ตอนที่ 1085 คืนชีพ
นายแห่งป้อมฟานนู่จ้องไปยังอสูรเขาทอง ร่างเถาวัลย์หิมะบานคือร่างดั้งเดิมของนายแห่งป้อมฟานนู่
การต่อสู้ทำให้เขาพบว่าอีกฝ่ายทำการป้องกันการโจมตีของเขาได้อย่างสมบูรณ์ อีกฝ่ายมีเกราะแท้จริงชั้นสูงกับร่างกายขนาดใหญ่ เถาวัลย์ของเขาไม่อาจหยุดอสูรเขาทองสีดำได้
ป้อมสีเขียวเข้มบินเข้าหานายแห่งป้อมฟานนู่ แล้วเขาก็บินเข้าหาป้อมปราการเช่นเดียวกัน เขาไม่ได้ใส่ใจกับมนุษย์หลัวเฟิง ถ้าอสูรเขาทองเข้ามาใกล้เขาจะต้องแย่
“ต้องการจะหนีงั้นเหรอ” หลัวเฟิงขยับปีกแล้วกาลอวกาศและเวลาเริ่มยุ่งเหยิง เงาหลัวเฟิงปรากฎขึ้นรอบๆ นายแห่งป้อมฟานนู่
นายแห่งป้อมฟานนู่ตกใจกลัว เขาสาปแช่งคนที่ให้ข้อมูลเขาในทันที เขาได้ยินว่าหลัวเฟิงได้เดินตามเส้นทางสัตว์เทพ แต่ตอนนี้เขาทำการควบคุมกฎอวกาศและเวลาได้เป็นอย่างดี นายแห่งป้อมฟานนู่ไม่รู้เกี่ยวกับเส้นทางแกะสลักภาพจึงไม่เข้าใจ แม้ว่าหลัวเฟิงจะใช้สมบัติของเขาช่วย
“ไปให้พ้น” นายแห่งป้อมฟานนู่ส่งเสียงคำรามไปยังหลัวเฟิง
แสงสีทองที่ไร้ทางต่อต้านไม่ได้เข้ามาหา
การฟันของดาบตัดมุกลงมายังหัวของนายแห่งป้อมฟานนู่ เกราะได้ต้านการโจมตีไว้แต่ก็ทำให้นายแห่งป้อมฟานนู่ตกใจเพราะมัน
นายแห่งป้อมฟานนู่มองยังหลัวเฟิงด้วยความกลัว “เป็นไปไม่ได้”
“เป็นไปได้ยังไงที่หลัวเฟิงมีพลังขนาดนี้ เทคนิคดาบนั้นของหลัวเฟิงใช้เป็นเหมือนกับที่อสูรเขาทองใช้…เป็นไปได้ว่าอัจฉริยะของมนุษย์นั้นจะย้ายวิญญาณไปยังอสูรเขาทองแล้ว นั่นน่าจะเป็นเหตุผลที่มนุษย์นั่นสามารถใช้เทคนิคอันยอดเยี่ยมของอสูรเขาทองได้” นายแห่งป้อมฟานนู่คิด
ตอนนี้นายแห่งป้อมฟานนู่ได้เข้าใจถึงศักยภาพของหลัวเฟิงแล้ว สิ่งมีชีวิตจำนวนมากต้องการให้เขาเป็นทาสวิญญาณ แล้วมนุษย์ต้องคุ้มครองเขาเป็นอย่างดี แต่อสูรเขาทองกลับนำวิญญาณเขาไปได้ยังไง มันเป็นสิ่งไม่น่าเชื่อ
นายแห่งป้อมฟานนู่พยายามหลบหนี
หลัวเฟิงขยับปีกแล้วเร่งความเร็วขึ้นไปยังระดับใหม่ที่ต่างจากปีกเก่า มีเงาจำนวนมากขวางทางนายแห่งป้อมฟานนู่
“ไม่มีทางหนีพ้น” หลัวเฟิงใช้ดาบโจมตีอีกครั้ง
นายแห่งป้อมฟานนู่ใช้แส้ต้านไว้แต่ก็กระเด้งออก เขาไม่สามารถหนีมันได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาจึกเรียกป้อมปราการบินมาช่วยเขา ป้อมปราการที่บินเข้าไปหานายแห่งป้อมฟานนู่ อสูรเขาทองจึงบินเข้ามาเช่นกัน ทว่าป้อมปราการบินได้เร็วกว่าอสูรเขาทอง
“เจ้ามนุษย์”
เถาวัลย์ยักษ์แผ่ออกมาจากป้อมปราการ
หลัวเฟิงทำการขยายปีกบนหลังจนกว้างกว่า 60 ล้านกิโลเมตร
