บทที่ 1200 สวรรค์มีตารู้ว่าเธอรังเกียจร่างโคลนนิ่งขนาดไหน…
“แล้วกำไลคู่บุพเพเล่า? มันจะกลับมาอยู่กับร่างนี้ของข้าไหม?”
ตี้ฝูอีอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ “มันก็แค่กำไลวงเดียวเท่านั้นเอง หากเจ้าชอบ เดี๋ยวข้าหาอันใหม่ที่ดีกว่าให้เจ้างดงามกว่ากำไลวงนั้นแน่นอน”
มันจะไปเหมือนกันได้อย่างไร?
กำไลนั้นเป็นกำไลคู่บุพเพ มีความหมายลึกซึ้งยิ่งกว่าแหวนหมั้นเสียอีก!
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่แก้ว แต่ภายในใจของกู้ซีจิ่วไม่มีกำไลวงไหนมาแทนที่ได้!
“ไม่รู้แหละ! ไม่ว่าอย่างไรข้าก็อยากกลับไปในร่างนั้น ร่างที่เป็นของตัวข้าเอง…”
“ซีจิ่ว เจ้าและข้าต่างรู้ดี นั่นไม่ใช่ร่างของเจ้า…” ตี้ฝูอีพูดอย่างช้าๆ “มันเป็นของลูกสาวจวนแม่ทัพ”
กู้ซีจิ่วชะงักไปครู่หนึ่ง “แต่นางตายไปแล้วนะ หยกนภาบอกว่าหลังจากที่ข้าแก้แค้นให้นาง ทำให้ความโกรธของนางสงบลง มันก็จะกลายเป็นของข้าอย่างแท้จริง…”
ตี้ฝูอีทอดถอนใจ “คำที่หยกนภาพูดไม่อาจเชื่อได้ทั้งหมด ความจริงแล้ว การเกิดมาเป็นคนธรรมดา หนึ่งกายจิตต่อหนึ่งร่างกาย
ร่างกายที่มีเจ้าของมาก่อน ถึงแม้เจ้ายึดครองมาได้ แต่ก็มีผลเสียต่อกายจิตของเจ้า และไม่มีทางใช้กายสังขารนั้นได้อย่างแคล่วคล่องสมบูรณ์ อย่างเช่นโม่เจ้า เขาเคยใช้วิธีไม่ถูกต้องเพื่อครอบครองสังขารของหรงเช่อ ท้ายที่สุดถึงแม้จะครอบครองได้สำเร็จ แต่ถึงอย่างไรการฝึกฝนพลังวิญญาณก็บรรลุได้เพียงขั้นห้าครึ่ง ตอนแรกกายจิตของเขาถูกจองจำไว้ด้านใน พลังวิญญาณไม่เพิ่มขึ้น แต่กลับลดลง นั่นคือสาเหตุที่เขาเร่งรัดให้หลงฟั่นสร้างสังขารใหม่ให้เขา”
กู้ซีจิ่วไม่ทันได้คิดว่ากายจิตนี้ยังมีความซับซ้อนมากมายภายในลึกลับและลึกซึ้ง เธอขมวดคิ้ว “แต่ข้าใช้ร่างนั้นได้ดีมากเลยนะ ไม่มีความรู้สึกแปลกอันใด ซ้ำยังเปลี่ยนร่างสวะไร้ค่าให้กลายเป็นอัจฉริยะ…”
“นั่นก็เป็นเพราะกายจิตของเจ้าแข็งแกร่ง ซีจิ่ว หากเจ้าใช้ร่างนี้มาตั้งนานแล้ว บางทีเจ้าอาจจะบรรลุถึงขั้นเก้าแล้วก็ได้”
สัญชาตญาณของกู้ซีจิ่วบอกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่กลับไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรที่ไม่ถูกต้อง “แต่ว่า…”
อึกอักอยู่ช่วงหนึ่งในที่สุดก็คิดถึงจุดนี้ออก “ร่างนี้ก็ไม่อาจนับได้ว่าเป็นของข้า เป็นร่างที่หลงฟั่นโคลนนิ่งออกมา…”
“ไม่ มันเป็นของเจ้า กลิ่นอายของร่างนี้กับกลิ่นอายของกายจิตเจ้าเหมือนกันทุกประการ มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเจ้าโดยเฉพาะ
เจ้าของคนแรกของมันก็คือเจ้า หากมองจากจุดนี้มันไม่ต่างอะไรกับการเกิดของเด็กธรรมดาเลย…”
กู้ซีจิ่วฝืนยิ้ม “ความหมายของเจ้าก็คือเดิมทีข้าก็เป็นมนุษย์โคลนนิ่ง ดังนั้นใช้ร่างโคลนนิ่งเหมาะสมที่สุด?”
สวรรค์มีตารู้ว่าเธอรังเกียจร่างโคลนนิ่งขนาดไหน…
สวรรค์มีตารู้ว่าเธออยากมีสังขารที่เป็นของตัวเองขนาดไหน
สังขารของมนุษย์ ร่างที่เกิดจากพ่อแม่ ไม่ใช่ร่างโคลนนิ่ง…
ตี้ฝูอีเหมือนรู้ว่าคำพูดเหล่านี้ทำให้นางเจ็บปวด เอื้อมมือดึงนางมาอยู่ในอ้อมแขนตัวเอง “อย่าใส่ใจมากขนาดนั้น ร่างโคลนนิ่งก็ดี ร่างกายธรรมดาก็เถอะ ถึงอย่างไรก็เป็นแค่เพียงสังขารหนึ่งเท่านั้น ยากยิ่งนักที่เจ้าจะมีโอกาสเลือกสองทาง เจ้าควรรู้สึกดีใจถึงจะถูก”
กู้ซีจิ่วยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว รู้สึกว่าโลกใบนี้ช่างแฟนตาซีเหลือเกิน
ตอนเป็นนักฆ่าก่อนทะลุมิติมายังเป็นคนไม่เชื่อในพระเจ้า คาดไม่ถึงว่าทะลุมิติมายังไม่ครบปี เธอก็เริ่มตามหาสังขารที่เหมาะสมให้กับกายจิตตัวเองแล้ว นั่นคือเหตุผลที่พุทธศาสนาสอนไว้ว่าร่างกายก็เป็นเพียงถุงเนื้อหนัง เป็นเพียงสื่อนำกายจิต ยามนี้ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้ว!
แต่ว่า…แต่ว่าบางทีเธออาจไม่ได้ตรัสรู้ในพุทธศาสนากระมัง เธอยังปล่อยวางไม่ได้ ยังอยากได้สังขารนั้นกลับคืนมาเหลือเกิน
เธอรู้สึกว่าสังขารนั้นเป็นสังขารที่เหมาะสมกับเธอที่สุด เหมาะสมมากกว่าร่างโคลนนิ่งนักฆ่าชาติก่อนนั้นอีก…