Skip to content

Swallowed Star 1248

ตอนที่ 1248 การสอนสั่ง

ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลและผู้สร้างขวานยักษ์มีความชัดเจนในความเปลี่ยนไปของหลัวเฟิง เขาดูเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น

เนื่องด้วยหลัวเฟิงคือศิษย์อันดับหนึ่งของผู้นำเมืองเขาจึงถูกทำให้มีข้อมูลน้อยเป็นอย่างมาก เขามักจะทำให้คนภายนอกนั้นสับสนว่าเขานั้นอยู่หรือตายไปแล้ว

ตลอดเส้นทางการเติบโตถูกสังเกตโดยผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล และขวานยักษ์ พวกเขารู้เป็นอย่างดีว่าหลัวเฟิงเริ่มต้นจากอะไรและสิ่งใด เขามักจะมีความมั่นใจในสิ่งที่เขาทำสำเร็จ เขาจะทำการเตรียมตัวเป็นอย่างดีและจะไม่ทำหากเป็นสิ่งตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาพูด หากเขามีการตัดสินใจที่แน่วแน่และมั่นใจ เขาก็จะทำมันสำเร็จ

“ทุกสิ่งได้อยู่ในหัวใจของเจ้า?” ผู้สร้างขวานยักษ์ได้หัวเราะออกมาเสียงดังมาก

“ทุกสิ่งอย่างงั้นรึ อะไรที่ทำให้เจ้ามีความมั่นใจขนาดนั้น แค่ได้ฟังเจ้าพูดก็ทำให้ข้ามีความสุขมาก”

“จากอมตะจนไปถึงขีดจำกัดของเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ถ้าเช่นนั้นเจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าสามารถที่จะผ่านยุคกำเนิดไปได้แน่”

ผู้สร้างขวานยักษ์ที่ฟังอยู่ได้มองมายังหลัวเฟิง

การจะฝ่าการกลับมาเกิด…แม้แต่กับขวานยักษ์ก็ยังรู้สึกกลัวและรับรู้ถึงความพ่ายแพ้ เขาไม่มีแม้แต่ความมั่นใจ

หลัวเฟิงพูดจริงจัง “การสืบทอดสายน้ำวูดูวงมีความรู้ที่กว้างใหญ่มาก ข้าอยู่ภายใต้อิทธิพลของจักรวาลดั้งเดิม ข้าจึงได้รับอนุญาติให้เข้าถึงข้อมูลมรดกที่ขีดจำกัดของเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ด้วยสิ่งนี้ ข้าจำเป็นต้องผ่านการกลับชาติมาเกิดจึงจะหลุดพ้นอิทธิผลของจักรวาลดั้งเดิม”

“อำนาจจิตจักรวาลดั้งเดิม?”

ขวานยักษ์และผู้นำเมืองมองหน้ากัน คนอื่นนั้นอาจจะไม่รู้แต่ก่อนหน้านี้ทั้งสองมีการติดต่อกับอาจารย์บ่อยที่สุด หลังจากอาจารย์ต้นกำเนิดได้ถูกขังเอาไว้ เมื่อใดที่อาจารย์ต้นกำเนิดต้องการติดต่อกับมนุษย์เขาจะทำผ่านทั้งสองคน มันคือเหตุที่เขาได้ยินเกี่ยวกับอำนาจจิตจักรวาลดั้งเดิม

มีเก้าหินว่างอยู่ทั้งสองข้างของโต๊ะหิน ที่โต๊ะหินมีผู้นำเมือง ผู้สร้างขวานยักษ์ และหลัวเฟิงนั่งอยู่ ตรงเก้าอี้หินที่ว่างอยู่ตรงข้ามกับขวานยักษ์ได้ปรากฏร่างชุดคลุมสีขาวขึ้นมา แต่พวกเขาทั้งสามนั้นไม่ได้รับรู้ถึงมัน

“อำนาจจิตจักรวาลดั้งเดิม?” อาจารย์ต้นกำเนิดขมวดคิ้ว

“ทว่าเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดยังคงต้องฝึกฝนต่อ ข้ารู้ถึงขีดจำกัดของเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด นั่นคือสิ่งข้ารู้”

“นี่เป็นขีดจำกัดพื้นฐาน ข้าจำเป็นต้องประสบความสำเร็จและก้าวไปสู่ระดับใหม่”

