ตอนที่ 1336 : 8 ล้านปีต่อมา
หลัวเฟิง ไม่ได้ฆ่า เจ้าแห่งจักรวาล ที่เขาจับมา เขารู้ดีว่าถึงแม้ว่าจะฆ่าไปแต่มันก็ต้องมีคนที่กลายเป็น เจ้าแห่งจักรวาล ได้ในเวลาไม่นาน
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงนั้นยังถือว่าด้อยกว่า ดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพา มากนักและไม่ได้มี เจ้าแห่งจักรวาล มากมายนักแต่มันก็มี 8-10 คน ดังนั้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงจึงไม่ได้รับผลกระทบเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย เขารู้ว่าเขาอาจจะเก็บพวกนี้ไว้เพื่อ ต่อรองกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วง
“มันก็แค่ปีกคู่เดียว มันเป็นเพียงสมบัติแท้จริงทั่วไปสำหรับดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วง ข้าไม่เชื่อว่าบรรพบุรุษของพวกเจ้าจะไม่แลกมันกับ เจ้าแห่งจักรวาล 4 คน” หลัวเฟิง ส่ายหน้าและอุทานออกมา “เขาโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว! เขาถึงกับไม่สนใจพวกเจ้าเลย”
ทั้งสี่พากันโกรธขึ้นมา
“หลัวเฟิง” เจ้าแห่งจักรวาลนอคู ที่ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสี่คนพูดขึ้นมา “อย่าเสียแรงกับเวลาของเจ้าเลย บรรพบุรุษจันทราม่วงคือบรรพบุรุษของเรา ไม่มีใครกล้าไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขา เขารู้แล้วว่าเจ้าต้องการปีกนั่น ดังนั้นไม่ว่าเจ้าจะจับ เจ้าแห่งจักรวาล มาสักกี่คน เจ้าก็ไม่อาจจะแลกเรากับปีกนั่นได้”
“อย่าแม้แต่จะคิด หลัวเฟิง!” เจ้าแห่งจักรวาลยูลัน พูดขึ้น “บรรพบุรุษของเราได้บอกเราให้กลับไปดินแดนศักดิ์สิทธิ์หากเราการันตีการเอาตัวรอดไม่ได้ เราเองที่ไม่ได้ทำ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่สนใจเรา เจ้าต้องการปีกงั้นรึ? เป็นไปไม่ได้!”
หลัวเฟิง ส่ายหน้าและถอนหายใจออกมา “มันไม่จำเป็น มันก็แค่ปีกคู่เดียวและไม่ได้ช่วยพลังข้ามากนัก เจ้าแห่งจักรวาล สี่คนน่ะไม่เพียงพอจะแลกกับปีกคู่เดียว”
“มันไม่ใช่สมบัติแท้จริงทั่วไป” ยูลัน ตะคอกกลับ “มันคือส่วนประกอบของสมบัติแท้จริงที่โดดเด่นจากโบราณ”
“อ่า…” หลัวเฟิง ถอนหายใจออกมา “งั้นพวกเจ้าก็จงรอที่นี่ไปซะ”
จากนั้น หลัวเฟิง ก็หายไป
ทั้งสี่จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงต่างก็มองหน้ากัน พวกเขามองไปรอบๆ ในอวกาศรกร้างด้วยความผิดหวัง…พวกเขาโกรธแต่ไม่อาจจะทำอะไรได้
***
หลัวเฟิง ยังคงเดินทางไปใน ดินแดนแห่งความตาย ทั้งสามด้วยเรือสุสาน เขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร
“ปีกคู่สุดท้ายของปีกซื่อหวู๋…!” หลัวเฟิง อุทานออกมา “มันเกือบเป็นไปไม่ได้ที่จะได้มันมา”
จากที่พวก เจ้าแห่งจักรวาล พวกนั้นพูดมา ตอนที่เขารับรู้ได้ถึงปีกด้านนอกดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วง อัศวินอวกาศในดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงก็รู้สึกได้ว่าปีกของเขาสั่นไหว เขาอยู่ในพื้นที่แยกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วง นอกจากนี้การรับรู้ก็ไกลอย่างมาก…อาจจะ 100 ล้านปีแสง อัศวินอวกาศนั้นตะลึง!
