี้เลย!”

ปฐมเทพแดนศักดิ์สิทธิ์มิติคนหนึ่ง ใบหน้ามียิ้มชั่วร้าย พูดเสนอความคิดเห็น

“เจ้าคิดว่าพวกเขาสองคนคุกคามพวกเราได้งั้นรึ?”

ปฐมเทพคงหยวนพลันลืมตา พูดอย่างเย็นชา

สีหน้าของมังกรวารีล้างโลกาเคร่งเครียดเล็กน้อย คนเบื้องหน้าทั้งสี่พูดว่าจะจัดการพวกเขาต่อหน้าต่อตา ไม่เห็นพวกจ้าวเฟิงในสายตาเลยสักนิด

ส่วนปฐมเทพคงหยวนก็หยิ่งยโส ราวกับแน่ใจแล้วว่า ‘ชุดคลุมมิติ’ จะต้องเป็นของเขา

“อย่าเพิ่งรีบร้อนลงมือ ต่อไปจะให้โอกาสพวกเจ้าแน่!”

ยามนี้เอง เสียงแก่ชราดังมาจากทั่วทุกสารทิศ

ทุกคนที่นั่นคุ้นเคยเสียงนี้ดี นี่ก็คือเสียงของผู้อาวุโสที่คลุมชุดคลุมมิติ

“พวกเจ้าอยู่ที่นี่สิบวัน ด้านนอกเพิ่งจะผ่านไปหนึ่งวัน จงใช้ให้คุ้มค่า!”

เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง

“พูดเช่นนี้ อย่างน้อยข้าก็อยู่ฝึกฝนที่นี่ได้ยี่สิบวัน”

จ้าวเฟิงจิตใจสั่นสะท้าน รีบเข้าสู่สภาวะฝึกฝนทันที

ที่นี่คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการบรรลุเสวียนอ้าวมิติ อีกทั้งเวลายังไหลไปอย่างเนิบช้า จะไม่ใช้มันให้ดีได้อย่างไร

นอกจากนั้น จากการทดสอบรอบแรกก็มองออกได้ว่า ‘ชุดคลุมมิติ’ กำลังทดสอบความเข้าใจด้านเสวียนอ้าวมิติของทุกคน เช่นนั้นการทดสอบต่อมาก็อาจจะเกี่ยวกับเสวียนอ้าวเวลาเช่นกัน

ดังนั้น จ้าวเฟิงจะต้องยกระดับความสำเร็จด้าน ‘เสวียนอ้าวมิติ’ ให้เร็วที่สุด บางทีอาจจะมีหวังช่วงชิง ‘ชุดคลุมมิติ’ มา

วู้ม! หลังจากเข้าสู่สภาวะฝึกฝนแล้ว จ้าวเฟิงก็โคจรดวงตาเทพเจ้า

ขณะนี้ ความสามารถในการคิดพิจารณา ความเร็วของการตอบโต้ และการเรียนรู้ของจ้าวเฟิง ล้วนได้รับการยกระดับในทุกด้าน

หลังจากช่วงระยะเวลาหนึ่ง จ้าวเฟิงรู้สึกว่าเสวียนอ้าวมิติขั้นที่หนึ่งของตนมั่นคงอย่างสมบูรณ์ อีกทั้งเหมือนจะสัมผัสเสวียนอ้าวเวลาได้เล็กน้อยแล้ว

“หากใช้ร่วมกับเคล็ดวิชามิติอย่าง ‘ฝ่ามือครองสวรรค์’ ความเร็วในการบรรลุน่าจะเร็วขึ้นอีกกระมัง!”