“ถ้าหากเจ้าไปสู่ระดับใหม่ เจ้าสามารถกลับชาติมาเกิดได้อย่างแน่นอน”

หลัวเฟิงตกตะลึงและมองไปที่ผู้สร้างขวานยักษ์ เขาสามารถที่จะคาดเดาได้เกี่ยวกับการกำเนิดใหม่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหาข้อมูลใดๆ ด้วยขีดจำกัดของเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ขวานยักษ์ได้พูดออกมาอย่างมั่นใจจริง ทำให้ผู้นำเมืองยังมองมาด้วยความประหลาดใจ

ขวานยักษ์ได้มองมาที่หลัวเฟิงและผู้นำเมืองก่อนที่จะพูด “มันง่ายมาก เมื่อเจ้าประสบความสำเร็จเมื่อเจ้าก้าวเข้ามาเป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด เจ้าจะเข้าใจเองว่าทำไมข้าถึงรู้เรื่องนี้ การพัฒนาอย่างสมบูรณ์จากระดับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดไปสู่อีกระดับ จำเป็นต้องผ่านการกำเนิดใหม่ ถ้าเจ้าไม่สามารถไปสู่ระดับใหม่ เจ้าแค่พยายามเสี่ยงโชค ยังมีความเป็นไปที่จะบรรลุความก้าวหน้า โอกาสนั้นมีแค่ไหนหากดูเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดมากมายที่ถูกทำลายเมื่อจะก้าวผ่านยุคกำเนิด แค่เห็นมันก็รู้ว่าโอกาสของเจ้านั้นต่ำเพียงใด”

“ใช่” หลัวเฟิงและผู้นำเมืองพยักหน้า

อย่างน้อยก็สิบล้านยุคกำเนิด ก็มีเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดมากมายเพียงใดในมหาสมุทรจักรวาลก็ยากที่จะบอก แต่ผู้ที่สำเร็จในจำนวนนั้นมีเพียงแค่สองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ทั้งสองนั้นเพียงแค่บรรลุถึงระดับใหม่ หรือไม่ก็ประสบความสำเร็จในระดับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดด้วยการเดิมพันนี้ แต่ก็ไม่มีใครที่รู้เรื่องนี้

“เจ้าแห่งจักรวาลกลายเป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดได้อย่างไร” ผู้นำเมืองถามเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับเขาเป็นการส่วนตัว

“สำหรับการพัฒนาของเจ้าแห่งจักรวาลมีความแตกต่างกัน มรดกสายน้ำวูดูวงได้ให้คำแนะนำหรือไม่” ขวานยักษ์เสริม

“ครับ” หลัวเฟิงพยักหน้า

“ในอารยธรรมโบราณนั้นมีสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่จำนวนมากที่ประสบความสำเร็จในการกลายเป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด แต่ละคนต้องผ่านเกณฑ์ที่มีขนาดใหญ่มาก แต่มีการกล่าวไว้อย่างเป็นระบบ มีประสบการณ์หลากหลายที่จะทำให้ท่านประสบความสำเร็จสูงสุด ในช่วงท้ายของยุคกำเนิด เผ่าพันธุ์มนุษย์ของเราน่าจะมี 4-5 เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด แต่หากมีคำแนะนำ เพิ่มเติมจำนวนจะเพิ่มทวีคูณขึ้นอีกมาก”

ก่อนหน้านี้เผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์ได้ให้กำเนิด 7 เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด

เผ่าพันธุ์มนุษย์มีเพียงสองเท่านั้นจนถึงทุกวันนี้ นั่นคือเหตุผลที่จะทำให้กำเนิดเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดได้เพียง 4-5 สำหรับสิ่งนี้ก็นับว่าเป็นข่าวดีแล้ว

“จำนวนทวีคูณ?” ขวานยักษ์และผู้นำเมืองตกใจ

“นั่นไม่ใช่ว่าเจ้าแห่งจักรวาลเกือบทุกคนจะได้เป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดงั้นรึ” ผู้นำเมืองถาม เผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นมีเจ้าแห่งจักรวาลทั้งหมด 19 คน