ถ้าเขารับรู้ถึงมันได้จากระยะทางเช่นนี้ มันต้องเป็นสมบัติแท้จริงที่โดดเด่นซึ่งเขาที่เป็นอัศวินไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นเจ้าของมัน เขาได้รายงานต่ออาจารย์ เจ้าแห่งจักรวาลจือหัว ทันที
เจ้าแห่งจักรวาลจือหัว เริ่มสอบถาม เจ้าแห่งจักรวาล หลายคนว่ารับรู้ได้หรือไม่ ยังไงซะทุกคนก็เป็นขุมกำลังเดียวกันแต่เขาก็ไม่พบว่าใครมีส่วนประกอบนี้
บรรพบุรุษจันทราม่วง คือหัวหน้าของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นเขาน่าจะรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในจักรวาลศักดิ์สิทธิ์ เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้เรื่องปีกนี้ด้วย เขาไม่ได้สนใจมันมากนักในตอนแรก หลังจากนั้นบางคนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ใช้สมบัติแท้จริงแลกกับเทคนิคบางอย่างกับพวกในทะเลจักรวาล เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันและหลังจากที่ บรรพบุรุษจันทราม่วง ได้ทำการสืบค้น เขาก็เข้าใจภาพรวมมากกว่าเดิม
ตอนแรก เจ้าแห่งจักรวาลเป่ยซิง โดน หลัวเฟิง ฆ่า แต่ หลัวเฟิง อยู่ในเรือจักรวาลก่อนหน้านี้แต่ เจ้าแห่งจักรวาลเป่ยซิง นั้นอยู่ที่พื้นที่ยอดเขาเอียง พวกเขาอยู่ไกลกันแต่ทันทีที่หลัวเฟิง ฆ่า เจ้าแห่งสายฟ้าผู้ยิ่งใหญ่ ได้ เขาต้องมุ่งหน้ามายังยอดเอียงให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้และฆ่า เจ้าแห่งจักรวาลเป่ยซิง น่าแปลกที่มี เจ้าแห่งจักรวาล มีไม่กี่คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงอยู่ในยอดเอียง และหลายๆ คนก็มีสมบัติแท้จริงกับตัวที่แข็งแกร่ง ทำไม หลัวเฟิง ถึงได้ฆ่า เจ้าแห่งจักรวาล หน้าใหม่ด้วย?
เวลาและตัวเลือกเหยื่อ ต่างก็บ่งบอกว่า หลัวเฟิง ได้เล็งไปที่ เจ้าแห่งจักรวาลเป่ยซิง!
เจ้าแห่งจักรวาลเป่ยซิง นั้นมีปีกอยู่สองคู่!
อย่างที่สองการรับรู้เกิดขึ้นหลายร้อยปีหลังจากที่ เจ้าแห่งจักรวาลเป่ยซิง ตายไปและมันก็อยู่ในช่วงที่ หลัวเฟิง ได้ออกจากยอดเอียง
อย่างที่สามบางคนจากทะเลจักรวาลพยายามที่จะเอาสมบัติแท้จริงออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ซึ่งอาจจะเป็นพันธมิตรหง
อย่างที่สี่ หลัวเฟิง นั้นมีปีกสมบัติแท้จริง ตอนที่เขาเกิดขึ้นมาในจักรวาลดั้งเดิม เขามีปีกแค่คู่เดียว จากนั้นเขาก็ได้มันอีกคู่ บางคนถึงกับเห็นว่า หลัวเฟิง มีปีกสามคู่ซึ่งหมายความว่าเขาได้มันมาอย่างน้อย 2 คู่
บรรพบุรุษจันทราม่วงบอกได้ว่า หลัวเฟิง หมายตาปีกและตัดสินจากการรับรู้ เขาบอกได้ว่าปีกนี้มันโดดเด่นเพียงใด
“บอก หลัวเฟิง ให้หยุดเสียแรงและพลังซะ ปีกนั่นจะอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงไปตลอดกาลและเขาก็ไม่มีทางได้มัน!” บรรพบุรุษจันทราม่วง บอกกับพวกที่โดนจับหลังจากที่ยืนยันเป้าหมายของ หลัวเฟิง
หลัวเฟิง ไม่พอใจ มันเหลือเชื่อมากที่ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงรู้เรื่องนี้แล้ว
จริงๆ แล้วมันก็พอเข้าใจได้ หลัวเฟิง รู้ว่าพันธมิตรหงนั้นลงมืออย่างแยบยลแต่พวกนั้นก็ยังทิ้งเบาะแสเอาไว้บ้างรวมถึงตัวเขาด้วย บรรพบุรุษจันทราม่วง จึงรู้เป้าหมายของเขา
หลัวเฟิง เริ่มลงมือแบบตรงๆ!
