Skip to content

Swallowed Star 1432

ตอนที่ 1432 : เลือดของเทพสัตว์อสูร

หลัวเฟิง มองไปยัง 99 ร่างที่บินถอยกลับมาและเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม

เขาสามารถสร้างเทคนิคขั้น 8 ขึ้นมาได้แล้วและเขาก็สามารถใช้หอคอยดวงดาวระดับ 7 ได้!

การสลักระดับ 6 ของหอคอยดวงดาวนั้นถือว่าอยู่ที่ขั้น 8 ระดับสูง มันจะสร้างโลกน้ำวนที่น่ากลัวซึ่งแข็งแกร่งกว่า ‘แค่คิดก็สร้างมิติ’ หรือปีกซื่อหวู๋ มันไม่ใช่ว่าปีกซื่อหวู๋เทียบกับหอคอยดวงดาวไม่ได้ ใจกลางของปีกซื่อหวู๋นั้นมีพลังงานของเจ้าของคนเก่า ดังนั้น หลัวเฟิง จึงไม่ต้องการใช้พลังนั้น เขาไม่อาจจะใช้พลังของปีกซื่อหวู๋ออกมาได้อย่างเต็มที่

ตอนที่เขาใช้แกนในการขับเคลื่อนปีกซื่อหวู๋ พลังนั้นจะสามารถใช้ออกมาได้สูงสุด และจากนั้น ‘แค่คิดก็สร้างมิติ’ ก็จะแข็งแกร่งกว่าโลกน้ำวนอย่างมาก

ตอนนี้ระดับ 7 ของหอคอยดวงดาวอย่างโลกน้ำวนนั้นแน่นอนว่าเป็นเทคนิคขอบเขตขั้นสูงสุด

****

ฮ่ง! ล่ง! ล่ง!

พลังงาน 9 แบบได้ฉีกมิติออกจากกันสร้างเป็นโลกน้ำวนที่น่ากลัว

“ได้ยังไงกัน? เขาแข็งแกร่งแบบนี้ได้ยังไงกัน? ตอนที่ข้าสู้กับเขาครั้งที่แล้วเขาไม่ได้แข็งแกร่งแบบนี้ แม้ว่า หลัวเฟิง จะมีหลายร่าง แต่พลังของแต่ละร่างก็น่าจะเท่าเทียมกัน”

ทั้ง 99 ร่างของ โมโลซ่า ไม่อาจจะต้านทานได้เลยแม้แต่น้อยและได้แต่ถูกดูดเข้าหาหอคอยดวงดาว หอคอยดวงดาวนี้คือใจกลางของโลกน้ำวน!

ประตูทั้ง 9 ของหอคอยนั้นดูดกลืนทุกสิ่ง!

“ปิด!” อสูรทลายมิติ ยอมแพ้และอยู่ๆ ทั้ง 99 ร่างก็สลายไป หนึ่งในนั้นขยายตัวและเปลี่ยนเป็น โมโลซ่า

โมโลซ่า พยายามจะต้านทาน มันยากที่จะประคองตัวเองได้โดยไม่โดนกลืน ตอนที่มันแยกร่าง แต่ละร่างนั้นอ่อนแอ ดังนั้นจึงโดนกลืนได้อย่างง่ายดาย ตอนที่ทั้ง 99 รวมเป็นหนึ่ง มันก็พอจะประคองตัวได้

“ข้าควรทำยังไง? ควรทำยังไงดี?” โมโลซ่า กังวล

มันจะหนีโดยไม่แยกร่างได้ยังไง?

หลัวเฟิง น่าจะตามมันทันและไม่มีทางปล่อยมันหนี นอกจากนี้ด้วยการรวมแค่คิดก็สร้างมิติกับโลกน้ำวนเข้าด้วยกัน มันยากจะฝืนรับมือ และได้แต่โดนดูดเข้าไปช้าๆ หลัวเฟิง ได้สร้างทั้งหมดขึ้นมาจนจับมันได้อย่างง่ายดาย

ฮ่ง!

หลัวเฟิง ในเกราะดำเดินเข้าหา อสูรทลายมิติ เขาเหมือนเดินอย่างสบายแต่เขาเร็วจน โมโลซ่า ต้องอิจฉา หลัวเฟิง นั้นเร็วกว่ามันเป็นหมื่นๆ เท่าภายใต้โลกน้ำวนและแค่คิดก็สร้างมิตินี้!

