ตอนที่ 1144 : เส้นทางใหม่
หลัวเฟิง มองไปที่ผู้อ่านวิญญาณอมตะ, ครึ่งเทพ และตำนานที่ยังรอดอยู่ ซึ่งตอนนี้แสดงสีหน้าช็อกและกลัวออกมา จากนั้นก็ได้หันหลังและเดินไปข้างหน้า…และออกจาก วังกอเลียน แห่งนั้นไป
ภายในห้องโถงของวังกอเลียน มี อมตะสองคน, กลุ่มครึ่งเทพและกลุ่มบริวารตำนาน
“ต่อหน้าเทพเจ้าสูงสุด เขากล้าดียังไง? เขากล้า…?”
“เขา…เขาฆ่าเทพเจ้ากอเลียน ที่ซึ่งอยู่ภายใต้การปกป้องของเทพเจ้าสูงสุด!”
“เขาเป็นใครกัน?”
ความคิดมากมายตีกันในหัวพวกเขา สำหรับ นักสู้อมตะ ทั้งสองนั้นไม่ใช่หน้าใหม่ของจักรวาลที่กว้างใหญ่ นอกพื้นที่ลับยันอา ความเข้าใจของพวกเขาทำให้เดาได้ว่าศัตรูต้องเป็นเจ้าแห่งจักรวาล ที่มาจากจักรวาลอันกว้างใหญ่ ครึ่งเทพ และตำนานนั้นต่างออกไป พวกเขายังคงจมอยู่ในความเชื่อที่ว่า ไม่มีใครที่ไม่เชื่อฟังเทพเจ้าสูงสุด และเทพเจ้าสูงสุดนั้นร้ายกายที่สุด
“คิดดูแล้ว…”
ในใจของพวกตำนานและครึ่งเทพได้มีเมล็ดพันธุ์ใหม่งอกเงยขึ้นมา พวกเขาถูกล้างสมองด้วยความคิดที่ว่า เทพเจ้าสูงสุด คือสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุด…ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ ทวีปทั้ง 12 แห่งนี้ไม่ใช่ใจกลาง มันมีที่อื่นที่ใหญ่กว่าทวีปของพวกเขา
“ศัตรูนั้นเทียบเท่าได้กับ เทพเจ้าสูงสุด ทำไมข้าจะทำไม่ได้?”
เมล็ดพันธุ์ที่ปลูกลงไปเมื่อกี้เริ่มงอกเงยขึ้นมาแล้ว
******
หลัวเฟิง ก้าวออกจากวังกอเลียน รอบด้านเขานั้นมีคลื่นของแม่น้ำเก้าเสือ ที่กำลังปะทุอยู่ ด้วยพลังของพื้นที่ทอง และแม่น้ำเก้าเสือ ที่อ่อนแอก็ยังสามารถทำให้เปลวไฟนั้นดับลงไปได้
“เจ้าแห่งยันอา” หลัวเฟิง มองไปยังร่างดั่งหอคอยที่ยืนอยู่ใจกลางเปลวไฟที่อยู่ห่างออกไป ร่างนั้นมองมาที่ หลัวเฟิง ด้ยความหงุดหงิด “เจ้าเป็นใคร? เจ้าปลอมตัวมา เจ้าไม่ได้มาจากเผ่าพันธุ์อีกแร้ง!”
“ฮ่า ฮ่า…” หลัวเฟิง หัวเราะออกมาและผมสีแดงของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีดำ เกราะและปีกนั้นก็เปลี่ยนกลับไปดังเดิม นี่คือชายหนุมผมดำ เกราะและปีกสีเงิน
“และเจ้าคือ?” เจ้าแห่งยันอา แสดงท่าทีไม่มั่นใจออกมา
“หลัวเฟิง” หลัวเฟิง ตอบกลับทันที
ตาของ เจ้าแห่งยันอา แสดงความช็อกออกมา “อัจฉริยะที่โดดเด่นจากเผ่ามนุษย์ได้กลายเป็น เจ้าแห่งจักรวาล แล้วรึ? มันยังผ่านมาไม่นานไม่ใช่รึไง? เจ้า…เจ้าเป็น เจ้าแห่งจักรวาล ได้ตอนไหนกัน?”