เขาเริ่มจับพวก เจ้าแห่งจักรวาล!
“ข้าจะจับ เจ้าแห่งจักรวาล และขู่เจ้าด้วยชีวิตคนของเจ้า…เจ้าจะแลกรึเปล่า? แม้ว่าเจ้าแห่งจักรวาล พวกนี้จะไม่กล้าต่อต้าน บรรพบุรุษจันทราม่วง แต่ดูจากชื่อเสียงของเขาแล้ว พวกนั้นน่าจะไม่พอใจ มันหมายความว่าความเป็นหนึ่งเดียวในดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงจะไม่แข็งแกร่งอีกต่อไป…ข้าจะทำแบบนี้ต่อไป! แม้ว่าข้าจะได้ปีกคู่สุดท้ายมาแต่ข้าก็ไม่อาจจะใช้งานมันได้เต็มที่ ยังไงซะข้าก็ยังไม่อาจเข้าใจการสลักขั้น 3 ของปีกซื่อหวู๋ได้”
หลัวเฟิง ไม่จำเป็นต้องรีบ มันจะเป็นการต่อสู้ที่ยาวนานระหว่างเขากับดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วง
***
เวลาผ่านพ้นไป
หลัวเฟิง ท่องไปใน ดินแดนแห่งความตาย ทั้งสาม เจ้าแห่งจักรวาล จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงกว่า 90% ได้กลับไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของตนหลังจากรู้ว่าเจ้าแห่งจักรวาล 6 คนโดนจับไป พวกที่อยู่ด้านนอกนั้นหัวรั้นอย่างมาก พวกเขามีชีวิตนิรันดร์และพวกเขาก็มีชีวิตมานานจนไม่กลัวตาย ความกดดันจาก หลัวเฟิง นั้นมีแต่ทำให้พวกเขาไม่พอใจ
***
ในที่ห่างไกลของทะเลจักรวาลที่ซึ่งไม่มีตัวตนไหนอยู่มาก่อน….
ฮ่ง!
ร่างจักรวาลที่ใหญ่กว่าจักรวาลย่อยโผล่มาเดินทางเร็วกว่าแสงหลายล้านเท่า อากาศที่ปั่นป่วนเปล่งแสงออกมาด้วยการเสียดสีจากความเร็วสูงจนทิ้งแสงไว้เบื้องหลัง
มันเดินหน้าไปยังจักรวาลดั้งเดิม
10 ปี, 100 ปี, 1,000 ปี, 10,000 ปี….100,000 ปี, ล้านปี….
หลัวเฟิง เดินทางในเรือจักรวาลมากกว่า 8 ล้านปีแล้วโดยใช้ความเร็วที่ไม่มี เจ้าแห่งจักรวาล คนไหนทำได้ สุดท้ายเขาก็มาถึงแหล่งชุมนุมของขุมกำลังต่างๆ จากทะเลจักรวาล
***
8 ล้านปีเป็นเวลาที่นานสำหรับร่างชีวิตทั่วไปแต่สำหรับตัวตนยิ่งใหญ่แล้ว 8 ล้านปีนี้เพียงพริบตา สำหรับ หลัวเฟิง ที่ซึ่งมีชีวิตมาไม่ถึง 200,000 ปี(ไม่นับการเร่งเวลา) 8 ล้านปีนี้เป็นช่วงเวลาที่โหดร้ายสำหรับเขาและกินเวลานานที่สุดในชีวิต
เขาได้ฝึกฝนในอวกาศสืบทอดกว่า 8 ล้านปีซึ่งจริงๆ แล้วคือ 8 ล้านยุค
ตอนนี้เขายังเดินทางอยู่ในส่วนในของเรือจักรวาล ในเวลาเดียวกันในพื้นที่ห่างไกลของทะเลจักรวาลก็มีตัวตนหนึ่งได้ทำการเทเลพอร์ท
“ข้าไม่ได้ไปที่ พื้นที่ยอดภูเขานั้น มานาน ข้าจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้” บรรพบุรุษสัตว์อสูร เดินหน้าอย่างสบายใจ เขาคือศัตรูทั้งสำหรับ บรรพบุรุษอสูรอวกาศ และบรรพบุรุษสองหน้าของเผ่าพันธุ์ปีศาจ ขุมกำลังพันธมิตรและทีมมนุษย์กำลังสู้กันอยู่ ทีมมนุษย์ได้เปรียบเล็กน้อยซึ่งทำให้ บรรพบุรุษสัตว์อสูร พอใจ
ฮ่ง!
