Skip to content

Swallowed Star 1448

ตอนที่ 1448 : สยบ

“หลัวเฟิง อยู่ที่นี่แล้ว”

“ทางช้างเผือก กำลังจะจัดการกับ อสูรทลายมิติ”

“อาจารย์อยู่ที่นี่”

เทพแท้จริงรอบๆ จักรวาลหลักต่างก็รู้ว่า หลัวเฟิง มาถึงแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไปรวมตัวกันในจุดที่ อสูรทลายมิติ อยู่ทันที ทุกคนต่างก็เทเลพอร์ทและไปถึงยังส่วนนอกของพิกัดนั้น ยังไงซะพื้นที่ต่อสู้ก็ถูกผนึกเอาไว้ พวกเขาจึงไม่อาจจะเทเลพอร์ทเข้าไปได้

“ดูนั่น”

ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล กับ ความมืด ต่างก็มองไปทางเดียวกัน หอคอยดวงดาวได้เปล่งแสงไม่รู้จบออกมา มันราวกับประภาคารในความมืดมิด พลังที่มันแผ่ออกมาจากฐานนั้นครอบคลุมพื้นที่หลายปีแสงสร้างตัวเป็นน้ำวนขึ้นมา น้ำวนนั้นอยู่ๆ ก็หดตัว สำหรับ โมโลซ่า แล้ว มันถูกกลืนเข้าไปโดยน้ำวนนั้น

“เป็นไปไม่ได้” โมโลซ่า กรีดร้องออกมา

พลังของน้ำวนนี้แข็งแกร่งเกินไป แม้ว่า โมโลซ่า จะรวมพลังทั้งหมดที่มันมีแต่มันก็ไม่อาจจะต้านทานได้นี่ไม่ต้องนับเรื่องการแยกร่างเลย

“ทลาย!”

มันยังคงตะโกนออกมา แสงสีแดงเลือดแผ่ออกมาทั่วตัว พลังของมันปะทุขึ้นมา มันพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดออกจากน้ำวนนี้แต่ไม่ว่ามันจะเปล่งแสงออกมามากแค่ไหนแต่มันก็ไม่อาจจะหนีมาได้

“ได้ยังไงกัน? ครั้งที่แล้ว ครั้งที่แล้วแม้แต่การใช้หอคอยดวงดาวกับการผูกมัดเวลาก็ไม่อาจจะขังข้าได้” โมโลซ่า ไม่อยากจะเชื่อ “ตอนนี้ข้าอ่อนแอกว่าเดิมแต่หอคอยดวงดาวจะจับข้าได้ยังไง?”

โมโลซ่า ไม่เชื่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น แต่มันก็ไม่มีประโยชน์

ซู่!

โมโลซ่า ที่หงุดหงิดโดนดูดเข้าไปที่ฐานของหอคอย ทุกอย่างกลับคืนสู่ความสงบ และน้ำวนเองก็หายไปด้วย หอคอยดวงดาวได้เปล่งแสงเป็นประกายออกมาและบินกลับไปที่ฝ่ามือของ หลัวเฟิง

****

เมื่อเห็นแบบนั้น ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล, ความมืด, เป็งกง, โดมไฟ และคนอื่นๆ ต่างก็ประหลาดใจ พวกเขารู้ว่ามันยากแค่ไหนกับการจัดการกับ อสูรทลายมิติ โดยเฉพาะตอนที่มันใช้แสงสีแดงนี้ออกมา…แม้แต่ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ก็ไม่อาจจะขังมันไว้ได้

“เหลือเชื่อ”

“เขาขัง อสูรทลายมิติ ได้อย่างง่ายดาย”

“ทางช้างเผือก นั้นแข็งแกร่งกว่าเก่ามาก เขาคือเทพแท้จริงที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่มีทะเลจักรวาลมา”

ความคิดต่างๆ โผล่มาในหัวเหล่าเทพแท้จริง เท่าที่พวกเขารู้จักเทพแท้จริงที่แข็งแกร่งในทะเลจักรวาล ตาสวรค์ สามารถสร้างเทคนิคขั้น 9 ขึ้นมาได้และด้วยสมบัติแท้จริงชั้นยอด พวกเขาก็สามารถยกระดับถึงขั้น 10 ได้แต่เมื่อ หลัวเฟิง เข้าใจการพัฒนาของความปั่นป่วน เขาก็สามารถสร้างเทคนิคขั้น 10 ได้และเมื่อเขาใช้มันกับ อสูรทลายมิติ เขาก็ได้ดูดซับความเข้าใจที่มีจากร่างกายของตัวเอง ดังนั้นพลังของเขาจึงเพิ่มขึ้นไปอีก

