ตอนที่ 1196 : ใจเย็นๆ
ข่าวการต่อสู้ระหว่าง หลัวเฟิง และ เจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส, เจ้าแห่งจักรวาลศรสุดท้าย และหยินถั๋ว ถูกเผยแพร่ไปทั่วยุคจุติทั้ง 3 และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 2 อย่างไรก็ตามข่าวนี้ออกมาว่า เจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส เป็นผู้ที่หนีรอดออกมาจากทะเลลาวาได้ และได้ต่อสู้กับ หลัวเฟิง อีกครั้งและทั้งสองได้ตายในนรกเหนือ ทะเลสาบเพลิง ข่าวนี้สร้างความตกใจให้กับทุกคน
“ไอ้ผู้นำปีกเงิน นั่นช่างโง่เขลายิ่งนัก ทำไมมันถึงต่อสู้กับ เจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส แบบนั้นกัน? เจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส เป็นผู้ที่มาจากจักรวาลเริ่มแรกเลยนะ! เจ้าแห่งจักรวาล พวกนั้นบ้ากันไปหมดแล้ว พวกมันกำลังจะเจอกับความตาย ถึงแม้พวกมันจะเอาชีวิตรอดมาได้ตอนนี้แต่พวกมันก็จะตายในอนาคตข้างหน้า มันฝึกฝนมานานเท่าไหร่กัน? มันโชคดีเฉยๆ ที่มีปีกสมบัติที่แท้จริงและมันเต็มใจที่จะยอมตายงั้นเหรอ? ฮึ่ม! ต่อไปนี้มันคงจะยากสำหรับมันที่จะเอาสมบัติแบบนั้นมาได้!”
“อย่างน้อยเจ้า หลัวเฟิง มันก็ตายไปพร้อมกับ ฟาคาออส”
“ฟาคาออส มันปัญญาอ่อน ถ้ามันเป็นผู้ยิ่งใหญ่จากยุคจุติที่ 1 ล่ะก็มันไม่ทำแบบนั้นแน่ มันควรจะล้มเลิกไปแล้วหลังจากรอดมาจากทะเลลาวา มันยังคงไล่ หลัวเฟิง ต่องั้นเหรอ? ไม่แปลกใจเลยที่มันมาจากยุคจุติแรก มันได้ตายไปแล้ว”
“น่าสนใจยิ่งนัก ทั้งคู่มีหลายร่าง และถ้าพวกเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป”
“เจ้า หลัวเฟิง จะสู้กับ ฟาคาออส ยังไงถ้าไม่มีสมบัติที่แท้จริง ปีกเงินนั้น?”
“ทั้งคู่ตาย นั่นหมายความว่า เกราะเทพทำลายล้าง และปีกเงิน อยู่ในนรกนั่น ฮ่าๆ ข้าจะไปที่นั่นแน่ๆ”
“มีนรกทั้งหมด 12 ขั้น เจ้ารู้ไหมว่าพวกมันอยู่ขั้นไหน? ถ้ามันไม่ใช่ที่สำหรับ เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด พวกมันคงไม่กล้าที่จะไป”
หลังจากการต่อสู้ หลัวเฟิง เป็นที่รู้จักไปทั่วทะเลจักรวาล อย่างน้อย 3 ยุคจุติและ 2 ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหมดต่างก็รู้จัก หลัวเฟิง และพวกเขาไม่กล้าที่จะมองข้ามเขาไปได้ เพราะ เจ้าแห่งจักรวาลศรสุดท้าย และ เจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส ถูกกำจัดโดยเขา
“เจ้าอยากจะไปที่นรกไหม สกอเปียน? ข้าได้ยินมาว่า เกราะเทพทำลายล้าง และปีกสมบัติที่แท้จริงทั้งคู่อยู่ที่นั่น”