“ไม่ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าว่าไว้ จากเจ้าแห่งจักรวาลไปยังเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดมีเกณฑ์ที่น่ากลัวที่ต้องผ่าน แม้ได้คำแนะนำจากอารยธรรมโบราณ การผ่านไปได้จะถูกเพิ่มถึงจุดสูงสุด แต่ก็ยังมีระดับความยากที่ค่อนข้างสูง ข้าอ้างอิงจากระบบการฝึกฝนทั้งหมด”

“สิ่งนั้นคือจากอมตะไปถึงเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ปัจจุบันเผ่าพันธุ์มนุษย์มีอัศวินเพียงไม่กี่พันคน เจ้าแห่งจักรวาลเกือบ 20 คน ภายใต้ระบบการปรับปรุงที่ดีขึ้น มนุษย์จะมีอัศวินมากกว่า 1 แสนคน และหลายร้อยเจ้าแห่งจักรวาล ระบบการฝึกฝนนี้จะช่วยให้ผู้มีความสามารถน้อยลงตามธรรมชาติ และผู้ที่เข้าถึงระดับอัศวินเท่านั้นที่จะได้ก้าวไปเป็นเจ้าแห่งจักรวาล”

“ด้วยสิ่งนี้ความสามารถของเจ้าแห่งจักรวาลหลายร้อยคนนี้ไม่อาจเทียบกับเจ้าแห่งจักรวาลทั้ง 20 ของเผ่าพันธุ์มนุษย์เรา ข้าคิดว่าเจ้าแห่งจักรวาลจำนวนหลายร้อยคนนี้สามารถยกระดับเป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดเพียงไม่กี่สิบคน ถ้าหากพวกเขาโชคดี จำนวนของเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดคงจะใกล้เคียง 100 คน”

ผู้นำเมืองและผู้สร้างขวานยักษ์อยู่ในความเงียบ พวกเขานั้นตกใจอย่างมาก

จำนวนเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดกี่คนที่สามารถปลูกฝังในหนึ่งยุคกำเนิด

ยุคกำเนิดที่หนึ่งและสองรวมกันยังมีเพียง 30 เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดเท่านั้น

ในอนาคตอันใกล้นี้เผ่าพันธุ์มนุษย์จะแข็งแกร่งที่สุดในยุคกำเนิดหรือไม่

“นี่มัน…” ผู้นำเมืองเปิดปากออกมาแต่ไร้คำพูด

“เจ้ามั่นใจได้ไหม” ผู้สร้างขวานยักษ์ตาเป็นประกาย

หลัวเฟิงพยักหน้า “แน่นอน เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดเป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ ขั้นบนเส้นทางของสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ เผ่าพันธุ์มนุษย์เราจะแข็งแกร่งขึ้น เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดใกล้หนึ่งร้อยสำหรับเราก็เป็นไปได้สูงเช่นกัน”

“ดี เช่นนั้น เจ้าให้คำแนะนำแก่เรา และให้เราเห็นว่าอารยธรรมโบราณนั้นมีความน่าประทับใจแค่ไหน” ผู้สร้างขวานยักษ์กล่าว

“ได้แน่นอน” หลัวเฟิงตอบด้วยความมั่นใจ

ขวานยักษ์พยักหน้า “ข้าจะจัดการให้พวกเขาบางคนมาที่นี่”

———-

พื้นดินผืนหนึ่งที่ลอยอยู่ในพื้นที่ว่างเปล่า ที่นั่นมีวังเทพของขวานยักษ์อยู่

ด้านหน้ามีโต๊ะหินยาวและเก้าอี้หินสองด้าน ที่นั่นเริ่มมีร่างหลายร่างปรากฏขึ้นมา

“ผู้สร้างขวานยักษ์ เหตุใดถึงได้เรียกเราเร่งด่วนเช่นนี้” เจ้าแห่งจักรวาลเป็งกงถามพร้อมยิ้ม

ในเวลาเดียวกันเจ้าแห่งจักรวาลคนอื่นๆ ได้ปรากฏตัวขึ้นมาทีละคน พวกเขาคือ เจ้าแห่งจักรวาลแห่งความมืด เจ้าแห่งจักรวาลทองสูญ เจ้าแห่งจักรวาลหลงหยาง และเจ้าแห่งจักรวาลภูเขาน้ำแข็ง รวมผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ในที่นี้ก็มีเจ้าแห่งจักรวาลทั้งหมด 8 คน

