Skip to content

Swallowed Star 1140

ตอนที่ 1140 : เทพโพวาน

บูอา รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดนับไม่ถ้วนที่เสียดแทงร่างกาย มันมาจากการพัฒนายีนของเขา เขาถึงกับคิดอะไรไม่ออกและยากที่จะลืมตาได้ แต่อยู่ๆ ภูเขาที่ไกลออกไปนั้นถึงกับชัดเจนขึ้นมา

“ขะ ข้า…” บูอา รู้สึกว่าการได้ยิน การมองเห็นของเขาดีขึ้นเป็นพันเท่า “ทรงพลังจริงๆ น่าประทับใจ”

รอยแผลบนหน้าเขาได้หายไปแล้ว และหน้าของเขาก็ดูกระจ่างใสขึ้นมา เขาเหยียดแขนออกไปแล้วลองเหวี่ยงมันดู

ป๊ะ!

เกราะที่ตัวเขาแตกออก บูอา รู้สึกได้ว่าเกราะที่ตัวเขานั้นปราะบางราวกับกระดาษ มันจะแตกออกหากเขาเกร็งกล้ามเนื้อซึ่งทำให้เขาสับสน

“ขะ ข้า…” บูอา เริ่มสำรวจตัวเองและก็ต้องช็อก “นี่…นี่เรื่องจริงงั้นรึ?”

บูอา ทะยานขึ้นไปบนฟ้าและพลังในตัวเขาก็ทำให้เขาเปล่งแสงออกมา

ฮ่ง!

เขาพุ่งไปราวกับแสงและบินเป็นรูปตัว S เขาดำดิ่งลงมาและหยุดโดยห่างจากพื้นแค่เพียงนิ้วเดียว

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า! มันเป็นความจริง! ข้าได้กลายเป็นเทพแล้ว! และข้าเป็นเทพขั้นสูงสุดแล้ว! อีกแค่ก้าวเดียวก็จะเป็นตำนาน! ฮ่า ฮ่า! เทพยันอา! เทพโพวาน…”

บูอา ดีใจอย่างมาก ชีวิตนับล้านล้านของดินแดนจูอา และมีคนมากมายที่อยู่ในระดับ 1-9 เอา บูอา เป็นตัวอย่าง เขาได้กลายเป็นศิษย์ของอัศวิน และที่เขาทำได้ก็แค่จัดการกับเรื่องเล็กน้อยให้กับอัศวินขั้น 2 เขาจะพัฒนาขึ้นมาได้หากได้รับการสั่งสอน หลังจากที่เป็นอัศวินได้แล้วเขาต้องเข้าร่วมสงคราเมตร..สงครามในหมู่ผู้นำ และแม้แต่สงครามจักรวรรดิ…เขาอยู่ในกองทัพและแคมป์ทาส เขารอดมาได้ เขาผ่านขั้น 3 และ 4 มาได้ก่อนจะเข้าร่วมตระกูลเปลวไฟ แล้วกลายเป็นหนึ่งในอัศวินของพวกนั้น ตระกูลเปลวไฟ นั้นเป็นตระกูลที่ปกครองพื้นที่ขนาดใหญ่และมีเทพในตระกูล!

มันยากมากที่จะยกระดับจากขั้น 3 เป็นขั้น 4!

และจากขั้น 6 ไป 7 ก็เช่นกัน!

สำหรับการขึ้นมาเป็นเทพได้จากขั้น 9 แล้วมันยิ่งยากมากกว่าเดิม!

เมื่อมีคนเป็นเทพได้ เขาจะสามารถเดินทางบนท้องฟ้าและพื้นดินได้พร้อมทั้งเป็นผู้ยิ่งใหญ่ บนดินแดนจูอา ในตอนที่ใครบางคนได้เป็นตำนานมันถือว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ มันเป็นเรื่องง่ายที่พวกเขาจะก่อตั้งอาณาจักรขึ้นมา และเมื่อใครได้เป็นครึ่งเทพแล้ว เขาจะสามารถก่อตั้งจักรวรรดิขึ้นมาได้!

