ตอนที่ 1456 : ทรงพลังที่สุด
หลัวเฟิง ได้ทำตามแผนแรกของเขาโดยมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งของ แบ๊ดดี้
“แบ๊ดดี้!”
ในดินแดนแห่งความมืดมิด อสูรทลายมิติ ตัวหนึ่งกำลังหนีด้วยความเร่งรีบ ตอนที่มันหนีนั้น มันได้คำรามออกมา “เจ้าน่ะอยู่จุดสูงสุดระดับ 4 แล้ว ทำไมเจ้าไม่ไปสู้กับ ชิย่า กับ โมฮี กัน? พวกนั้นตัวเดียวแข็งแกร่งกว่าเรา 100 ตัวอีก ถ้าเจ้าเสียเวลามาไล่ตามเรา โมฮี กับตัวอื่นๆ คงมีแต่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมและถ้าพวกมันขึ้นไปถึงระดับ 5 ก่อนเจ้า พวกมันต้องกินเจ้าอย่างแน่นอน”
อสูรทลายมิติ อีกตัวกำลังไล่ตามด้วยความเร็วสูงและตาทั้งสองข้างของมันก็ส่องประกายความเจ้าเล่ห์ออกมา “เจ้าไม่มีสิทธิ์มาบอกข้าว่าต้องทำอะไร คาชิง”
ซู่!
แบ๊ดดี้ ยังเร่งความเร็วขึ้นมุ่งหน้าหาเป้าหมายตรงหน้า แบ๊ดดี้ รู้ว่าหลังจากที่ตัดสินใจไล่ล่า อสูรทลายมิติ แล้ว มันก็ไม่อาจจะควบคุมอำนาจในรังได้ บางตัวเป็นอสูรทลายมิติ ระดับสูงเกินกว่าที่มันจะควบคุมได้ ถ้ามันยังคงทำตัวแบบเช่นแต่ก่อนและเล็งแค่ตัวที่แข็งแกร่ง งั้นพวกมันก็คงไม่มีโอกาสที่จะพัฒนาตัวเอง กลยุทธก่อนหน้านี้ของมันเรียบง่ายและกินเวลานาน แต่ภัยจาก หลัวเฟิง ได้บังคับให้ต้องทำเรื่องทุกอย่างเร็วขึ้น มันต้องกิน อสูรทลายมิติ ตัวอื่นๆ เพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้น
“ข้าแข็งแกร่งกว่า โมฮี และตัวอื่นๆ ข้าจะกินและพัฒนาไปเรื่อยๆ ข้าคือตัวที่แข็งแกร่งที่สุดมาก่อนและจะแข็งแกร่งที่สุดตลอดไป” ตาทั้งสองข้างของมันแสดงความบ้าคลั่งออกมาและเกือบฟันไปยัง อสูรทลายมิติ ตรงหน้าได้สำเร็จ
เพล้ง!
อสูรทลายมิติ ตัวที่หนีนั้นแยกร่างเป็น 99 ร่างและกระจายตัวไปทุกทิศทาง นี่คือการต่อสู้ระหว่าง อสูรทลายมิติ สองตัว ดังนั้นทักษะเอาตัวรอดทางเดินส่วนแสงนั้นจึงไม่อาจจะถูก แบ๊ดดี้ ขัดได้ มันไม่อาจจะถูกสร้างขึ้นมาได้ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ได้ใช้เทคนิคนี้ออกมา แม้ว่าจะสามารถใช้ออกมาได้แต่มันก็คงอ่อนพลังกว่าและต้องตายอย่างอนาถที่รังของตัวเอง
เช้ง!
แสงได้ระเบิดออกมาจากตัว แบ๊ดดี้ แสงนี้ครอบคลุมไปทั่วมิติและเวลา มันคือทางเดินส่วนแสงของ อสูรทลายมิติ ระดับ 4 พลังผูกมัดได้ขังทั้ง 99 ร่างของ อสูรทลายมิติ อีกตัวเอาไว้ราวกับทำให้มันจมลงในบึง ร่างพวกนั้นช้าลงทันที
เพล้ง!
