Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 604

LamNamBubPaPit
BC

ตอนที่ 604 มองเขา ‘เล่นละคร’ 3

ผู้คนที่มุงดูอยู่ก็งงงวยเช่นกัน

C

หากมิใช่ว่ามีอาจารย์ใหญ่กู่ผู้สอบสวนคดี และมีกฎว่าไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องสอดปากพูด เกรงว่าหลายคนที่อยู่รอบๆ

คงเอ่ยถามไปแล้ว

กู่ฉานโม่ค่อยๆ กล่าวออกมาอีกประโยคว่า “คลังหินวิญญาณไม่ได้ถูกขโมย สักก้อนเดียวก็ไม่หายไป!”

ฝูงชนเงียบงัน

หัวใจเชียนหลิงเทียนพลันจมดิ่ง “หมายความว่า…อย่างไร? ในเมื่อ…ในเมื่อไม่ได้ถูกปล้น เช่นนั้นเหตุใดต้องจับกุบหลิงเทียน…”

เขาสัมผัสถึงลางร้ายได้รางๆ

“ความหมายตรงตัว” น้ำเสียงกู่ฉานโม่เยียบเย็น “ถึงแม้เจ้าจะไม่ได้ปล้นคลังหินวิญญาณ แต่เจ้าก็ขโมยบางสิ่งไปจริงๆ ซึ่งน่า

รังเกียจยิ่งกว่าการขโมยหินวิญญาณเสียอีก!”

แล้วหันไปมองด้านหลังฉากกั้น “หลิงอวี่ ซีจิ่ว พวกเจ้าออกมาได้แล้ว”

ยามที่กู้ซีจิ่วและเชียนหลิงอวี่เยื้องย่างออกมา ทุกสายตาล้วนจับจ้องอยู่ที่ร่างพวกเขาเป็นตาเดียว

บ้างก็สงสัย บางก็ฉงน บ้างก็ไม่เข้าใจ ผู้ที่มีประสาทสัมผัสเฉียบไวสัมผัสได้แล้วว่าจะมีละครฉากใหญ่

เชียนหลิงเทียนหน้าเปลี่ยนสีทันที สองขาที่คุกเข่าอยู่ตรงนั้น เริ่มสั่นระริก หวาดหวั่นเสมือนวันโลกาวินาศมาถึงก่อนเวลา

เมื่อกู้ซีจิ่วและเชียนหลิงอวี่ปรากฏตัวขึ้น ในที่สุดละครเรื่องนี้ก็แสดงมาถึงฉากเด็ดแล้ว

กู้ซีจิ่วกล่าวออกมาซึ่งๆ หน้าว่ากู่พิษที่เชียนหลิงอวี่โดนมีส่วนเกี่ยวข้องกับ เชียนหลิงเทียน…

ครั้งนี้เธอมีหลักฐานชัดแจ้ง พูดแต่ละข้อออกมาอย่างกระจ่างแจ้งชัดเจนยิ่งนัก

สี่ผู้อาวุโสของหน่วยลงทัณฑ์ที่ก่อนหน้านี้นิ่งเงียบอยู่ก็ปราดเข้ามา เล่าทุกอย่างที่พวกเขาเห็นระหว่างลอบสังเกตการณ์หลาย

วันมานี้ เปรียบเทียบสองฝ่ายอย่างที่กู้ซีจิ่วบอก ไม่มีผิดเพี้ยน

ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนเป็นอัจฉริยะ ไม่มีผู้ใดโง่เขลาเลยสักคน เรื่องราวดำเนินมาถึงตรงนี้ ฝูงชนย่อมเข้าใจต้นสายปลาย

เหตุของเรื่องแล้ว แต่ละคนเบิกตากว้าง นึกไม่ถึงว่าที่แท้ความจริงเป็นเช่นนี้

แน่นอนว่าพวกเขาก็เลื่อมใสกู้ซีจิ่วเช่นกัน หากมิใช่นางกางแหดักไว้ข้างหลัง ก็คงจับปลาใหญ่เช่นนี้ไม่ได้!

แม่นางน้อยใช้กลยุทธ์แผนซ้อนแผน ร้ายกาจจริงๆ!

มิน่าล่ะคนเฉียบแหลมปลิ้นปล้อนอย่างเชียนหลิงเทียนถึงหลงกลนางโดยไม่รู้ตัว!

หลังจากกู้ซีจิ่ว นำหลักฐานเหล่านี้ออกมา มือเท้าของเชียนหลิงเทียนก็เย็นเฉียบไปหมด!

เขาถึงขั้นพูดแก้ต่างให้ตนไม่ออก ทำได้เพียงเอ่ยเฉไฉว่าอีกฝ่ายพูดจาเหลวไหล ทั้งหมดนี้เป็นการคาดเดาส่งเดช ถ้าเธอมีฝีมือจริงก็เอากู่พิษอะไรนั่นออกมาให้ทุกคนเห็นสิ เอ่ยวาจาประเภทนี้เพื่อให้ตนพ้นผิด

กู่ฉานโม่หันเหสายตาไปหากู้ซีจิ่ว “ซีจิ่ว กู่นั้นเจ้านำออกมาตอนนี้ได้หรือไม่? รักษาเชียนหลิงอวี่ให้หายขาดได้หรือเปล่า?”

หลังจากกู่ฉานโม่ถามประโยคนี้ออกมา ในห้องโถงก็เงียบมาก

ทุกล้วนรอคอยคาตอบจากเธอคนเดียว

กู้ซีจิ่วเม้มปากยิ้มแวบหนึ่ง หนนี้เธอตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ได้!”

ปัจจัยที่ไม่แน่นอนทั้งหมดล้วนถูกแผนการของเธอขจัดทิ้งไปแล้ว ตอนนี้เธอมั่นใจเต็มร้อยว่าสามารถรักษาเชียนหลิงอวี่ให้หาย

ได้!

คืนความเป็นธรรมแก่เขา!

กู่ฉานโม่ก็รอคอยประโยคเดียวนี้จากเธอ!

“ดี เจ้าลงมือได้เลย!”

กู้ซีจิ่ว กวักมือเรียกเชียนหลิงอวี่ “เข้ามาสิ มานั่งตรงนี้”

เธอชี้ไปที่จุดหนึ่งบนพื้นห้องโถง

เชียนหลิงอวี่ไม่ลังเลเลย รีบไปตรงนั้นทันที นั่งประจันหน้ากับเชียนหลิงเทียนพอดี ห่างกันไม่ถึงหนึ่งจั้ง

กู้ซีจิ่วพลันปรบมือ เงยหน้ามองกู่ฉานโม่ “อาจารย์ใหญ่กู่สามารถเริ่มได้แล้ว!”

กู่ฉานโม่รีบส่งสัญญาณให้ผู้อาวุโสทั้งสี่ทันที ผู้อาวุโสทั้งสี่กระจายตัวออกไป ทุกคนเข้าประจำตำแหน่ง เมื่อรวมกู่ฉานโม่เข้า

ไปด้วย ทั้งห้ายืนอยู่ในห้องโถงเป็นรูปทรงดาวห้าแฉก

จะว่าไปก็แปลก พอทั้งห้าคนยืนประจำตำแหน่ง พื้นห้องโถงที่แต่เดิมปกติธรรมดาก็ดูเหมือนจะถูกอะไรกระตุ้น ส่องแสงสลัวๆ

ออกมา ก่อตัวเป็นค่ายกลขนาดใหญ่

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!