เมื่อพวกเขามาถึงสิ่งแรกที่พวกเขาสังเกตก็คือหลัวเฟิงที่อยู่ที่นี่เช่นกัน พวกเขามีความร้อนรุ่มอยู่ภายใน พวกเขาทั้งหมดรู้ว่าหลัวเฟิงได้รับสืบทอดมรดกสายน้ำวูดูวง สำหรับการแสดงตัวของหลัวเฟิงในครั้งนี้มันจะต้องเกี่ยวข้องกับมรดก

“หลัวเฟิงได้เริ่มรับมรดกสายน้ำวูดูวง” ขวานยักษ์กวาดสายตามองเจ้าแห่งจักรวาลทีละคน

“โกลาหล ความมืด เป็งกง พวกเจ้าทั้งสามคือผู้มีความหวังสูงสุดที่จะได้เป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ทองสูญ หลงหยาง กระจกร้าง ชิงดง และภูเขาน้ำแข็ง เจ้าทั้งห้าก็มีความหวังเช่นกัน ทุกคนควรเข้าร่วมฟังกับเรา ขอให้ฟังสิ่งที่หลัวเฟิงสามารถบอกเราได้ เกี่ยวกับความก้าวหน้าไปสู่เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด”

ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลมีท่าทีสงบ เขามีเพียงแต่รอยยิ้ม แต่อีกเจ็ดคนมีความตกใจและอารมณ์สูงขึ้น การพัฒนาจากเจ้าแห่งจักรวาลเป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดไม่มีแบบอย่างที่ทำตาม เจ้าแห่งจักรวาลทุกคนล้วนแต่เดินไปในเส้นทางที่แตกต่างกัน สิ่งนี้ทำให้พวกเขาปวดหัวเพราะต้องทำมันในช่วงยุคกำเนิดปัจจุบัน นั่นหมายความว่ายุคกำเนิดสิ้นสุดลง พวกเขาต้องเข้าสู่จักรวาลขนาดเล็กของพวกเขา พวกเขาไม่มีโอกาสที่ลองทำมันอีกครั้ง แล้วพวกเขาจะไม่กังวลกันได้อย่างไร

“หลัวเฟิงเจ้ามั่นใจมันแค่ไหน” เจ้าแห่งจักรวาลชิงดง ถามเป็นคนแรก

“ทางช้างเผือก ข้าสามารถเป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดได้ไหม” เจ้าแห่งจักรวาลเป็งกง ถาม

หลัวเฟิงตอบพวกเขาในทันที “สำหรับพวกเจ้าที่นี้มีเพียงไม่กี่คน เผ่าพันธุ์มนุษย์เรามีพรสวรรค์มากแม้จะไม่มีระบบใดๆ ที่จะแนะนำพวกเรา ทุกคนล้วนทำมาด้วยตัวเอง พวกเจ้านั้นพิเศษ ช่วงเวลาที่เรามีคำแนะนำจากอารยธรรมโบราณ พวกเจ้าบางคนจะกลายเป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด สำหรับผู้ที่ไม่พัฒนา ข้าก็ไม่อาจเข้าใจได้ แต่หลังจากฟังสิ่งที่ข้าพูด ทุกคนจะมีความเข้าใจที่ดีขึ้น”

“พวกเจ้าแค่หยุดถามในตอนนี้ แค่ให้หลัวเฟิงพูด” ขวานยักษ์สั่ง

เจ้าแห่งจักรวาลมีความปรารถนาที่จะก้าวหน้า พวกเขาพยายามหยุดความสงสัยและตั้งใจมองมาที่หลัวเฟิง อาจารย์ต้นกำเนิดก็ตั้งใจคอยฟังอยู่เงียบๆ เช่นกัน

หลัวเฟิงจ้องมองพวกเขา “จากเจ้าแห่งจักรวาลสู่เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ทุกคนต้องก้าวไปยังเส้นทางที่แตกต่างกัน ซึ่งที่จริงแล้วสามารถจำแนกได้เป็นสองประเภทหลัก”

ทุกคนกำลังตั้งใจฟังเป็นอย่างมาก

“หมวดหมู่แรกเริ่มจากพลังงานอมตะ หมวดหมู่ที่สองเริ่มจากกฎ”