“ข้ามีสมบัติที่แท้จริงชั้นยอด อยู่แล้ว ข้าไม่ต้องการมันหรอก ยิ่งกว่านั้น เจ้ารู้เหรอว่ามันอยู่นรกชั้นไหน? ข้าเชื่อว่าจะมี เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด จำนวนหนึ่งของเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์ กำลังมุ่งไปที่นั่น เมื่อเทียบกับ เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด กลุ่มนั้นแล้วจะให้ความสำคัญกับเกราะเทพทำลายล้าง ซะมากกว่า แต่ข้ามองไปที่ปีกสมบัติที่แท้จริง นั่นควรเป็นสมบัติที่แท้จริงชิ้นแรกที่สามารถควบคุมอวกาศและเวลาได้”
“ถูกของเจ้า”
“สมบัติที่แท้จริง ที่สามารถควบคุมอวกาศและเวลาได้ ฮ่าๆ! ช่างพิเศษยิ่งนัก ยังไงก็ตาม มันไม่มีประโยชน์สำหรับพวกเราหรอก เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดของเราจะออกคำสั่ง พวกเขาจะรวมกำลังกัน นั่นเป็นสิ่งที่มีพลังอำนาจเหนือปีกสมบัติชิ้นนั้นเสียอีก”
“โอเค งั้นข้าจะอยู่ที่นี่กับเจ้า”
เกราะเทพทำลายล้าง และ สมบัติที่แท้จริง ปีกเงิน ล่อความสนใจเหล่าเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด เป็นอย่างมาก เพราะว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะได้สมบัติที่แท้จริงชั้นยอด ใน 3 ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่ ผู้สร้าง ขวานยักษ์ ก็ใช้เวลายาวนานมากในการได้มันมาชิ้นหนึ่ง สำหรับ เกราะเทพทำลายล้าง เป็นลำดับที่ 2 ของสมบัติที่แท้จริงชั้นยอด และ ปีกเงิน นั้นมีค่ามากที่สุด พวกมันล่อตาล่อใจต่อ เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด
ณ ปราสาทของ หลัวเฟิง ผู้นำแห่งทางช้างเผือก
จู่ๆ ก็มีพลังจิตวิญญาณฉีกอวกาศและเวลาออก
มีผู้รับใช้และผู้ปกป้องนับไม่ถ้วนในปราสาทนั้น และยังมีอัศวินอวกาศหลายคนที่อยู่ที่นั่น เช่น เจ้าแห่งจักรวรรดิแกนวู ถึงกระนั้นเหล่า เจ้าแห่งจักรวาล ก็ยังไม่รับรู้ถึงพลังจิตวิญญาณนี้
“ห๊ะ?”
ในห้องฝึกที่เงียบสงบ มีผู้รับใช้ 9 นายป้องกันข้างนอก
ภายในห้องนั้น มีร่างกาย มหาสมุทร ของหลัวเฟิงนั่งไขว้ขาอยู่และมีสระน้ำข้างๆ เขา สระน้ำ เป็นประตูเดินทางเข้าจักรวรรดิและมันเชื่อมกับจักรวรรดิเทพของเขา สำหรับหลายปีนั้นร่าง มหาสมุทร บางครั้งจะเดินทางไปที่โรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล
มีบางสิ่งบางอย่างที่ทรงพลังผ่านเข้ามา มันพร่ามัวไปหมด ก่อตัวขึ้นต่อหน้า หลัวเฟิง มันเป็นชายชราที่มีเขา 2 ข้าง ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่
“อาจารย์” ร่าง มหาสมุทร ยืนขึ้นและแสดงความเคารพ
“หลัวเฟิง” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ มองไปที่ หลัวเฟิง “ข้าได้ยินบางอย่างเกี่ยวกับเจ้า แต่ว่ามันใช่เรื่องจริงหรือเปล่า?”
