Skip to content

King of Gods 1268

King Of Gods

บทที่ 1268 มาเยือนสำนักแก่นแท้อีกครั้ง

เทพโบราณเยี่ยหลงโดนวิชาดวงตามิติเข้าไป ร่างก็ตกอยู่ในโลกที่เวลาไหลเชื่องช้า แม้กระทั่งแนวคิดและความคิดอ่านก็ช้าลงเป็นอย่างมาก อีกทั้งนี่คือวิชาดวงตาเพ่งเล็งเป้าหมาย ไม่ว่าเทพโบราณเยี่ยหลงจะหนีไปที่ไหน ผลของวิชาดวงตาก็ยังคงอยู่ แต่ถึงกระนั้นเทพโบราณเยี่ยหลงก็เป็นเทพโบราณขั้นเจ็ด ตัวก็เชี่ยวชาญเสวียนอ้าวมิติอยู่แล้ว จึงมีพลังต้านทานอยู่ในระดับหนึ่ง

ส่วนวิชาดวงตานี้ของจ้าวเฟิงเพิ่งจะเป็นขั้นต้น ยากที่จะสร้างผลลัพธ์ได้นาน

“ฝ่ามืออัสนีเทวะห้าธาตุ!” จ้าวเฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง โคจรพลังเทพอัสนีเทวะห้าธาตุ ผสานพลังแก่นแท้ ก่อนซัดฝ่ามือแสงอัสนีหลายทางออกไปอย่างรวดเร็ว

“บัดซบ เจ้าเด็กนี่ได้ชุดคลุมมิติไป บรรลุเสวียนอ้าวมิติ ทั้งยังศึกษาวิชาดวงตาประเภทมิติอีก…”

เทพโบราณเยี่ยหลงเห็นการโจมตีของจ้าวเฟิงใกล้เข้ามา แต่กลับไม่มีทางหลบหลีก ต่อให้สำแดงเคล็ดวิชาป้องกันก็ไม่ทันแล้ว แต่จนปัญญา เขาทำได้เพียงเอาอาวุธเทพป้องกันที่คุณสมบัติเสียหายไปแล้วออกมาต้านทาน

ครืน บึ้ม! ร่างของเทพโบราณเยี่ยหลงถูกซัดลอยออกไปไกลหลายลี้ ยอดเขาหินทรายมหึมาที่ทอดตัวเป็นแนวยาวถล่มราบในชั่วพริบตา

“ฟื้นฟูขึ้นไม่น้อยเลย…” เทพโบราณเยี่ยหลงรู้สึกว่าพลังมิติที่ตนเองได้รับอ่อนแรงลงไปอย่างรวดเร็ว แต่อาการบาดเจ็บของเขาในตอนนี้สาหัสยิ่งนัก จะต้องไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

ฟุ่บ! มือซ้ายของจ้าวเฟิงสะบัด ชายเกล็ดมังกรดำมะเมื่อมคนหนึ่งปรากฏขึ้นทันใด

“ฆ่าทิ้งเสีย!” จ้าวเฟิงพูดเสียงเย็น

“ฮี่ๆ เทพโบราณที่บาดเจ็บสาหัสคนหนึ่ง!”

มังกรวารีบ้างโลกาเลียริมฝีปาก เผยสีหน้าตื่นเต้นกระหายเลือด

ช่วงระยะนี้เขาอยู่ในมิติของชุดคลุม ฟื้นฟูพลังอย่างเต็มที่มาโดยตลอด ไม่รู้ว่าไม่ได้เห็นเลือดมานานกี่ปีแล้ว และสายเลือดเผ่าพันธุ์มังกรวารีล้างโลกาแต่เดิมก็ลุ่มหลงในการฆ่าล้างทำลาย ชีวิตที่ปิดด่านฝึกตนอย่างตั้งอกตั้งใจเช่นนั้น สำหรับมังกรวารีล้างโลกาแล้วค่อนข้างจะทรมานเลยทีเดียว

ครืน! เพลิงมารลุกโหมขึ้นทั่วร่างมังกรวารีล้างโลกา แผ่กลิ่นอายน่าเกรงกลัวที่ทำลายสิ่งมีชีวิตทุกสรรพสิ่งออกมา กลิ่นอายภัยพิบัติทำลายล้างตลบไปทั่วทุกด้านตรงที่ที่เขาอยู่

ตอนนี้พลังฝึกตนของมังกรวารีล้างโลกาฟื้นฟูถึงขั้นหกแล้ว!

