ตอนที่ 1185 ค้นพบ
หินแตกกระจายไปทั่วทิศทางแบบสุ่ม ทำให้อวกาศถูกบิดเบือน กรงเล็บเท้าสีทองได้เหยียบลงบนเศษหินที่กระจัดกระจายและมาโผล่หน้าหลัวเฟิง
“หายไปซะ” หลัวเฟิงเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย
แสงดาวสีเงินส่องประกาย ปีกสีเงินทั้งสี่ที่อยู่บนหลังหลัวเฟิงขยายตัวขึ้นทันที ขอบปีกนั้นคมจนไม่น่าเชื่อ เทคนิคดาบแสงทอง ได้ปะทะเข้ากับกรงเล็บสีทอง
ดาบสีเงินปะทะเข้ากับเกล็ดสีทองจนเสียงดังกึกก้อง กิ้งก่าเขาเดียวสีทองพุ่งออกมาด้านข้างเล็กน้อย แต่มันถูกหินที่ลอยอยู่บนอากาศชนจนกิ้งก่าทองต้องถอยออกมา ในทางเดียวกันหลัวเฟิงต้องถอยหนีออกมาจากแรงปะทะ
กิ้งก่าสีทองพุ่งเข้าหาหลัวเฟิงอีกครั้ง “เป็นปีกที่ยอดเยี่ยม มันทรงพลังจนสามารถใช้เป็นดาบ”
หลัวเฟิงเพียงยิ้มให้ราวกับเป็นเพียงเรื่องตลก
เนื่องจากวิญญาณปีกซื่อหวู๋ได้เกิดขึ้นมา มันได้ส่งความทรงจำของสี่ปีกที่แท้จริงให้กับหลัวเฟิง รูปแบบการใช้งานต่างๆ รวมถึงการใช้ปีกเหมือนกับดาบ ปีกทั้งหก…คู่แรกใช้แทนดาบส่วนอีกห้าคู่นั้นเป็นส่วนช่วยอยู่ด้านหลัง ปีกคู่บนสุดนั้นคือดาบ ปีกสีขาวที่เสียหายนั้นคือดาบ ขณะที่มันเป็นดาบส่วนอื่นๆ ก็เป็นเหมือนกับด้ามจับดาบ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าปีกที่เหลือนั้นจะด้อยกว่าปีกขาวคู่แข็งแกร่งเพราะความคมของมัน จากการผ่านการต่อสู้ ปีกสีขาวจึงได้รับความเสียหาย ส่วนปีกอื่นๆ ไม่ได้รับความเสียหาย ความคมของปีกสีขาวคู่นั้นสำคัญ แต่ไม่ใช่ว่าปีกซื่อหวู๋จะไม่คม เพียงแต่เทียบกับปีกขาวคู่นั้นไม่ได้ ด้วยพลังต้นกำเนิด ทำให้พลังของปีกสีขาวรุนแรง มีเพียงแค่ปีกสีขาวอย่างเดียวก็น่ากลัว
ปีกซื่อหวู๋ไม่ทรงพลังเท่า มันยังถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของต้นกำเนิดปีก มันจึงดูดซับพลังงานจากต้นกำเนิดในการฟื้นฟูตัวเอง ทำให้เมื่อใช้มันเป็นดาบในการต่อสู้ ก็เท่ากับดาบสมบัติแท้จริงชั้นยอด
หลัวเฟิงดึงดาบที่อยู่ด้านหลังเขาออกมา
“หยินถั๋ว เจ้าคิดว่า ข้าจะกลัวเจ้าหรือไง เจ้ามันก็แค่นักสู้อมตะ การกระทืบเจ้านั้นเป็นเรื่องง่าย”
หลัวเฟิงจับดาบผู้มาเยือน เขาเร่งความเร็วจนเป็นลำแสงผ่านหินที่แตกบินผ่านไปมา ต่อมาขาทั้งสองข้างก็กระทืบลงบนหินขนาด 1 หมื่นกิโลเมตรที่ลอยอยู่รอบๆ
หลัวเฟิงได้พุ่งเข้าหากิ้งก่าสีทอง
“ทำเป็นหยิ่งไปเถอะ” กิ้งก่าสีทองบินมาด้วยความโกรธ มันใช้เขาบนหัวตรงเข้าใส่หลัวเฟิง แต่กลับถูกต้อนรับโดยไฟที่กำลังเผาไหม้
ทะเลเผลิงและอาณาจักรสีทองได้ผสมเข้าด้วยกัน รัศมีดาบสีทองสว่างขึ้นมาบนแสงสีเงิน
หลัวเฟิงใช้ดาบและปีกในเวลาเดียวกัน พร้อมกับเพิ่มขีดความสามารถจากทะเลเพลิงกับอาณาจักรสีทอง ทำให้เขาสามารถโจมตีหัวอันแข็งแกร่งของมันได้ รอยแตกกระจายเกิดขึ้นมาในพื้นที่กะทันหัน หลัวเฟิงและกิ้งก่าสีทองถูกเหวี่ยงจากแรงกระแทกอันรุนแรงนั้น