“หอคอยดวงดาวได้รับมาจาก ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ มันช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ!” หลัวเฟิงอุทานเมื่อมองไปที่หอคอยในมือ

หอคอยดวงดาวอาจจะล้ำค่ายิ่งกว่าเทพวูฉี เขาไม่รู้ว่ามันมีค่ามากแค่ไหน

“หลัวเฟิง”

“ทางช้างเผือก”

“อาจารย์”

ทุกคนบินเข้ามาหา หลัวเฟิง และต่างก็มีสีหน้าผ่อนคลาย

ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ยิ้มออกมา “ฮ่า ฮ่า! หลังจากที่เป็นเทพแท้จริงแล้ว พลังของเจ้าก็พัฒนาขึ้นมาอย่างมาก ข้าพยายามใช้ทุกอย่างเพื่อต่อต้าน อสูรทลายมิติ แต่ก็ไม่อาจจะจับมันและฆ่ามันได้แต่เจ้าจับมันได้อย่างง่ายดาย”

“มันยากในการฆ่า อสูรทลายมิติ เมื่อเทียบกับการเอาชนะมัน” หลัวเฟิง พูดขึ้น

“มันยากที่จะจับมันแบบเป็นๆ ได้” ความมืด พูดขึ้น

เทพแท้จริงทุกคนต่างก็มีสีหน้าใจเย็น ทุกคนพากันหัวเราะ ปรากฏว่า หลัวเฟิง ได้จับอสูรทลายมิติ แบบเป็นๆ ได้นี้ทำให้ทุกคนอารมณ์ดีขึ้นมา พวกเขารู้ได้เลยว่า หลัวเฟิง โดดเด่นแค่ไหนหลังจากที่กลายเป็นเทพแท้จริง ยังไงซะ หลัวเฟิง ก็แสดงพลังแค่เพียงส่วนหนึ่งในการต่อสู้ครั้งนี้

“กลับกันเถอะ” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดขึ้น

“พวกท่านไปกันก่อนเลย ข้าจะขัง อสูรทลายมิติ ไว้ในหอคอยดวงดาว” หลัวเฟิง พูดขึ้น “ข้ามีคำถามจะถามมันสักหน่อย”

“เรื่อง อสูรทลายมิติ นั้นสำคัญอย่างมาก” เทพแท้จริงคนอื่นๆ ต่างก็พยักหน้า

****

เทพแท้จริงจากเผ่ามนุษย์ต่างก็กลับไปกันทีละคนๆ หลัวเฟิง ได้กลับไปที่จักรวาลย่อยของตัวเอง ยังไงซะเขาก็สามารถแสดงพลังสูงสุดออกมาได้ด้วยจุดกำเนิดในจักรวาลย่อยของเขา

ด้านในหอคอยในมิติแห่งการกักขังแห่งหนึ่ง อสูรทลายมิติ ยืนอยู่บนพื้น มันมีแรงกดทับที่มองไม่เห็นแต่หนักอึ้งกับตัวมัน มันดูสงบรอคอยอยู่ที่นั่นเงียบๆ

“อสูรทลายมิติ” ชายชุดขาวโผล่มาและพูดขึ้น เขายืนอยู่บนมิติและลงไปยืนที่พื้น

“ทางช้างเผือก…” โมโลซ่า มองไปที่ หลัวเฟิง “หลัวเฟิง!”

“อสูรทลายมิติ เจ้า…” หลัวเฟิง พูดขึ้น

“เรียกข้าว่า โมโลซ่า” โมโลซ่า เงยหน้าทั้งสองขึ้น “เจ้ามีสิทธิ์เรียกชื่อข้าได้”

หลัวเฟิง ยิ้ม “ได้ โมโลซ่า”

โมโลซ่า พยักหน้า “จากคนในทะเลจักรวาลทั้งหมด เจ้าเป็นแค่คนเดียวที่ข้าชื่นชม! เจ้านั้นแข็งแกร่งเกินกว่าที่ข้าคิดไว้ แม้ว่าข้าจะยังอยู่ระดับ 3 แต่ข้าก็อาจจะโดนหอคอยของเจ้ากลืนกินเข้ามา”

หลัวเฟิง ยักคิ้ว มันรู้เรื่องหอคอยดวงดาวด้วยรึ?