ปีกทำหน้าที่เหมือนกับดาบที่หลัวเฟิงจับ มันตัดผ่านเถาวัลย์เหมือนกับตัดเนย
นายแห่งป้อมฟานนู่คำรามออกมาด้วยความกังวล
เถาวัลย์ได้กลับไปยังป้อมปราการและทำการโจมตีไปที่ปีกของหลัวเฟิงจนสั่นสะเทือน
ช่วงที่ป้อมปะทะกับปีกก็มีเถาวัลย์จำนวนมากกระจายออกมาจากป้อมปราการ นายแห่งป้อมฟานนู่สัมผัสกับเถาวัลย์ที่เป็นร่างดั้งเดิมเพื่อนำสมบัติต่างๆ กลับไปยังป้อมปราการเพื่อหนี
อสูรเขาทองที่วิ่งเข้ามาได้ใช้หัวของมันชนเขากับป้อมปราการจนกระเด็นออก ป้อมปราการจึงทำการเร่งความเร็วหลบหนี
ชายร่างยักษ์เดินออกมาจากป้อมปราการ เขากลัวกับสิ่งที่เขาได้พบ
“อสูรเขาทองที่ทรงพลังได้ขโมยวิญญาณมนุษย์ แม้ว่าจะใช้เทคนิคเดียวกันแต่อสูรเขาทองมีพลังมากกว่า”
———-
หลัวเฟิงคิดถึงการต่อสู้ที่เกิดขึ้น
“นายแห่งป้อมฟานนู่มีระดับยีนชีวิตที่ 1 พันเท่า แล้วมีเทคนิคสืบทอดที่ทำให้เขามีมากกว่าสองร่าง”
หลัวเฟิงสรุปว่านายแห่งป้อมฟานนู่อ่อนแอกว่าต้นไม้โลกเล็กน้อย
หลัวเฟิงมีพลังงานอมตะที่อ่อนแอกว่า ถ้ากับเทคนิคหลัวเฟิงนั้นสูงกว่า
“ไม่สามารถจัดการเขาได้เด็ดขาด ข้ามีพลังมากกว่าเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ด้วยอาวุธของเขาทำให้พลังโจมตีอ่อนลงไปมาก ทำให้การโจมตีส่งผลกับร่างกายอมตะของเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น” หลัวเฟิงคิด
“เขายังมีป้อมปราการบินที่เป็นกระดองเต่า มันแข็งแกร่งพอที่จะต่อต้านการโจมตีของเจ้าแห่งจักรวาล แม้แต่เทคนิคข้าคือจักรวาลก็ไม่น่าจะทำร้ายร่างของเขาที่อยู่ในป้อมนั้นได้”
“ยิ่งมีพลังมากแค่ไหนก็ยิ่งยากที่จะฆ่า แต่ก็แปลกที่เขามาหาโลหะจากข้า การที่เขาต้องการสู้…แสดงว่าโลหะนั้นต้องมีค่าเท่ากับสมบัติแท้จริง”
———-
พันธมิตรแดนเหนือ
ในวังที่ล้อมด้วยไฟสีดำ มีข้ารับใช้จำนวนมากและอัศวินอยู่ พวกเขาทั้งหมดมองไปยังศูนย์กลาง วังนี้เป็นที่อาศัยของเจ้าแห่งจักรวาลแม่น้ำดวงดาว
เจ้าแห่งจักรวาลแม่น้ำดวงดาวเป็นผู้มีชื่อเสียงแล้วมีฐานะเดียวกับผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล แต่พลังของเขาเป็นที่นับถือมากกว่า
พื้นที่หลักของวังมีเงากำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ เงานั้นคล้ายกับหลุมดำ แสงที่ไปสัมผัสเงาจะถูกดูดหายไป
กาลอวกาศและเวลาภายในวังถูกย้อนกลับ ฉากต่างๆ กำลังถอยกลับ
กลุ่มอัศวินได้มาพบกับเจ้าแห่งจักรวาลแม่น้ำดวงดาว บ้างก็มีสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่อื่น หรือแม้แต่เจ้าแห่งจักรวาลสูงสุด