ความคิดของจ้าวเฟิงขยับเล็กน้อย เข้าไปในมิติเนตรเทพเจ้า

ฟู่ ฟู่! ภาพทิวทัศน์ในมิติเนตรเทพเจ้าเปลี่ยนแปลงในพริบตา ผู้อาวุโสคนหนึ่งเริ่มฝึกฝน ‘ฝ่ามือครองสวรรค์’

ตอนนี้ เสวียนอ้าวมิติของจ้าวเฟิงก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง เมื่อศึกษาและสังเกตภาพฉายนี้อีกครั้ง ก็เข้าใจมากยิ่งขึ้น

เป็นเช่นนี้ จ้าวเฟิงสังเกตภาพฉายช่วงหนึ่ง ก็ย้อนกลับมายังมิติแห่งนี้เพื่อทำความเข้าใจเสวียนอ้าวมิติ ทั้งสองอย่างสลับกันไปมา ผลลัพธ์สูงอย่างน่าอัศจรรย์

คนของมิติแห่งนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

ในยามที่พวกเขามาถึงที่นี่ก็รีบนั่งลงรับรู้เสวียนอ้าวมิติทันที

ต่อให้สุดท้ายไม่ได้ ‘ชุดคลุมมิติ’ ไป แต่สามารถบรรลุเสวียนอ้าวมิติที่นี่ได้ก็นับว่าเป็นโอกาสใหญ่ทีเดียว

ในมิติที่เงียบสงัด เสวียนอ้าวมิติดุจสายวารีไหลไปรอบกายของทุกคน

ทันใดนั้น เสียงดังกังวานเสียงหนึ่งดังขึ้น ขัดจังหวะการศึกษาทำความเข้าใจของทุกคน

“ถึงเวลาแล้ว ท่าทางพวกเจ้าทุกคนจะยอดเยี่ยมกันมาก สี่สิบสองคน มีถึงสามสิบหกคนมาถึงที่นี่!”

เงาผู้อาวุโสที่คลุมชุดคลุมมิติ จ้องไปยังทุกคนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“เสวียนอ้าวมิติใกล้ถึงขั้นที่สองแล้ว เสวียนอ้าวเวลาก็เกือบจะถึงขั้นที่หนึ่ง!”

จ้าวเฟิงทอดถอนใจ

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับฝึกฝนที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ น่าเสียดายที่ไม่อาจฝึกฝนทำความเข้าใจต่อ

“ผู้อาวุโส การทดสอบรอบแรกตกรอบกันไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ทราบว่าจะต้องทดสอบอีกกี่รอบ?”

เทพแท้จริงขั้นสี่ของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติถามขึ้น

“การทดสอบรอบที่สองเริ่มขึ้น พวกเจ้าสามสิบหกคนต่อสู้กันบนกระดานหินแห่งนี้ ใครออกจากพื้นที่กระดานหินนับว่าตกรอบ สุดท้ายเหลือได้เพียงสิบคนเท่านั้น!”

คำพูดของผู้อาวุโสดังกังวานยิ่งนัก

“การทดสอบรอบที่สองเป็นการต่อสู้!”

“เหลืออยู่ได้เพียงแค่สิบคน!”

สามสิบหกคนตรงนั้นยืนตะลึงอยู่กับที่ สายตาหนักหน่วงเป็นอย่างยิ่ง

รอบแรกคัดออกไปเพียงแค่หกคน รอบที่สองกลับจะคัดออกทีเดียวถึงยี่สิบคน

“นอกจากนั้น เคล็ดวิชาเสวียนอ้าวมิติจะมีอานุภาพเพิ่มขึ้นในมิติแห่งนี้!”

ผู้อาวุโสในท้องฟ้าเอ่ยเสริมขึ้นอีกประโยค เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม

“อะไรนะ? มีกฎแบบนี้ด้วยงั้นรึ?” คนทั้งหมดที่นั่นจิตใจสั่นสะท้านรุนแรง

ส่วนคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติลิงโลดกันนัก พวกเขามาจากแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ เชี่ยวชาญเสวียนอ้าวมิติเป็นอย่างมากอยู่แล้ว

จิตใจของจ้าวเฟิงขยับ ส่งกระแสจิตให้กับเสี่ยวหลิงทันที

“ทุกคน ในสามสิบหกคนที่นี่ ก็มีคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติสิบเอ็ดคนแล้ว!”