ระหว่างนั้นพวกเขาก็ได้รับแรงกระแทกจากเศษหินที่บินกระจายไปทั่วด้วยความเร็วที่มากกว่าแสง 100 เท่า
“เจ้าต้องใช้การอวกาศและเวลาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถเป็นสองเท่า ไม่เช่นนั้นเจ้าก็จะทำร้ายข้าไม่ได้ เห็นได้ว่าเจ้ามีร่างกายอมตะ และเทคนิคอ่อนแอกว่าข้า ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะไม่ถูกฆ่าที่หุบเขาเทพการทำลายนี้”
หลัวเฟิงมองที่กิ้งขามีเขาสีทอง การต่อสู้จนมาถึงตรงนี้เขายังไม่เคยเปิดเผยไพ่ตายของเขา เขายังไม่เคยถูกบังคับให้เปิดเผยถึงขีดจำกัดในปัจจุบันของเขา
อาณาจักรสีทองกับทะเลเพลิงก็เพียงพอที่จะหยุดสมบัติแท้จริงชั้นสูงประเภทพื้นที่ได้แล้ว ด้วยสถานะการปกติระดับนี้มันก็คงเพียงพอแล้ว ด้วยอาณาจักรสีทองของหลัวเฟิงเพียงอย่างเดียว ถึงพลังงานอมตะยังคงขาดๆ อยู่ มันก็เปรียบได้กับสมบัติแท้จริงประเภทพื้นที่ชั้นยอดที่เจ้าแห่งจักรวาลใช้
แต่ในมหาสมุทรจักรวาลนั้นไม่ได้มีเพียงแค่บุคคลอันพิเศษ มันมีแม้แต่ผู้ที่อยู่ในระดับสูงๆ เช่นเดียวกับผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ถ้าเขาใช้พลังสูงสุดของอาณาจักรสีทอง ความแข็งแกร่งของปีกซื่อหวู๋ก็จะถูกแพร่กระจายออกไป สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ทั้งหลายก็จะโลภมากขึ้น
“ถ้าไม่จำเป็นจริงไม่จำเป็นต้องใช้” หลัวเฟิงคิด
หลัวเฟิงไม่ได้กลัวที่จะถูกเปิดเผย เขาไม่จำเป็นต้องทำอะไร เพราะไม่มีใครแย่งมันไปจากเขาได้ หยินถั๋วเพียงคนเดียวไม่พอจะให้เขาแสดงพลังเต็มที่ออกมา
“หยินถั๋ว ด้วยความสามารถเล็กน้อยของเจ้า เพียงแค่ปะทะกันครั้งเดียวก็พอ ข้าไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับเจ้าที่นี่”
หลัวเฟิงยืนอยู่ห่างๆ กลางอากาศ ดาบเพลิงถูกรวมเข้าด้วยกันจากทะเลเพลิง
ดาบเพลิงใช้เทคนิคจนมองเห็นไม่ชัดได้พุ่งเข้าหากิ้งก่าสีทอง แต่ในเวลาเดียวกันหลัวเฟิงนั้นได้หันหลังกลับและบินออกไปด้วยความเร็วสูง เขาใช้จิตสำนึกส่วนหนึ่งในการควบคุมดาบให้ต่อสู้กับกิ้งก่าสีทอง
ดาบเปลวเพลิงเทียบได้กับสมบัติแท้จริงชั้นสูง พร้อมกับการเสริมพลังจากอาณาจักรสีทอง มันอาจอ่อนแอถ้าเทียบกับพลังที่ตั้งใจฆ่า มันมีพลังเทียบได้กับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นสาม มันไม่พอที่จะทำลายกิ้งก่าสีทอง แต่ก็พอที่จะขัดขวางมันได้
“เจ้ามนุษย์ เจ้ากล้าคิดที่จะหนีงั้นรึ” กิ้งก่ามีเขาสีทองคำราม
หลัวเฟิงยังคงบินต่อไปด้วยความเร็วสูง โดยทิ้งให้ดาบไฟของเขายังคงสู้กับกิ้งก่าสีทอง โดยที่มันก็พยายามไล่ล่าหลัวเฟิงไปด้วย
“เจ้าก็รู้ว่าไม่สามารถตามจับข้าได้ เจ้าไม่สามารถที่จะทำอะไรข้าได้ แล้วยังกล้าที่จะยืนกรานแบบนั้นอีกหรือไง”