เจ้าแห่งยันอา ไม่ได้เป็นคนของขุมกำลังที่มีอำนาจเพราะเขาได้กลายเป็นเจ้าแห่งจักรวาล ไม่นานหลังจากกำเนิดจักรวาล หลายปีนับไม่ถ้วนที่ผ่านมาพลังของเขาเริ่มแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก เขาจึงไม่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมกับขุมกำลังไหนและออกท่องจักรวาลเพียงลำพังแต่เพราะเขาอยู่อย่างโดดเดี่ยว เขาจึงมักจะตามข่าวไม่ทัน
“ไม่นานมานี้” หลัวเฟิง ตอบกลับ
“โอ้…” เจ้าแห่งยันอา คิดเล็กน้อยและแสดงสีหน้าซับซ้อนออกมา หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้พูดขึ้น “งั้นเจ้าก็คือผู้นำแห่งทางช้างเผือก หลัวเฟิง! คิดจากหลายอย่างที่เกิดขึ้นในเวลาไม่กี่เดือนที่หลับใหลไป เจ้าคงเป็นคนฆ่าอัศวินอวกาศนับ 6,000 คนจาก 3 พันธมิตรด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว นั่นถือว่าร้ายกาจจริงๆ”
“ไม่มากมายอะไรหรอก” หลัวเฟิง ยิ้มออกมาเพียงเล็กน้อย ชัดแล้วว่า เจ้าแห่งยันอา ตรงหน้าเขาต้องรู้เรื่องที่เกิดขึ้นบนดวงดาวต้นกำเนิด ผ่านช่องทางข่าวสาร
“ฮึ่ม” เจ้าแห่งยันอา พูดขึ้น จากนั้นก็คำรามออกมา “แม้ว่าเจ้าจะเป็นเจ้าแห่งจักรวาล แม้ว่าเจ้าจะมาจากเผ่ามนุษย์แต่เจ้าไม่อาจทำตามอำเภอใจได้! พื้นที่ลับยันอาแห่งนี้คืออาณาเขตของข้า! แต่เจ้าเป็น เจ้าแห่งจักรวาล และข้าไม่คิดจะสร้างปัญหาต่ออีก ส่งสมบัติที่แท้จริงระดับทั่วไป มาเป็นค่าชดเชยและออกไปจากอาณาเขตข้าไปให้เร็วที่สุด เราจะจบเรื่องนี้ต่อกัน!”
เจ้าแห่งจักรวาล ไม่อาจจะฆ่ากันได้ง่ายๆ นอกซะจากกว่ามีความต่างในด้านพลังนั้นมากเกินไป ส่วนมากแล้วจะเจรจากันแทน
“สมบัติที่แท้จริงระดับทั่วไป?” หลัวเฟิง ส่ายหน้าเล็กน้อย
“ผู้นำแห่งทางช้างเผือก เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปเพราะเจ้ามาจากพันธมิตรมนุษย์รึไง?” เจ้าแห่งยันอา คำราม
“ข้าขอโทษด้วย ไม่มีทางที่ข้าจะจบแค่นี้” หลัวเฟิง มองไปที่ เจ้าแห่งยันอา “ข้ามาที่นี่เพราะคำสั่งของ โรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล เพื่อกำจัดเจ้าและตัวตนอื่นๆ อีกมากมายที่เป็นลูกน้องเจ้า”
เงียบสนิท
ตาดวงเดียวของ เจ้าแห่งยันอา แสดงอาการช็อกออกมาซึ่งตามมาด้วยความโกรธที่ไม่รู้จบ
“เจ้าบอกว่า โรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล งั้นรึ?” เจ้าแห่งยันอา คำรามออกมาอีกครั้ง “โรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล ส่งเจ้ามาที่เพื่อฆ่าข้างั้นรึ? พวกบัดซบ…! โรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล ที่น่าเกลียดชัง! ข้า เจ้าแห่งยันอา ได้ท่องไปทั่วจักรวาลเพียงลำพัง แม้แต่ เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ก็ลืมเรื่องที่จะฆ่าข้าไปได้เลย ทำไมข้าต้องกลัว โรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล ด้วย? มาสิ มา ข้าอยู่ที่ พื้นที่ลับยันอา ข้าจะรอที่นี่และดูว่าใครกันจะมาฆ่าข้า ฮ่า ฮ่า…!”