พวกที่อยู่กว่าขั้น 3 นั้นไม่ได้มีความสำคัญอะไร มันต้องใช้เวลากว่า 10 ปีกว่าที่ บูอา จะขึ้นเป็นอัศวินขั้น 5

“เทพ! ตอนนี้ข้าเป็นเทพขั้นสูงสุดแล้วและอีกแค่ก้าวเดียวก็จะเป็นตำนานได้” บูอา คึก “ข้าได้ยินมาว่ามีแค่คนที่ได้รับการอวยพรจากพระเจ้าเท่านั้นที่จะทำให้พลังของคนเพิ่มขึ้นมาแบบนี้ได้ ไม่งั้นแล้วข้าคงต้องใช้เวลาเป็นพันปีกว่าจะกลายเป็นเทพขั้นสูงสุดได้ ตัวตนนั้นต้องเป็นเทพแน่! ไม่ใช่ว่านั่นคือเทพโพวานหรอกรึ…?”

ตัวของ บูอา สั่นเครือ มีเทพนับร้อยบนดินแดนจูอา และแต่ละคนต่างก็ปกครองพื้นที่เป็นล้านล้านตารางไมล์

“เทพคนอื่น?” บูอา กลัวขึ้นมา

สงครามเทพนั้นเป็นเรื่องปกติบน ดินแดนจูอา

“ข้าจะบอกใครไม่ได้แม้แต่ภรรยาและลูกข้า มันคงเป็นภัยพิบัติหากทำแบบนั้น” บูอา กัดฟันแน่นแล้วแสยะยิ้มออกมา เขามองไปยังปราสาทของตระกูลเปลวไฟ

“ตระกูลเปลวไฟ ผู้นำนั้นเป็นเทพได้เมื่อ 100 ปี ก่อน และมันก็ยังอีกไกลกว่าเขาจะเป็นเทพขั้นสูงสุดได้ วันรุ่งเรืองของข้ามาถึงแล้ว ข้าจะปกครองที่ดิน, สร้างปราสาทและมีผู้หญิงนับหมื่นคนอยู่ในปราสาทของข้า…”

บูอา ตัวสั่นไปทั้งตัวและเกราะของเขาก็แตกกลายเป็นผง เขารวบรวมพลังกำเนิดของตัวเองและสร้างเกราะใหม่ขึ้นมา จากนั้นก็ได้บินมุ่งหน้าไปยังปราสาทของตระกูลเปลวไฟ

******

หลัวเฟิง ยังคงยืนอยู่บนท้องฟ้าและมองไปยังภูเขาที่ไกลออกไป

“ภูเขาเปลวไฟคำราม เป้าหมายอยู่ที่นั่น” หลัวเฟิง มองไปยังทิศทางนั้น “จากที่ บรรพบุรุษเทพ บอกมา มันคือสิ่งมีชีวิตหรือสมบัติกันแน่?”

หลัวเฟิง ลืมเรื่อง บูอา ที่เขาเพิ่งช่วยมา เขาแค่ต้องการรู้จักโลกนี้ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเลือก บูอา และเขาก็ตอบแทนอีกฝ่ายด้วยการยกระดับยีนอีกฝ่ายให้

ตามความจำของ บูอา แล้ว ภูเขาตรงหน้า หลัวเฟิง นั้นมีชื่อว่า ภูเขาเปลวไฟคำราม และมีตำนานอยู่ที่นั่น!