หลัวเฟิง ตอบไปอย่างเคารพ “มันเป็นเรื่องจริง และข้าท้าพนันมันมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดวงจันทร์ม่วง ข้าอยู่ในทะเลเพลิงแช่แข็ง และข้าโดนล่าโดยเจ้าจักรวาลทั้งสาม จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดวงจันทร์ม่วง และเจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส…ข้าลากเจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส เข้าไปในนรกชั้นที่ 9 เพื่อทำให้ผู้อื่นเกรงกลัวข้า”
“เจ้าทำสิ่งที่ถูกแล้ว” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ กล่าว “เจ้ามีสมบัติที่แท้จริงปีกเงิน สิ่งนี้จะนำพาผู้ยิ่งใหญ่ผู้อื่นมาเอามัน ถ้าพวกเขาเชื่อว่าเจ้าอ่อนแอ พวกเขาก็จะพยายามที่จะยึดมันมาจากเจ้าและหลังจากตอนนี้ ผู้ยิ่งใหญ่บางคนก็จะกลัวเจ้า”
หลัวเฟิง พยักหน้า
“เจ้าสามารถแสร้งทำว่าร่างต้นของเจ้าได้ตายลงไปแล้ว” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ กล่าว “ไปซ่อนตัวซะแล้วฝึกฝนสักพัก แล้ว เทพอสูรของเจ้าล่ะเป็นยังไงบ้าง”
“ข้าเกือบสำเร็จในระดับที่ 6 แล้ว” หลัวเฟิง กล่าว
“ฝึกฝนต่อไปและไปให้ถึงและดับ 7 ให้ได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ จากนั้นเขาก็กระซิบด้วยความกังวล “จำไว้ให้ดี เจ้ากำลังเสี่ยง เมื่ออยู่บนเส้นทางที่ต่อต้านผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย บางทีเจ้าควรจะทำตัวไม่ให้โดดเด่นมากจนเกินไป ข้าคิดว่าเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์ น่าจะส่ง เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด มาที่นี่จำนวนหนึ่ง ปลอดภัยไว้ด้วยล่ะ”
“แน่นอนครับ” หลัวเฟิง พยักหน้า
ฮั๊วะ!
ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ อันตรธานหายไป
หลัวเฟิงพยักหน้า ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ พูดถูก เขาจะทำตัวบ้าเกินไปไม่ได้ มันจะทำให้เขาฆ่าตัวเองและมันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องฝึกฝนพลังของตัวเขาเอง…แม้ว่าเขาจะสามารถสร้างเทคนิคลับออกมาได้แต่นั่นก็ยังอ่อนแอ เนื่องจากเขายังไม่สำเร็จถึงขั้นที่ 7 ของเส้นทางเทพอสูร
จากนั้น หลัวเฟิง ก็ยิ้ม
ถึงแม้ว่า ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ จะมาที่นี่เพื่อพูดเท่านั้นแต่เขาก็รู้สึกว่า ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ก็มีความกังวลอยู่บ้าง เพราะว่า หลัวเฟิง ยังคงอ่อนแอ ส่วน ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ นั้นสามารถควบคุมได้ทุกอย่าง อย่างไรก็ตามนี่เป็นเจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส ที่ หลัวเฟิง ได้ต่อกรด้วยและยังมี เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด จากเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์ เข้ามายุ่งอีก แม้แต่ ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ก็ไม่สามารถรับมือกับสิ่งนี้ได้
ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ เข้ามาพูดคุยกับ หลัวเฟิง แต่ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ไม่เคยเข้ามาคุยกับเขาเลย
ณ จุดสูงสุดของเกาะสายฟ้า ในจักรวาลเสมือน เจ้าแห่งจักรวาลหลงหยาง กำลังถือแก้วไวน์อยู่
“ทำไมเจ้าไม่ไปดู หลัวเฟิง?” เจ้าแห่งจักรวาลหลงหยาง ถาม
“ไม่จำเป็น เขาไม่ได้โง่เขลา” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ขมวดคิ้วและเทไวน์ในแก้วลง “มากไปกว่านั้น ข้าช่วยเขาไม่ได้ เขามีร่างมหาสมุทร ดังนั้นร่างต้นที่เป็นมนุษย์ของเขาจะสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว ยังไงก็ตามข้าไม่ได้ยินอะไรจากเขามาพักหนึ่งแล้ว”
เจ้าแห่งจักรวาลหลงหยาง ถือแก้วไวน์พร้อมกับเสียงหัวเราะ
เขาคิดว่า ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล เป็นห่วง หลัวเฟิง แต่ไม่ต้องการที่จะพูดออกมาเท่านั้นเอง
นรกชั้นที่ 9
ฮ๊ง! ล๊ง! ล๊ง!