คิ้วของหลัวเฟิงงอเล็กน้อยเมื่อมองไปยังด้านหน้าเป็นวังวนลาวาอันน่ากลัว ดินแดนสีดำที่มีหินแตกจำนวนมาก หินกำลังสั่นสะท้านไปมาด้วยความรวดเร็ว
หลัวเฟิงมองมันพร้อมกับหัวเราะ “เขาคงคิดว่าข้าไม่รู้ความลับของวังวนลาวาจึงกล้ามาลงมือ แล้วต้องการต่อสู้กับข้าที่นี่”
ไม่ว่าดาบเพลิงจะพุ่งเข้าหาสักกี่ครั้ง กิ้งก่าสีทองก็พยายามที่จะไล่ตามหลัวเฟิงอย่างไม่ลดละ
“หยินถั๋ว เจ้าคิดว่าข้าจะไม่รู้อันตรายของวังวนลาวางั้นรึ” เสียงของหลัวเฟิงสะท้อนมาถึงกิ้งก่าสีทอง
กิ้งก่าสีทองนั้นประหลาดใจและนิ่งไปชั่วครูหนึ่ง
“เขารู้ได้ยังไง มันจะมองไม่เห็น เพราะมันอยู่ที่แกนกลางของวังวนลาวา ทำให้การสำรวจมันเป็นไปไม่ได้ สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ส่วนมากจะวิ่งหนีมันหรือหลบเลี่ยงจากพื้นที่ส่วนกลางของทะเลลาวา ข้อมูลนี้เป็นความลับสูงมาก แม้แต่ข้าก็เพิ่งได้เรียนรู้เรื่องนี้” หยินถั๋วคิด
หยินถั๋วนั้นตกใจจริงๆ เดิมที่เขาต้องการใช้อำนาจที่เหนือกว่าของแกนกลางในการทำลายเขา ไม่มีทางที่เขาจะหนีรอดมันไปได้ แต่เขากลับ…
เนื่องจากหลัวเฟิงรู้กลอุบายของหยินถั๋ว แล้วยังควบคุมอวกาศและเวลาในพื้นที่ จึงไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะใช้แกนกลางลาวาทำลายเขาได้
“เขารู้เกี่ยวกับมันได้ยังไง แม้แต่คนที่มีอำนาจสูงในยุคจุติที่สองยังมีคนรู้น้อยมาก แล้วมหาอำนาจของจักรวาลดั้งเดิมรู้ความลับนี้ได้อย่างไร”
หยินถั๋วรู้สึกโกรธแค้นอย่างมาก
ความจริงคือมันเป็นเรื่องธรรมดาที่เจ้าแห่งจักรวาลนั้นจะต่อสู้กันเอง แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะฆ่ากัน การเอาตัวรอดที่แข็งแกร่งในพื้นที่อันตรายและรู้ถึงความลับของอันตรายที่ซ่อนอยู่ พวกเขาก็สามารถใช้อันตรายจากพื้นที่เหล่านี้ในการฆ่าศัตรูของพวกเขา
“ฮ่า ฮ่า…” หลัวเฟิงโบกมือแล้วส่งเสียงหัวเราะ หลังจากนั้นก็บินออกไปโดยทิ้งเป็นแนวแสงไว้
หินจำนวนมากมายกลางพื้นที่สีดำอันกว้างใหญ่ ได้แตกกระจายไปทั่ววังวนลาวา ลึกเข้าไปมียานอวกาศสีน้ำเงินได้ซ่อนตัวอยู่ในหมู่หินจำนวนมาก มันได้เสียหายอย่างรุนแรง และเริ่มค่อยๆ หลุดออกจากพื้นดิน มันค่อยๆ โผล่ขึ้นมาให้เห็นจากพื้นดินอย่างช้าๆ
“สมบัติแท้จริง” กิ้งก่ามีเขาสีทองได้ส่งเสียงดังขึ้นมา
“มันต้องเป็นสมบัติแท้จริง” หลัวเฟิงกล่าว
แม้ว่าหลัวเฟิงกำลังเร่งความเร็วอย่างเต็มที่ แต่เขาก็ยังลื่นไถลออกนอกเส้นทาง
แต่เดิมพื้นที่อันตรายทั้งสามเป็นสถานที่เกิดของสมบัติแท้จริงจำนวนมากมาย แม้แต่ขวานยักษยังสามารถได้รับสมบัติแท้จริงสูงสุดในส่วนยอดเอียง
หลัวเฟิงอยู่ในเรือจักรวาลมานานหลายปี แต่มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นสมบัติแท้จริง
“แม้ว่าสมบัติแท้จริงจะเสียหาย แต่รัศมีรอบๆ ก็ทรงพลังอยู่มาก” หลัวเฟิงคิด