“ตำนาน?” หลัวเฟิง ส่ายหน้าและยิ้มออกมา

แม้ว่า ดินแดนจูอา นั้นอยู่ในจักรวาลต้นกำเนิด แต่ เจ้าแห่งยันอา ได้เอาสิ่งมีชีวิตมากมายไว้ในดินแดนนี้ซึ่งทำให้ที่นี่มีประชากรมากเกินไป พวกเขาได้พลังงานจักรวาลแค่เพียงเล็กน้อย นอกจากนี้แล้ว เจ้าแห่งยันอา ก็ได้เข้าจับกุมพวกเขามาจากเผ่าที่อ่อนแอที่ซึ่งมีแววการพัฒนาที่จำกัด คนส่วนมากที่นี่แล้วไม่ได้แข็งแกร่งกว่าพวกผู้ใหญ่ชาวโลกมากนัก

ระดับนักเดินทางแห่งดวงดาวนั้นมีตั้งแต่ขั้น 1 ไปขั้น 9 ในส่วนของเทพนั้นอยู่ระดับจักรวาล!

ตำนานนั้นคือระดับห้วงมิติ!

ครึ่งเทพนั้นคือขั้นขอบเขต!

สำหรับเทพผู้ยิ่งใหญ่แล้วพวกเขาเป็นระดับอมตะ

มีตำนานมากกว่าหนึ่งคนที่อยู่ใน ภูเขาเปลวไฟคำราม หลัวเฟิง คิดเมื่อรู้สึกได้ถึงคลื่นพลัง ข้าปล่อยใครไปไม่ได้

หลัวเฟิง เริ่มเคร่งขรึมขึ้นมาทันที

******

ภูเขาเปลวไฟคำราม นั้นยาวกว่า 600,000 ไมล์และมีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งอยู่ด้านใน ดังนั้นจึงไม่มีผู้คนอยู่อาศัยรอบๆ ภูเขา

ลึกเข้าไปใน ภูเขาเปลวไฟคำราม ในปราสาทสีดำ ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขานั้นมีลาวาไหลอยู่ภายใต้ปราสาท และมีสัตว์อสูรที่แปลกประหลาดอาศัยอยู่ในลาวา มีอัศวินเกราะทองอยู่รอบปราสาท และทุกคนต่างก็อยู่ขั้น 9

ปราสาทแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยลาวา สะพานเหล็กดำเชื่อมต่อประตูกับภายนอก

ผู้อาวุโสผ้าคลุมขาวได้เดินเข้าไปและแต่ละก้าวนั้นก็กินระยะทางถึง 300 ฟุต มันมีแสงสีขาวส่องออกมารอบตัวเขาและ หลัวเฟิง ก็บอกได้ว่าเขาเป็นระดับตำนาน ไม่นานตำนานนั้นก็ได้เดินไปที่สะพาน

“เปิดประตู” ผู้อาวุโสตะโกนขึ้นมา

“ได้”

ประตูค่อยๆ เปิดออกและมีอัศวินไฟยืนอยู่ที่หน้าประตู อัศวินคนนั้นเองก็เป็นระดับตำนานเช่นกัน

“ทำไมเจ้าถึงได้มาที่นี่?” อัศวินไฟถาม “เจ้าไม่รู้รึไงว่าเจ้ามาที่นี่ไม่ได้นอกซะจากว่ามีเรื่องด่วน?”

“ข้ามีเรื่องด่วนต้องบอกกับเทพผู้ยิ่งใหญ่โพวาน” ผู้อาวุโสพูดขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปในปราสาทดำ

ด้านในปราสาทนั้นมีนักสู้ระดับอมตะนั่งอยู่บนบัลลังก์ เทพผู้ยิ่งใหญ่โพวาน ได้มองลงมายังบริวารของตนและฟังที่บริวารนั้นรายงาน เขารู้สึกสูงส่ง ยังไงซะเขาก็จัดการกับสงครามและฆ่าคนมามากมายในอาณาเขตของเขา ซึ่งทำให้จักรวรรดิต่างๆ อคติกันมากกว่าเดิม เขาปรากฏตัวออกมาก็ต่อเมื่อทุกอย่างเกินกว่าควบคุม

“เจ้าทำได้ดี” เทพผู้ยิ่งใหญ่โพวาน พูดขึ้น

ผู้อาวุโสชุดขาวเริ่มน้ำตาไหลจากคำชมของ เทพผู้ยิ่งใหญ่โพวาน ผู้อาวุโสรอคำสั่งจากอีกฝ่ายแต่เขากลับเห็นแสงสีทองเบลอๆ เขาเงยหน้าขึ้นและพบว่ามัน….