สร้อยจี้ดำ และพีระมิดที่เปื้อนเลือดนิดๆ กำลังบินอยู่ข้างในนรกที่ไม่มีวันจบสิ้น
“นี่ก็ 6 วันแล้วตั้งแต่ข้าเข้ามาในนรกนี่ แต่ก็ยังถูกดึงดูดด้วยพลังนั่น” หลัวเฟิง กล่าว “เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด บางกลุ่มอาจจะเข้ามาที่นี่หลังจากรู้เรื่องนี้ แต่มันก็ใช้เวลาหลายปี สำหรับพวกเขาในการมาถึงที่นี่”
หลัวเฟิง ยังคงใจเย็นอยู่ เขากำลังควบคุม พีรมิดเลือด มันมีขนาดเท่ากับสร้อยจี้ดำ ดังนั้นโดยปกติแล้วทั้งคู่ก็จะตามๆ กันไปด้วยพลังแรงโน้มถ่วง หลัวเฟิงสามารถที่จะควบคุม พีรมิดเลือด ได้ดังนั้นเขาจึงไล่ตามเข้าใกล้จี้ดำได้
เพื่อที่จะคว้ามันมา พลังจิตวิญญาณของเขาจะถูกบดขยี้ทันทีเมื่อออกไป ส่วนพลังของพื้นที่สีทองนั้นไม่มีผลอะไรเลยเมื่อเทียบกับพลังแรงดูดแล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถที่จะเอาสร้อยจี้ดำได้เลย
“ตามพลังดูดกลืนนั่นไป ข้าจะเข้าผ่านไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ความมืด และชนเข้ากับวัตถุลึกลับนั่นจากนั้นข้าจะเข้าไปที่เขตสังหารแล้วหอคอยดวงดาวของข้ากับจี้ดำก็จะออกมาได้ทั้งคู่ แล้วข้าก็จะเข้าไปที่เขตร้อนสุด”
ดินแดนนรกอันตรายอย่างมาก แม้แต่ เจียฟานฉี ก็ไม่ได้บันทึกอะไรเกี่ยวกับมันไว้เลย ถึงแม้ว่า เจียฟานฉี จะเคยเข้าไปที่นั่นมาก่อน เขาเพียงแค่ผ่านเข้ามาในเวลาอันสั้นโดยไม่ได้ตรวจสอบมันอย่างละเอียด
สิ่งหนึ่ง การออกไปจากนรกนี่ยากยิ่งกว่าการเข้ามาเสียอีกและมันอันตรายมากๆ อีกทั้งไม่ค่อยมีสมบัติที่แท้จริงอยู่ที่นี่เลย ความอันตรายที่ปราศจากสมบัติที่แท้จริง…เป็นอะไรที่เสียเวลามากเพื่อมาสำรวจ
“แรงดูดกลืนเริ่มอ่อนแอลงแล้ว มันอ่อนแอลงแล้ว!”
หลัวเฟิง ดีใจอย่างมาก แรงดึงดูดมากที่สุดในวันที่ 4 และจากนั้นมันกลับผันผวน หลัวเฟิง สรุปได้ว่าพลังแรงดึงดูดนั่นไม่ได้รุนแรงตลอดเวลา
ฮั๊ว! ฮั๊ว! ฮั๊ว!
พลังแรงดูดสั่นคลอนและหลังจากนั้นไม่นาน พื้นที่สีทอง ก็สามารถต้านมันไว้ได้
“ฮ่าๆๆ”
หลัวเฟิง ถูกใจกับสิ่งนี้อย่างมาก เขาเริ่มใช้พลังพื้นที่สีทอง
พื้นที่สีทอง ห่อหุ้มวัตถุสีดำ ที่กำลังลอยอยู่ในระยะนั้นและค่อยๆ ดึงดูดมันอย่างช้าๆ มันเข้าใกล้กับ หอคอยดวงดาว เรื่อยๆ แขนยื่นออกไปจากหอคอยดวงดาว คว้าวัตถุสีดำนั้นมาและนำเข้าไปในยาน
“สำเร็จ” หลัวเฟิง เต็มเปี่ยมด้วยความสุข