แน่นอนว่าเทพแท้จริงบางคนหันเข้าพวกกับ อสูรทลายมิติ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่โมโลซ่า จะรู้เรื่องหอคอยดวงดาว

“โชคร้ายที่เจ้ากลับมาเร็วเกินไป” โมโลซ่า ส่ายหน้า “ข้าเดาว่าเจ้าคงคุ้มกันจักรวาลย่อยของเทพแท้จริงยุคแรกหรือสองอยู่และคงต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะกลับมาได้ ข้าพยายามกลืนกินจุดกำเนิดจักรวาลหลัก เมื่อไม่มีจิตของ อาจารย์ต้นกำเนิด คอยคุ้มกัน ข้าก็กินมันไปกว่าครึ่งในเวลาหลายวันมานี้ แม้ว่าเทพแท้จริงมนุษย์ทั้งหมดต้องการจะหยุดข้าก็เถอะ จากนั้น อาจารย์ต้นกำเนิด ของพวกเจ้ามนุษย์ก็ไม่มีโอกาสที่จะทะลวงผ่านไปได้ต่อแต่ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะกลับมาเร็วแบบนี้”

หลัวเฟิง พยักหน้า แผนของ โมโลซ่า ดูฟังมีเหตุผล ด้วยการกลืนกินจักรวาลหลักอยู่หลายวินาที มันได้ดูดซับจุดกำเนิดไปมากกว่าครึ่งแต่ โมโลซ่า ไม่คิดว่า หลัวเฟิง จะเทเลพอร์ทมาได้ไกลพอๆ กับเทพแท้จริงมิติซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้มาถึงได้ในเวลาแค่ชั่วโมงเดียว โมโลซ่า ยังกินได้ไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำ!

“ข้าตื่นเต้นหากข้าได้แก้แค้นให้ตัวเองแต่ข้าไม่สนแม้ว่าจะล้มเหลว” โมโลซ่า มองไปที่ หลัวเฟิง “ข้าเป็นแค่ อสูรทลายมิติ ระดับ 2 ภัยพิบัติที่แท้จริงกำลังเข้ามาหาตัวเจ้า เผ่ามนุษย์และพวกอื่นๆ ฮ่า ฮ่า…”

เสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งดังขึ้นมาอยู่ๆ โมโลซ่า ก็คิดจะระเบิดตัวเอง

เช้ง! เช้ง! เช้ง!

อยู่ๆ พลังระดับ 3 ก็ได้เข้าหาตัว โมโลซ่า พลังระดับแรกคือแค่คิดก็สร้างมิติจากปีกซื่อหวู๋ พลังระดับสองคือการกักขังจากหอคอยดวงดาวและพลังระดับ 3 ก็มาจากจุดกำเนิดจักรวาลย่อยของ หลัวเฟิง

ทั้งหมดได้สยบ โมโลซ่า เอาไว้จนมันไม่อาจจะระเบิดตัวเองได้

“อะไรกัน?” โมโลซ่า มองไปที่ หลัวเฟิง

หลัวเฟิง ยิ้ม ตอนที่นักสู้อมตะเจอกับอัศวินอวกาศ เขาไม่อาจจะระเบิดตัวเองได้!

นี่เพราะช่องว่างทางพลัง ตอนนี้ โมโลซ่า ที่อยู่แค่ระดับ 2 ไม่อาจจะระเบิดตัวเองต่อหน้า หลัวเฟิง ได้เช่นกัน

“เจ้านั้นแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมากจนหยุดการระเบิดตัวเองของข้าได้” โมโลซ่าหงุดหงิด

ถ้า หลัวเฟิง ใช้พลังอมตะ โมโลซ่า ก็คิดจะลบมันทิ้งแต่พลังที่ หลัวเฟิง ใช้ตอนนี้คือแค่คิดก็สร้างมิติ, มิติผนึกของหอคอยดวงดาวและจุดกำเนิด ไม่มีสักอย่างที่ใช้พลังอมตะดังนั้น โมโลซ่า จึงไม่อาจจะรับมือได้

“เจ้าน่ะยังไม่ตายตอนนี้หรอก” หลัวเฟิง พูดขึ้น

อันที่จริงแล้วมันยากที่จะสยบบางคนให้ไม่อาจจะระเบิดตัวเองได้ ถ้า หลัวเฟิง ยังอยู่ด้านนอกโดยไม่มีจุดกำเนิดและมิติผนึก เขาคงทำแบบนี้ไม่ได้ หอคอยดวงดาวคือสมบัติลึกลับ นอกจากเทคนิคโจมตีแล้ว การทำงานหลักของมันคือการสยบ!

ถ้าใครโดนขังไว้ด้านใน มันก็ยากที่จะตายได้!