แบ๊ดดี้ ได้แยกออกเป็น 99 ร่างพุ่งเข้าหาร่างแยกของศัตรู ทั้ง 99 ร่างต่างก็กัดเข้าที่ตัวศัตรู
“แบ๊ดดี้!” ทั้ง 99 ร่างที่หนีนั้นได้หายไปและรวมตัวเป็นร่างเดิม
“ตายซะ คาชิง!” ทั้ง 99 ร่างของ แบ๊ดดี้ เองก็หายไปอัดแน่นเป็นร่างเดิม
พวกมันสู้กันและเดินทางไปทั่วทุกที่ในดินแดนแห่งความมืดมิด เนื้อฉีกขาดพร้อมกับเลือดสีดำที่กระจายไปทั่ว
แบ๊ดดี้ อยู่ขั้นสูงสุดของระดับ 4 ส่วน คาชิง อยู่ที่ระดับ 3 แบ๊ดดี้ มีทางเดินส่วนแสงดังนั้นจึงสามารถบดขยี้ คาชิง ได้
ชี่!
แสงสีเลือดห้อมล้อมกรงเล็บแทงทะลุที่อกของ คาชิง ทันที มีรูขนาดใหญ่เปิดออกที่อกของ คาชิง พร้อมกับมันได้เสียส่วนสำคัญของร่างกายไป ร่างกายของมันสั่นและเสียความสามารถในการต้านทาน
“เจ้าต้องตาย แบ๊ดดี้! เจ้าต้องตาย!” คาชิง มองไปที่ แบ๊ดดี้ ด้วยตาทั้งสองข้างของมัน “เจ้าสู้กับเราแทนที่จะไปสู้กับ โมฮี และตัวอื่นๆ…เจ้าจะต้องตาย! เจ้าจะต้องตายเพราะความโง่ของเจ้า!”
ก๊ะ! ช่า!
แบ๊ดดี้ อ้าปากทั้งสองข้างของมันกัดลงที่หัวของ คาชิง มันเคี้ยวหัวอีกฝ่ายแล้วกลืนมันลงท้อง จากนั้นมันก็ได้กินส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ไม่นานมันก็กินร่างนั้นจนหมด
“อีกตัว” แบ๊ดดี้ เงยหน้าขึ้นด้วยตาที่เป็นประกาย “เกือบ เกือบแล้ว”
ซู่!
แบ๊ดดี้ เทเลพอร์ทและหายไป
****
หลังจากผ่านไปอีกครึ่งเดือน แบ๊ดดี้ ก็ไล่ตาม อสูรทลายมิติ อีกตัว มันปิดมิติรอบตัวเพื่อไม่ให้ใครเทเลพอร์ทหนีได้ ตัวหนึ่งไล่ตามและอีกตัวกำลังหนี!
“ถ้าข้ากินมัน ข้าจะขึ้นถึงระดับ 5 ได้ในไม่ช้า” แบ๊ดดี้ ตื่นเต้นขึ้นมา
****
ในดินแดนแห่งความมืดมิด หลัวเฟิง ยืนอยู่เหนือแม่น้ำที่ไหลผ่านมิติ “ทำไมตำแหน่งถึงได้เปลี่ยนไปอีกแล้ว? แบ๊ดดี้ เองก็เปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อยๆ มันเคลื่อนที่ได้เร็ว แต่ข้าต้องระวังไม่ให้ถูก อสูรทลายมิติ ตัวอื่นพบตัว…”
หลัวเฟิง หงุดหงิดในใจ
ไกลออกไปที่จักรวาลย่อยของ หลัวเฟิง โมโลซ่า กำลังพูดอยู่กับร่างพลังอมตะ “นายท่าน ข้าได้กระจายข่าวไปแล้ว นอกจากนี้เมื่อ อสูรทลายมิติ รู้ว่าข้าอยู่กับท่าน พวกมันก็เร่งความเร็วในการพัฒนาตัวเอง ปกติแล้วพวกมันจะผ่อนคลายและออกล่านานๆ ครั้งแต่ตอนนี้พวกมันลงมือกันอย่างบ้าคลั่ง แบ๊ดดี้ เองก็ด้วย มันคงไล่ตามเหยื่ออยู่ อสูรทลายมิติ ตัวอื่นๆ รับรู้ถึงมันได้ ดังนั้นพวกนั้นจึงหนีทันทีเพราะมันเป็นไปได้ที่การต่อต้านจะไม่ได้ผล แต่มันก็มี อสูรทลายมิติ มากมายหลายตัวในรัง ถ้า แบ๊ดดี้ ไล่ตามไปในทางเดียว มันก็อาจมี อสูรทลายมิติ เป็นแสนๆ ตัวที่นั่นซึ่งทำการหนีหรือสู้กันเองอยู่ซึ่งนั่นเป็นการเปิดโอกาสให้กับ แบ๊ดดี้ อย่างมาก นอกจากนี้แล้วมันก็ยังเทเลพอร์ทได้ไกลที่สุด ดังนั้นมันจึงจัดการกับตัวอื่นได้สำเร็จอยู่”