เสี่ยวหลิงถลึงตามองจ้าวเฟิง จากนั้นส่งกระแสเสียงให้กับคนบางส่วนที่นั่น

เคล็ดวิชามิติ อยู่ที่นี่พลังจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น!

และคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติก็มีตั้งสิบเอ็ดคน ความหมายประโยคนี้ของเสี่ยวหลิง ไม่ต้องบอกก็รู้ หากคนนอกแดนศักดิ์สิทธิ์มิติไม่ร่วมมือกัน พวกเขาจะออกจากการแข่งขันทั้งหมด

ผู้แข็งแกร่งบางส่วนค่อยๆ รวมตัวเข้าไปใกล้เสี่ยวหลิง

และผู้แข็งแกร่งบางส่วนที่ไม่ได้รับกระแสเสียงของเสี่ยวหลิง เมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้ก็ย่อมเข้าใจ

“หืม?” เทพแท้จริงขั้นสี่ฝ่ายแดนศักดิ์สิทธิ์มิติคิ้วขมวดเล็กน้อย

ถึงแม้ว่าผู้แข็งแกร่งของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติจะมีข้อได้เปรียบอย่างมากที่นี่ แต่หากคนยี่สิบห้าคนทั้งหมดร่วมมือกัน พวกเขาจะต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย

“หึ ที่นี่น่าจะมีคนของเขตเนินสุริยาด้วยกระมัง!”

ผู้อาวุโสแค่นเสียงโกรธกริ้ว

ตรงข้ามกับแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ คนจำนวนไม่น้อยสีหน้าแข็งกระด้างทันที

ผู้ที่เข้ามาในพื้นที่ลับก็มีเพียงแค่สามเขตใหญ่เท่านั้น และผู้ครอบครองเขตเนินสุริยาก็คือแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ

ผู้แข็งแกร่งที่มาถึงที่นี่ ก็มีหลายคนที่เป็นคนของเขตเนินสุริยา

พวกเขาไม่กล้าเป็นศัตรูกับแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ!

ฟุ่บ! ฟุ่บ! เงาคนสี่ร่างบินมายังข้างกายผู้แข็งแกร่งแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ

เทพแท้จริงขั้นสี่ฝ่ายแดนศักดิ์สิทธิ์มิติเห็นภาพนี้ ก็พยักหน้าเล็กน้อย

คนของเขตเนินสุริยาไม่กล้าเป็นศัตรูกับแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ ส่วนเขตที่เหลือทั้งสองอยู่ห่างไกลจากเนินสุริยามากนัก อีกทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์มิติก็ไปจัดการพวกเขาไม่ได้

ในยามนี้ จำนวนคนของฝั่งแดนศักดิ์สิทธิ์มิติยังคงเสียเปรียบ แต่คนทุกคนของกลุ่มล้วนเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาประเภทมิติ ดังนั้นกำลังรบของพวกเขาจึงแข็งแกร่งกว่าอีกฝั่ง

“ออกศึกเพื่อ ‘แดนศักดิ์สิทธิ์มิติ’ ถือเป็นเกียรติของพวกเจ้า!”

เทพแท้จริงขั้นสี่ตะโกนเสียงต่ำ ก่อนนำคนสิบห้าคนบุกสังหารไปทันที

“บุก!” ฝั่งจ้าวเฟิงทั้งยี่สิบเอ็ดคนก็บุกไปทันทีเช่นกัน

ครืน ตูม บึ้ม!

คนสามสิบหกคนเข้าปะทะกัน พลังเสวียนอ้าวที่น่าหวาดหวั่นกระจายไปทั่วมิติ

ฝั่งจ้าวเฟิงแม้จำนวนคนจะมาก แต่สู้กันชั่วขณะหนึ่ง ก็ถูกเคล็ดวิชามิติของฝ่ายตรงข้ามควบคุม

“ฝ่ามือครองสวรรค์!”