หลัวเฟิง ยักคิ้ว หลัวเฟิง ยืนยันได้ว่า เจ้าแห่งยันอา เป็นคนทำให้ตาของคางคกเปลี่ยนเป็นสีแดง อีกอย่าง…เจ้าแห่งยันอา ก็มีอีกเป้าหมายที่ทำให้ตาของคางคกเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วย
สองเป้าหมาย หนึ่งคือ เจ้าแห่งยันอา หลัวเฟิง คิด อีกอย่างคือของหรือทาสวิญญาณที่เขาเก็บไว้ในแหวนรึเปล่า?
หรือของอย่างอื่น?
ไม่สำคัญว่ามันจะเป็นอะไร ตราบใดที่มันทำให้ตาของคางคกเปลี่ยนเป็นสีแดง มันก็คือเป้าหมายที่ต้องถูกกำจัด ตอนที่เขาใช้พื้นที่ทอง ครอบคลุมทวีปมืดเพื่อฆ่า เทพเจ้าผู้นำทาง หลัวเฟิง ได้เตรียมที่จะเผชิญหน้ากับ เจ้าแห่งยันอา เอาไว้แล้ว
เขาได้คิดแผนการก่อนที่จะเข้ามาแล้ว รวมไปถึงตอนที่มายังทวีปวงแหวน ด้วย หลัวเฟิง ได้รอ เจ้าแห่งยันอา มาสักพักแล้วและมั่นใจว่า เจ้าแห่งยันอา จะปรากฏตัว ทุกอย่างอยู่ในการคาดการณ์ของเขา เจ้าแห่งยันอา นั้นคือคนที่ทำให้ตาของคางคกเปลี่ยนเป็นสีแดงจริงๆ
หลัวเฟิง ได้บอกว่า โรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล ส่งเขามาเพราะเขารู้ตัวว่าเขาคงฆ่า เจ้าแห่งยันอา ไม่ได้
เจ้าแห่งยันอา นั้นเป็นรูปแบบชีวิตพิเศษ หลัวเฟิง คิด ร่างอมตะของเขานั้นสูงกว่าล้านไมล์และพลังอมตะก็บริสุทธิ์กว่าข้าหนึ่งระดับ และเขาก็อยู่มาตั้งแต่ที่จักรวาลกำเนิด ตอนนี้เขาต้องมีสมบัติมากมาย จากของที่ข้าได้มา พวกสมบัติที่แท้จริงขั้นสูงสุด ประเภทขอบเขต, เกราะสมบัติที่แท้จริงขั้นชั้นยอด และสมบัติที่แท้จริงอื่นๆ นั้น ข้าว่าแม้แต่เจ้าแห่งจักรวาลแม่น้ำดวงดาว ก็ไม่อาจฆ่าเขาได้
เมื่อ เจ้าแห่งยันอา ประกาศว่าแม้แต่เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ก็ไม่อาจจะฆ่าเขาได้ มันก็ไม่ต้องพูดเรื่องอื่นอีก มันคือความจริง!
ตัวตนที่แข็งแกร่งอย่างเจ้าแห่งจักรวาลแม่น้ำดวงดาว, ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล และเจ้าแห่งจักรวาลเก้ากว้างไกล ไม่ได้กลัวเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด!