ร่างพลังอมตะพยักหน้า “ตามตำแหน่งมันไว้”
“ได้ นายท่าน” โมโลซ่า ตอบกลับด้วยความเคารพ
****
หลัวเฟิง รู้ว่า แบ๊ดดี้ ทำการล่าและเดินทางอยู่ตลอดเวลาแต่เขาไม่กล้าที่จะรอจนกว่าแบ๊ดดี้ จะหยุด ถ้ามันหยุด มันอาจจะเข้าถึงระดับ 5 ในไม่ช้า
“ข้าต้องตามจับมัน”
หลัวเฟิง ได้กลายเป็นหินลอยเทเลพอร์ทออกไปเข้าหา แบ๊ดดี้
หลัวเฟิง เทเลพอร์ทได้ไกลกว่า แบ๊ดดี้ แต่ แบ๊ดดี้ นั้นไปไหนก็ได้ตามต้องการ แต่หลัวเฟิงต้องหลบจาก อสูรทลายมิติ ตัวอื่น ตอนที่ หลัวเฟิง เข้าใกล้ อสูรทลายมิติ พวกมันจะรับรู้ได้ถึงคลื่นสั่นและถ้าเห็น อสูรทลายมิติ ตัวอื่นหลังจากที่รับรู้ถึงคลื่นสั่นแล้วพวกมันก็จะสงสัยและพุ่งเข้าหาเขา เพราะเหตุผลนี้ หลัวเฟิง จึงเลือกที่จะเดินทางอ้อม
“บางที แบ๊ดดี้ คงมุ่งหน้ามาทางข้า จากนั้นข้าก็จะดักรอมันและจับมันไว้”
หลัวเฟิง คาดหวังกับเรื่องนี้ หินก้อนนั้นยังคงทำการเทเลพอร์ทต่อไปเรื่อยๆ ในดินแดนแห่งความมืดมิด
****
เวลาผ่านพ้นไป โมโลซ่า ยังคงทำการตรวจสอบดินแดนแห่งความมืดมิดอยู่ แค่เพียงมองดูจุดแสงเหล่านั้นก็บอกได้ว่าเมื่อไหร่ที่ แบ๊ดดี้ เข้าถึงจุดแสงเหล่านั้น ไม่นานจุดแสงพวกนั้นก็จะหายไปอย่างรวดเร็ว ปรากฏว่า แบ๊ดดี้ ยังคงทำการล่าและกินอยู่!
3 เดือนหลังจากที่ หลัวเฟิง ได้เข้ามาที่นี่ แบ๊ดดี้ นั่งอยู่ที่ยอดเขาสูง มันยั้งพลังของมันไว้ แต่พลังงานที่รั่วไหลรอบๆ ตัวก็ยังกลับไปรวมตัวกันที่ แบ๊ดดี้ ก่อตัวเป็นหมอกดำไม่รู้จบ ดินแดนแห่งความมืดมิดนี้คือรังของ อสูรทลายมิติ ดังนั้นจึงมีพลังพิเศษบางอย่าง หมอกดำห่อล้อมตัว แบ๊ดดี้ เอาไว้
ฮู่!
“ดูดซับ”
หมอกดำบางครั้งก็แผ่ออก บางครั้งก็หดตัว มันเหมือนกับหัวใจที่กำลังเต้น
ในอีกด้านของดินแดนแห่งความมืดมิด หลัวเฟิง พบว่า แบ๊ดดี้ ได้หยุดเคลื่อนไหว เขาตื่นเต้นขึ้นมาและรีบมุ่งหน้าเข้าไปหาทันที
“มันหยุดแล้ว! แม้ว่าจะอยู่ไกลจากข้าและข้าต้องเลือกเดินทางอ้อม อสูรทลายมิติตัวอื่นแต่ก็ใช้เวลาแค่เพียงครึ่งวันที่จะไปถึงที่นั่น”
ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!