“หยุด”
สองอัศวินที่มายังวังได้ถูกหยุดอยู่กลางอากาศในท่าทำความเคารพ เวลายังคงไหลย้อนกลับ ฉากต่างๆ ยังมีการเปลี่ยน แต่สองเงาของอัศวินยังคงแข็งค้าง
“หยุด”
“หยุด”
“หยุด”
แต่ละเงาที่แข็งค้างเหมือนกับรูปปั้นคืออัศวินทั้งหมด พวกเขาคืออัศวินทั้ง 39 ที่กำลังยืนอยู่
“ย้อนเวลา”
เวลาได้ย้อนกลับคืน การทำงานของกฎถูกถ่ายไปยังหลุมดำบนบัลลังก์
หลุมดำนั้นสั่นจากการพยามคืนชีพให้กับอัศวินชั้นสูงทั้ง 39
หลังจากนั้นไม่นานทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ อัศวินทั้ง 39 ที่ฟื้นคืนสติ ได้มองหน้ากันอย่างตกใจจากความช็อคในความทรงจำของพวกเขาที่กลับคืนมา
“ขอบคุณท่านเจ้าแห่งจักรวาลแม่น้ำดวงดาว” พวกเขาทั้งหมดทำความเคารพ
เสียงของเจ้าแห่งจักรวาลแม่น้ำดวงดาวดังขึ้น “22 หรือ 23 ที่ตายเพราะมนุษย์ชื่อหลัวเฟิง ตอบข้ามาว่าผู้ช่วยของเขาคือใคร”
“มันเป็นอสูรเขาทองสีดำ”
“มันเป็นสัตว์ประหลาดที่ดูเหมือนกับอสูรเขาทองที่มี 6 เขา หนึ่งในเขายาวกว่าเขาอื่น”
“สัตว์ประหลาดสีดำ”
พวกเขาพูดกันทีละคน แต่ก็มีหนึ่งในเสียงพูดดังขึ้นมา “พวกเจ้าทั้งหมดทุกฆ่าโดยสัตว์ประหลาดสีดำงั้นเหรอ มีแค่ข้าเพียงคนเดียวที่ถูกฆ่าโดยมนุษย์งั้นเรอะ”
“ถูกมนุษย์ฆ่าสินะ เจ้ารู้ถึงพลังของเขารึเปล่า รึว่าแค่ล้อเล่น” หนึ่งในเสียงดังขึ้นจากบางคน
“มันคงเป็นแค่เรื่องบังเอิญ” อัศวินสามคนพูดออกมา
“ข้าก็ถูกหลัวเฟิงฆ่าเช่นเดียวกัน” หนึ่งในนั้นกล่าว
“ข้าด้วย”
“ข้านึกว่าเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา แต่ข้าก็ถูกหลัวเฟิงฆ่าเหมือนกัน”
ทั้งวังตกอยู่ในความเงียบ มันอาจเป็นไปได้ที่อัศวินชั้นสูงซักคนที่เข้าใจผิด แต่ทุกคนก็เริ่มรู้สึกตัวที่อัศวินทั้ง 4 พูดในสิ่งเดียวกัน
———-
ภายในเมืองแห่งความโกลาหลปฐมกาล
หลัวเฟิงเดินไปยังวังของผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ผู้คุ้มกันวังได้ทำการทักทายเขา
“นายท่าน”
“นายท่าน”
หลัวเฟิงเดินเข้าไปในวังด้านการมีส่วนร่วมกับเผ่าพันธุ์
“นายแห่งป้อมฟานนู่กับอัศวินกบปีศาจอยู่ในพันธมิตรวงแหวนหนาม แล้วนายแห่งป้อมฟานนู่ก็รู้เรื่องเกี่ยวกับอสูรเขาทอง และเขาก็มาขอโลหะ” หลัวเฟิงคิด
หลัวเฟิงคิดว่าจะต้องมีโลหะที่มีค่าบางอย่างที่เขาไม่รู้จัก มันเป็นสาเหตุที่เขาออกจากดวงดาวต้นกำเนิดชั่วคราว เขาได้นำโลหะที่ไม่สามารถระบุได้มายังเมืองแห่งความโกลาหล
หลัวเฟิงกำลังสงสัยว่ามันคืออะไร เมื่อเขามาถึงหน้าประตู ประตูทองแดงเคลื่อนตัวเปิด และหลัวเฟิงก็เดินผ่านประตูเข้าไป