“ทางช้างเผือก…” โมโลซ่า กัดฟันแน่มองไปที่ หลัวเฟิง “ไม่แปลกใจเลยว่าเจ้าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลจักรวาล ข้าประมาทเจ้าเกินไป”

“มา! ลองเสี่ยงโชคเจ้าดู!” หลัวเฟิง พูดขึ้นมาอย่างเย็นชาแล้วเดินเข้าหาอีกฝ่าย “เจ้ารวมแสงสีแดงในตาเจ้าได้ไม่ใช่รึไง? ท่านั้นน่าประทับใจ ทำไมไม่ใช้มันออกมาล่ะ?”

อสูรทลายมิติ หงุดหงิด ท่านั้นคือไพ่ลับของมัน แม้ว่ามันจะสยบ หลัวเฟิง ได้ชั่วคราว แต่มันก็ทำอะไรเขาไม่ได้ มันยังไม่อาจจะหลุดออกจากโลกนี้ได้

“ทางช้างเผือก เจ้ารู้ว่าข้าจะเรียก อสูรทลายมิติ กลุ่มใหญ่มาที่นี่เมื่อข้าไม่มีทางเลือก” โมโลซ่า พูดขึ้นมาและมองไปที่ หลัวเฟิง “อย่ากดดันข้า! ปล่อยข้าไป! และข้าสาบานว่าจะไม่หมายตามนุษย์ในอนาคต ถ้าเจ้าปล่อยข้าไป ข้าจะสาบานกับกฎทะเลจักรวาล นี่คือข้อเรียกร้องของข้า ปล่อยข้าไป! เจ้าห้ามโจมตีข้าอีกในอนาคต ปล่อยข้าไป!”

“ปล่อย? ในที่สุดข้าก็จับเจ้าได้และเจ้าก็คิดว่าข้าควรปล่อยเจ้าไปงั้นรึ?”

หลัวเฟิง ยิ้มพร้อมกับความคิดมากมายที่โผล่มาในหัว มันมี อสูรทลายมิติ กลุ่มใหญ่ที่รัง นี่แค่ อสูรทลายมิติ เพียงตัวเดียวตรงหน้าเขา มันสำคัญในการฆ่า อสูรทลายมิติ สำหรับทุกเผ่าในทะเลจักรวาล อสูรทลายมิติ ตัวเดียวก็ถือว่าเป็นภัยพิบัติ

“เจ้าบอกว่าเจ้าจะพา อสูรทลายมิติ กลุ่มใหญ่มาที่นี่แต่เจ้านั้นโดนขังไว้ที่นี่ เจ้าจะทำยังไง?” หลัวเฟิง เย้ย

“เจ้าไม่เข้าใจเราเลยสักนิด!” โมโลซ่า พูดขึ้น “สุดท้ายมันจะมี อสูรทลายมิติ เพียงตัวเดียวรอดและเขาก็จะเป็นราชา! ถ้า อสูรทลายมิติ หนีไปได้และหลงในทะเลจักรวาล อสูรทลายมิติ ตัวอื่นๆ ก็ฆ่าเขาไม่ได้ เมื่อเป็นแบบนั้นก็จะมี อสูรทลายมิติ หนึ่งหรือสองตัวที่รอด จากนั้นมันก็ไม่มีราชากำเนิดขึ้นมา!”

หลัวเฟิง พยักหน้า

“อสูรทลายมิติ รับรู้ถึงกันได้และเราก็สื่อสารความคิดกันได้” โมโลซ่า พูดขึ้น “ไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลกันเพียงใดก็ตาม”

นั่นคือความจริง หลังจากนั้นสักพัก อสูรทลายมิติ ต้องกลับไปที่รังและฆ่ากันเองจนกว่าจะกำเนิดราชาขึ้นมา

โมโลซ่า พูดขึ้น “ดังนั้นเจ้าจึงฆ่าข้าไม่ได้ ถ้าเจ้าฆ่าข้า ข้าจะส่งข้อความหา อสูรทลายมิติ ที่รังและมันก็จะมี อสูรทลายมิติ กลุ่มใหญ่มาที่นี่”