หินนั้นยังคงเทเลพอร์ทต่อไป
***
หัวใจหมอกดำยังคงสูบฉีดอยู่ สุดท้ายแล้ว…
“ดูดซับ!”
อยู่ๆ หมอกดำ ก็หดตัวลงเข้าไปในจมูกของ แบ๊ดดี้ ไหลเข้าไปในตัวมัน แสงสีแดงเลือดแผ่ออกมาจากตัวมัน สุดท้ายแสงนั้นก็หนาแน่นขึ้นมา
ฮ่ง! ล่ง! ล่ง!
เวลาและมิติสั่นไหว คลื่นทำลายล้างอันน่ากลัวปรากฏตัวมารอบตัว แบ๊ดดี้ แสงสีแดงเลือดที่ตัวมันหนาแน่นขึ้นและรูปร่างของมันก็ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ ขนาดตัวมันใหญ่กว่า อสูรทลายมิติ ตัวอื่นทั่วไปและระดับสูงยิ่งกว่า
มันผ่านไป 1 ชั่วโมงก่อนที่แสงสีแดงนั้นจะคงที่ มันซึมเข้าไปในผิวสีดำ รอยสลักก่อตัวที่ผิวของมันและหลังจากนั้นไม่นานทุกอย่างก็หายไป มันมีรอยสลักสีแดงเลือดทั่วทั้งตัวแผ่พลังที่ทำให้วิญญาณของคนต้องหวั่นกลัว
ฮู่!
แบ๊ดดี้ ถอนหายใจออกมาและลืมตาทั้งสองของมัน ปากทั้งสองของมันยิ้มราวกับว่ามันรู้สึกโล่งและสบาย
“ในที่สุด…ในที่สุดข้าก็เข้าสู่ระดับ 5”
แบ๊ดดี้ โล่งอก หลังจากที่ได้รับข้อความจาก โมโลซ่า มันก็รู้ว่า โมโลซ่า ได้กลายเป็นทาส ตั้งแต่นั้นมามันก็ต้องหากลยุทธ์ใหม่โดยไม่เคยได้ผ่อนคลายเลย มันรู้ว่ามันต้องเสี่ยงครั้งใหญ่และถ้า อสูรทลายมิติ ตัวอื่นเข้าระดับ 5 ก่อนมัน มันก็จะมีปัญหาใหญ่แต่มันถือว่าเป็นโอกาสที่ หลัวเฟิง ได้เป็นภัยต่อเผ่ามัน มันไม่เคยปล่อยแม้แต่วินาทีเดียวให้เสียเปล่า
“ในที่สุดข้าก็เข้าระดับ 5 ไม่มีใครในรังที่เทียบกับข้าได้และถ้า โมฮี และตัวอื่นๆ มาพบกับข้า พวกนั้นก็ต้องตาย”
ตาทั้งสองข้างของมันแสดงความบ้าคลั่งออกมา โมฮี, ชิย่า และตัวอื่นๆ อยู่ระดับ 4 แบ๊ดดี้ ระดับสูงกว่าแต่ก่อนแต่ที่มันทำได้ดีที่สุดก็แค่สยบพวกนั้น มันยากที่จะฆ่า พวกนั้นมันก็เหมือนกับที่ แบ๊ดดี้ ยากที่จะฆ่า โมโลซ่า ได้ตอนที่ทั้งสองอยู่ระดับ 3 แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้มันเข้าถึงระดับ 5 แล้ว
“ระยะทางการเทเลพอร์ทนั้นยังเท่าเดิมเหมือนกับตอนระดับ 4 โมฮี และตัวอื่นๆ คงไม่รู้ว่าข้าได้เข้าสู่ระดับ 5 แล้ว”
*****
“มันเริ่มเคลื่อนไหวอีกแล้วรึ?” หินลอยอยู่ในมิติใกล้กับ แบ๊ดดี้ “สายเกินไป! ข้าต้องตามจับเจ้าให้ทันใน 5 นาที!”
ฉัวะ!
หินนั้นเริ่มมุ่งหน้าเข้าหา แบ๊ดดี้ อย่างเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้