ด้วยสภาพแวดล้อมอันร้ายแรงของหุบเขาเทพการทำลาย สมบัติแท้จริงที่มีพลังน้อยต้องถูกทำลายไปแล้ว แม้ว่ามันจะเสียหายแต่จะต้องเป็นสมบัติแท้จริงประเภทวังบิน
หลัวเฟิงได้ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ไม่ว่ามันจะเสียหายแค่ไหนอาจารย์ผู้มาเยือนสามารถซ่อมแซมส่วนที่เสียหายได้ไม่ยาก หรือแม้ว่าจะให้ปีกสีขาวกินมันเพื่อฟื้นฟูก็ได้เช่นกัน
สมบัติแท้จริงทั่วไปและสมบัติแท้จริงชั้นกลางไม่มีทางรอดจากสภาพแวดล้อมของหุบเขาเทพการทำลาย
“มันคือของข้า” หยินถั๋วตะโกน
“ฮ่า ฮ่า เจ้าคิดว่ามันจะเป็นของเจ้าเพียงเพราะเจ้าพูดงั้นหรือ” หลัวเฟิงพูดพร้อมหัวเราะเยาะ เขาเป็นคนที่ใกล้ที่สุดและควบคุมอวกาศและเวลาในพื้นที่นี้
ช่วงเวลาที่ยานอวกาศสีน้ำเงินเข้มถูกขุดขึ้นมา แสงสีทองได้ปกคลุมรอบมันและส่งมันบินมาหาหลัวเฟิงอย่างเร็ว หลัวเฟิงได้ส่งพลังงานเข้าไปในยานอวกาศสีน้ำเงินนั้นอย่างเร็ว
หยินถั๋วได้เห็นทุกอย่างเกิดขึ้นก็แยกเขี้ยวออกมาด้วยความโกรธ “ไอ้เลว”
หยินถั๋วเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ทำไมเขาถึงได้อยู่ในหุบเขาเทพการทำลายเป็นเวลานาน ก็เพราะมันเป็นหนึ่งในดินแดนที่อันตรายที่สุด ยิ่งสถานที่นั้นอันตรายเท่าไรสมบัติที่แท้จริงก็ยิ่งปรากฎมากขึ้น ตัวเขาที่ไม่แข็งแกร่งพอที่จะเข้าไปยังพื้นที่หลัก เขาจึงอยู่ในหุบเขาเทพการทำลายเป็นเวลานานเพื่อรอโอกาส เขายังทราบอีกด้วยว่าวังวนลาวาที่ทำให้พื้นที่เกิดความเสียหาย ยังจะทำให้สมบัติแท้จริงปรากฎขึ้นมาด้วย เขาไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นมาในเวลานี้
“ฮ่า ฮ่า สมบัติแท้จริงประเภทวังบิน แม้ว่ามันจะได้รับความเสียหาย แต่ก็ถือว่ายังมีค่า ช่างน่าประหลาดใจ หยินถั๋วน่าจะเป็นดาวนำโชคของข้าจริงๆ”
หลัวเฟิงจัดการกับยานอวกาศสีฟ้าเสร็จก็นำมันกลับมายังแหวนโลก
อีกด้านของวังวนลาวา มีสองร่างโผล่ขึ้นจากถ้ำ มันเปลี่ยนเป็นเส้นแสงมาทางวังวนลาวา พวกเขาคือเผ่าพันธุ์ดวงตาศักดิ์สิทธิ์
“วังวนลาวาปรากฎขึ้น อาจมีสมบัติแท้จริงปรากฎขึ้นมา ดูนั่น ดาวเคราะห์สีฟ้านั้นคือสมบัติแท้จริงประเภทวังบิน” หนึ่งในนั้นกล่าว
“เจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส ดูนั่น กิ้งก่ามีเขาสีทอง…นั่นควรจะเป็นหยิน ถั๋ว เพียงแค่หยินถั๋ว ไม่คณามือเจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออสมากนัก”
“โอ้ยังมีอีกคนงั้นรึ”
สิ่งมีชีวิตทั้งสองมาจากเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์อยู่ในหุบเขาเทพการทำลายเป็นเวลานาน เมื่อพวกเขาตรวจพบวังวนลาวา พวกเขาก็จะมาปรากฎตัวในไม่ช้า เมื่อพวกเขามาถึงก็รับรู้ถึงยานอวกาศสีฟ้าในทันที ในขณะเดียวกันเขาก็พบกับสิ่งมีชีวิตที่มีพลังจิตวิญญาณเช่นกัน
“แสงสีทอง ปีกสีเงิน นั่นต้องเป็นผู้นำปีกสีเงิน”