เจ้าแห่งยันอา อาจจะระดับต่ำกว่า เจ้าแห่งจักรวาลแม่น้ำดวงดาว ในด้านพลังต่อสู้ แต่ร่างอมตะของเขาทำให้เขาหนีไปได้อย่างอิสระและท่องในจักรวาลได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใด
******
เจ้าแห่งยันอา มองมาที่ หลัวเฟิง ด้วยความหงุดหงิด
“ผู้นำแห่งทางช้างเผือก” เขาพูดขึ้น “ข้าไม่กลัวพวกบัดซบจากโรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล เลยสักนิด สำหรับเจ้าแล้ว…ฮึ่ม! เจ้าต้องเป็นเพียงสมาชิกนอกของ โรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล ข้าไม่ต้องสู้กับเจ้าด้วยซ้ำ หากเจ้ามีความคิด เจ้าจะรู้ว่าต้องส่งสมบัติที่แท้จริงระดับทั่วไป เป็นค่าชดเชยแล้วออกจากอาณาเขตข้าไปซะ ไม่งั้นแล้ว…ข้าจะให้เจ้าได้เห็นว่าข้ามีความสามารถอะไร”
“โอ้ ข้าสงสัยว่าเจ้ามีความสามารถอะไรกัน” หลัวเฟิง พูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ “ข้าอยากวัดพลังของข้ากับเจ้าแห่งจักรวาล อย่างเจ้าที่เกิดมาตอนกำเนิดจักรวาลพอดีเลย มันจะเป็นยังไงกัน? เจ้าคิดจะต่อสู้กับข้าภายในทวีปวงแหวนนี่รึเปล่า? ทำลายทั้งทวีปนี้ก็ไม่ได้ส่งผลเสียอะไรกับข้า”
เจ้าแห่งยันอา แสดงท่าทีไม่พอใจออกมา “เพราะเจ้าอยากพบกับภัยพิบัติของตน งั้นก็ตามข้ามา เราจะสู้กันในอวกาศของเขตนี้”
“ดี” หลัวเฟิง พยักหน้า
ซู่!
ซู่!
ทั้งสองได้หายไปจากทวีปวงแหวนในพริบตาเดียว พื้นที่สีทอง และออร่าไฟ ที่ครอบคลุมทวีปเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้หายไป ตอนนี้พวกเขาได้หายไปจากทวีปนี้ในพริบตาเดียว นี่คือประวัติศาสตร์ของทวีปแห่งนี้
******
ห่างออกไปกว่าสิบปีแสงจากทั้ง 12 ทวีป มันมีอวกาศที่เต็มไปด้วยความมืดมิด มันมีเพียงแค่พลังจักรวาลบางๆ อยู่เท่านั้น
สองร่างโผล่ออกมาและได้มาถึงที่อวกาศนี้
“เจ้าคือคนของ โรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล ดังนั้นข้าจึงไม่ได้คิดจะทำให้เรื่องมันยุ่งยากสำหรับเจ้า” เจ้าแห่งยันอา พูดขึ้น “เจ้าได้ฆ่าอัศวินอวกาศของข้าไป 2 คน และ นักสู้อมตะ มากมาย ทุกอย่างข้าไม่อาจจะมองข้ามได้ เพราะแบบนั้นเมื่อข้าต้องการให้เจ้าชดเชยสมบัติที่แท้จริงระดับทั่วไป ให้กับข้าและออกจากอาณาเขตข้าไป เจ้ากลับกล้าท้าข้าสู้? ฮึ่ม! แค่เด็กน้อยที่บ่มเพาะมากกว่าแสนปี ข้าจะให้เจ้าได้เห็นถึงความต่างของข้ากับเจ้าแห่งจักรวาลที่เชี่ยวชาญในการใช้ภาพลวงตา”
ร่างขนาดใหญ่ที่มีตาเดียวได้มองมาที่ หลัวเฟิง หลัวเฟิง ยังคงยืนนิ่งพร้อมกับดาบที่ห้อยอยู่ที่หลัง
“แบบนั้นเหรอ?” เขาพูดขึ้น
ฮ่ง!
แสงสีทองนับไม่ถ้วนได้ปรากฏขึ้นมาและอวกาศที่เต็มไปด้วยความมืดมิดนั้นก็ได้เปลี่ยนเป็นอาณาเขตทองคำ พลังนับไม่ถ้วนได้ยับยั้ง เจ้าแห่งยันอา ที่คำรามเอาไว้ อยู่ๆ เปลวไฟนับไม่ถ้วนก็ได้ปรากฏขึ้นมา มันมีความต่างเพียงเล็กน้อยระหว่างพื้นที่ทอง และออร่าไฟ
หลัวเฟิง ระวังตัวแต่ ปีกซื่อหวู๋ ของเขานั้นแข็งแกร่งกว่าออร่าไฟ อย่างมาก!
แต่ร่างอมตะของเขาระดับต่ำกว่าเจ้าแห่งยันอา อยู่หนึ่งระดับ ดังนั้นมันจึงทำให้พลังในรูปแบบที่สองของ ปีกซื่อหวู๋ ทัดเทียมกับพลังของออร่าไฟ
ผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นๆ คงไม่อาจจะใช้สมบัติที่แท้จริงประเภทขอบเขตพร้อมกันได้เพราะขอบเขตมันจะทับซ้อนกัน หลัวเฟิง คิด แต่พื้นที่ทอง ของข้านั้นควบคุมอวกาศและเวลา…ดังนั้นมันจึงทำให้เกิดการรวมกันที่สมบูรณ์กับสมบัติที่แท้จริงขั้นประเภทขอบเขตและเวลา!
