บทที่ 658 ต่อไปพวกเราจะไปไหนกัน
ดวงตาของหลานไว่หูเบิกกว้าง มองเยี่ยนเฉินดั่งมองโจร “อาศัยสิ่งใดกัน? ยืมเงินท่านมาซื้อของให้ท่าน ท่านจะปล้นกันหรือ?”
เส้นเลือดที่ขมับเยี่ยนเฉินเต้นตุบๆ ไม่สนใจนางอีก หัน ไปถามเถ้าแก่ “พู่ห้อยเอวชิ้นนี้ราคาเท่าไหร่?”
เถ้าแก่ผู้นั้นแจ้งราคา พู่ห้อยเอวชิ้นนี้ไม่เลวจริงๆ ราคาเท่ากับยอดรวมของสองชิ้นนั้นที่หลานไว่หูเพิ่งซื้อไปเมื่อครู่
เยี่ยนเฉินไม่พูดไม่จา ควักเงินออกมายัดใส่มือของหลานไว่หู “เอ้า ซื้อให้ข้า”
หลานไว่หูมองเขาอย่างโง่งม “ข้าบอกแล้วไงว่าจะไม่ยืมท่าน…”
เยี่ยนเฉินนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วยื่นมือไปหาเถ้าแก่ “คืนเงินที่นางจ่ายให้เจ้าเมื่อกี้มา ข้าจะใช้เงินของข้าจ่ายแทน!”
จากนั้นก็โยนเงินจำนวนเท่ากันลงบนตู้กระจก
เถ้าแก่รายนั้นก็เป็นคนเฉียบแหลมผู้หนึ่ง ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง รีบพยักหน้าทันที “ได้ๆ!”
เก็บเงินของเยี่ยนเฉินไปแล้วนําเงินของหลานไว่หูมาส่งให้ถึงมือนาง
เงินของเยี่ยนเฉินเป็นก้อนเงินทั้งก้อน ส่วนเงินของหลานไว่หูคือเศษเงิน
หลานไว่หูยังไม่ค่อยเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น กุมเงินของตนอย่างงุนงงแล้วมองเยี่ยนเฉิน “ท่านหมายความว่าอย่างไร?”
เยี่ยนเฉินสีหน้าไร้อารมณ์ ตอบนางเรียบๆ “ของขวัญที่เจ้าซื้อให้พวกเขาก็ใช้เงินข้าซะ ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าจ่าย เจ้าใช้เงินของเจ้าซื้อพู่ห้อยเอวนี้ให้ข้าเสีย”
หลานไว่หูถูกเขาทำให้มึนงง “แล้วมัน…ต่างกันตรงไหน?”
สุดท้ายก็ต้องมอบเงินให้เจ้าของร้านอยู่ดีมิใช่หรือ?
เยี่ยนเฉินมองนางเงียบๆ ไม่พูดไม่จากลิ่นอายบนร่างเยียบเย็น
หลานไว่หูค่อนข้างยำเกรงเขามาโดยตลอด ได้แต่ยอมจำนน “ก็ได้ๆ ตามใจท่าน”
เมื่อซื้อของแล้ว หลานไว่หูก็ยื่นพู่ห้อยเอวชิ้นนั้นให้เยี่ยนเฉิน “แบบนี้ก็เรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”
เยี่ยนเฉินมองนางอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็เบือนหน้าไป “เจ้าเก็บไว้ก่อน ค่อยให้ข้าทีหลัง”
หลานไว่หูไม่เข้าใจสิ่งที่เขาทำ เพียงแต่สีหน้าของเขาไม่สู้ดีนัก นางจึงไม่กล้าพูดเป็นอื่นอีก เก็บพู่ห้อยเอวชิ้นนั้นไว้อย่างดี ด้วยเกรงว่าตนจะทำผิดพลาดอีก จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยกับเยี่ยนเฉิน “ต้องมอบให้ตอนไหนท่านบอกข้าด้วยนะ ข้าโง่ ไม่รู้ว่าต้องให้ยามไหนดี”
“เจ้า…” เยี่ยนเฉินจ้องนางครู่หนึ่ง หลานไว่หูถูกเขาจ้องจนหนังศีรษะชา รับรู้ได้ทันทีว่าเขาจะอบรมนางอีกแล้ว พลันหดกายตามสัญชาตญาณ แล้ว ถอยหลังไป
ทันใดนั้นเยี่ยนเฉินก็หันหลังแล้วเดินออกไปนอกร้าน หลานไว่หูไม่ทราบว่าไปก่อกวนอะไรเขาเข้า รีบตามออกไปทันที…
“พี่เยี่ยนเฉิน ท่านเป็นอะไรไป?”
“เหอะ”
“พี่เยี่ยนเฉิน ต่อไปพวกเราจะไปไหนกัน?”
“กลับเขา!”
“ไม่เอานะ ไหนท่านบอกว่าจะพาข้าไปดูการลอยประทีปที่แม่นํ้าไง”
“ไม่ไปแล้ว!”
“หา?” หลานไว่หูยืนนิ่ง นํ้าตาเอ่อคลอขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ไม่ง่ายเลยกว่านางจะได้ออกมาสักเที่ยว ยังเดินเที่ยวไม่หนำใจเลย…
เยี่ยนเฉินเดินจากไปได้สักระยะถึงพบว่านางไม่ได้ตามมา เมื่อเหลียวมองก็พบว่านางกำลังยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้น…
นางงดงามดั่งตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ ท่าทางตอนร้องไห้ดึงดูดความสงสารจากผู้คนได้เป็นพิเศษ คนที่อยู่รอบข้างมองเข้ามาแล้ว บุรุษบางคนที่ชมชอบรักหยกถนอมบุปผาก็เริ่มขยับเข้ามาใกล้นางแล้ว
เยี่ยนเฉินขมวดคิ้ว ทำได้เพียงเดินกลับไป “ร้องไห้ทำไม?”
“ข้าอยากไปดูล่องประทีป!”
“ก็ได้ จะพาเจ้าไป” เยี่ยนเฉินจนปัญญา
“แต่ท่านโกรธอยู่…” นางฟ้องร้องต่อ
“ไม่โกรธแล้ว เจ้าอย่าร้องไห้เลย” เยี่ยนเฉินเริ่มยอมแพ้แล้ว
“เมื่อกี้ท่านยังอารมณ์เสียใส่ผู้อื่นอยู่เลย!” นางเถียง
เยี่ยนเฉินถอนหายใจ “ขอโทษ ต่อไปไม่ทำแล้ว”
หลานไว่หูถึงได้ยิ้มออกมาทั้งนํ้าตา ถือโอกาสต่อรองไปด้วย “ข้าอยากไปเดินเล่นด้านตะวันตกของเมืองด้วย ได้ยินว่าที่นั่นมีบ้านผีสิงอยู่…”
“ไปบ้านผีสิงในวันเทศกาลเช่นนี้น่ะหรือ ?” สีหน้าเยี่ยนเฉินอึมครึม
“ก็ข้าอยากไปนี่นา!” นํ้าตาหลานไว่หูเริ่มคลอหน่วยอีกครั้ง