นี่ทำให้ หลัวเฟิง สงสัยว่าจริงๆ แล้วหอคอยดวงดาวนี้มาจากไหนกัน เขาเชื่อมานานแล้วว่า ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ได้สร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเองและเส้นพลังสีทองที่ไหลเข้ามาในสมบัติก็ได้เปลี่ยนคุณภาพของมัน

มันไม่มีทางที่มันจะเป็นเรื่องบังเอิญได้ มันไม่มีทางที่เส้นพลังสีทองที่บินเข้ามาจะมีเทคนิคสลักระดับสูงได้ แม้แต่ หลัวเฟิง ก็ไม่เข้าใจถึงการสลักบางอย่างของหอคอยดวงดาว จากการที่มันเกี่ยวข้องกับ ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ และโลกแห่งจิน หลัวเฟิง เชื่อว่า หอคอยดวงดาวอาจจะเป็นของตัวตนระดับสูงของโลกแห่งจิน สมบัติที่อาจจถูกทิ้งไว้โดยราชาจินหรือหนึ่งในคนตำแหน่งสูง

****

“ไม่มีประโยชน์ ข้าระเบิดตัวเองไม่ได้” โมโลซ่า ยิ้ม “เจ้าคิดจริงๆ รึว่าการที่ขังข้าไว้ที่นี่จะไม่มีราชาอสูรทลายมิติ กำเนิดขึ้นมา?”

หลัวเฟิง ยิ้ม “นั่นคือสิ่งที่ข้าคิดจะทำ”

ตามจักรวาลดั้งเดิมแล้ว อสูรทลายมิติ จะพยายามฆ่าและกินกันเองจนเหลือตัวสุดท้าย ตัวสุดท้ายจะกลายเป็นราชา ถ้า หลัวเฟิง สยบและขังมันไว้เพื่อไม่ให้มันโดนฆ่า แม้ว่า อสูรทลายมิติ ตัวอื่นจะฆ่าและกินกันจนตัวสุดท้ายแข็งแกร่งจน หลัวเฟิง ไม่อาจจะเทียบได้แต่มันก็ไม่มี อสูรทลายมิติ ตัวไหนที่ฆ่า โมโลซ่า ได้ จากนั้นมันก็ไม่มีราชาของ อสูรทลายมิติ และถ้ามันไม่มีราชา มันก็มีโอกาสที่จะพลิกกระดานขึ้นมาได้

“เจ้าคิดผิดไป” โมโลซ่า พูดขึ้น “แม้ว่าข้าจะระเบิดตัวเองไม่ได้แต่ข้าก็ต้องสู้กับ อสูรทลายมิติ ตัวสุดท้าย ไม่งั้นแล้วข้าจะตาย มันคือโชคชะตาของเราและเจ้าก็ไม่อาจจะทำอะไรเรื่องนี้ได้”

โมโลซ่า ต้องสู้?

ดูเหมือนว่ามันไม่ได้บังเอิญที่ต้องมีราชากำเนิดขึ้นมา

“เจ้าดูมั่นใจ” หลัวเฟิง พูดขึ้น “เจ้าแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยรึ?”

“แน่นอน” โมโลซ่า พูดขึ้น “มันง่ายที่เราจะกำจัดเผ่าในทะเลจักรวาล แม้แต่จักรวาลดั้งเดิมก็จะทำลายตัวเอง”

“แต่ข้าบอกได้จากเจ้าว่า อสูรทลายมิติ นั้นอ่อนแออย่างมาก” หลัวเฟิง พูดขึ้น

โมโลซ่า มองไปที่ หลัวเฟิง “ถ้าเจ้าต้องการยั่วยุข้าเพื่อให้ข้าบอกเรื่อง อย่ามาเสแสร้งเลย ถามข้ามาซะสิ”

“ได้” หลัวเฟิง พยักหน้า “บอกข้ามาทีว่ามี อสูรทลายมิติ กี่ตัวที่รังของเจ้า พวกมันแข็งแกร่งกันแค่ไหน?”

“เจ้าคิดว่าข้าจะบอกเจ้าจริงๆ รึ?” โมโลซ่า มองไปที่ หลัวเฟิง “ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะโง่แบบนั้น”

หลัวเฟิง คิ้วขมวด

“เจ้ามันก็แค่คนโง่” โมโลซ่า หัวเราะ “เจ้าอยากฆ่าข้างั้นรึ? เจ้าโกรธรึ? อยากฆ่าข้า? เอาสิ!”

“ไม่ร่วมมืองั้นรึ?” หลัวเฟิง ส่ายหน้า “ถ้าข้าทำให้เจ้าเป็นทาสข้าได้ เจ้าต้องทำตามคำสั่งของข้า”

หลัวเฟิง ชี้ออกไป มีลำแสงสามเหลี่ยมบินออกมาจากนิ้วของเขาพุ่งเข้าใส่ โมโลซ่า โมโลซ่า พยายามจะหลบแต่ก็ไม่อาจทำได้ แสงนั้นได้จมเข้าไปในหน้าอกของมันทันที

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!