“เผ่าพันธุ์มังกรล้างโลกา…” เทพโบราณร้องออกมาอย่างตื่นตกใจ

สายเลือดเผ่ารัตติกาลม่วงของเขา เมื่ออยู่ต่อหน้าสายเลือดอันเบาบางของมังกรวารีล้างโลกาก็ยังสั่นสะท้านอยู่รางๆ และถูกควบคุมในระดับหนึ่ง เพียงชั่วพริบตา มังกรวารีล้างโลกาและจ้าวเฟิงก็มาถึงยังเบื้องหน้าของเขา

“มังกรล้างโลกาโจมตี!” มังกรวารีล้างโลกาก่อกรงเล็บเปลวเพลิงสีแดงเข้มขึ้นมา แล้วโจมตีออกไปทันใด

“เพลิงดวงตาอัสนีเทวะ!”

การสร้างความบาดเจ็บในชั้นวัตถุของจ้าวเฟิงอาจไม่สู้มังกรวารีล้างโลกา ดังนั้นเขาจึงโจมตีวิญญาณของเทพโบราณเยี่ยหลงทันที

ครืน บึ้ม! แสงอัสนีเพลิงหุ้มล้อมเทพโบราณเยี่ยหลงเอาไว้อย่างสมบูรณ์ เวลานี้ พันธนาการมิติบนร่างของเทพโบราณเยี่ยหลงสลายไปหมดสิ้นแล้ว แต่อาการบาดเจ็บของเขาในตอนนี้สาหัสอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ขยับเข้าใกล้ความตาย

“หึ ตายเสียเถอะ!” มังกรวารีล้างโลกาเห็นเทพโบราณเยี่ยหลงคิดจะต่อต้าน จึงกระตุ้นพลังสายเลือดเต็มกำลังและควบคุมเขาไว้ ขณะเดียวกันก็ทำการโจมตีประเภททำลายล้าง

จ้าวเฟิงก็ทำร้ายวิญญาณของเทพโบราณเยี่ยหลงไม่หยุดเช่นกัน

“อ๊าก…” เทพโบราณเยี่ยหลงร้องอย่างเจ็บปวด ร่างแหลกลาญของเขาถูกโอบล้อมด้วยอัสนีเพลิงสีดำมหาศาล

“ตายไปซะ!” มังกงวารีล้างโลกาพร้อมด้วยเพลิงมังกรทำลายล้างฟาดกรงเล็บโจมตีไปทันใด

ครืน! ร่างและวิญญาณของเทพโบราณเยี่ยหลงดับสูญกลายเป็นเถ้าธุลีลอยสลายหายไป

“ในที่สุดก็สังหารเจ้าได้!” ประกายเหี้ยมโหดฉายวาบขึ้นในดวงตาของจ้าวเฟิง

ยี่สิบห้าปีก่อน ในตอนที่เขาหนีจากการไล่สังหารของเทพโบราณสองคนนี้ เขาก็ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องล้างความอัปยศในตอนนั้น วันนี้ในที่สุดเทพโบราณคนหนึ่งในนั้นก็ตายในเงื้อมมือของเขา

“มีผู้แข็งแกร่งใกล้เข้ามา!” ในตอนนี้เอง จ้าวเฟิงและมังกรวารีล้างโลกาพลันรู้สึกถึงกลิ่นอายที่แข็งแกร่งอีกกลุ่มหนึ่งประชิดมาอย่างรวดเร็ว

“ที่แท้ก็เขานี่เอง!”

แววตาจ้าวเฟิงเย็นเยียบฟุ่บ…

ผู้มาเยือนคือเทพโบราณเฮยเทียน และยังมีเทพแท้จริงจากตำหนักรัตติกาลม่วงอีกสองคน

“นั่นมัน…” สีหน้าของเทพโบราณเฮยเทียนเคร่งเครียดทันใด

ไม่ไกลจากจ้าวเฟิง ร่างของเทพโบราณเยี่ยหลงกลายเป็นเถ้าธุลี ค่อยๆ สลายไปในท้องฟ้า

“ผู้อาวุโสเยี่ยหลง!” เทพแท้จริงตำหนักรัตติกาลม่วงสองคนร้องเสียงแหลมด้วยความหวาดกลัว

ภารกิจไล่สังหารครั้งนี้ อย่างไรพวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าเทพโบราณเยี่ยหลงจะตายในเงื้อมมือของผู้ถูกล่าสังหาร

จ้าวเฟิงไม่ใช่เทพแท้จริงขั้นหกหรอกรึ?