ใช่แม่น้ำเก้าเสือ นั้นอ่อนแอ ข้าต้องหาสมบัติที่แท้จริงประเภทขอบเขตที่ดีกว่านี้ในอนาคต
หลัวเฟิง คาดหวังกับการไล่ล่าสมบัติของเขา
ด้วยพื้นที่ทอง ที่ทรงพลังมากกว่าสมบัติที่แท้จริงขั้นสูงสุด ประเภทขอบเขต หากเขาได้สมบัติที่แท้จริงขั้นสูงสุด ประเภทขอบเขตมาอีกชิ้น เขาก็จะมีของที่เทียบเท่าได้กับสมบัติที่แท้จริงขั้นสุดยอดประเภทขอบเขต
จักรวาลขนาดเล็กนั้นอาจะมีรูปแบบอื่นอยู่ หลัวเฟิง คิด จักรวาลขนาดเล็ก, พื้นที่ทอง, สมบัติที่แท้จริงประเภทขอบเขต…ของสามอย่างนี้ไม่ได้ลดทอนพลังกัน พวกมันอาจจะใช้ออกมาพร้อมกันได้
อยู่ๆ หลัวเฟิง ก็พบเส้นทางที่เหมาะกับเขา เขาฝ่าฟันมาจนถึงจุดนี้ได้ นอกซะจากว่าเขาได้เป็น เจ้าแห่งจักรวาล มันคงยากมากที่เขาจะสามารถเพิ่มพลังครั้งใหญ่ภายในเวลาอันสั้น แต่จักรวาลขนาดเล็ก พื้นที่ทอง และสมบัติที่แท้จริงประเภทขอบเขต…การรวมพลังของทั้งสามจะกลายเป็นพลังที่แข็งแกร่งของ หลัวเฟิง!
เจ้าแห่งจักรวาลแม่น้ำดวงดาว อาจจะใช้เทคนิคที่ร้ายกาจอย่าง หมอกมืดซึ่งเป็นเหมือนจักรวาลขนาดเล็ก ได้เพราะเขามีสมบัติที่แท้จริงประเภทขอบเขต หลัวเฟิง คิด แต่เขาไม่ได้มีสมบัติอย่าง ปีกซื่อหวู๋ ที่ทำให้เขาควบคุมอวกาศและเวลาได้ เมื่อนึกถึงเรื่องการควบคุมอวกาศและเวลา ข้าคิดว่ามีแค่เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ที่มีพลังเหนือกว่าข้าเพียงเล็กน้อย
ปีกซื่อหวู๋….มันน่าทึ่งจริงๆ หลัวเฟิง อดไม่ได้ที่จะชื่นชมของที่เขามี
อย่างน้อย หลัวเฟิง ก็ไม่ได้ยินว่าสมบัติที่แท้จริงชิ้นอื่นมีพลังแบบนี้ นอกจากนี้ ตอนนี้ ปีกซื่อหวู๋ ยังไม่สมบูรณ์ด้วย ดังนั้น หลัวเฟิง จึงคาดหวังกับมัน
ความคิดมากมายไหลเข้ามาในหัวแต่สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ศัตรู…ตัวตนที่อ่อนแอกว่าเจ้าแห่งจักรวาลแม่น้ำดวงดาว หากไม่ใช้หอคอยดวงดาวแล้วเขาจะเป็นยังไง?
หลัวเฟิง คาดหวังจะหาคำตอบด้วยตัวเอง
“เจ้าเด็กมนุษย์ที่ฝึกฝนเพียงแค่ไม่กี่ยุค” เจ้าแห่งยันอา เย้ยหยันออกมา “ข้าจะสั่งสอนบทเรียนที่เจ้ากล้าหาเรื่องข้า”
จากนั้นด้วยเสียงคำรามที่ดังขึ้นมา แสงจากเปลวไฟก็ได้พุ่งมาตรงตาของ หลัวเฟิง