“โอ้?” หลัวเฟิง ตอบกลับ

“เจ้าตกลงรึเปล่า?” โมโลซ่า กังวล

หลัวเฟิง กลัวขึ้นมา ถ้าเขาฆ่ามัน มันก็จะถือเป็นเรื่องดี แม้ว่ามันจะสัญญากับกฎทะเลจักรวาล แต่มันก็จะหมายถึงแค่ว่ามันจะไม่ฆ่า หลัวเฟิง อสูรทลายมิติ ตัวอื่นๆ ยังมาฆ่า หลัวเฟิง ได้ รู้กันได้ว่ายิ่งมี อสูรทลายมิติ น้อยเท่าไหร่พวกที่เหลือก็จะแข็งแกร่งเท่านั้น หลัวเฟิง นั้นแข็งแกร่งก็จริงแต่เขาก็ไม่อาจจะรับมือกับ อสูรทลายมิติ ในอนาคตได้

“ตกลง?” หลัวเฟิง ส่ายหน้า “ข้าฆ่าเจ้าไม่ได้ เพราะเจ้าขู่ข้าน่ะรึ? มันหมายความว่าข้าคงฆ่า อสูรทลายมิติ ตัวอื่นไม่ได้ถ้าพวกมันขู่ข้ารึ? ฮ่า ฮ่า…ข้าฆ่าเจ้ากับ อสูรทลายมิติ ตัวอื่นได้! ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้ได้มากที่สุดถ้าพวกเจ้ามา เมื่อเจ้าโดนขังไว้ในพื้นที่ของข้า ไม่ว่าจะมี อสูรทลายมิติ หนึ่งหรือสิบตัว พวกมันก็ไม่อาจจะหนีไปได้ ขอบคุณที่บอกให้ข้ารู้ว่า อสูรทลายมิติ สื่อสารกันได้ผ่านความคิด”

ทันทีที่ หลัวเฟิง พูดจบ…

ฉัวะ!

พลังของเขาอยู่ๆ ก็เพิ่มขึ้น เขาได้เผาพลังอมตะ เงาพร่ามัวโผล่มาในโลกน้ำวนและมันได้พุ่งเข้าหา โมโลซ่า

โมโลซ่า หงุดหงิดขึ้นมา

“เจ้าจะรู้สึกผิด!” มันตะโกนออกมา

“รู้สึกผิด?” หลัวเฟิง ยิ้มเยาะ

หลัวเฟิง ในเกราะดำได้ใช้เทพวูฉี ตอนนี้เขามีดาบเงาเลือดที่หลังเขา ดาบนี้คือแก่นหลักและการโจมตีก็พัฒนาขึ้นมาอย่างมากเมื่อใช้ผ่านดาบ นอกจากนี้เทพวูฉีเองก็มีระดับสูงกว่าสมบัติเครื่องจักรอื่นๆ เมื่อใช้สองอย่างรวมกันแล้ว พลังของ หลัวเฟิง จึงเพิ่มขึ้นมา

“ทะเลแสงทอง!”

หลัวเฟิง ได้ใช้เทคนิคออกมาและ โมโลซ่า ที่ค่อยๆ ขยับภายใต้การรวมของแค่คิดก็สร้างมิติและโลกน้ำวน มันก็ไม่อาจจะหลบได้เลยแม้แต่น้อย

ฮัวะ! ฮัวะ! ฮัวะ!

แสงดาบและคลื่นสีทองได้โผล่มารอบตัว หลัวเฟิง คลื่นนี้สั่นไหวเข้าโจมตี โมโลซ่า

โมโลซ่าที่พยายามจะต่อต้านได้คำรามออกมา “ทำไม? ทำไมเจ้าถึงได้แข็งแกร่งกว่าครั้งที่แล้วอย่างมาก?”

คลื่นสีทองจริงๆ แล้วไม่ใช่คลื่น พวกมันคือคลื่นที่เกิดจากแสงดาบและดาบของหลัวเฟิง ก็มีกฎทอง แต่เทคนิคดาบนี้อ่อนโยนราวกับคนรักที่ปลอบประโลม คลื่นสีทองนี้ดูเหมือนจะอ่อนโยนที่เข้าลูบไล้ อสูรทลายมิติ แต่พวกมันมีไม่สิ้นสุด นี่คือหนึ่งในเทคนิคสูงสุดที่ หลัวเฟิง สร้างขึ้นมา ‘ทะเลแสงทอง’ !