ทำไมตอนนี้เป็นเทพโบราณขั้นเจ็ด ทั้งยังมีฝีมือสามารถสังหารคนระดับเดียวกัน?

“เจ้าไล่สังหารข้ามาโดยตลอดเพราะอยากได้ของชิ้นนี้กระมัง!”

จ้าวเฟิงจ้องเทพโบราณเฮยเทียน ชิ้นเหล็กสามเหลี่ยมปรากฏขึ้นในมือ

แต่ก่อนจ้าวเฟิงใช้หินผนึกเทพผนึกทุกสิ่งของชิ้นเหล็กสามเหลี่ยมชิ้นนี้มาโดยตลอด เพื่อที่จะหลบหนีการไล่ล่าของเทพโบราณเฮยเทียน แต่ตอนนี้ เขาหยิบเอาของสิ่งนี้ออกมาต่อหน้าเทพโบราณเฮยเทียน

เสี้ยววินาทีที่เห็นของสิ่งนี้ เทพโบราณเฮยเทียนสั่นสะท้านไปทั้งร่าง สายตาจับจ้องไปยังชิ้นเหล็กสามเหลี่ยม ราวกับเมินเฉยต่อการมีตัวตนอยู่ของจ้าวเฟิง

“ข้างในนี้มีความลับอะไรกัน?”

จ้าวเฟิงและมังกรวารีล้างโลกาก็อดไม่ได้ที่จะประเมินก้อนเหล็กนี้เช่นกัน

สามารถทำให้เทพโบราณคนหนึ่งตื่นเต้นได้ถึงเพียงนี้ และไล่ล่าสังหารอย่างอดทนมาหลายสิบปี ชิ้นเหล็กสามเหลี่ยมนี้ต้องไม่ธรรมดาอย่างที่เห็นภายนอกแน่นอน

“จ้าวเฟิง มอบของสิ่งนี้ให้ข้าเสีย ในวันข้างหน้าตำหนักบรรพกาลจะไม่ทำให้เจ้าลำบากอีกต่อไป!” เทพโบราณเฮยเทียนสูดหายใจลึก สงบความรู้สึกซับซ้อนในใจ มองตรงไปยังจ้าวเฟิง

หากเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน เขาจะลงมือทันที ไม่มีทางมาพูดไร้สาระกับจ้าวเฟิง แต่เมื่อครู่เทพโบราณเยี่ยหลงดับดิ้นในมือของจ้าวเฟิง นี่ทำให้เขาต้องมองจ้าวเฟิงใหม่

การต่อสู้ระหว่างขั้นเดียวกัน หากต้องการสังหารอีกฝ่ายนั้นยากมาก แต่จ้าวเฟิงเพิ่งจะถึงขั้นเทพโบราณ กลับสามารถสังหารเทพโบราณเผ่ารัตติกาลม่วงได้ อีกทั้งข้างกายของจ้าวเฟิงยังมีมังกรวารีล้างโลกาที่มีสายเลือดเผ่าพันธุ์มังกรล้างโลกาอยู่ตัวหนึ่ง

ข้างกายเขาแม้จะมีเทพแท้จริงขั้นห้าของตำหนักรัตติกาลม่วงสองคน แต่ก็ไร้ซึ่งประโยชน์ใดๆ หากสู้กันขึ้นมา คนที่จะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบต้องเป็นเทพโบราณเฮยเทียนแน่นอน

“ข้าเคยบอกว่าจะปล่อยเจ้าไปรึ?” จ้าวเฟิงอดยิ้มเย็นขึ้นไม่ได้

เขาไม่สนใจว่าตำหนักวิญญาณบรรพกาลจะปล่อยเขาไปหรือไม่ แต่จ้าวเฟิงรู้ว่าเขาไม่มีทางปล่อยเทพโบราณเฮยเทียนไปแน่

“เจ้า…” เทพโบราณเฮยเทียนคิดเอ่ยข่มขู่

แต่จ้าวเฟิงตอนนี้เป็นศิษย์หลักของเผ่าพันธุ์วิญญาณ อัจฉริยะที่ทะลวงเทพแท้จริงขั้นหกได้ในทันที อีกทั้งทะลวงเทพโบราณได้ในเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งปี หากตำหนักวิญญาณบรรพกาลคิดจะลงมือกับจ้าวเฟิง เผ่าพันธุ์วิญญาณไม่มีทางปล่อยไปอย่างแน่นอน

“เจ้าจะต้องเสียใจ!”