ลำแสงที่น่ากลัวส่องประกายขึ้นมาข้างกายเขา
ฮ่ง! ล่ง!
ภายใต้ความเร็วที่น่ากลัวนั้น คลื่นกระแทกจากอากาศที่ปั่นป่วนแผ่มาถึง บรรพบุรุษสัตว์อสูร ที่อยู่ไกลออกไป บรรพบุรุษสัตว์อสูร กระเด็นไปหลายหมื่นล้านกิโลเมตร
อึก!
บรรพบุรุษสัตว์อสูร อ้าปากกว้างและคายเลือดออกมา ร่างของเขาเต็มไปด้วยเกล็ดและมันก็แข็ง เลือดสีดำทองไหลออกมาจากเกล็ดและเขาก็ได้มองไปยังลำแสงสีทองด้วยความตกใจ “นี่ นี่ นี่…”
เขาไม่คิดว่าแค่เพียงคลื่นกระแทกนั้นจะทำให้เขาที่เป็น เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดบาดเจ็บได้!
ถ้าเขาโดนโจมตีเข้าตรงๆ เขาคงตายไปแล้ว
“นั่นมันอะไร? ตัวตนที่น่ากลัวแบบไหนกัน?” บรรพบุรุษสัตว์อสูร อึ้ง
เขาท่องไปทั่วเรือจักรวาลและแม้ว่าจะเสียเปรียบตอนที่สู้กับ บรรพบุรุษมารฝัน, บรรพบุรุษอสูรช๊อค และอสูรอวกาศ เพราะเขาไม่ได้มีสมบัติแท้จริงชั้นยอด แต่เขาก็ยังเอาตัวรอดจากการโจมตีได้ เขาถึงกับเคยสู้กับ อาจารย์ต้นกำเนิด แต่วัตถุขนาดใหญ่ที่บินไปนี้ทำให้เขากลัวและสิ้นหวัง พวกเขาไม่ได้อยู่ระดับเดียวกันและถ้าโดนร่างมนุษย์นั้นชนเข้า เขาคงตายไปแล้ว
“โอกาส! โอกาส! โอกาสครั้งใหญ่!” บรรพบุรุษสัตว์อสูร ตื่นเต้น เหตุการณ์ที่น่าเหลือเชื่ออาจจะเป็นโอกาสและจากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว วัตถุขนาดใหญ่นั้นก็มีโอกาสที่มากมายและสมบัติแท้จริงชั้นยอดก็เอามาเทียบด้วยไม่ได้
“ข้าต้องคว้าโอกาสนี้ไว้! การสืบทอด ตัวตนที่ยิ่งใหญ่หรือสมบัติ ข้าต้องคว้ามันไว้! มีแค่คว้ามันไว้ให้ได้ข้าถึงจะจัดการกับไอ้โง่สองคนจากเผ่าพันธุ์ปีศาจและ เทพอสูรเฒ่า ได้ ข้าจะปกครองเผ่าพันธุ์ปีศาจ ข้าจะเป็นบรรพบุรุษที่แท้จริงของสัตว์อสูรปีศาจ!”
บรรพบุรุษสัตว์อสูร คึกขึ้นมาและเริ่มเทเลพอร์ท
ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!
เขาเทเลพอร์ทไป 3 ครั้งและไปอยู่ข้างๆ วัตถุขนาดใหญ่ เขาทำการต้านทานคลื่นกระแทกไว้ เทียบกับวัตถุขนาดใหญ่นี้แล้ว บรรพบุรุษสัตว์อสูร นั้นเหมือนกับไส้เดือนที่กำลังมองดวงดาว