“เทพผู้ยิ่งใหญ่โพวาน ไปไหน?”

เทพโพวาน ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ก่อนหน้านี้และเปล่งแสงสีทองออกมานั้นได้หายไปแล้ว บริวารและครึ่งเทพทั้งสามต่างก็สับสน จากนั้นครึ่งเทพคนหนึ่งก็ได้พูดขึ้นมา “เทพโพวาน ไปพักผ่อนแล้ว”

“ข้าต้องการคำสั่งต่อไปจากเขา” ผู้อาวุโสชุดขาวกังวลแต่เขาตอบกลับ “ได้”

พวกในปราสาทที่เหลืออยู่รวมไปถึงครึ่งเทพนั้นต่างก็คิดว่า เทพโพวาน มีเรื่องสำคัญต้องไปจัดการ สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ เทพโพวาน นั้นนั่งอยู่บนบัลลังก์อยู่ตลอดแต่พวกระดับขอบเขต และระดับห้วงมิติ นั้นไม่อาจจะเห็นเขาได้

“ใคร…เจ้าเป็นใครกัน?” เทพโพวาน มองไปที่ชายตรงหน้าพร้อมกับความกลัวที่ไม่เคยมีมาก่อน

แสงสีทองครอบคลุมพื้นที่กว่า 300 ตารางฟุตและพลังของมันก็ได้กัดกินแสงสีทองของ เทพโพวาน

หลัวเฟิง มองไปที่ เทพโพวาน ตรงหน้าและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะในใจ

ข้าระวัง และใช้ทักษะผูกมัดที่ทรงพลังที่สุดที่ข้ามี พื้นที่ทอง ข้าไม่คิดว่าเป้ามหมายของข้าจะเป็นแค่นักสู้ระดับอมตะที่อ่อนแอ

หลัวเฟิง ได้ใช้พื้นที่ทอง ออกมาบนท้องฟ้าเหนือภูเขาและเขาก็ได้ย่นระยะลงมาเมื่อเขาพบว่าเป้าหมายนั้นอ่อนแอเกินไปซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกครึ่งเทพถึงได้เป็นแสงสีทองส่องประกายออกมา

“บอกทุกสิ่งที่สำคัญในชีวิตเจ้ามา” หลัวเฟิง พูดขึ้น

“ได้ ได้” เทพโพวาน พูดขึ้น “ข้าเกิดใน…”

หลัวเฟิง เหมือนจะฟังแต่จริงๆ แล้วเขากำลังใช้ภาพลวงตา ยังไงซะความคิดและจิตใจเขาก็อยู่ในระดับเจ้าแห่งจักรวาล และเขาก็เป็นผู้ใช้จิตวิญญาณ ถึงแม้ว่าจะไม่เก่งเรื่องการใช้ภาพลวงตาก็ตาม เขาเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่อยู่ในเส้นทางภาพสลัก เขาได้สร้างทักษะลวงตานับไม่ถ้วนซึ่งง่ายที่จะปั่นหัว เทพผู้ยิ่งใหญ่โพวาน หลัวเฟิง สามารถที่จะตรวจสอบความทรงจำอีกฝ่ายได้ง่ายๆ

หลัวเฟิง บอกได้จากคางคกทองคำว่าเป้าหมายของเขาคือ เทพผู้ยิ่งใหญ่โพวาน ตรงหน้าเขา!

แต่เขาไม่เชื่อว่าแค่นักสู้ระดับอมตะ จะเป็นอันตรายต่อจักรวาลกำเนิดรึ บรรพบุรุษเทพ ส่งเขามาเพราะเรื่องแค่นี้!

หลัวเฟิง รู้สึกว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติ เขารู้สึกได้ว่า เทพผู้ยิ่งใหญ่โพวาน นี้ก็แค่ส่วนหนึ่งของปัญหาเท่านั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!