เฮยเทียนแค่นเสียงเย็น จากนั้นหมุนตัวจากไป

“ผู้อาวุโสเฮยเทียน…” เทพแท้จริงตำหนักรัตติกาลม่วงทั้งสองเห็นเทพโบราณเฮยเทียนเตรียมจะจากไป ก็ร้องเรียกขึ้นทันควัน

แม้กระทั่งเทพโบราณเยี่ยหลงยังโดนจ้าวเฟิงสังหาร พวกเขาสองคนจะเป็นคู่มือของอีกฝ่ายได้อย่างไร ดังนั้นพวกเขาจึงหวังว่าเทพโบราณเฮยเทียนจะพาพวกเขาไปจากที่นี่

“รนหาที่ตาย!” สีหน้าของเทพโบราณเฮยเทียนเหี้ยมเกรียมขึ้นทันใด ตะโกนอย่างโมโหโกรธา ตอนนี้เขากำลังอารมณ์ไม่ดี เทพแท้จริงสองคนนี้กลับกล้ามายุ่งกับเขา

ฉัวะ ฉึก! แสงเย็นเยือกสีม่วงดำพุ่งปะทุออกมาจากกรงเล็บทั้งสองของเทพโบราณเฮยเทียน ฉีกร่างและวิญญาณเทพแท้จริงตำหนักรัตติกาลม่วงออกเป็นชิ้นๆ

หลังจากที่ฉวยโอกาสสังหารทั้งสองคนแล้ว เทพโบราณเฮยเทียนก็จากไปไกลทันที

“ฮี่ๆ!” มังกรวารีล้างโลกายิ้มอย่างได้ใจ

ตอนนี้เขาฟื้นฟูถึงขอบเขตสุดยอดแล้ว อีกทั้งเพิ่งออกมาก็สังหารเทพโบราณไปคนหนึ่ง มันช่างสะใจเสียจริง

“ครั้งนี้ไว้ชีวิตเขาไว้ก่อน!” จ้าวเฟิงแค่นเสียงต่ำ

เทียบกับเทพโบราณเยี่ยหลง จ้าวเฟิงอยากจะสังหารเทพโบราณเฮยเทียนมากกว่า แต่ทว่าพลังของเทพโบราณเฮยเทียนล้ำหน้าไปมากกว่าเทพโบราณเยี่ยหลงนัก อีกทั้งตนเพิ่งผ่านศึกใหญ่มา มีการใช้พลังไป ต่อให้ร่วมมือกับมังกรวารีล้างโลกาก็ไม่มีความมั่นใจว่าจะสังหารเทพโบราณเฮยเทียนได้

นอกเสียจาก…จะใช้พลังของเผ่าพันธุ์กิเลนเพลิงโลหิต

แต่นี่ก็ไม่ได้รับประกันอะไร ในเมื่อเผ่าพันธุ์กิเลนเพลิงโลหิตเพียงแค่รับปากว่าจะรับใช้จ้างเฟิงและไม่ทำร้ายเขาเท่านั้น

แต่หากพวกเขาออกมาแล้วหลุดจากการควบคุมของจ้าวเฟิง ก็จะสามารถแพร่งพรายความลับออกไป ทำให้คนอื่นมาไล่สังหารเขาได้

“ไว้ชีวิตเขา!” จิตใจของมังกรวารีล้างโลกาสั่นสะท้าน เขารู้ว่าจ้าวเฟิงได้รับการช่วยเหลือจากเผ่าพันธุ์กิเลนเพลิงโลหิต คิดสังหารเทพโบราณเฮยเทียนก็ไม่ได้ยากลำบากเลย

‘อนาคตของเขาไม่อาจประเมินได้เลย!’ มังกรวารีล้างโลกาทอดถอนใจอยู่ในใจ

คิดถึงตอนแรก จ้าวเฟิงในสายตาเขาเป็นเพียงแค่มดปลวกตัวหนึ่ง แต่ตอนนี้ต่อให้เขาฟื้นฟูถึงพลังขั้นสุดยอดก็ไม่ใช่คู่มือของจ้าวเฟิง