ผู้สร้างขวานยักษ์ที่ให้ความสนใจเป็นพิเศษก็มีความสงสัยขึ้นมาทันที

“เริ่มต้นด้วยกฎ เป็นกระบวนการในการเป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด จากสิ่งที่ข้ารู้ ทุกคนจะต้องก้าวไปข้างหน้าด้วยกฎ เช่นเดียวกับเจ้าแห่งจักรวาลจากพันธมิตรสัตว์อวกาศที่รวมเข้ากับกฎของสัตว์เทพทั้งแปด หลายคนเริ่มจากกาลอวกาศและเวลาเป็นหลัก ทุกคนมีทิศทางที่แตกต่างกัน”

หลัวเฟิงยิ้ม “เริ่มจากกฎ…90% ของเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดล้วนทำเช่นนั้น สำหรับการเริ่มต้นจากพลังงานอมตะ พลังงานอมตะคืออะไร…พลังงานอมตะก่อให้เกิดรูปร่าง นั่นคือร่างกาย พลังงานอมตะเป็นที่ประทับชีวิต ประกอบขึ้นมาเป็นแกนหลักของชีวิต เช่นเดียวกับเผ่าพันธุ์มนุษย์เรามีวิญญาณ ส่วนเผ่าพันธุ์อื่นอาจไม่มี แต่พวกเขายังมีแกนหลักของชีวิต เจ้าแห่งจักรวาลใดๆ สามารถแปลงพลังงานอมตะอันไม่สิ้นสุด”

“อะไรคือรากฐานของเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดที่จะต้องทำลาย!! ทำลายขีดจำกัดเพื่อจะเป็นอิสระจากสิ่งที่คอยหยุดเอาไว้ การปลดจากพันธนาการทุกชนิดทำให้เราได้เข้าสู่โลกใหม่”

หลัวเฟิงหยุดชั่วคราวจากนั้นก็พูดเคร่งขรึม “เช่นเดียวกับที่เราเริ่มจากกฎ เราบรรลุความก้าวหน้าของเราผ่านกฎเพื่อให้จักรวรรดิเทพทำลายคอขวด และเมื่อจักรวรรดิเทพผ่านคอขวด มันจะเริ่มวิวัฒนาการและแปลงเป็นจักรวาลขนาดเล็ก”

“ในอีกทางหนึ่ง เริ่มต้นด้วยพลังงานอมตะ ยีนชีวิตที่สมบูรณ์แบบของเจ้าแห่งจักรวาลคือ 10,081 เท่า นี่คือขีดจำกัดที่จะใช้ในการเริ่มต้นพัฒนาด้วยพลังงานอมตะ เมื่อพลังงานของเราพัฒนา ร่างและวิญญาณก็จะตามไปด้วย นี่คือความหมายของการใช้พลังต่อกรเทคนิค เราใช้พลังที่เหนือกว่าในการหลุดพ้นพันธนาการ เมื่อเราพัฒนา น้ำหนักที่แบกรับจักรวรรดิเทพของเราจะเริ่มขึ้นจากทั่วไป นั่นคือการผลักดันจักรวรรดิเทพพัฒนาข้ามคอขวด และเริ่มต้นวิวัฒนาการสู่จักรวาลขนาดเล็ก ”

เจ้าแห่งจักรวาลทั้งหมดตั้งใจฟังอยู่เงียบๆ

เผ่าพันธุ์ต่างๆ ทั้งหมดในมหาสมุทรจักรวาลเป็นเหมือนกับคนตาบอดที่ข้ามแม่น้ำ พวกเขาไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนที่ก้าวไปข้างหน้า เพราะจำนวนที่น้อยจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการศึกษาที่เป็นระบบ

“เมื่อหลุดพ้นจากพันธนาการ จากนั้นก็ควบคุมชะตากรรมของเรา กฎก็จะล่าถอยและเป็นการพลิกกระดาน เราจะเป็นผู้กำหนดกฎ การเริ่มต้นด้วยพลังงานอมตะนั้นเป็นสิ่งที่ยากมาก ในส่วนการเริ่มต้นด้วยกฎนั้นเป็นสิ่งที่ง่ายกว่ามาก ข้าขอแนะนำให้เริ่มพัฒนาจากกฎ จากนั้นก็หาวิธีว่าอะไรคือสิ่งที่เราควรทำ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!