จ้าวเฟิงสำแดงเคล็ดวิชาประเภทมิติเพียงหนึ่งเดียวออกมา

ครืน! ฝ่ามือเพลิงน่าหวาดหวั่นทะลวงผืนฟ้า บดขยี้ไปยังฝั่งศัตรู

ถึงเป็นเคล็ดวิชาประเภทมิติ แต่ก็ยังคงสามารถผสานพลังเสวียนอ้าวอื่นๆ เข้าไป เพื่อเพิ่มพลังให้เคล็ดวิชา

เวลาการบรรลุเคล็ดวิชาในฟองอากาศมิติของทุกคนน้อยกว่าสามวันทั้งสิ้น จ้าวเฟิงกลับเก็บภาพมันไว้ในหัว ในขณะเดียวกันกับที่ตระหนักรู้เสวียนอ้าวมิติ ก็ฝึกฝนเคล็ดวิชาฝ่ามือนี้อยู่ตลอด

ตอนนี้ จ้าวเฟิงสามารถสำแดง ‘ฝ่ามือครองสวรรค์’ ได้อย่างชำนาญ ทั้งสำแดงพลังออกมาได้หลายส่วน

“ทำลาย!”

เทพแท้จริงขั้นสามฝั่งแดนศักดิ์สิทธิ์มิติทำลายพลังฝ่ามือของจ้าวเฟิงจนแหลก

“อีกครั้ง!”

จ้าวเฟิงสำแดง ‘ฝ่ามือครองสวรรค์’ ต่อ ก่อนหน้านี้เขาเรียนรู้ทำความเข้าใจอยู่ในหัว ตอนนี้เมื่อใช้ในการต่อสู้จริง จ้าวเฟิงยิ่งเข้าใจเพิ่มขึ้นอีก

ครืน ครืน ครืน!

ฝ่ามือเพลิงทองแต่ละสายทะลวงผ่านท้องฟ้า ซัดไปยังอีกฝ่ายทันที

“อ่อนหัด!” เทพแท้จริงขั้นสามยิ้มเหยียดหยาม

เป็นถึงเทพแท้จริงขั้นสามของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ ถึงแม้ ‘ฝ่ามือครองสวรรค์’ ที่จ้าวเฟิงสำแดงจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่เข้าตาของเขาเลย

แต่ว่าเขาไม่รู้ เคล็ดวิชาที่จ้าวเฟิงใช้เพิ่งจะเรียนเมื่อช่วงก่อนหน้านี้เท่านั้น

ครืน ครืน!

เสี้ยวขณะหนึ่ง ฝ่ามือเพลิงทองมหึมาที่จ้าวเฟิงส่งออกมา ก็ผสานเข้าไปในท้องฟ้าด้วยความเร็วยิ่งกว่าเดิม จากนั้นก็มาปรากฏอยู่เบื้องหน้าเทพแท้จริงขั้นสามคนนั้น

“เสวียนอ้าวมิติขั้นที่สอง? เมื่อครู่เขาควบคุมพลังเสวียนอ้าว?”

สีหน้าของเทพแท้จริงขั้นสามตะลึงไปเล็กน้อย

“เสวียนอ้าวมิติขั้นที่สอง!”

มังกรวารีล้างโลกาที่อยู่ไม่ไกลจากจ้าวเฟิงชะงักไปทันใด

ต้องรู้ว่า มังกรวารีล้างโลกาฝึกฝนที่นี่นานเพียงนี้ เสวียนอ้าวมิติยังห่างจากขั้นที่สามอีกนานช่วงหนึ่ง

แต่จ้าวเฟิงผู้เริ่มเรียนคนหนึ่ง ในระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่สิบวัน เสวียนอ้าวมิติก็ถึงขอบเขตขั้นที่สอง นี่มันปีศาจอะไรกัน!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!