ชี่! ชี่! ชี่!

คลื่นยังคงกัดกร่อน อสูรทลายมิติ ซึ่งทำให้มันอ่อนแอลง โมโลซ่า ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด มันไม่เชื่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น หลัวเฟิง นั้นแข็งแกร่งกว่าครั้งที่แล้วอย่างมาก

“แข็งแกร่ง?” หลัวเฟิง พูดขึ้น “เจ้าว่าข้าแข็งแกร่ง? งั้นมันก็เป็นเกียรติเจ้าที่จะตายด้วยมือของตัวตนยิ่งใหญ่”

หลัวเฟิง ไม่ได้ปราณี ดาบแสงนี้ยังแผดเผาพลังของ อสูรทลายมิติ เมื่อมันยากในการสู้กับ อสูรทลายมิติ ตรงๆ คนเราสามารถเลือกที่จะเผาพลังทั้งสองฝ่ายได้แต่เมื่อได้เปรียบ มันก็แค่ใช้พลังงานน้อยนิดในการเผาพลังของ อสูรทลายมิติ

“กรร!” โมโลซ่า คำรามออกมาและร่างสีทองก็เปลี่ยนเป็นสีดำ ตาทั้งสองมองมาที่ หลัวเฟิง

“เจ้า เจ้าจะรู้สึกผิด!” โมโลซ่า ตะโกน

ทันใดนั้นแสงสีดำก็ปรากฏขึ้นทั่วตัวมัน แสงสีดำได้เปลี่ยนเป็นสีแดงซึ่งไม่ว่าใครเห็นก็ต้องหวั่นเกรง แสงสีแดงนี้ครอบคลุมไปทั่วตัว โมโลซ่า

“กรร!” โมโลซ่า คำรามออกมา

แขนมันยืดออกมาจากตัว มันมีกว่า 100 แขนและพวกมันก็ต้านการโจมตีดาบจาก หลัวเฟิง แสงสีแดงนี้เพิ่มพลังของมัน มันทรงพลังเกือบจะเท่ากับ หลัวเฟิง

การโจมตีจาก หลัวเฟิง ทำให้ร่างของ โมโลซ่า หดขนาดลงแต่มันไม่ได้ฟันเข้าใส่ตัว โมโลซ่า จริงๆ

“เจ้าได้ใช้พลังทั้งหมดจริงๆ งั้นลองอีกท่า!” หลัวเฟิง ตะโกน “เขาทองของสัตว์อสูร!”

คลื่นแสงสีทองหายไปและรอบข้างก็เปลี่ยนกลับเป็นโลกน้ำวนอีกครั้ง ด้านในนั้นมีเขาสีทองปรากฏขึ้นมา มันดูราวกับว่าเขาสีทองนี้สามารถแทงทะลุทั้งจักรวาลได้ มันมีพลังไม่รู้จบและมันก็แทงเข้าใส่ โมโลซ่า มันเป็นปาฏิหาริย์ที่ เจ้าแห่งจักรวาล สร้างเทคนิคขั้น 8 ขึ้นมาได้แต่ หลัวเฟิง สร้างมาได้มากกว่าหนึ่งอัน

ทะเลแสงทองนั้นอ่อนแอแต่มันอยู่ได้นาน สำหรับเขาทองของสัตว์อสูร มันเป็นการโจมตีครั้งเดียว ดังนั้นทุกครั้งที่ใช้ออกมา หลัวเฟิง ต้องเก็บพลังงานไว้มากพอ แน่นอนว่ามันเป็นท่าที่แข็งแกร่งแต่ศัตรูนั้นสามารถหนีไปได้ตอนที่ หลัวเฟิง เตรียมพลัง โชคดีที่ หลัวเฟิง มีแค่คิดก็สร้างมิติและโลกน้ำวน ดังนั้น อสูรทลายมิติ จึงไม่อาจจะหนีได้

ฮัวะ!

เขาทองได้แทงทะลุทุกอย่าง ภายใต้การเผาพลังอมตะระดับ 3, เทพวูฉี, ดาบเงาเลือด และเทคนิคสูงสุดที่ หลัวเฟิง ใช้ออกมา ผิวของ อสูรทลายมิติ ก็โดนแทงทะลุ เลือดสีดำของมันไหลออกมาในโลกน้ำวน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!