ครั้นจัดการกับมังกรวารีล้างโลกาและชุดคลุมมิติเรียบร้อยแล้ว จ้าวเฟิงก็ออกเดินทางต่อ ครั้งนี้เขาสำแดงเคลื่อนย้ายมิติชั่วพริบตา รุดไปข้างหน้าสุดแรง

หลังจากนั้นสองเดือนกว่าๆ ในที่สุดก็มาถึงสำนักแก่นแท้

จ้าวเฟิงสวมผ้าคลุมสีขาว เข้าไปในสำนักแก่นแท้ทันที

“ผู้ที่มาเป็นใครกัน?” องครักษ์หลายคนสกัดกั้นจ้าวเฟิงไว้ทันที

ฟึ่บ! จ้าวเฟิงหยิบป้ายฐานะของศิษย์หลักเผ่าพันธุ์วิญญาณออกมา

“ข้าน้อยมีตาหามีแววไม่ ไม่รู้ว่าท่านคือศิษย์คนสำคัญเผ่าพันธุ์วิญญาณ ได้โปรดให้อภัยด้วย!”

องครักษ์ทั้งหมดเบื้องหน้าจ้างเฟิงคุกเข่าลงทั้งหมด

สำนักแก่นแท้ถึงแม้จะเป็นขั้วอำนาจสี่ดาวสุดยอด แต่ก็อยู่ในการปกครองของเผ่าพันธุ์วิญญาณ แม้กระทั่งศิษย์หลักสำนักแก่นแท้เจอศิษย์หลักของเผ่าพันธุ์วิญญาณยังต้องเคารพนบนอบ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงองครักษ์พวกนี้

“ไม่ทราบว่าท่านมายังสำนักแก่นแท้ด้วยเรื่องอันใด?”

องครักษ์คนหนึ่งถามขึ้น

“ข้ามาหาอวี๋ปิงเฉิง!” จ้าวเฟิงพูดเสียงเย็น

จากนั้นก็ตามองครักษ์คนนี้เข้าไปในสำนักแก่นแท้ ไม่นานเท่าใดนัก จ้าวเฟิงก็มาถึงที่พักของผู้อาวุโสอวี๋ปิงเฉิงภายใต้การนำทางขององครักษ์คนนี้

“ท่าน ที่นี่ก็คือที่พักอาศัยของผู้อาวุโสอวี๋ ข้าจะช่วยไปแจ้งให้!”

องครักษ์คนนั้นยิ้มพูดประจบ “ไม่ต้อง เจ้าถอยไปเถอะ”

จ้าวเฟิงเอ่ยราบเรียบ หลังจากที่องครักษ์จากไปแล้ว เขาก็ก้าวขึ้นไปทันที

ตึง! จ้าวเฟิงผลักประตูโถงอย่างรุนแรง

“ใครกัน กล้ามาบุกคฤหาสน์ของผู้อาวุโส!” เสียงตวาดโกรธเคืองดังมากจากส่วนลึกของวัง

แสงเลือนรางเพียงกะพริบวูบไหว อวี๋ปิงเฉิงก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าจ้าวเฟิงทันใด

“เป็นเจ้า!” อวี๋ปิงเฉิงตกใจเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นดวงตากลอกกลิ้ง ทั่วร่างแผ่กระจายกลิ่นอายกดดันอันแข็งแกร่งออกมา

“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร บุกคฤหาสน์ผู้อาวุโสคือโทษมหันต์ วันนี้ข้าจะลงโทษเจ้าเอง!”

อวี๋ปิงเฉิงเอ่ยอย่างองอาจผ่าเผย

เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าเฟิงจะกลับมา

ท่าทางเขาจะเกี้ยวพาจ้าวหยูเฟยล้มเหลวจึงกลับมายังสำนักแก่นแท้ คิดอยากมาขอพึ่งพาตน แต่อวี๋ปิงเฉิงจะให้จ้าวเฟิงมาทำลายแผนการของตนได้อย่างไรกัน ดังนั้นเขาจึงทำเป็นไม่รู้จัก เตรียมสังหารจ้าวเฟิงเสีย

“ผู้อาวุโสอวี๋ช่าง ‘ความจำดี’ เสียจริง ไม่นานเท่าใดก็ลืมข้าแซ่จ้าวเสียแล้ว!”

ร่างของจ้าวเฟิงไม่ขยับ กลิ่นอายรากฐานเทพในกายค่อยๆ แผ่กระจายมา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!